Bloggang.com : p_pat_p : งานราชพฤกษ์ 49

งานราชพฤกษ์ 49

เมื่อวันที่ 5-8 ธันวาคม 2549 ไปเที่ยวงานพืชสวนโลกมา ผู้ร่วมเดินทางประกอบไปด้วย แม่ พี่ต้น พี่อิ๊ด พี่มล และเราเองคุณหญิงพัต ด้วยรถ Nissan Neo คู่ใจของเรานั่นเองเจ้าค่ะ พี่อี๊ดไม่ยอมเอา 4 ประตูไป

วันที่ 5 ธันวาคม 49

ตื่นแต่เช้าเลยรีบไปตักบาตรทำบุญแล้วก็เซ็นชื่อหนีงานเพื่อรีบไปเที่ยว ออกเดินทางกัน 9 โมงเช้า เอาอั่งเปาลูกรัก กับแต๊ะเอียลูกชังไปไว้ที่บ้านใหญ่ให้พี่อ๊อดดูแล สงสารมันมากเลยลูกแม่ต้องอยู่ในกรงเงิน หุ หุ ระหว่างเดินทางก็แวะทานข้าวที่ร้านนึงชื่อไรไม่รู้ เพราะกับข้าวอร่อยและร้อน พี่อิ๊ดบอกว่าแกงหน่อไม้ดองเข้าอร่อยไม่เหม็นแล้วทุกคนก็สั่งมากินกัน มีแต่เรากะพี่ต้นที่ดื้อกินอย่างอื่นคือเรากินต้มข่าไก่ ชอบสวนกระแสก็งี้แหละต้องทามจาย ไปถึงเชียงใหม่กันก็บ่าย 2 รีบเช็คอินเข้าที่พัก จองได้ที่บัวระวงค์เรสซิเดนท์ โรงแรมราคาน่าคบและสะอาดเพราะเราเป็นขาประจำ ไม่รู้เป็นไรชอบนอนที่นี่เพราะว่านอนหลับสบายสงสัยเจ้าที่เจ้าทางจะรักเรา จากนั้นก็ไปรับหลานเอฟกับอิ๊กที่หอใน มอชอ เข้าไปถิ่นเก่ากันสักหน่อย รับเสร็จก็เข้าไปบ้านที่สนามกีฬา 700 ปี เอารถไปจอดไว้แล้วขึ้นรถไปงานพืชสวนโลกกัน คนเยอะจังต้องนั่งตรงบันไดทางขี้นแต่ขอบอกสบายกว่ายืนเยอะเลย

