Writer Edition Hottie & Nottie และรวมสาวๆหัวใจกลายพันธุ์จากนิตยสารสตาร์พิค
ไฮโซสะท้านทรวง ผู้ผันตัวเป็นดารา

สาวนางนี้เป็นถึง หลานสาวเจ้าของโรงแรมฮิลตันผู้โด่งดังทั้งในเรื่องดีเด่น โดดเด่ง หรือกระทั่งข่าวฉาวโฉ๋ตั้งแต่ วิดีโอคลิปกับแฟนหนุ่ม ภาพหลุดเปิดหวอ หรือกระทั่งขับรถฝ่าแหกไฟแดงจนต้องโทษเข้าตารางไปแล้วก็มี ซึ่งคนที่เรากล่าวถึงอยู่นี้ไม่ใช่ใครที่ไหนเธอคือ ปารีส ฮิลตัน ซึ่งเธอจะมาปรากฏตัวในหนังวัยรุ่นสุดเริ่ดเรื่อง Hottie & Nottie ที่เล่าเรื่องของเนท (โจเอล เดวิด มัวร์) เขาตกหลุมรัก คริสตาเบล แอบบอท (ปารีส ฮิลตัน) ตั้งแต่แรกเห็น เขาเก็บมันไว้เป็นความในใจเก็บเอาไว้ไม่กล้าบอกเธอ แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ย้ายบ้านจากไป หลายปีผ่านมาเนทรู้ข่าวว่าคริสตาเบลย้ายไปอยู่ที่ลอสแองเจอลิส
ด้วยความเชื่อเรื่องพรหมลิขิตเขาจึงตามเธอไป แต่แล้วเนทก็พบว่านอกจากเธอจะไม่ได้อยู่คนเดียวแล้ว คริสทาเบลยังมีเพื่อนสนิทแสนอัปลักษณ์อย่างจูน พิกจ์(คริสทีน ลากินส์) ที่ใครๆไม่อยากเฉียดใกล้ แต่แล้วเมื่อเนทได้ทำความรู้จักกับจูน เขาก็เริ่มกระเทาะเปลือกของหญิงคนนี้และบางทีคู่แท้ของเขาอาจจะเป็นเธอคนนี้ก็ได้

ว่าด้วยประวัติย่นย่อของหนูปา

ลูกสาวของตระกูลไฮโซอย่าง ฮิลตันเธอกำเนิดขึ้นบนพื้นโลกนี้ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ปี 1981 วิถีชีวิตในวัยเด็กของเธอรายล้อมไปด้วยบริวารมากมาย มีกินเสวยสุขอย่างอิ่มหนำสำราญแต่กระนั้นแล้วเมื่อย่างเข้าวัยสาว เธอก็เริ่มใจแตกกลายเป็นสาวปาร์ตี้จัด หัวราน้ำเป็นเนืองนิจและยิ่งไปกว่านั้นในช่วงสองสามปีให้หลังมานี้ข่าวด้านลบของเธอก็มีให้เราฟังจนเอือมระอาไปตามๆกัน แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามเราสามารถจำกัดความนิยามสาวปาสั้นๆได้ว่าเธอนั้น Sexy Naughty Bithchy
แม้พฤติกรรมของหล่อนจะไม่น่าพิสมัยเพียงไร การแสดงและผลงานของเธอก็ใช่ว่าจะเลวร้ายไปเสียหมด (แม้ส่วนใหญ่จะค่อนไปทางนั้นก็ตามที) แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เป็นหญิงสาวที่กล้าลุกขึ้นมาเปิดตัวและรับงานไม่เลือกหน้าทั้งเดินแบบ เล่นหนังไปจนกระทั่งเป็นนักร้อง
ถ้าเช่นนั้นแล้วปารีส ฮิลตันอาจจะเป็นหนึ่งตัวอย่างที่หลุดมาจากการ “กลายพันธุ์” ของดาราและนักร้อง ผู้มีอาชีพดุจกระจกเงาซึ่งกันและกัน ถ้าเช่นนั้นเราลองตามมาดูกันดีกว่าว่ามีสาวหน้าไหน “กลายพันธุ์” อย่างที่ว่าบ้าง


Naughty Girls



ฮิลลารี่ ดัฟฟ์ จาก Raise Your Voice (2004) รับบท เทอร์รี่ แฟลตเชอร์
เกิดอะไรกับเธอ หมูฮิลล์รับบทเด็กสาวจิตตกผู้มีอดีตอันเลวร้ายฝังใจเมื่อ พี่ชายอันเป็นที่รักของเธอถูกรถชนตาย คุณอาและคุณแม่ของเทอร์รี่จึงรวมหัวกันแอบพาเธอไปเรียน ณ โรงเรียนดนตรีที่แอล.เอจึงกลายเป็นที่พื้นฟูสภาพจิตใจให้ความเชื่อมั่นของเทอร์รี่กลับมาอีกครั้ง
How To Be Naughty Girls ด้วยการแสดงแข็งทื่อเป็นไม้กระดานของยัยหมูฮิลล์ผนวกกับพล็อตเรื่องแสนจะสูตรสำเร็จประมาณว่า “ฉันมีอดีตอันเลวร้ายฝังใจ คุณพ่อจอมหัวรั้น แต่ความฝันของฉันคือ การเป็นนักร้อง” ซึ่งคนดูก็รู้อยู่แก่ใจว่าหนังมันจะจบยังไง แต่อย่างไรก็ดีก็คิดซะว่านังหนูมันจะแสดงไม่ค่อยเอาอ่าวเท่าไหร่ แต่ฟังเพลงที่หล่อนร้องไปพลางก่อนคงจะพอกล้อมแกล้มกันไปได้ล่ะ
วีรกรรมทำตัวเอง ใช่ว่าเธอเล่นหนังไม่ดีแล้วจะไม่มีคนมาจ้างเจ้าหล่อนนะ งานด้านภาพยนตร์ของเธอมีให้เราได้ชมกันทุกปีซึ่งเร็วๆนี้เราจะได้ชม War, Inc หนังใหม่ซึ่งเธอต้องปะทะกับจอห์น คูแซก โจน คูแซกและเบน คิงส์ลีย์

