Group Blog
 
<<
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
27 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
ไปเวียดนามไม่โดนฟัน แล้วนี่เราไปถึงหรือป่าวว๊า..... #1



12 ม.ค. 51

ตื่นแต่ไก่โห่ รีบอาบน้ำแต่งตัวรอรถตู้มารับเพื่อเดินทางไปสุวรรณภูมิ เหอๆๆ พวกเราจะไปเวียดนามจองตั๋วไว้ตั้งแต่ ปีที่แล้ว เฮ้อ...จองที่ข้ามปี มีอุปสรรคจะถอดใจไม่ไปซะให้ได้ แต่แล้วก็ไป ไปมันทีเดียว 8 คนเลย สะใจจิงว้อยส์

ผู้ร่วมเดินทาง คุณชายตัวดำกับคุณหญิงตัวไม่ดำ หลานสาวยัยอิ๊ก และโก๋ หมาดำ นังจุ๋ม นังอ้อ และเจ๊เล็ก ทุกคนขึ้นรถมุ่งหน้าสู่ กทม.เลยจ้า พวกเราจะโกอินเตอร์ประเทศเวี่ยดนามกันแล้วจ้า

แวะรับบุรุษรูปงามที่อุทัยธานี กินก๋วยเตี๋ยวไก่กำแพง เฮ้อ...ไปอุทัยกินก๋วยเตี๋ยวกำแพง สามีตรูนี่หนา เลือกร้านได้ใจๆ ใจพี่ท่านละม๊าง

ถึงสุวรรณภูมิ บ่าย 3 รีบขนกระเป๋าไปเช็คอินนกแอร์ก่อนเลย ทะลึ่งมายกเลิกเที่ยวบินขากลับไม่บอกไม่กล่าว 6 คนไปนกแอร์ขากลับจะได้กลับป่าวหว๊า ใจตุ๊บๆ ต้อมๆ แต่เรากับหมาดำไป Air Asia ไม่สวยไม่หรูแต่แน่นอนเฟร้ย มืออาชีพกว่ากันเยอะ

นังคนนี้มันตื่นเต้นที่ได้เหยียบสุวรรณภูมิครั้งแรก



Air Asia ยังไม่เปิดให้ check in พวกเราจึงแลกเงิน USD กันก่อน แลกไปคนละ 150 USD จากนั้นลงไปกินข้าวที่ Magic food center

ผ่าน ต.ม. แล้วไปรอที่ Gate





แกจะอมยิ้มทำไมนังอ้อ แกยิ้มกว้างๆ ก็ได้ ตื่นเต้นมากก็ไม่มีใครว่าแกหรอก ยิ้มเปิดเผย ดูหนังจุ๋มสิ มันเก็บอาการแต่ในใจข้างในมันเต็นรัวกลัวเครื่องบินตก



กรอกใบ Immigation เข้าเวียดนาม



บอร์ดดิ้ง 6 โมง Nok Air บินก่อน Air Asia ตามหลัง ห่างกันประมาณ ครึ่งชั่วโมง แต่พอไปถึงสนามบินนอยไบ กลายเป็นว่า Air asia ถึงก่อน น้องนก Deley ครึ่งชั่วโมง เพราะมัวซ่อมเครื่อง เล่นเอา 6 คนเหงื่อแตกพลั่ก กลัวได้ใช้ประกันที่ทำไว้

ไปถึงแล้วรอรับกระเป๋า กว่ากระเป๋าจะมา เล่นเอาใจหายคิดว่ากระเป๋าหายซะแร้ววว ไม่งั้นเน่าแน่ๆ



เราได้ติดต่อกับ GP Tour ซึ่งเป็นทัวร์ของคนเวียดนามโดยตรง โดยคุณอา 50 กะรัตห้อง BP เป็นผู้แนะนำ ให้เราติดต่อกับทัวร์ทาง MSN จึงได้ราคาทัวร์ต่อหัว 65 USD เราไม่ต้องลำบากอีกต่อไป

เดินออกมา เห็นไกด์ยืนถือป้ายชื่อ Ms.PHUANGPHAEN รอรับ รีบดุ่มๆ ไปหาไกด์ แนะนำตัว My name is Ms.PHUANGPHAEN ไกด์ยิ้มน่ารัก ดีใจจังไกด์ผู้หญิงยังเป็นวัยรุ่นอยู่เลย ถามหาเพื่อนๆ อ้าวยังมาไม่ถึงกันอีกเหรอ ฮ่วย!