เวลา 16.30 ไปถึงงานพืชสวนโลกแล้วเข้าไปเลย บัตรพร้อมแล้วจ้า เพราะเตรียมตัวไว้ก่อนเป็นเดือนๆ เมื่อเข้าไปในบริเวณงาน โอ...พระเจ้าคนล้านเจ็ด อะไรกันนี่ สงสัยมาร่วมจุดเทียนชัยให้ในหลวงของเรา ก่อนอื่นไปขึ้นรถรางกันก่อนเลยเสียค่าขึ้นรถคนละ 30 บาท ขึ้นกันไปเจ้าหน้าที่ก็เชียร์ให้ลงทุกจุดแล้วขึ้นใหม่ ใครจะเชื่อล่ะถ้าลงไปต้องต่อแถวกันอีกยาวมั่กๆ อย่ามาหลอกกันซะให้ยากเลยพวกเราไปลงกันเกือบจุดสุดท้าย แล้วเดินกลับไปที่หอคำหลวงไม่ไกลอย่างที่คิด เข้าไปดูหอคำหลวงกัน สวยจังเลย เค้าทำเอาไว้ให้เราดูได้ฝีมือแบบล้านนาใครไม่ได้ไปดูเสียดายแย่ โชคดีมากๆ เข้าไปเป็นกลุ่มสุดท้ายเพราะเค้าไล่ลงมา เพื่อเตรียมจุดเทียนชัยถวายพระพร โชคดีจริงๆไม่เสียเที่ยว เสร็จแล้วก็ถ่ายรูปกันพอเป็นกระสัย จากนั้นก็ไปต่อกันที่โซนอาหารพวกเราเลือกโซนกินเส้น เพราะว่าจะได้รอดูม่านน้ำกันต่อเลย หิวมั่กๆ กินกันเถอะ ด้วยราคาจานละ 30 up เราจัดการฟาดโกยซีหมี่แล้วต่อด้วยข้าวมันไก่ทอด คนอื่นกินไรกันมั่งฟร่ะ แต่ละคนไม่ต่ำกว่า 2 จากนั้นนั่งรอดูม่านน้ำไม่ทันไรเค้าก็เริ่มจุดเทียนชัยกัน เดินไปที่ถนนหน้าหอคำหลวงแล้วร่วมจุดเทียนชัยกันดีกั่ว ยืนใกล้พี่ต้นได้ยินพี่เค้าร้องเพลงสดุดีมหาราชา แหะๆ ไม่ยักกะเน่อเหมือนตอนพูดแหะ แอบสังเกตเห็นแม่มีความสุขมาก ทั้งที่คงปวดขาสุดๆแต่ก็ทนเพราะอยากมาเที่ยว เมื่อจุดเทียนชัยเสร็จก็ไปยืนดูนั่งดูม่านน้ำกันประทับใจอะเพราะสวยจังเลย สะดุดกับคำว่า "ลูกของแม่พ่อของแผ่นดิน" ใครนะตั้งชื่อนี้ความหมายกินใจจัง ดูเข้มแข็งแต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยน งานจะเลิกแล้วล่ะรีบไปดูขบวนไฟปิดงานกัน เร็วๆแม่เดี๋ยวแม่ไม่เห็นจ้ำพรวดๆเร็วๆ เมื่องานเสร็จก็ถ่ายรูปกันอีก ถ่ายวีดีโอด้วยแต่รอคุณนายอิ๊กจอมอืดเรือเกลือก่อนน๊าพวกเรา จบแล้วจริงๆ ต้องเดินไปทางออกซึ่งยาวไกลมากระหว่างทางก็ซื้อของข้างทางอะสิ คราวนี้ได้ทับทิมแสนหวานมา แล้วเราก็ได้แสตมป์มาด้วยล่ะ ที่ระลึกงานพืชสวนโลก อยากได้ตุ๊กตาน้องคูณ แต่แพงจังเยยคิดในใจว่าโตแล้วอย่าเอาเลยนะ ออกมาจะขึ้นรถเพื่อกลับไปสนามกีฬาอะไรกันน๊าจาเป็นลมคนต่อแถวยาวมาก โห้...แถมยังมาบอกอีกว่ารถเหลืออีกแค่ 2 คันรีบนับกันใหญ่เลยจะได้ไปมั๊ยหว่า เพราะว่าต่อแถวกันอยู่กลุ่มสุดท้ายเลยอะ มัวแต่ชมนกชมไม้กันอยู่เป็นไงล่ะ แต่แล้ว ตะแล่นแตน แต๋นก็ทัน ให้แม่ได้นั่งละกันพวกเราก็ยืนกันต่อไป อิอิแต่เรื่องไรละขอนั่งทางเดินละกัน เมื่อไปถึงก็ยังเห็นรถเราจอดอยู่ อิอิ ถ้าหายละก็บ้าไปแล้ว อัดแน่นกันมารถแถบระเบิดก็ 7 คนนี่ แล้วไปเอารถอีกคันกันที่บ้านพักข้าราชการ แล้วไปแวะกินขนมปังกะนมที่ร้านในตลาดจันทร์กุมาร พวกเค้าว่าอร่อยกันแต่เราแอบคิดถึงมนต์นมสด แอบสวนกระแสอีกแล้วตรู ก็เจงๆนี่ คุณภาพมันผิดกัน ความนุ่มกับความหอมก็แพ้แล้ว แล้วเราก็กินเกี๊ยวโฟลุงว้าก ส่วนพี่ต้นกินผัดซีอิ๊ว(อีกแหละ) เป็นอันว่ากลับมาที่พักอาบน้ำพักผ่อน หลับสนิทเพราะเหนื่อยตามๆกัน

วันที่ 6 ธันวาคม 2549

ตื่นเช้ามารีบพาแม่ไปทานอาหารเช้าเพราะว่าต้องทานยา 555 เราทานเยอะมากๆ ทั้ง ABF ข้าวต้มและข้าวผัดกะเทียม นมสด ขนมปังและน้ำส้ม เหอๆๆ แล้วก็ขึ้นไปนั่งรอคณะทัวร์เพื่อเริ่มต้นเที่ยว บางคนยังไม่ได้กินข้าวต้องไปกินกันต่อเพราะว่ามาแอบสิง สงสารโรงแรมจริงๆ เปิด 2 ห้องแต่ว่านอนกัน 7 คน มีกล้องวงจรปิดป่าวหว่ารู้ป่าวคนซื่อกลัวเน้อ คนงกก็กลัวด้วยอีกคนกลัวคิดเงินเพิ่มอะ