แอชลีย์ ซิมป์สัน จาก Underdiscovered (2005) รับบท เคลย์
เกิดอะไรกับเธอ ฟอลคอน (สตีเว่น สเตร็ท) พบกับไบรเออร์ ทัคเก็ต (เพล เจมส์) ด้วยความรู้สึกเหมือนรักแรกพบทั้งสองตกหลุมรักกันทันที โชคไม่เข้าข้างทำให้ต้องเหินห่างกันไป จนกระทั่งลุคไปเป็นนักร้องอยู่ในไนซ์คลับแห่งหนึ่ง แต่แล้ววันหนึ่งไบร์เออร์ก็กลับเข้ามาในชีวิตของเขาอีกครั้ง
How To Be Naughty Girls แม้ว่าหนังจะติดฉลากแปะยี่ห้อเป็นหนังรักโรแมนติกชวนฝัน แต่ระหว่างชมจะรู้สึกง่วงงันบรรลัย ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นตัวแอชลีย์ก็ไม่รู้ว่าไปแสดงหนังยังไงถึงได้รับเกี(ล)ยรติเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลราสเบอร์รี่เน่าสาขาสมทบหญิงยอดแย่
วีรกรรมทำตัวเอง แอชลีย์หน้าแตกกลางรายการทีวีโชว์แห่งหนึ่งเมื่อหล่อนถูกให้ไปร้องเพลงสด ซึ่งรายการนี้ถ่ายทอดสดไปทั่วอเมริกาอีกเช่นกัน แต่จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อหล่อนดันไปร้องเพลงลิปซ์ซิ้งแต่ลืมปิดไมค์แถมร้องเนื้อผิดท่อน เหล่าประชาชีก็เลยจับได้ว่าหล่อนหลอกลวงกันนี่หว่า ร้องไปสักพักหล่อนก็เพิ่งจะรู้ตัว เลยอายม้วนรีบวิ่งหนีหายเข้าซอก




โจแอนนา ลาเวสเก้ (โจโจ) จาก Aquamarine (2006) รับบท เฮลลีย์
เกิดอะไรกับเธอ เฮลลีย์และแคลร์บังเอิญไปพบกับนางเงือกสาวนามว่าอความารีนในสระว่ายน้ำหลังบ้านซึ่งโดนพายุหอบมาไว้ เธอขอให้สองสาวช่วยตามหาชายในฝันก่อนจะกลับลงทะเลไปมิฉะนั้นเธอต้องถูกคลุมถุงชนแต่งกับปลาหมึกน่าเกลียดที่เธอไม่ได้รัก
How To Be Naughty Girls บทบาทของเธอในเรื่องอาจจะเป็นแค่บทสมทบแต่การรับบทเด็กสาวผู้กำลังเติบโต เรียนรู้ประสบการณ์ชีวิต โจโจสามารถทำให้เราเชื่อในตัวละครที่เธอรับบทได้อย่างสนิทใจ
วีรกรรมทำตัวเอง ด้วยฤทธิ์แห่งความใสซื่อของหนูโจโจการแสดงในหนังเรื่องแรกของเธอ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงสาขาดาราประกอบบนเวที Teen Choice Award แต่ก็ชวดไป ผลงานเรื่องสองอย่าง RV ซึ่งเธอรับบทเป็นลูกสาวของโรบิน วิลเลียม ตัวหนังถูกนักวิจารณ์สับเละไม่เป็นชิ้นดีว่า หนังออกจะน่ารำคาญเอามากๆ

เทียบวีรกรรม
เนื่องจากบรรดาตัวลูกมีด้วยกันสามคนการตัดสินจึงไม่ยากเย็นนักสาเหตุที่ให้หนูโจโจรับอันดับ 1 ไปก็เพราะเธอแสดงหนังเรื่องแรกแล้วได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลบนเวที Teen Choice Award ก็ถือว่าทำได้ดีทีเดียว ขณะที่หนูแอชลีย์ ก็ยังแสดงน่าผิดหวัง ส่วนนังหมูฮิลล์เล่นหนังมาแล้วไม่รู้กี่เรื่องฝีมือ หล่อนก็ยังไม่รู้จักพัฒนาซะที เลยเอาแห้วไปกินแล้วกัน

Sexy Girls




เจสซิก้า ซิมป์สัน จาก Employee of the Month (2006) รับบท เอมี่
เกิดอะไรกับเธอ เอมี่ (เจสซิก้า ซิมป์สัน) มีเงื่อนไขจะออกเดทกับผู้ที่ได้เป็น “พนักงานยอดเยี่ยมประจำเดือน” เท่านั้น แซ็คและวินซ์ต่างตกหลุมรักเธอในทันที ก่อให้เกิดการห่ำหั่นกันอย่างสนุกสุดเหวี่ยงเพื่อจะก้าวขึ้นมาพิชิตใจสาวสุดสวยคนนี้ให้ได้
How To Be Sexy Girls ผลงานเรื่องก่อนหน้าอย่าง The Duckes of Hazzard อาจจะเป็นความบันเทิงแบบฟาสต์ฟู้ดประมาณพอแหลกล่าย พอมาถึงเรื่องนี้กลายเป็นของขึ้นราไปเรียบร้อย เนื่องจากแค่เนื้อเรื่องก็สอบไม่ผ่านเสียแล้ว เลวร้ายที่หนังยาวมาก ส่วนเรื่องทักษะการแสดงก็คิดซะละกันว่าเรามานั่งดูตุ๊กตาบาร์บี้หัวทอง หน้าอกบึ้มมาเดินส่ายก้นไปมา คิดแบบนี้แล้วสบายใจกว่าเยอะ
วีรกรรม เจสสิกาได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากตั้งแต่อัลบั้มแรกของเธอ ในปี 1999 ชื่อ Sweet Kisses ปี 2007 เธอออกอัลบั้มเพลงพ็อพแนวดิสโก้ซึ่งส่งซิงเกิ้ลฮิต (ที่วิทยุบ้านเราเปิดกรอกหูซะเกร่อ) ในเพลง A Public Affair