แล้วก็มาถึงจนได้ สนามบินนอยไบ มาครบกันแล้วเชิญแหกตารูปหมู่ได้



ไปแลกเงินด่งกันก่อนคนละ 50 USD ได้กันมาคนละหลายแสนด่ง อัตราแลกเปลี่ยนวันนั้น 1 บาท = 470 ด่ง



รถที่ไกด์นำมารับเป็นรถตู้มินิบัส ยี่ห้อ Ford พวกเราขึ้นรถไกด์แนะนำตัวอย่างเป็นกันเอง ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินนอยไบเข้าฮานอยใช้เวลา 45 นาที และไปส่งเราที่โรงแรม Anise โรงแรม 3 ดาวที่จองยากมากๆ โดยเราจัดการจองก่อนมาเป็นเวลามากกว่า 2 เดือนเชียว ด้วยราคาต่อห้องต่อคืน อยู่ที่ 1900 บาท



ให้ passport รีเซฟชั่นกรอกข้อมูลก่อน



เข้าไปดูห้องข้างในกันดีกว่า ปล่อยให้ไกด์กับคนขับรถรอข้างล่าง ไงขอเอากุเป๋าไปเก็บให้เรียบร้อยก่อน ห้องนี้เราจอง



ตามเข้ามาเลยจ้า



อันนี้เตียงของเรา



ทีวี ตู้เย็น โต๊ะเครื่องแป้ง สไตส์ Modern



Amenities ที่โรงแรมมีไว้ให้ขนกลับบ้าน ฮี่ๆๆ



ตามไปดูห้องไอ้หมาดำ มันได้ห้องสวยและกว้างกว่าเรา หมั่นไส้มัน



ห้องน้ำก็กว้างกว่า นอนในห้องน้ำเลยสิยะ หนอยยยย



ตำนาน Anise ฝรั่งมาพักกันมากจังเลยโรงแรมนี้ Inter ล่ะซิ สุพัตราจองซะอย่างไม่เริ่ดไม่นอน ขอบอก



มัวแต่ชมความงามห้อง ไกด์มะเฟืองกับสุดหล่อหนีกลับไปแล้วล่ะม้าง อิอิ ลงมารีบไปทานข้าว มัวพิรี้พิไร ภัตตาคารปิด เลยต้องมานั่งยองๆ กิน Pho กัน มื้อแรกก็ติดดินเลยตรู สนนราคาถ้วยละ 14000 ด่ง 30 บาทถ้วยบักเอ้ฟ



หาความอร่อยไม่ได้ นังจุ๋มแม่งใส่พริกซะ จะให้รสชาดปานผัดกระเพราบ้านแกรเลยหรือไง



สงสัยตะหงิดๆ โดนเข้าแล้วแน่ๆ ค่าเงินถูกกว่าบ้านเราแต่ว่า ก๋วยเตี๋ยวแค่นี้ถ้วยละ 30 โดนเข้าแล้วไหมล่ะ มันน่าจะสัก 8000 ด่งก็พอ

ยังอยากเดินเล่น ไปหัดข้ามถนนสักหน่อยดีกว่า ให้เค้าบีบแตรใส่หูนังอ้อ ตั้งแต่มันลงเครื่องมา จะ 2 ชั่วโมงแล้วหูมันยังไม่หายอื้อ เครียดแทนมัน ขากลับมันจะรอดไหมว่ะเนี่ย ตั้งแต่เจอคนขึ้นเครื่องบินมา ก็เพิ่งเจอนังนี่นี่แหละ หูอื้อมันข้ามคืนข้ามวัน นอกจากมันจะแปลกแล้วหูมันยังแปลกอีกว่ะ นี่ตรูจะต้องเจอคนแปลกอีกซักกี่คนวะเนี่ย ที่มีๆอยู่ใกล้ๆนี่ยังแปลกไม่พอหรือไง