พาแม่ไปหาหมอที่ริมเวียงคลีนิค ซื้อยามาตุนเพียบ ฉีดยาไปหนึ่งเข็ม แม่บอกว่าหมอเทวดา ฉีดปุ๊ปหายปวดเลย จากนั้นไปส่งเอฟกันที่ มช. เพราะว่าไปสอบแล็ป จาไปไหนกันดีล่ะ ไปเซ็นทรัลกาดสวนแก้วดีกว่า พี่อี๊ดจะไปตัดแว่นได้แว่นกันมาเกือบถ้วนหน้า แว่นอะไรว่ะ 7,000 บาท ของแม่กะของพี่มลเลยได้ลดราคา เหลืออันละ 800 กว่าบาท พี่อิ๊ดจ่ายตามระเบียบ เรากะพี่ต้นแอบไปเดินสวีทกัน 555 ได้ตุ๊กตาหนอนมานึงตัวเอาไว้ไปหนุนหลังน่ะเวลาขับรถ ชดเชยน้องคูณไป ด้วยราคา 320 บาทจ้า
แล้วมื้อเที่ยงวันนี้ก็ จัดการเชสเตอร์กิลส์ไป 1 จานทานเยอะมากๆมาเที่ยวครั้งนี้ ตอนบ่ายกลับไปรับเอฟนั่งรอกันนานมากๆไอ้เอฟเอ้ย... วันนี้รอแกกันทั้งวันเลยง่ะ

เปลียนใจจากตอนแรกตั้งใจจะไปพืชสวนโลกกันต่อ เพราะว่าเมื่อวานยังไม่ได้ดูสวนเลย มัวแต่ดูโดยรวม ยังไม่ได้เก็บรายละเอียดแต่ว่ามันคงไม่ทันแล้วล่ะ นี่มันก็ 5 โมงเย็นแล้วนี่ขืนไปก็ต้องรีบเร่งอีก ไม่ไปดีกว่า แล้วจะไปไหนกันดี เฮอ...ไปแบบไม่วางแผนก็ต้องทำใจอะนะ แล้วก็ไปแอร์พอร์ทไปดูหนังกัน เรื่อง Date note 2 ตอนแรกดูไม่รู้เรื่อง พี่ต้นหันมาบอกว่าไม่รู้เรื่องแล้วก็หัวเราะ หันไปมองแม่ ไอหยา แม่หลับไปแล้วแถมกรนนิดๆด้วย แต่พอตอนกลางเรื่องเริ่มรู้เรื่องแล้ว สรุปแล้วมันก็ดีเหมือนกัน

จากนั้นก็ไปหาอะไรทานกัน ตั้งใจไปกินข้าวกันที่วิทยุการบิน แต่มันปิดแล้วก็มัน 3 ทุ่มแล้วนี่ เค้าก็ปิดกันเป็นส่วนใหญ่ สุดท้ายต้องไปกินที่ตลาดอนุสารคนเยอะสุดๆ เชียงใหม่รับทรัพย์กันถ้วนหน้า ไม่อร่อยเลยอะสั่งยอดฟักแม้วมากิน ต้มยำทะเล แล้วก็เป็ดย่าง ผัดหอยลาย ต้มจืดผักกาดกระป๋อง แต่ก็ราคาพอสมน้ำสมเนื้อ พี่แอดมาแจมด้วย แล้วก็แยกย้ายกันพวกเราก็กลับที่พัก คืนนี้หลับกันเป็นตาย สรุปแล้ววันนี้ผิดหวังเล็กๆ

วันที่ 7 ธันวาคม 2549

วุ่นวายกับการเก็บของเพื่อย้ายที่พัก พาแม่ลงมาทานข้าวเหมือนเดิม แล้วเราก็กินเยอะเหมือนเดิมอาจมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ แต่วันนี้ขี้โกงไม่ให้บัตรเค้า แอบเอาขึ้นมาแล้วให้พี่ต้นกับพี่อี๊ดลงไปกิน บัวระวงค์เอ้ยแต่ก็เถอะนะ อยากขึ้นเวลาช่วงเทศกาลเองนี่ ผู้ร่วมทัวร์ยังไม่เสร็จเราเลยเช็คเอาท์แล้วไปที่ธาตุคำวิลเลจ โอ้โหเห็นที่พักแล้วพอใจสุดๆ สวยเลยล่ะกับราคาขนาดนี้ ราคา 900 บาทแต่สวยกว่าโรงแรมระดับ 3-4 ดาวบางโรงแรมอีกเจ้าค่ะ อ้อนวอนขอเค้าอีก 1 ห้องได้มั๊ยเพื่อที่จะได้ไม่ต้องแยกกันกับพวกพี่อี๊ดพี่มล ระหว่างขับรถกลับเพื่อไปรับพี่อี๊ดพี่มลเค้าก็โทรมาบอกว่าให้เพิ่มอีกห้องดีใจสุดๆ รีบบอกให้พี่มลเช็คเอ้าท์ แล้วเราก็รีบเอาของไปไว้ที่ธาตุคำกันสุดฤทธิ์ แล้วไปส่งเจ้าเอฟเรียนอีก จากนั้นก็ตัดสินใจไปพืชสวนโลกกันอีกโดยเอารถไปเองเลยคราวนี้ แหมได้ที่จอดใกล้งานเลยเชียวล่ะ รู้งี้เอามาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว วันนี้ได้เช่า chair weel ให้แม่ไม่งั้นต้องเมื่อยขามากๆ ไปกันตอนบ่าย 2 แล้วล่ะ คราวนี้เดินชมงานกันจนเกือบทั่วเหลือแต่โซนพืชเมืองหนาว โซนที่อยู่ในอาคารไม่ได้ไปหมดเวลาเสียก่อน เดินดูกันทั้งสวนที่ส่วนราชการ ส่วนเอกชนจัด และสวนนานาชาติ ชอบเบลเยี่ยมสุดๆ แล้วล่ะ ขึ้นไปบนหอคอยแล้วมองลงมายิ่งสวยมาก พี่ต้นเป็นพระเอกเลยงานนี้ทำคะแนนจากแม่ไปได้โข เพราะว่าเป็นคนเข็นเก้าอี้ให้แม่ตลอดงาน พ่อลูกเขยคนนี้น่ารักแม่ยายบอกมา เราเองก็แอบปลื้มใจที่สามีเป็นที่รักของญาติพี่น้อง อิอิ เดินกันจนถึงเวลา 5 โมงเย็นก็ออกมาเพราะนัดกับพวกเด็กๆ ว่าจะไปกินข้าวกัน วันนี้ไปกันที่กาแล บนอ่างเกษตร แต่ในใจเราอยากไปผาลาดตะวันรอน แต่พี่อี๊ดคงไม่ค่อยอยากเท่าไหร่เพราะว่าต้องจองแล้วก็เคยไปกันมาแล้วด้วย แต่กาแลก็ไปกันบ่อยมากๆ แต่ว่าก็ยังชอบอยู่ดี บรรยากาศดี อาหารอร่อยใช้ได้ไม่ได้ถ่ายรูปเลยตั้งใจว่าจะถ่าย แต่หิวตาลายเลยสวาปามจนลืมถ่ายรูป อาหารที่สั่งก็มี ปลาหมึกนึ่งมะนาว แกงเลียงกุ้งสด ผัดหน่อไม้ฝรั่ง น้ำพริกลงเรือ ปลาทอดสามรส อะไรอีกอย่างจำไม่ได้ กินกันจนพุงกาง พี่ต้นอารมณ์ดีวันนี้ แม่บอกว่ารีบๆกินเถอะจะได้กลับไปนอนเพราะที่พักสวย ตอนแรกอิ๊กจะไม่ไปนอนด้วยแต่ว่าเปลียนใจเพราะบอกว่าที่พักสวย เลยกลับไปเก็บเสื้อผ้าแล้วตามไปนอน ระหว่างทางพี่ต้นซื้อโค้กให้ 1 แก้ว แต่เกือบซื้อแพงแล้วมัยล่ะ เพราะทำกระเป๋าตังค์แม่หล่นทั้งกระเป๋า แล้วก็มีคนน้ำใจงามจอดเก็บแล้วเคาะกระจกเรียกว่ากระเป๋าตก ขอบคุณมากค่ะ คนดียังมีอีกในโลกนะคะ ขอบคุณจริงๆ จากนั้นไปถึงที่พักคนที่นั่งที่ฝ่ายต้อนรับหน้าตาหล่อมากๆ ชมให้พี่ต้นฟัง เห็นเงียบๆ ซึมๆ สงสัยงอนที่เราชมคนอื่นหล่อ พี่แกก็ดูกีฬาจนดึกเราก็อาบน้ำนอนไปก่อน