บริทนีย์ สเปียร์ จาก Crossroad (2002) รับบท ลูซี่
เกิดอะไรกับเธอ ลูซี่ (บริทนีย์ สเปียร์) คิท (โซอี้ แซลอานา) และ มีมี่(แทรนซ์ แมนนิ่ง) เคยเป็นเพื่อนสนิทกันในวัยเด็ก เมื่อเวลาผ่านไปต่างก็แยกไปมีหนทางของตนเองจนกระทั่งงานเลี้ยงรุ่นจบการศึกษา เมื่อมีมี่ชักชวนเพื่อนเก่าไปประกวดร้องเพลงที่ลอสแองเจอลิส ทั้งสามได้พบกับ เบ็น (แอนด์สัน เมาท์) หนุ่มผู้ถูกสงสัยว่าเป็นฆาตกร ตลอดการเดินทางทั้งสามก็ได้เรียนรู้ประสบการณ์ เติบโตขึ้นและพบกับ “ความรัก”
How To Be Sexy Girls หนังเรื่องแรกของหนูหอกที่โดนถล่มราบคาบจากนักวิจารณ์ว่าการแสดงของเธอเข้าขั้นสากกระเบือ (การันตีโดยรางวัลราซเบอร์รี่เน่าซึ่งรับรางวัลครองคู่กับมาดอนน่าจาก Swept away) แถมบทหนังก็เถือกตามสูตรจนเห็นฉากแรกก็เดาฉากจบได้ ยิ่งไปกว่านั้นการนำบริทนีย์มารับบทสาวใสคงแก่เรียน เป็นอะไรที่น่าเชื่อม้ากมาก
วีรกรรม บนเวทีนักร้อง เธออาจะเป็นเจ้าหญิง แต่ชีวิตจริงหล่อนไม่ต่างอะไรจากเด็กวัยรุ่นใจแตกที่ไปแย่งสามีชาวบ้านมาเป็นของตัวเอง เหมือนกรรมตามทันสามีที่ว่าอย่างเจ้า เควิน เฟเดอร์ไลน์ก็นิสัยสัมมะเลเทเมาจนปัจจุบันหย่ากันไปเรียบร้อย แถมปัจจุบันก็ยังฟ้องร้องแย่งลูกกันไม่จบไม่สิ้นจนนึกอนาจจิตแทนหนูหอกว่า “เลือกผัวผิด คิดจนตัวตาย”




เจเนต แจ็คสัน จาก Nutty Professor 2 The Klumps (2000) รับบท เดนีส
เกิดอะไรกับเธอ จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเจ้าอ้วนตุ๊ต๊ะ(เอ็ดดี้ เมอร์ฟีย์) กลับมาอีกครั้ง คราวนี้เขามีแผนจะแต่งงานกับเดนีส (เจเนต แจ็คสัน) แต่แล้วเหตุการณ์ไม่น่าคาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อบัดดี้ เลิฟ (ร่างในจิตสำนึก) ตามออกมาป่วนเขาอีกครั้งจนตระกูลคัลฟ์ต้องหนาวๆร้อนๆไปตามกัน
How To Be Sexy Girls ทักษะการแสดงของเธออยู่ในขั้นลื่นไหลพอถูไถไปตามเรื่อง ตัวหนังประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่น่าเสียดายว่าไม่ค่อยจะมีใครจดจำหล่อนได้เท่าใดนัก
วีรกรรม เกือบจะดับวูบไปแล้ว ยังโชคดีที่หนังออกฉายไปก่อนที่ยัยเจเนตจะเต้าหกกลางงาน Super Blow ตอนขึ้นแสดงโชว์เพลงกับหนุ่มหยอยจัสติน ทิมเบอร์เลค ซึ่งเป็นตัวทำให้ชื่อเสียงของเจ้าหล่อนตกต่ำเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน



สเตซี่ เฟอร์กูสัน (เฟอร์กีย์) จาก Grindhouse : Planet Terror (2007) รับบท แทมมี่
เกิดอะไรกับเธอ เมื่อนักวิทยาศาสตร์คิดค้นไวรัสประหลาดเปลี่ยนคนหลายเป็นผีดิบ ความหายนะก็มาเยือนยังมนุษย์โลก ภารกิจกอบกู้โลกจึงอุบัติขึ้น ซึ่งหัวหน้าภารกิจนี้ตกเป็นของสาวสวยนักเต้นระบำเปลื้องผ้าที่เสียขาจากการโจมตีของซอมบี้ แต่เธอก็ได้ขาเทียมที่กลายมาเป็นปืนกลแทน ได้เวลากวาดล้างซอมบี้แล้ว ?
How To Be Sexy Girls อย่าแปลกใจถ้าคุณจำไม่ได้ว่าหนูเฟอร์กีย์เล่นหนังเรื่องนี้ด้วยหรือ จำนังหนูโนตมรถเสียแล้วโดนซอมบี้ไล่แดกหรือเปล่าล่ะ เธอคือคนนั้นแหละ (โผล่หน้าประมาณไม่เกิน 5 นาทีใบบทคู่เบี้ยนของยัยหมอสุดสวยอีกคน ตอนยัยเฟอร์ทำหูทำตาวิ่งหนีซอมบี้นี่ ตาเหลือกตาปลิ้นได้สมบทบาทจริงๆ ส่วนเรื่องก่อนหน้านี้หล่อนก็จมไปพร้อมกับเรือ Poseidon ในบทนักร้องสาวกลอเรียยังไงล่ะ
วีรกรรม ถ้าหลายคนยังไม่รู้จักว่าหล่อนเป็นใคร ลองมาฟังทางนี้ เธอคือหนึ่งในสมาชิกวงถั่วดำ Black Eyes Peas วงฮิปฮอปชื่อดัง แม้เรื่องเล่นหนังอาจจะเป็นรองคนอื่นอยู่หลายขุม แต่เรื่องงานเพลงเธอยังออกอัลบั้มเดี่ยวเป็นของตัวเองชื่อ The Ductchess เป็นอัลบั้มที่มีแนวเพลงวาไรตี้เอามากๆ เหมาะกับการนำไปเปิดเพื่อแดนซ์ตามผับโดยเฉพาะ




แมนดี้ มัวร์ จาก Chasing Liberty (2004) รับบท แอนนา ฟอสเตอร์
เกิดอะไรกับเธอ แอนนาลูกสาวคนเดียวของประธานาธิบดีสหรัฐ ชีวิตของเธออยู่ท่ามกลางการอารักขาขององครักษ์จนเกินพอดี เมื่อยามจะออกเดทกับใครสักคน ทุกครั้งมันจบลงแบบหายนะเสมอไป จนกระทั่งเธอแอบหนีการควบคุมจากพี่เลี้ยงทั้งหลายได้สำเร็จและพบกับ เบน คาลเดอร์(แม็ทธิว กู๊ด) ชายหนุ่มมาดเท่ โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าชายผู้นี้แหละ ก็เป็นหนึ่งในองครักษ์ของพ่อเธอด้วยเช่นกัน
How To Be Sexy Girls มันคือ Roman Holiday เวอร์ชั่นทีนเอจ สิ่งที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้หาใช่วิวสวยๆ แต่เป็นการแสดงเข้าคู่กันระหว่างพระนางที่น่ารักน่าหยิกจนรวมไปถึงเสน่ห์อันเหลือล้นของแมนดี้ มัวร์จนเราอดที่จะอมยิ้มแก้มตุ่ยไปไม่ได้
วีรกรรม ไม่รู้ว่าเธอควรกลับไปร้องเพลงอย่างเดียวหรือเปล่าเพราะหนังช่วงหลังของเธอพักนี้ไม่ว่าจะเป็น American Dreamz, Because I Said So, License to Wed ก็โดนสับแหลกไม่มีชิ้นดีจากนักวิจารณ์ แต่ก็ยังดีว่ามันเลวร้ายแค่ตัวหนัง ส่วนการแสดงของเธอก็ยังเป็นที่น่าพอใจอยู่เช่นเคย



ลินเซย์ โลแฮน จาก I Know Who Kill Me รับบท ออเบรย์ และ ดาโกต้า เฟลมมิ่ง
เกิดอะไรกับเธอ ออเบรย์ เฟลมมิ่ง (ลินเซย์ โลแฮน) เธอถูกฆาตกรต่อเนื่องลักพาตัว แต่แล้วเธอก็รอดชีวิตในสภาพแขนขาถูกตัดเลือดโชกเต็มตัว หญิงสาวฟื้นขึ้นมาและปฏิเสธว่าเธอไม่ใช่ออเบรย์แต่ชื่อดาโกต้า ซึ่งแม้จะมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกันราวฝาแฝด แต่บุคลิกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แล้วความเป็นจริงมันเป็นเช่นไรใครกันที่โกหกหรือแท้จริงแล้วเธอเป็นบ้ากันแน่ ?
How To Be Sexy Girls แม้ว่าในหนังหนูลินของเราจะพยามโชว์เนื้อหนังมังสาอย่างไร เราก็อดไม่ได้ที่จะแขวะออกมาว่า “เซ็กซี่ตรงไหนมิทราบวะ?” เพราะเธอรับบทเป็นนักเต้นรูดเสา แต่ทำไมหล่อนถึงสวมเสื้อผ้าซะมิดชิดขนาดนั้น ด้วยเหตุผลนี้เองเลยไปเข้าตากรรมการรางวัลราซซี่ให้มติเอกฉันท์ว่ามันสมควรได้รับรางวัลหนังยอดแย่ประจำปี 2007 พ่วงด้วยรางวัลนำหญิงยอดแย่เพื่อรับประกันความหายนะของหนังที่หนูลินแสดง
วีรกรรม เด็ดดวงไม่แพ้หนูปา (เป็นสาวปาร์ตี้พอกัน) เพราะชีแข่งกันแรงหรือยังไงก็มิทราบ ล่าสุดเธอเพิ่งเดินออกจากสถานบำบัดยาเสพติดเพราะว่าปีที่แล้วเธอโดนจับข้อหามีโคเคนไว้ในครอบครอง มิหนำซ้ำหล่อนยังมีข่าวจิกผู้ชายกินไม่ซ้ำหน้า จนหลายต่อหลายคนเอือมระอาไปตามๆกันว่าตกลงนังนี่นอกจากจะร้ายแล้วยังบ้าผู้ชายอีกต่างหาก