สิ้นฤทธิ์ไปนอนดีกว่า พรุ่งนี้ต้องตื่นมามาสวาปามบุปเฟ่ท์กันแต่เช้า


13 ม.ค. 51
ขึ้นไปกินบุฟเฟ่ท์ชั้น 11 มีอาหารน่ากินทั้งนั้นเลย ไม่พลาด ABF







จริงแล้วยังไม่อิ่มกลัวไกด์รอนาน รีบลงไปข้างล่าง เก็บบรรยากาศวิถีชีวิตยามเช้าของชาวเวียต



สวนสาธารณะหน้าโรงแรม ทุกเช้าจะมีคนมาออกกำลังกายแต่ลงมาไม่ทันมัวห่วงกิน



รถคันนี้ที่จะพาเราไปไหนมาไหนตลอด 3 วันที่อยู่ที่นี่



วันนี้พวกเราเดินทางไป Halong Bay เป็นมรดกของเวียดนามที่สวยงามมาก ใครๆที่มาเวียดนามไม่มีใครพลาด อยู่ห่างจากฮานอยเป็นระยะทาง 165 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง

ชมวิวทิวทัศน์ 2 ข้างทาง





และขอนำเสนอไกด์มะเฟือง หรือเฟื่องฟ้า สาวไกด์อายุ 25 ปี เรียนจบด้านการท่องเที่ยว อุปนิสัยร่าเริง เป็นกันเอง กะตือรือร้น มีน้ำใจและคล่องแคล่ว กำลังบรรยายให้พวกเราฟัง คนตัวดำข้างๆ ตั้งใจฟังเป็นพิเศษ



แวะร้านขายสินค้าระหว่างทาง ลงไปดูดีกว่ามีไรกระตุ้นต่อมอยากให้เราเสียเงินบ้าง

ตุ๊กตาเวียดนาม น่ารักดีเหมือนกันว่าจะซื้อเป็นของฝากแต่แพงไปหน่อย ทำไมไม่มีตัวละบาทบ้างฟร่ะ



มีงานปักผ้า บรรยากาศเหมือนบ่อสร้างสันกำแพงเล้ยยย



ที่นี่ก็มีของหลายอย่าง ตะเกียบ กล่องไม้ เครื่องปั้นดินเผา ของที่ระลึกอื่นๆ อีกมากมายแต่เราไม่ซื้อ



อิ๊กถ่ายเครื่องปั้นดินเผาไปอวดพ่อที่บ้านว่าเวียดนามก็มีเครื่องปั้นดินเผาเหมือนกัน





สาวเวียดนามกำลังเขียนลาย



ช่างภาพประจำทัวร์ของเราในครั้งนี้



ห้องน้ำที่นี่เกือบซีทรู



รูปหมู่สักภาพก่อนขึ้นรถ



อีกประมาณชั่วโมงกว่าพวกเราก็ถึงท่าเรือที่จะขึ้นเรือไป Halong Bay เมื่อถึงแล้วมะเฟืองวิ่งไปซื้อตั๋วเพื่อลงเรือ



อยากได้จังเลยนะไข่มุกเนี่ย ต่อแล้วต่ออีกเสร็จแล้วก็ซื้อแพงแถมมุกยังขูดแล้วถลอก บอกก็ไม่เชื่อ ไม่เชื่อคุณนายขาช้อปแล้วจะเชื่อใครพ่อคุณทูลกระหม่อม



ใครจะไงก็ช่างขอดำปากแดงไว้ก่อน



นี่ตกลงแกหูหายอื้อหรือยังวะนางอ้อ จะลงเรืออีกแล้ว แกต้องหัดทำตัวสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกนะรู้มั๊ย



อยู่ครบมั๊ยจะขึ้นเรือแล้วนะ



เรือจอดเทียบท่าเต็มไปหมด แต่ของเราลำนี้เลย



ตามขึ้นเรือมาเลยจ้า มาดูกันซิว่า Private Tour มันจะเริ่ดดด แค่ไหน



นี่....เท่ห์ไหม ถ้าไม่มีหนุ่มเวียตคนนี้นี่ขึ้นเรือไม่ได้นะ ไม่มีใครจับมือดึงขึ้น พนักงานบนเรือและพ่อครัวบนเรือ แต่งตัวด้วยชุดสีขาวเหมือนพนักงานและเชฟของโรงแรม 3 ดาว up ก็ไม่ปาน



