นิยายรักหลากหลายแนว by ไตรติมา
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เพื่อนรักปรารถนา Chapter 23 ข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขัง by ไตรติมา “เธอเคยพูดจะไม่เก็บความสาวไว้ให้เขาคนนั้นถ้าเธอจะเสียมันไปขอให้ฉันได้ไหม ฉันคือเพื่อนที่เธอวางใจได้ไปตลอดกาลจะไม่ทำให้เธอเสียใจเหมือนเขาคนนั้น เขาเป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อส่วนเธอมีเพื่อนหญิงที่ถูกใจหลงรัก ลังเลเรื่องรักกับเพศไหน ![]() นิยายไบเซ็กชวลเกย์ รักสามเส้า [หญิงxชาย & ชายxชาย] Chapter 23 ข้อหาหน่วงเหนี่ยวกักขัง..........พากันกลับถึงบ้านใหญ่ของจีราในเวลาตีหนึ่งกว่า จีราไม่กล้าเข้าบ้านไปในบ้าน สั่งให้คนรับใช้ของบ้านไปปลุกเรียกชยาออกมาเพื่อจะพากันกลับไปยังบ้านใหม่ด้วยกัน ชยาได้เห็นหน้าของสองหนุ่มที่ได้รับบาดเจ็บแล้ว ไม่พูดว่าอะไร เงียบไปตลอดทางด้วยสีหน้าตูมเต็มที่เมื่อรู้ว่าพวกผู้ชายไปมีเรื่องกันจนได้บาดแผลฟกช้ำถึงเลือดเนื้อ เธอไม่พอใจแน่นอน จนกระทั่งถึงบ้านใหม่ตลิ่งชัน เหมันตรา2 เข้าบ้านแล้วชยาต้องทำการช่วยปฐมพยาบาลทั้งสองหนุ่ม “จะช่วยดูแลใครก่อนดี” มีตู้ยาสามัญประจำบ้าน เธอหยิบยาแก้ฟกช้ำมาทาแก้มและตามแขนให้จีรา ส่วนคาคบเธอทายาแก้แผลแตกในปากให้ “ไม่น่าออกไปมีเรื่องกับพวกนั้น น่าจะให้ตำรวจมาช่วยคุ้มกันบ้านนี้ ถ้าเราไม่ออกไปมันทำอะไรเราไม่ได้ง่ายหรอก มีตำรวจสายตรวจคอยดูอยู่ แล้วนี่กลับมากันในสภาพดูไม่ได้แบบนี้ เฮ้อ...” ชยาบ่นยาว ที่จริงเธอเป็นห่วงพวกเขาทั้งสองคนพอกัน “พวกเราเป็นผู้ชายมีศักดิ์ศรี ไม่ใช่เต่าในกระดอง ต้องต่อสู้เพื่อปกป้องคนรักและศักดิ์ศรีของเรา” “พี่จีราถ้าพี่ยังเป็นคนเลือดร้อนแบบนี้คงมีเรื่องอยู่ร่ำไป น่าเบื่อ... ฉันจะไม่อยู่กับพี่จีรา จะกลับบ้านของฉันพรุ่งนี้” “เธอจะไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น พี่ไม่อนุญาต” “ฉันไม่ใช่เด็กในปกครองของพี่” “เธอเป็นคู่หมั้นต้องอยู่ที่นี่หนีไปไหนไม่ได้ พี่จะให้บอดี้การ์ดขัดขวางเธอ ห้ามออกจากบ้านนี้” “พี่จีราจะใช้อำนาจเผด็จการกับฉันไม่ได้นะ ไหนว่าจะใช้ประชาธิปไตยปกครองกันยังไงล่ะ” จีราจึงหันหน้ามาถามสมัครพรรคพวกอย่างมีหลักการประชาธิปไตย “นายว่าฉันควรอนุญาตให้ชยาออกจากบ้านนี้ไหม” คาคบไม่ค่อยชอบบ้านใหญ่ของชยาที่มีบอดี้การ์ดของเธอแถมเต็มไปด้วยคนรับใช้มากมาย ทำให้เขาเข้าถึงตัวเธอยากมากไม่เหมือนอยู่ที่นี่ที่ไม่ค่อยมีใครมาวุ่นวายอยู่ได้สบายใจมีความสงบสุขมากกว่า “ไม่นะ ฉันว่าอยู่ที่นี่ดีแล้วชยา” “เห็นไหมคาคบยังบอกให้เธออยู่ที่นี่เลย แล้วพวกนายล่ะคิดว่าฉันควรอนุญาตให้ชยากลับบ้านไหม” จีราหันไปถามบอดี้การ์ดทั้งสี่คนซึ่งเป็นคนของเขา ย่อมรู้ใจรู้ว่าควรตอบเจ้านายว่าอย่างไร “ไม่ควรอนุญาตครับ คุณชยาควรอยู่ที่นี่กับคุณจีราเพราะเป็นคู่หมั้นอยู่ด้วยกันก่อนแต่งไม่เห็นเป็นไร” ชยาหันขวับไปค้อนบอดี้การ์ดของจีราทั้งสี่คน เธอไม่ชอบฟังถ้อยคำหลังที่ว่าอยู่ด้วยกันก่อนแต่ง “ฉันไม่เคยคิดอยู่กินก่อนแต่งกับพี่จีรา ฉันจะไม่แต่งงานกับพี่จีรา ฉันจะกลับบ้านใหญ่ของฉัน” “เธอไม่มีเหตุผล เธอแพ้... ทุกคนลงความเห็นหกเสียงต่อเธอหนึ่งเสียง เธอไม่มีสิทธิ์คัดค้านต้องทำตามเสียงข้างมากแบบประชาธิปไตย” “ไม่... ฉันไม่ได้ขอให้ใครอนุญาตหรือไม่อนุญาต ฉันมีสิทธิส่วนบุคคลของฉัน พอใจจะไปไหนก็ไปได้ ถ้าพี่จีราขัดขวางไม่ให้ฉันออกจากบ้านนี้ ฉันเอาเรื่องถึงตำรวจ จะแจ้งความดำเนินคดีกับพี่จีราข้อหา? หน่วงเหนี่ยวกักขัง หรือไม่ก็ข้อหาร้ายแรง ...ข่มขืนจิตใจ” ว่าอย่างนั้นพลันค้อนขวับให้จีรา ทำคอตั้งเชิดเมินหน้า ผู้เป็นเจ้าของบ้านถึงกับกระตุกยิ้มนึกขันในใจ “ข้อหาหลังนี่ชอบ... ข่มขืนจิตใจ? อยากทำอ่ะ...” จีราใช้ปลายมือเชยคางคู่หมั้นสาวเจ้าทิฐิ พร้อมกับใช้สายตาลวนลามมองเธอตลอดเรือนร่างซึ่งเธออยู่ในชุดนอนกึ่งเซ็กซี่น่ามองไม่น้อย ชยาปัดมือเขาออกห่าง แล้วลุกขึ้นเดินหนี ..........อาหารมื้อเช้ามาส่งพร้อมตั้งรอบนโต๊ะอาหาร จีรามายืนตรงบันไดตั้งใจจะไปตามชยากลับเห็นเธอแต่งชุดพร้อมสำหรับออกนอกบ้าน รู้แล้วว่าเธอคงตั้งใจแน่วแน่จะกลับบ้านใหญ่ของเธอ จึงชวนให้เธออยู่ด้วยกันอีกชั่วครู่ “กินข้าวเช้าด้วยกันก่อนค่อยไปนะชยา” พร้อมกันนั้นได้สั่งให้บอดี้การ์ดของเขาไปเอากระเป๋าเดินทางของเธอนำไปเก็บ “เอากระเป๋าของคุณชยาไปเก็บทีซิ” คาคบมาเห็น เดาได้ว่าเดี๋ยวจะต้องมีการแย่งยื้อกันระหว่างชยากับบอดี้การ์ด จึงเดินขึ้นบันไดไปคอยดูแลช่วยเหลือเธอ ชยายึดยื้อกระเป๋าไว้สุดแรงของหญิงสาวคนหนึ่ง ขณะบอดี้การ์ดของจีราพยายามดึงกระเป๋านั้นด้วยแรงของผู้ชาย จนกระเป๋าหลุดมือเธอไปแต่ตัวเธอเสียหลัก จะกลิ้งตกบันไดขั้นบนซึ่งมีหวังจะเกิดแข้งขาหักได้เพราะมีความสูงจากพื้นโข คาคบโอบประคองรับร่างบอบบางนั้นไว้ทันท่วงที ไม่ปล่อยให้คนที่เขารักหลุดมือกลิ้งตกลงไปกระแทกพื้นเบื้องล่าง อ้อมกอดในวงแขนกว้างของเขามั่นคงแข็งแรงปกป้องให้รู้สึกปลอดภัยเสมอ ชยาให้เกิดความรู้สึกโหยหาเหลือเกิน ‘ทำยังไงนะจะได้อยู่กับผู้ชายคนนี้ไปตลอดกาล ไม่ใช่ต้องทำตัวเป็นแค่เพียงเพื่อนผู้หวังดีอยู่แบบนี้’ จีราตกใจจึงรีบขึ้นบันไดมาโอบประคองตัวเธอด้วยอีกคน ส่วนอีกอุ้งมือเกาะกุมเหมือนโอบไหล่คาคบ ชยารู้สึกว่าตนเองตกอยู่ในอ้อมกอดของผู้ชายทั้งสองคนพร้อมกัน “ขอบใจนายมากนะคาคบ นายเป็นเพื่อนที่ดีจริงๆ คอยช่วยเพื่อนตลอด” ‘เราควรได้มีโอกาสเป็นคนพูดคำขอบคุณนั้น ไม่ใช่พี่จีรา’ เห็นสายตาจีรามองด้วยความสำนึกบุญคุณของคาคบแล้วรู้สึกว่ามันหวานลึกซึ้งจนน่าหวั่นใจ ขืนปล่อยให้จีรากับคาคบอยู่ใกล้ชิดกันทุกคืนวันมันไม่น่าไว้วางใจ ชยาร้อนใจขึ้นมาจึงคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างแล้ว “ฉันจะกลับบ้านฉัน อย่ามาขวาง” “ไม่ขวางหรอก แต่ต้องกินข้าวก่อน” “ไม่... ฉันจะไปกินที่บ้านใหญ่ฉัน” ชยายืนยันเสียงแข็ง “แต่ข้าวเช้าที่นี่เตรียมไว้เผื่อเธอแล้ว ถ้าไม่กินเดี๋ยวเหลือทิ้งเสียดายของกินอร่อย กินด้วยกันก่อนเถอะแล้วค่อยว่ากันจะอยากไปไหนก็ตามใจเธอ” “กินข้าวเช้าด้วยกันก่อนเถอะนะชยา” คาคบช่วยจีราพูดกับเธอด้วยอีกแรง ชยาเลยต้องยอมกับสองหนุ่มที่ช่างช่วยเหลือกันดีเหลือเกิน ..........ระหว่างทานอาหารเช้าด้วยกันเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่ชยาจะมีเลอะเปื้อนขอบปาก แต่กล่องกระดาษทิชชู่ที่อยู่บนโต๊ะไกลมือเธอมาก จีราคอยสังเกตดูเธออยู่ตลอดเห็นดังนั้นจึงช่วยเหลือโดยคว้าจับบนกล่องทิชชู่ ในขณะเดียวกันคาคบเห็นและอยากช่วยดูแลเธอกะจะนำกล่องทิชชู่ยกให้เธอ อุ้ง มือของเขาจึงคว้าไปโดนมือของจีราในตำแหน่งทาบทับอยู่บนเหนือมือของจีรา กลายเป็นมือของคาคบเกาะกุมบนมือของจีรา และจีรายิ้มให้อย่างคนใจตรงกันพอดี แต่ยิ้มของจีรานั้นขัดใจชยา