เกวน สเตฟานี่ จาก The Aviator (2004) รับบท จีน ฮาร์โลว์
เกิดอะไรกับเธอ ฮาวเวิร์ด ฮิวจ์ (ลีโอนาโด ดิแคปริโอ) ชายหนุ่มรูปงาม ฉลาดเป็นมหาเศรษฐีพันล้านเป็นทั้ง เจ้าของธุรกิจ, เสือผู้หญิง, นักบินผาดโผน และผู้กำกับหนังฮอลลีวู้ด (สรุปว่าพี่แกเป็นทุกอย่าง) เขามีความทะเยอทะยานในเรื่องการบิน และความสัมพันธ์กับนักแสดงแถวหน้าของฮอลลีวูด ก่อนสุดท้ายเขาจะได้เรียนรู้สัจธรรมชีวิตว่า “เงิน” ไม่ใช่ทุกอย่างเสมอไป
How To Be Sexy Girls แม้จะเป็นหนังเรื่องแรกของเจ๊เกวน แต่ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะแสดงฝีไม้ลายมือได้เท่าที่บทหนังจะเอื้ออำนวยซึ่งในฐานะบทตัวประกอบ เธอทำได้ตามอัตภาพของเธอ (เนื่องจากโดนการแสดงของเคท แบลนเช็ทท์กลบหมด)
วีรกรรม แม้เกว็นจะอายุเกือบจะเข้าเลขสี่แถมเผ็นคุณแม่ลูกอ่อนอีกต่างหากแล้วก็ตาม ส่วนเรื่องฝีมือการร้องเพลงของเธอก็ไม่ได้โดดเด่นมากเท่าใด แต่เรื่องการเล่นคอนเสริต์สดนี่ ขอยกนิ้วให้ว่าเธอสามารถเอาคนดูอยู่หมัดตั้งแต่ต้นจนจบเลยล่ะ



บียอนเซ่ โนวส์ จาก The Fighting Temptations (2003) รับบท ลิลลี่
เกิดอะไรกับเธอ ดาร์ริน ฮิลล์(คิวบา กู๊ดดื้ง จูเนียร์)นักโฆษณาผู้กำลังตกอับเดินทางกลับบ้านในจอร์เจียเพื่อรับมรดกของคุณป้า แต่ก่อนแบกเงินกลับเขาต้องทำให้ฝันของป้าให้เป็นจริงโดยการตั้งทีมนักร้องประสานเสียงประจำโบสถ์แล้วพาไปแข่งระดับชาติพร้อมนำชัยชนะกลับมา เมื่อเขาได้พบกับลิลลี่ (บียอนเซ่ โนวส์)นักร้องเพลงแจ๊สสาวสวยเสียงดี จนเขาได้เข้าใจว่าป้าที่แสนดีของเขาได้มอบบางสิ่งอันมีค่ายิ่งมากกว่าเงินมรดก
How To Be Sexy Girls สาวสวยเสียงดีผู้นี้มีดีมากกว่าเป็นนักร้อง เพราะฝีไม้ลายมือในการแสดงของเธอก็นับวันยิ่งทวีความสามารถขึ้นไปเรื่อย หลังจากรับบทสาวสายลับของออสตินพัฒนามาสู่บทนักร้องเพลงประจำโบสถ์ได้อย่างน่ารัก เปี่ยมเสน่ห์หรือบทหนักๆอย่างในเรื่อง Dreamgirls จนเธอเกือบจะได้เข้าชิงออสการ์ (ย้ำว่าเกือบ) ยิ่งเป็นเครื่องการันตีได้เป็นอย่างดีว่าเธอเป็นสาวมากความสามารถเพียงใด
วีรกรรม วงการเพลงเธอก็เฉิดฉายมาตั้งแต่เป็นสมาชิกวง Destiny’s Child แล้วหลังจากนั้นเธอได้ออกอัลบั้มเดี่ยว Dangerously in love จนกวาดรางวัลแกรมมี่ อวอร์ดไปหลายรางวัล จนทุกวันนี้อัลบั้มล่าสุดอย่าง B’Day ซึ่งออกทัวร์คอนเสริต์ไปทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว ยิ่งเป็นตัวชี้วัดว่า แฟนเพลงทั่วโลกของเธอรอคอยชื่นชมผลงานของเธอเสมอมา



เจนนิเฟอร์ โลเปซ จาก Angel Eyes (2001) รับบท ชารอน พ๊อก
เกิดอะไรกับเธอ ชารอน พ๊อก (เจนนิเฟอร์ โลเปซ) ตำรวจหญิงในเมืองชิคาโก ในคืนหนึ่งเธอติดตามผู้ต้องสงสัยจนเกือบเอาตัวไม่รอด โชคยังดีที่หนุ่มลึกลับ (จิม คาวิเซล) เข้ามาช่วยชีวิตชารอนไว้ได้ เขาอาจจะเป็นแค่ชายคนหนึ่งที่ผ่านมายื่นมือเข้าช่วยเหลือ แต่ที่จริงแล้ว ทั้งสองเคยพบกันมาก่อน ทั้งคู่ต้องเริ่มรับรู้ความหลังของแต่ละฝ่าย และเรียนรู้ที่จะอยู่กับสิ่งเหล่านั้น
How To Be Sexy Girls อาจจะไม่ต้องพูดอะไรมากสำหรับคุณพะโล้ โลเปรตที่มากความสามารถทั้งร้องเพลงและแสดงหนัง การแสดงในเรื่องนี้เธอสามารถแสดงอารมณ์ของผู้หญิงมากความหลัง เก็บงำความทุกข์ได้เป็นอย่างดี แต่แย่หน่อยที่ปีนั้นเจโล ถูกด่าจากบรรดานักวิจารณ์ในเรื่อง The Wedding Planer จนถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลราซเบอร์รี่ แต่เธอก็ยังไม่ได้รางวัลสมใจจนกระทั่งเรื่อง Gigli มาพาเธอไปรับรางวัลนี้ในปี 2004 (น่าภูมิใจตรงไหน)
วีรกรรม เธอยังคงเฉิดฉายได้ทั้งสองวงการอย่างหน้าชื่นตาบาน เพราะอัลบั้มของเจ๊พะโล้ในชื่อ Brave (ซึ่งทำหน้าปกซีดีราวกับค่ายโฟเอฟสร้างสรรค์อย่างในบ้านเราซะไม่มี) เพลงสไตล์พ็อพ แดนซ์ อาร์แอนด์บี ก็ยังคงคุณภาพเสียงได้อย่างดีเยี่ยม ส่วนหนังเรื่องล่าสุดซึ่งเธอประกบคู่กับสามีสุดเลิฟมาร์ค แอนโธนีเรื่อง Cantante, El แม้ผลตอบรับจะไม่ดีนัก แต่การแสดงของเธอก็ยังฟอร์มดีไม่มีตก