คู่ฮันนีมูนครั้งที่ 10



ขึ้นไปชั้นบนดีกว่า ไปดูวิวกัน ลมเย็นดีด้วย



ลมพัดสะบัดผมปลิว ดีนะไม่สะบัดกระโปรงบาน



อยากมีคนถ่ายรูปให้แบบนี้จัง ดูข้างหลังแล้วผมสวยแบบนี้บ้าง



จริงแล้วตรงนี้ไม่รู้เค้าห้ามจับหรือป่าว เพราะว่าเห็นห่อผ้าใบไว้ เดาเอานะ



รูปคู่เดี๋ยวกัดเดี๋ยวไม่กัด อีกสักรูป



สามสาว เอ๊ะ หรือว่า 2 สาว กับ 1 นาย กันแน่



เบื้องหลังการถ่ายทำ



ชมคนมากแล้วชมวิวบ้างดีกว่า



ฮาลองเบย์มีเกาะแก่งนับพันเกาะ แต่น้ำทะเลยังสวยสู้สิมิลัน กระบี่ ภูเก็ตไม่ได้ แต่นั่งเรือแบบนี้หรูเริ่ดอลังการ ถ้าเป็นที่กระบี่ นั่ง speed boat ราคายังแพงกว่านี้เลย





ธงเวียดนามโบกสะบัดพลิ้วไหวไปมาตามแรงลม



แต่คนนี้ไม่ใช่สาวเวียดนามนะ แค่ใส่หมวกเวียดนามเฉยๆ



ข้างหน้าเป็นกะชังขายอาหารทะเลสดๆ เค้าจะจอดให้เราดู ถ้าอยากซื้อก็สามารถซื้อแล้วให้พ่อครัวทำให้เราทานได้ ไฮโซอะ มีพ่อครัวส่วนตัวทำให้กินบนเรือ



จอดให้ดูก็ไปดู ดูหน่อยว่ามีอะไรบ้าง





อยากกินไอ้นี่อะ เคยกินที่เซี่ยงไฮ้ เค้าบอกว่ากิโลละประมาณ 700 แล้วไปกินที่เกาะช้างมา ก็แพงเหมือนกัน แต่จำไม่ได้ว่าราคากิโลละเท่าไหร่ ซื้อมา 1 กิโล 12 USD คิดเป็นเงินไทยประมาณ กิโลละ 400 แต่คุ้มมากได้มา 10 ตัวเลยล่ะ ตัวใหญ่ด้วย



ที่กระชังขายอาหารทะเลก็มีเรือขายผลไม้ด้วย



มีเรือพายแบบนี้ขายสินค้าอยู่กลางทะเล พายเก่งมากๆ ทำให้ Halong มีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก ดูมันได้ Fill มากๆ ที่เห็นการดำเนินชีวิตของชาวเลที่นี่



กลับขึ้นเรือได้ไม่นานพนักงานก็เตรียมเสริฟ์อาหารให้พวกเรา โดยจัดโต๊ะให้ 2 โต๊ะ โต๊ะละ 4 คน ชวนมะเฟืองกินด้วยกัน แต่ดูเหมือนเค้าจะกินไม่มากเพราะเกรงใจ

จานแรกมาเสริฟ์แล้วจ้า



ต้องจิ้มน้ำจิ้มแบบนี้ อร่อยมากจานนี้



กุ้ง แต่ให้น้อยไป ให้กินคนละตัวเองอยากจะกินล็อปส์เตอร์อะมีมั๊ย



หอยตลับ แต่น้ำจิ้มไม่แซบอีหลีเลย



ปูจ๋า ทำไมไม่เอาปูม้า ปูทะเลมาให้เราหนอ



ต้มจืด จืดสมชื่อ



จานเด่น เมนูดังมาแล้ว กั้งทอดกระเทียมพริกไทย ตกตัวละ 50 บาท ข้าพเจ้าฟาดคนเดียว 3 ตัวครับทั่น