มันดูเหมือนยิ้มหว่านเสน่ห์ให้ผู้ชาย ซึ่งถ้าเป็นหญิงสาวยิ้มแบบนี้ให้ผู้ชายเขาเรียกทอดสะพานหรือให้ท่า ‘นี่นะหรือคือคนที่บอกเกิดมาเพื่อเธอ เธอเป็นเนื้อคู่ของเขา ขณะเดียวกันเหมือนคอยปันใจให้ชายอื่นซ้ำซ้อนกับคนที่เธอรัก’ เธอรู้นิสัยคาคบดีไม่ค่อยมีเจ้าชู้หลายใจหลายรัก แต่เป็นคนใจกว้างน้ำใจดีมีความเป็นสุภาพบุรุษทุกกระเบียดนิ้ว ถ้าใครทำดีด้วยจะดีตอบแทนให้คุ้มค่ากัน “เชิญครับ” สุภาพบุรุษคาคบยอมสละให้อีกฝ่ายก่อน จีราจึงยกกล่องกระดาษทิชชู่นั้นมาวางให้ใกล้มือชยา “นี่นะชยาพี่ยกมาให้” “ขอบคุณค่ะพี่จีรา” ชยาเม้มปากหลังตอบตามมารยาทผู้ดี แล้วนำกระดาษทิชชู่ออกมาซับปากให้หายเปื้อน ก่อนจะกล่าวโดยไม่ลืมความตั้งใจเดิม “อิ่มแล้ว ทีนี้ฉันคงกลับบ้านฉันได้แล้วนะ” จีราเลิกคิ้วขึ้น ทำสัญญาณมือผายมือแบบเชิญตามแต่ใจเธอ แล้วทานอาหารต่อไปโดยไม่อนาทรร้อนใจ ..........ชยาเดินไปห้องของตนเพื่อจะนำกระเป๋าเดินทางออกจากห้อง แต่มีบอดี้การ์ดของจีรายืนเฝ้าอยู่สองคน บอกว่าจีราสั่งไว้ไม่ให้เธอเข้าห้องของเธอ เธอเดินกลับมายังห้องอาหาร ปรากฏว่าเขาย้ายไปนั่งในห้องนั่งเล่นกันหมด เลยต้องตามไปเอาเรื่อง “พี่จีราจะทำอย่างนี้กับฉันไม่ได้นะ ฉันจะขนกระเป๋าเสื้อผ้ากลับบ้าน ไม่ให้ฉันเข้าห้องได้ไง” เธอท้าวสะเอวยืนต่อหน้าเขาอย่างก้าวร้าวทำหน้าดุใส่เขา “พี่บอกเธอแล้วว่าไม่ให้กลับบ้านใหญ่ของเธอ” “ถ้าไม่ปล่อยฉันไปดีๆ ฉันจะแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้” “อ๋อ... ได้สิ นี่พี่มีเบอร์ตำรวจท้องที่ ให้ยืมมือถือด้วย โทรไปแจ้งสิ” ดูเหมือนเขาเตรียมพร้อมมาก่อนหน้าแล้ว ยื่นมือถือส่งให้มาอย่างท้าทายชยา เธอรับมือถือของจีรามากดโทรไปสถานีตำรวจไม่รอช้า และเปิดสปีกเกอร์ให้ได้ยินเสียงออกมาโดยทั่วหน้ากันด้วย “คุณตำรวจช่วยฉันด้วยค่ะ ฉันถูกคนร้ายโรคจิตจับขังอยู่ในบ้านหลังใหญ่” “หึ... หึ...” เสียงหัวเราะในลำคอของจีราดังขึ้นขัดจังหวะเล็กน้อย คาคบทำหน้าเหรอหรามองจีรา “รีบมาด่วนนะคะบ้านหลังใหญ่ในซอยแถวตลิ่งชัน...” ชยาบอกสถานที่กับตำรวจพร้อมทั้งแจ้งชื่อกับนามสกุลของตน และต้องตอบข้อซักถามแปลกๆ “มีการเข้าใจอะไรผิดกันหรือเปล่าครับ เจ้าของบ้านหนุ่มหล่อท่าทางใจดีนั่นนะหรือครับจับคุณผู้หญิงขังในบ้าน