เทียบวีรกรรม
สมควรแล้วที่นังเจสจะได้แห้วไปรับประทานเพราะไม่รู้ว่าตกลงหล่อนมาแสดงหนังหรือเดินบิดตูดอย่างเดียวก็มิทราบ ทางด้านหนูหอกก็แข็งกระโด้กแถมได้รับบทที่ขัดแย้งกับชีวิตเธออย่างแรงจนเราอดเชื่อไม่ได้ว่าเธอยัง “จิ้น” อยู่จริงเหรอฟะ เจเนตก็แสดงงั้นๆ เฟอร์กี้ยก็เล่นตามที่บทจะเอื้อ แต่คุณอาจจะแปลกใจว่าทำไมหนูแมนดี้ถึงตกกระป๋องขนาดนั้นก็ตอบให้เลยว่า เมื่อไหร่หล่อนจะหาหนังดีๆเล่นซะมั่ง เบื่อบทโง่ๆของหล่อนเต็มทนแล้ว เจ็เกวน ไม่มีอะไรจะกล่าว ส่วนที่ยัยบีและนังพะโล้ก็บรรยายสรรพคุณไปแล้วเรียบร้อย

-********************************************************************************----------------**********
Bitchy Girls



อันดับ 3
ผู้เข้าชิง มารายห์ แครี่ย์ ส่งประกวดจาก Glitter (2001) รับบท บิลลี่ แฟรงค์
เกิดอะไรกับเธอ บิลลี่ แฟรงค์เป็นสาวมากพรสวรรค์ เสียงดี วันหนึ่งเธอได้พบกับจูเลี่ยนผู้ชักนำให้เธอเข้าไปทำงานในวงการเพลง ทั้งคู่กลายเป็นทั้งหุ้นส่วนธุรกิจและหุ้นส่วนชีวิต แต่เมื่ออาชีพนักร้องของบิลลี่เริ่มอยู่ตัว ปัญหาต่างๆก็เริ่มรุมเร้าเข้ามาจนนำไปสู่จุดวิกฤตที่เธอต้องเลือกระหว่างหน้าที่การงานอันก้าวหน้าหรือความรัก
ประกายดาว แม้แม่มาลัยในเรื่องจะดูสวนเริ่ดทุกฉากจนเราอาจะนึกสงสัยว่าหล่อนไปหาเงินหาทองที่ไหนมาซื้อเครื่องสำอางโบ๊ะหน้าขนาดนั้น แถมมีเงินไปเสริมเต้ามาจนบึ้มเสียน่าตกใจ และเหตุการณ์ในหนังก็จงใจเสียออกนอกหน้า จนนังมาลัยของเราเหมือนเป็นสาวน้อยผู้โชคดีได้ทำงานในอาชีพนักร้องแบบง่ายๆ แต่พอหล่อนพบสัจธรรมชีวิตได้ไม่นาน หล่อนก็เพิ่งจะคิดได้ว่าเดี๊ยนทำพลาดไปแล้ว แล้วก็มัวมานั่งจมทุกข์ทำหน้าเหม็นขี้อยู่ซักพัก จนหนังจบ เราเลยสรุปว่านี้เป็นหนังชีวประวัติหล่อนรึไงมิทราบ มันถึงออกมาดูปลอมๆง่อยๆพอกับหน้าอกเธอน่ะ
แสงส่องทาง อิเจ๊แกลูกคอแปดหลอดขนาดนั้น บนวงการเพลงชีก็เลยยังอยู่ยงคงกระพันยังไม่ลงโลงไปซะก่อน แถมเพลงของเธอก็มีเพลงเพราะๆเยอะแยะแล้วที่ขึ้นแท่นคลาสสิคไปเรียบร้อยแล้วอย่าง Hero ที่โดนนักร้องคาเฟ่ตามบ้านเรามาเห่าหอนกันอยู่บ่อยจนเกร่อนั่นแหละ ซึ่งเห็นได้ชัดอย่างยิ่งยวดว่ามาลัยสมควรจะแหกปากร้องเพลงต่อไปแล้วเลิกแสดงหนังซะ แล้วก็แนะนำอีกอย่างทำไมเวลาหล่อนเล่นคอนเสริต์ทีไรชุดคุณเธอจะต้องแหวกทุกอณูเนื้อผ้า โชว์พุงปลิ้นๆของเธอจนอุบาทว์ลูกกะตาก็ไม่ทราบ เปลี่ยนคอสตูมดีไซน์เนอร์เป็นการด่วน