ปลานิลราดพริก เวียดนามก็มีปลานิลเหมือนกันเหรอนี่



ผัดกระหล่ำปลี



จานสุดท้ายผัดปลาหมึก



รวมอาหารทั้งหมด 9 อย่าง และมีส้มจีนเป็นผลไม้ใส่จานมาให้ 2 จาน ผลไม้เวียดนามคล้ายที่เมืองไทยมี น้อยหน่าก็มีค่ะ

หลักฐานในการกิน กำลังคาปากเลยง่ะ เสียภาพพจน์ชิปโป้งเลย



กินเสร็จยังไม่ทันเสร็จดี มัวแต่แทะกั้งมือเป็นมัน เกือบถ่ายเขาจูบกันไม่ทัน



คนบางคน กินมากพูดมาก เกิดอาการเมือเรือ ไม่รู้จะสมน้ำหน้าหรือว่าเวทนาดี เลยต้องสั่ง pepsi มาสยบอาการ พอรู้ราคาว่า 1 USD หายยยยยสนิท



เรือจอดให้ลงไปเที่ยวถ้ำ วงศ์สวรรค์





ก่อนเข้าชมต้องเสียค่าเข้าชมด้วยค่ะ





เข้าไปในถ้ำกันได้แล้ว ข้างนอกหนาวจะตาย อ้อมันหนาวมาก ไอ้เราใส่ตั้งหลายตัวยังหนาวเลย





เดินดูถ้ำไปเรื่อยๆ ต้องจินตนาการตามที่ไกด์บอก



จุ๋มใฝ่ฝันอยากมีนมใหญ่ๆ แบบนี้อะคะ จะได้สมดุลกับตรูดที่มีอะคะ กรั่กๆๆ



ถังขยะนกแพนกวิน 555 ขำว่ะ ขนาด action คู่กับถังขยะ ถังขยะยังเด่นกว่า อยากตัดคอทิ้งมั๊ยแก เหลือตรูดไว้แข่งกะนังคนข้างบน



เราไม่ค่อยจะสนใจฟังคำบรรยายเท่าไหร่ อิอิ โดยส่วนตัวแล้วไม่ชอบเที่ยวป่าเที่ยวถ้ำ หุ หุ ชอบช้อปปิ้ง ไปห้าง ถึงไหนถึงกัน



ถ้ำนี้ได้รับการตกแต่ง จนดูไม่สมจริง แต่ว่าใหญ่โตและโล่งดีมาก ปกติเวลาเข้าถ้ำจะหายใจไม่ออก แต่ที่นี่เราไม่เป็น



ถ้ำกว้างมากอยู่ในนี้เกือบชั่วโมง





ออกจากถ้ำก็บ่าย 3 แล้ว แวะจุดชมวิว ไกด์บอกว่าตรงนี้สวยที่สุด





ไม่พลาดๆ มุมนี้ขอสักหน่อย กับเพื่อนสนิท



และนางๆ ทั้งหลาย ที่หนีลูกๆ มาเที่ยว



เดินกลับไปขึ้นเรือ





เรือหันหน้ากลับฝั่ง ระหว่างนั่งเรือก็เตรียมปรึกษาหารือกันว่าจะทิปพ่อครัวและพนักงานบนเรือเท่าไหร่ดี มติที่ประชุมบอกว่าให้ ทริป 100,000 คนรวยทำไรก็ไม่น่าเกลียดนิ



ขึ้นฝั่งแล้ว รีบเดินๆ สุดหล่อกับพี่ฟอร์ดรอเราอยู่



หันกลับไปอำลา Halong Bay ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้มาอีกหรือป่าว สวยมากๆเลย ดีใจที่เกิดมาแล้วมีโอกาสได้มาเยือน



ระหว่างทางนั่งรถกลับฮานอย มีรถชนกัน 2 ราย ก็สมควรหรอกนะ ขับรถกันหวาดเสียวขนาดนี้ ใช้เวลา 3 ชั่วโมงเลย กว่าจะถึงก็ปาเข้าไป 2 ทุ่ม หิวจนจะกินคนข้างๆ ได้

ร้านที่เราต้องการจะไปกินเป็นร้านดังของเวียดนาม มะเฟืองบอกว่าต้องจองล่วงหน้า พอมะเฟืองรู้ว่าเราอยากไปมะเฟืองก็โทรจองให้เมื่อตอนสายๆ





