The Sorcerer and the White Snake [B/B+] อย่าล้ำเส้น
ไม่ได้ตั้งใจจะดู แต่เนื่องจากหนีรถติดคิดว่าฆ่าเวลาหาอะไรทำดูหนังสักเรื่องแก้เซงดีกว่า หวยออกที่ นางพญางูขาวพอดี
ไม่เคยดูหนังจีนเรื่องนี้ในเวอร์ชั่นที่เคยทำมาก่อนหน้านี้เลย จึงอาจจะเป็นไปได้ที่พอมาถึงยุคปัจจุบัน อะไรหลายอย่างในเรื่องอาจจะดูซ้ำซากไปบ้าง เช่นเรื่องความรักต้องห้ามระหว่างคนกับปีศาจ หลวงจีนผู้พิทักษ์ความยุติธรรม ฉากต่อสู้ระหว่างพระและปีศาจ
แต่เหนืออื่นใดคือบริบท (Context) ของเรื่องที่เราสามารถแทนที่คำว่า ปีศาจด้วยคำว่า ตุ๊ด เกย์ ทอมดี้ คนพิการ หรือกล่าวรวมได้ว่าบุคคลชายขอบทั้งหลาย ซึ่งใช้บริบทดังกล่าวภายใต้ภาพมายาคติที่เหมารวมว่า "ปีศาจ = คนเลว ผิดจากปกติ" ทั้งที่ความเป็นจริงแล้ว ในความเป็นมนุษย์(หรือปีศาจ) ทุกคนล้วนมีสองด้านด้วยกันทั้งสิ้น
ปีศาจที่โดนจับโดยเจ้าอาวาส (เจ็ท ลี) หลายตนซึ่งมีพฤติกรรมชั่วในการปรนเปรอความสุขของตนโดยการทำร้ายมนุษย์ พวกมันจึงตกเป็นเป้าในการตามล่าของเจ้าอาวาสเพื่อพิทักษ์ความสงบสุข
แต่นางพญางูขาว และงูเขียว พี่น้องสองศรีที่เกิดนึกสนุกไปล้อเล่นกับสิ่งที่เรียกว่าความรัก ทำให้ทั้งสองต้องแลกด้วยอะไรที่มีค่าเกินกว่าคำว่าชีวิต
พล็อตที่วนเวียนอยู่กับเรื่องของความรัก และปรัชญาตะวันออกทั้งหลาย ที่ว่าด้วย อะไรคือขาวกับดำ ความรักจะเกิดขึ้นข้ามสายพันธุ์ด้ไหม อะไรความถูกต้องที่แท้จริง พระผู้เป็นเจ้า-พระเจ้า-พระพุทธเจ้า ชี้ทางที่ถูกต้องให้แก่นักบวชจริงหรือ?
เรื่องราวทั้งหมดขมวดปมในตอนท้ายได้อย่างน่าสนใจว่า สุดท้ายไม่ว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นด้วยเหตุปัจจัยอะไรก็ตาม แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง กระทั่งความรักนั้นต้องผูกโยงด้วยคำว่า "ผลของการกระทำ" หรือ "กรรม" ในพุทธศาสนาได้อย่างลึกซึ้ง และแม้ว่าบทสรุปของความรักระหว่างนางพญางูขาวและคนปรุงยานั้น จะไม่ราบรื่นราวกับเป็นความรักต้องห้าม แต่นั่นเป็นเพราะว่า การก้าวล้ำเส้นระหว่าง ทุกฝ่าย ทั้งเจ้าอาวาส นางพญางูขาว และคนปรุงยา ที่สุดท้ายแล้ว ทุกๆคนก็ล้วนได้รับความเจ็บปวดมากน้อยพอๆกัน
แต่ที่เลวร้ายไปกว่านั้นคือ คนอื่นที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ด้วย ก็ล้วนแล้วแต่ได้รับผลกระทบจากสิ่งที่พวกเขาทำ เช่น นักบวช น้องสาว(งูเขียว) และชาวบ้าน
ขนบความเป็นหนังจีนกำลังภายในยังครบครันไปด้วยฉากต่อสู้ที่น่าสนใจ (แม้ซีจีจะเข้าขั้นย่ำแย่ แต่ก็ถือได้ว่า รับใช้เรื่องราวได้ไม่เลว ไม่ได้สักแต่จะยัดความอลังการเข้ามา) และที่สำคัญมันยังมีความสนุกในแง่ของเรื่องราวทั้งบู๊ โรแมนติก ดราม่า และแฝงสัจธรรมเอาไว้ให้ตึกผลึกหลังหนังจบได้ดีทีเดียว
แม้จะไม่คมคายนัก แต่คำสาบานของพระเอก กับ นางเอก เป็นอะไรที่เล่นเอาคนใจอ่อน "น้ำตาคลอเบ้า" ได้เหมือนกัน
ปล. พันธมิตรพากย์ได้น่ารำคาญเป็นบางช่วง โชคดีหนังเป็นโทนติดตลกแต่ช่วงแรกๆ พอกลางๆเรื่องเมื่อมันปลี่ยนโทนเป็นดราม่า ทีมพากย์ก็ไม่ได้ลำเส้นมากนัก เลยทำให้ดูจบด้วยความพอใจในระดับหนึ่ง