อันดับ 2
ผู้เข้าชิง มาดอนนา ส่งประกวดจาก The Next Best Thing (2000) รับบท แอ๊บบี้ เรโนว์
เกิดอะไรกับเธอ เมื่อเพื่อนรักอย่างแอ๊บบี้(มาดอนน่า) เกิดตั้งท้องโดยไม่ได้ใจกับเพื่อนเกย์ โรเบิร์ต (รูเพิร์ต เอเวอร์เรตต์) ทั้งสองฝ่ายใช้ชีวิตร่วมกันมาพักหนึ่งจนกระทั่งความอดทนของทั้งสองสิ้นสุดลง เมื่อแอ๊บบี้ไปแต่งงานกับหนุ่มนักธุรกิจที่เพียบพร้อมจนเกิดปัญหาฟ้องร้องเรื่องลูกชายเพราะต่างฝ่ายก็เชื่อว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นคุณสมบัติไม่พร้อมที่จะเลี้ยงดูลูกของตน
ประกายดาว แม้ว่ามาดอนน่าจะเป็นตัวแม่แห่งวงการเพลงป็อป แต่เรื่องแสดงภาพยนตร์หล่อนเป็นแค่ยัยหน้าโบทอกซ์เท่านั้น อย่าว่าแต่หนังเรื่องนี้เลยเรื่องอื่นๆหล่อนก็เล่นหนังแข็งโป้ก ตึงเปรี้ยเหมือนหน้าฉีดสารเคมีของหล่อนนั่นแหละ จะพอดูมีราศีขึ้นหน่อยสมัยที่เธอรับบท Avita นอกนั้นหล่อนมักจะเป็นตัวเต็งบนเวทีราซเบอร์รี่อยู่เนืองนิตย์
แสงส่องทาง ปีที่แล้วหล่อนออกมาประกาศกร้าวว่าต่อไปนี้เธอจะเลิกเล่นหนังแล้วค่ะ แต่จะมาจับมือกับสามีสุดเลิฟ กาย ริชชี่ กำกับหนังเองสักเรื่อง ซึ่งจนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีข่าวคืบหน้าเสียว่าตกลงเจ๊แกจะสร้างเมื่อไหร่ ส่วนเรื่องเพลงนั้นคุณเธอกลายเป็นไอคอนของชาวสีม่วงไปเรียบร้อยแล้วล่ะ




อันดับ 1
ผู้เข้าชิง วิทนีย์ ฮูสตัน ส่งประกวดจาก The Bodyguard (1992) รับบท เรเชล
เกิดอะไรกับเธอ แฟรงค์ ฟาร์มเมอร์ บอดี้การ์ดหนุ่มฝีมือดีรับ เขามีหน้าที่คุ้มครองชีวิตของ เรเชล นักร้องสาวชื่อดังที่กำลังถูกคนร้ายคุกคามชีวิต แต่ทั้งเขาและนายจ้าง ต่างเผลอมอบใจให้แค่กันและกันจนยากจะถอนตัว
ประกายดาว เป็นหนังที่สามารถทำให้คนดูแปลกใจอยู่ไม่น้อยเมื่อตัวหนังถูกส่งชื่อเข้าชิงรางวัลเพลงประกอบยอดเยี่ยมบนเวทีออสการ์ (เพลง I Have Nothing กับ Run to You) แต่ชวดหมด ส่วนเพลงที่วิทนีย์ร้องเองอย่าง I Will Always Love You ดันไปชนะบนเวที MTV Movie Awards ในหนังมีอยู่ฉากหนึ่งที่เธอนั่งบ่นกับเควิน คอสเนอร์ว่า “ฉันอยากได้รางวัลออสการ์” แต่บนโลกแห่งความจริงบทของเจ๊วิทนีย์ดันไปเข้าตากรรมการราซซี่เน่าไปซะได้ เธอจึงโดนเสนอชื่อเข้าชิงดารานำหญิงยอดแย่คู่กันกับ เควิน คอสเนอร์ในปีนั้นหน้าตาเฉย
แสงส่องทาง แม้ผลงานภาพยนตร์อาจจะไม่ค่อยลงตัวเท่าใด เรื่องการร้องเพลงของเธอก็ยังคงคุณภาพไม่เป็นสองรองใคร ยังผลิตผลงานที่น่าพอใจมาให้ฟังอยู่เรื่อยๆแม้จะไม่อาจขึ้นท็อปฟอร์มเท่าสมัยก่อนแต่ก็ยังน่ายินดีที่เธอยังรักษาความสามารถอย่างคงเส้นคงวา

ทัศนะการตัดสิน
โปรดอย่าแปลกใจที่ทำไมวิทนีย์ถึงได้รางวัลชนะเลิศเพราะตัวแข่งคนอื่นง่อยรับประทานกันไปหมด อย่างที่บอกว่าเราพิจารณาจากหนังที่นำมาเข้าชิงเท่านั้น การแสดงของวิทนีย์จึงมีดูราศีมากที่สุด แต่ว่าไปหนังดูมีราศีแต่คุณภาพหนังดูแล้วราคีจับซะเหลือเกิน (3 เรื่องที่กล่าวมานั่นแหละ)

รางวัลพิเศษศิลปินกลุ่ม

เธอเป็นใคร 5 สาวสไปซ์ เกริล์ จาก Spice World (1997)
เกิดอะไรกับพวกเธอ จะว่าเป็นหนังก็ไม่ใช่เป็นสารคดีก็ไม่เชิงเพราะหนังพูดถึงเรื่องราวของกลุ่มห้าสาวเครื่องเทศ เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในแต่ละวันของพวกเธอว่าเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าอยากรู้ว่าชีวิตของห้าสาวเป็นอย่างไร หนังเรื่องนี้จะเป็นคำตอบพวกคุณเอง
สรรพคุณ ถึงความแรงของบรรดาห้าสาวจะกลายเป็นนางกวักเรียกแฟนเข้าโรง(ในสมัยนั้น) แต่ความซวยก็มาเยือนมาเมื่อหนังโดนถล่มแหลกไม่มีชิ้นดีจากนักวิจารณ์ ว่าพวกหล่อนจะมัวเอาพฤติกรรมไร้สติมาทำเป็นหนังทำไมมิทราบ เพราะสิ่งที่คนดูทราบหลังจากหนังจบก็คือ การแสดงของยัยห้าสาวสไปซ์ซี่เข้าขั้นเลวร้าย ซึ่งราซซี่ อวอร์ดร่วมการันตีการแสดงแสนห่วยแตกของพวกหล่อน โดยมอบรางวัลให้ในสาขาดารานำหญิงยอดแย่ทั้งห้านางไปเชยชมแล้วเรียบร้อยนี่ยังไม่รวมสาขาอื่นที่เข้าชิงอีกนะ