คนเต็มร้านเลย อยากนั่งข้างนอกเพื่อชมบรรยากาศ แต่ว่าเค้าเตรียมไว้ให้ซะในสุดเลย อาวุธพร้อมแบบนี้



มะเฟืองช่วยแนะนำอาหาร แต่เค้าก็ไม่รู้จะแนะนำอะไรเพราะว่าแนะนำอะไรมา พวกเราก็เฉย ก็เรากลัวแพง พวกเราเลยเลือกถูกๆ เอาที่มันสมควรจะกินไม่แพงเกินไป สั่งมาอย่างละ 2 จาน

จากแรกเป็นข้าวเหนียว ข้างหน้าที่โรยเหมือนหมูฝอยแต่ไม่ใช ไม่รู้อะไรแต่ข้าวเหนียวนิ่มดี



อาหารเวียดนามจานนี้ ไม่ลองเหมือนมาไม่ถึง เหมือนแหนมเนืองแต่ว่าพันมาให้แล้ว แต่หากินที่เมืองไทยได้ง่ายตามร้านอาหารเวียดนามทั่วไป เพราะคือปอเปี๊ยะสดเวียดนาม



อร่อยที่สุดเลยจานนี้กุ้งกับอาหารทะเลสับชุปแป้ง



ปลาหมึกสดย่างกับน้ำจิ้ม เผ็ดสุดในบรรดาที่สั่งมา แต่เผ็ดของเค้าไม่ได้ครึ่งบ้านเรา



จานนี้ไม่รู้เรียกว่าอะไร มีกุ้ง หมูยอ แล้วก็เหมือนปลาหมึกกรอบ เทินอยู่บนแป้งนุ่มๆ



จานนี้คนหนองคายเรียกข้าวเกรียบอ่อน



ก่อนไปอ่านรีวิวคนที่เคยไปมา บอกว่าหมูปิ้งเวียดนามอร่อย งั้นเราต้องลอง



ขนมจานนี้ เหมือนขนมแตง แต่พอทานแล้วกลิ่นและรสชาดเหมือนข้าวเม่า



จริงแล้วมีมากกว่านี้อีกอย่างหรือ 2 อย่างแต่ลืมถ่ายรูป อ๋อ มีโจ๊กด้วยแต่แย่งกันกินจนหมด มื้อนี้หมดไปสี่แสนกว่าด่ง คิดเป็นเงินไทยหารกันแล้วคนละ 100 กว่าบาท

มะเฟืองบอกให้พนักงานดูแลพวกเราเป็นอย่างดี เมื่อกินเสร็จแล้วให้เรียก Taxi คันใหญ่ๆให้เราด้วย ระหว่างรอ Taxi ก็ขอสักหน่อย



รถ Taxi คิดค่าบริการ 14000 ด่ง แล้วให้ทิปพนักงานที่เรียก Taxi ให้อีก 1000 ด่ง ขับพาไปนิดเดียวจอดให้ลงซะงั้น บอกว่าตำรวจห้ามเพราะถนนปิดเนื่องจากมีคอนเสริต์ พวกเราเลยกึ่งเดินกึ่งวิ่งเลาะทะเลสาปคืนดาบเพื่อไปให้ทัน Night Market เห็นมอเตอร์ไซด์เหมือนฝูงยุง



จากนั้นพวกเราก็เริ่มช้อป ส่วนใหญ่ก็สนใจของที่ระลึก แต่คุณสามีได้กางเกงมา 1 ตัว ลูกข่าง 2 อันเอามาฝากอั่งเปา และเราเองได้หมวกมา 1 ใบ แล้วจะใส่ให้ดู



มาหยุดรอสมาชิกเมื่อสุดทาง แล้วเดินตรงดิ่งกลับโรงแรม พักผ่อนเพื่อต่อสู้กับวันพรุ่งนี้ต่อไป






Create Date : 27 มกราคม 2551
Last Update : 5 เมษายน 2553 23:57:27 น. 0 comments
Counter : 6004 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

p_pat_p
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]









Friends' blogs
[Add p_pat_p's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.