ผมว่ามีแต่ผู้หญิงอยากโดนจับอย่างคุณอยู่นะครับ” “อย่าดูคนเพียงหน้าตาภายนอกนะคะคุณตำรวจ นั่นล่ะเขาไม่ปกติหลงผิดชอบคิดทึกทักเอาเองหาว่าฉันเป็นแฟนเขา ที่จริงเราไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกันเลยค่ะ” “เอามือถือของฉันคืนมา ให้ฉันพูดบ้าง” จีราว่าพร้อมกับแย่งมือถือของตนคืนจากมือของชยา “นี่ผมจีราเองครับ ถือว่าผมขอเชิญที่บ้านนะครับ ใช่ผู้กำกับโสมนัสไหมครับ” ฟังดูเหมือนเขารู้จักคุ้นเคยกับผู้ใหญ่ในสถานีตำรวจนั้นทั้งที่เพิ่งย้ายมาอยู่บ้านใหม่นี้ “ใช่ครับ” “โชคดีที่โทรเจอผู้กำกับพอดี ที่ผมเคยนำกระเช้าไปมอบให้เนื่องในโอกาสเพิ่งย้ายบ้านเข้ามาอยู่ใหม่วันนั้น จำผมได้ใช่ไหมครับ” ชยาถึงเพิ่งรู้... แน่นอนอยู่แล้วลูกนักการเมืองอย่างเขาไปอยู่ที่ไหนต้องถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในพื้นที่นั้น ไม่ว่าจะเป็นกำนันผู้ใหญ่บ้าน อบต.หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ มันเหมือนเป็นหน้าที่ที่เขาต้องไปทำความรู้จักสนิทสนมเพื่อเพิ่มพูนบารมีทางการเมือง “จำได้สิครับ” “ไว้มีเวลาว่างวันไหนขอเชิญไปดื่มด้วยกันสักครั้งนะครับ ส่วนเรื่องที่เมียผมแจ้งความเมื่อกี้ก็ช่วยมาตามคำเรียกร้องของเธอด้วยนะครับ เมียผมเขามีปัญหากับผมนิดหน่อย ผมมีพร้อมทั้งพยานและหลักฐานจะให้ผู้กำกับได้ดูด้วยครับ” จีราคุยกับตำรวจไม่นานจึงวางสายกันไป ชยาติดค้างไม่พอใจหลังได้ฟังคำนั้น ‘เมีย’ ถึงกับเบิกตาลุกวาว... นึกไม่ถึงว่าเขาจะทึกทักขนาดหนักหนาสาหัสเช่นนั้นไปได้ มันขัดแย้งกับความเป็นจริงโดยสิ้นเชิง “นี่พี่จีราพูดเกินไปแล้ว ใครเมียพี่ เป็นตั้งแต่เมื่อไหร่” เธอยืนชี้นิ้วใส่หน้าจีราอย่างไม่เกรงใจเพราะไม่ชอบใจ โดนเขาดึงข้อมือให้ลงนั่งบนโซฟายาวตรงกลางระหว่างที่มีคาคบนั่งอยู่เคียงข้าง จีราจับต้นระหงของเธอก่อนจะกล่าวถ้อยคำชวนให้หวั่นกลัวสลับร้อนๆ หนาวๆ “แล้วเธอคิดเหรอว่าตัวเธอจะไม่กลายเป็นเมียฉัน” เธอหลบสายตาลง พร้อมกับดึงมือจีราออกจากการเหนี่ยวโน้มต้นคอเธอที่ทำให้ใบหน้าต้องอยู่ใกล้กันเกินไป ดูท่าทางจากการลวนลามที่เขาชอบจับเนื้อต้องตัวเธอแล้วให้รู้ตัวดีว่าเขาพร้อมจะทำให้เธอต้องตกเป็นของเขาได้ทุกเมื่อ การเข้าใกล้ตัวเขาเปรียบเหมือนตัวเธอเป็นแมงเม่าบินเข้ากองไฟ ความร้อนนั้นสัมผัสได้ด้วยใจว่าเขาเป็นผู้ชายร้อนรัก แรงรักใคร่เสน่หาผลักดันให้เขาทำอะไรก็ได้ตามแต่ใจเขาปรารถนา ชยานึกอยากหนีเขาไปให้ไกลๆ แต่หนีไม่ได้นี่ล่ะเป็นความร้อนรนกระวนกระวายใจของตัวเอง ..........