วันที่ 8 มกราคม 2549

ตื่นเช้ามาลงไปทานอาหาร วันนี้มีให้เลือกไม่มาก แค่กาแฟ ขนมปัง แล้วก็ข้าวต้ม กับผลไม้ จัดการไปเรียบร้อยก็รีบไปเข้าห้องน้ำทำธุระ แล้วก็ไปกาดหลวงกัน ก่อนไปแวะซื้อหมูยอสุจินต์ให้ลูกรักอั่งเปา 10 ก้อน แล้วก็ไปซื้อของกินของฝากที่กาดหลวง ได้กันมาพอสมควรเต็มแขนแล้วกลับไปรับพี่อี๊ดกับเอฟ ที่โรงแรมแล้วเช็คเอาท์กัน วันนี้อิ๊กไปทำงานแล้วนัดกับอิ๊กตอนกลางวันที่ sizler กาดสวนแก้ว ก่อนเข้าไปกิน แอบแวบไปดูเสื้อ แล้วก็ได้มา 1 ตัวเป็นคาร์ดิแกนสีดำ ของ espada ราคา 650 จากพันกว่าบาท มาเที่ยวนี้อดช้อปมากมีแม่กับสามีมาคุม แล้วก็ไปสวาปามสเต็กกัน คิดกันอยู่นาน สั่งแบบชุดปาร์ตี้แบบ 4 คนมา ด้วยราคา 800 กว่าบาท แล้วก็สั่งสลัดให้แม่ กับพี่ต้น แล้วเอฟกับอิ๊กก็สั่งสเต๊กหมูกับสเต๊กไก่กันคนละ 1 กินกันจนอิ่ม ลุกตักกันหลายรอบมาก หมดไป 1,300 ถ้าจะได้พร้อมกับความเลี่ยนกันมาเต็มอิ่ม พร้อมที่จะเดินทางกลับบ้านกันแล้วจ้า กลับบ้านก็แวะปั๊มน้ำมัน แล้วก็ซื้อลอตเตอรี่เสี่ยงโชคกันที่ตลาดทุ่งเกวียน แวะกินสุกี้ hot pot กันที่ตากอีก 1 มื้อ หมดอีก 800 กว่าบาท กลับถึงบ้านก็ 2 ทุ่มกว่าๆ รีบไปรับอั่งเปาลูกรัก ลูกจ๋าแม่กลับมาแล้วแต่ต้องเสียแต๊ะเอียไป ป่าวๆนะ มันไม่ได้เป็นไร แต่ว่ามันสร้างวีรกรรมกัดคนให้ข้าวมัน ตัดสินใจไม่เอากลับบ้านดีกว่าคงต้องเอาไปให้เจ้าของเก่าเค้าแล้วล่ะ เพราะมันดุเหลือเกิน กัดแม่เลือดกระฉูดมาทีนึงแล้ว สงสัยผสมบางแก้วมาแหง่ๆ ไม่เอาอะบางแก้วคบยาก

สรุปแล้วทัวร์นี้เต็มไปด้วยความอบอุ่นและกินกันกระฉูด เย้ๆ อยากไปอีกจังนึกแล้วคิดถึงทัวร์เกาะช้างปีก่อนนู๊น

มาดูรูปงานพืชสวนโลกกัน ฝีมือจับฉ่ายมากๆเลยจ้า

รูปที่พักที่ธาตุคำวิลเลจค่ะ

Create Date : 26 ธันวาคม 2549

Last Update : 26 พฤศจิกายน 2553 22:50:14 น.

1 comments

Counter : 1245 Pageviews.

พี่พัต ทำไมลูกพี่พัตกินไฮโซมากๆเลยค่ะ หมอยู เอ้ย หมูยอสุจินต์น่ะ ของโปรดหนูเชียวนะคะ 55555

ครอบครัวเจ้น่ารักดีเนอะ อบอุ่นดี คุณแม่ก็สวยด้วย ไม่แปลกใจว่าพี่พัตสวย ขาว เหมือนใคร

บัวระวงค์อยู่ที่ใดจ๊ะ หนูอยากไปยลมั่งจริงๆ

โดย: numainew

วันที่: 4 มกราคม 2550 เวลา:10:57:20 น.