Sexy Singer From Thailand
ปล.ไม่รับพิจารณารางวัล เชิญมาร่วมวงไพบูลย์เพื่อเป็นเกียรติเท่านั้น



เธอเป็นใคร ทาทา ยัง จาก รักออกแบบไม่ได้
เกิดอะไรกับเธอ เรื่องราวของมิตรภาพที่เกิดขึ้นในขอบรั้วมหาวิทยาลัยศิลปากรเมื่อ ปริม(ทาทา ยัง) อาท (เร แม็คโดนัลด์) ปืน (ชาคริต แย้มนาม) ฝุ่น(มนัสวี กฤตานุกูลย์) ชมพู่ (ศรีพรรณ ชื่นชมบูรณ์)เป็นนิสิตใหม่ของคณะศิลปกรรม จากคำว่าเพื่อน เริ่มขยับไปสู่ความรัก จนสุดท้ายความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนก็สิ้นสุดลงเมื่อแต่ละคนต้องเลือกหนทางที่ดีที่สุดของตน
สรรพคุณ จากวันนั้นถึงวันนี้ใครจะไปเชื่อว่าสาวน้อยมหัศจรรย์อย่างน้องหนูทาทาจะ กลายร่างมาเป็นสาวบึ้มเซ็กซี่ปรอทแตกจนทุกวันนี้ แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นผลงานการแสดงชิ้นที่สองของเธอ แต่เธอกลับแสดงได้ดีเข้าขั้นขนาดได้รับรางวัลดารานำหญิงบนเวทีสุพรรณหงส์ประจำปีนั้นมาครอบครอง รู้อย่างนี้แล้วหนูทาถูก็ควรเอาความสามารถที่มีไปใช้ให้เกิดประโยชน์เถอะนะ เพราะเอ็มวีล่าสุดของหนูอย่าง El-Nin-Yo น่ะดูแล้วเซกซ์เสื่อมชะมัด แข็งทื่อไปซะหมดทุกอย่างตั้งแต่หัว-อก-จรดเท้า




เธอเป็นใคร วนิดา เติมธนาภรณ์ (กิ๊บซี่ Girlly Berry) จาก คลับซ่า ปิดตำราแสบ
เกิดอะไรกับเธอ เมื่อโรงรียนสายสมรวิทยาเปลี่ยนแปลงนโยบายจากโรงเรียนสหแยกเป็นโรงเรียนชายล้วนและหญิงล้วน ทำให้บรรดานักเรียนตกอยู่ในสภาพเหมือนอยู่ในวงล้อมไม้ป่าเดียวกัน จนวันหนึ่งการก้าวเข้ามาของ โด่ง (ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม) หนุ่มมาดกวนบุคลิกโดนใจสาวๆ เขาคิดตั้ง “คลับซ่า” ขึ้นเพื่อให้นักเรียนชายแปลงโฉมตัวเองจากไอ้เห่ยสู่หนุ่มหล่อมัดใจสาว แต่หนทางของคลับซ่าจะสามารถออกลายไปได้ตลอดรอดฝั่งโดยง่ายดายหรือ?
สรรพคุณ หนังสมัยที่น้องหนูกิบซี่ยังคิคุอาโนแนะสมัยออกอัลบั้มแรกๆ (ซึ่งยังไม่ออกลายนุ่งสั้น เด้งหน้าเด้งหลังขนาดนี้) ส่วนบทของเจ้าหล่อนก็ไม่ได้เรียกร้องทักษะทางการแสดงเท่าไหร่นัก แถมบทก็เงอะงะจนเราไม่เชื่อเลยว่าเจ้าหล่อนจะเหมือนนักเรียนม.ปลายตรงไหน (ก็เมคอัพซะเวอร์ขนาดนั้น แถมผมยังสไลด์สวยอีก) ตัวหนังก็เสร่อจนเรานั่งนึกว่า “นี่กรูมาดูละครห่วยๆของช่องสโลแกนทีวีเพื่อคุณรึไงฟะ” กลับไปเต้นประกอบเพลง เฮ้ย ร้องเพลงอย่างเดิมเถอะไปยัยหนู















Create Date : 29 พฤษภาคม 2551
Last Update : 29 พฤษภาคม 2551 23:39:58 น.
Counter : 1941 Pageviews.

1 comments
  
แหล่ม

คำเดียว พอ
โดย: ตั้ม IP: 203.156.0.186 วันที่: 30 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:55:23 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Onlineza
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ยินดีต้อนรับเข้าสู่บล้อกของผมนะครับ

ถึงแม้จะแต่งบล้อกให้สวยงามไม่ค่อยเป็น แต่รับรองว่าเข้ามาในบล้อกแห่งนี้ มีเรื่องราวให้อ่านมากมายกว่าที่คิด

เร็วๆนี้อ่านจะเพิ่มเติมหัวข้อพากิน พาเที่ยวเพิ่มถ้ามีเวลานะครับ

ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนครับ

Fanpage : http://www.facebook.com/EntertainmentBite
https://entertainmentbite.wordpress.com/
พฤษภาคม 2551

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
30
31
 
All Blog