ตอนสายประตูใหญ่เปิดทางให้รถตู้สีขาวคันหนึ่งแล่นเข้ามาจอดหน้าตึก เมื่อประตูรถตู้เปิดออกจึงเห็นเป็นคนงานรวมทั้งคนรับใช้บ้านใหญ่ของเธอเป็นสิบคน เดินเข้ามารายงานตัวกันยังห้องรับแขกนี้ จีราชี้ให้ชยาดู “นี่ไงมากันเกือบหมดบ้านเลยคนรับใช้บ้านใหญ่เธอ เหลืออยู่แต่คนรับใช้ดั้งเดิมของบ้านวิจิตรจักราของคุณคชาทอง มีแม่นมของแม่เธอ พี่เลี้ยงเธอ บอดี้การ์ดเธอทั้งสองคน ครอบครัวของแม่ครัว ครอบครัวคนสวนกับช่างซ่อม แล้วก็ครอบครัวของแม่บ้านซักรีดทำความสะอาดทั่วไป เหลือแต่คนขับรถเธอที่ยังไม่ได้มาด้วย ตอนบ่ายคนขับรถจะขับรถบีเอ็มรุ่นใหม่ของเธอมาจอดในโรงรถที่บ้านนี่” ทุกคนมายืนเรียงหน้าสลอนพร้อมประสานเสียงกันกล่าวทักทายโดยเรียกชื่อของเธอ “คุณชยา...” “มาทำไมกันที่นี่” “มาทำงานที่บ้านใหม่นี้นะสิ” คนที่ตอบกลับเป็นจีราเอง ชยาทำหน้างง ไม่รู้เรื่องอะไรมาก่อน “ทุกคนลาออกจากบ้านใหญ่กันหมดเลยเหรอ แล้วคุณหญิงแม่ฉันรู้เรื่องหรือยัง” “พวกเราไม่ได้ลาออกค่ะ คุณหญิงสั่งให้ย้ายมาทำงานที่นี่ถ้าบ้านใหม่นี้สร้างเสร็จแล้ว” ชยายังคงงงต่อไป จีราออกปากบอกทุกคน “เชิญเลือกห้องพักอาศัยกันตามชอบใจเลยนะทุกคน ที่นี่มีลานจอดรถหน้าบ้านให้เหมือนทาวน์เฮ้าส์ชั้นเดียว มีสวนหย่อมเล็กๆ ให้ปลูกต้นไม้หรือพืชผักผลไม้อะไรก็ได้ แถมมีฟรีไวไฟอินเตอร์เน็ตให้เสร็จ ถ้าใครขาดเหลือต้องการอะไรอีกบอกกันได้ อยู่ให้สบายกันนะทุกคน” เรือนพักคนงานที่รายล้อมรอบตัวตึกใหญ่เป็นเรือนพักคนงานที่ก่อสร้างอย่างดีดูน่าอยู่อาศัยไม่ต่างอะไรกับทาวน์เฮ้าส์จริงๆ ดังนั้นคนรับใช้ทุกคนจึงดูจะชอบสถานที่อยู่อาศัยแห่งใหม่นี้ . |
สมาชิกหมายเลข 2795671
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() นามปากกา... ไตรติมา เขียนนิยายหลากหลายแนว รักหญิงชาย วาย Yaoi LGBTQ ผี แฟนตาซี Sci-fi ดราม่า คอมเมดี้ ฯลฯ
Group Blog All Blog
Friends Blog Link
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |