STARDUST เมื่อดวงดาวบนฟ้า มีค่ามากกว่าเศษหิน

จะช้าไปหรือเปล่าหากจะกล่าวว่า STARDUST เป็นภาพยนตร์แฟนตาซีแสนสุขอีกเรื่องประจำซัมเมอร์ปี 2550 เพราะนอกจากในตัวหนังจะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์มากกว่าที่เราคาดคิดไว้ มันยังเป็นภาพเคลื่อนไหวที่มีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก

เหตุผลประการที่หนึ่งที่ทำให้หนังชวนหลงไหลคือเนื้อเรื่องที่แสนจะธรรมดาที่ว่าด้วยหนุ่มน้อยที่ป้ำๆเป๋อๆที่พยามทำบางสิ่งเพื่อพิชิตใจหญิงสาวแสนสวยที่เขาแอบหลงรัก ทว่าความไม่ธรรมดาของหนังไม่ได้จบเพียงแค่หนุ่มคนนี้จะได้ลงเอยกับหญิงสาวที่หมายปองแต่ระหว่างรายทางที่เขาออกผจญภัยไปกลับเต็มไปด้วยเหตุการณ์ท้าทายความสามารถซึ่งทำให้เขาเติบโตขึ้นมากกว่าคำว่า”เด็กหนุ่มคนหนึ่ง”

เป้าหมายที่แท้จริงของ ทริสตัน (ชาร์ลี คอกซ์) เจ้าหนุ่มคนดังกล่าวคือเขาได้สัญญากับวิคตอเรียหญิงสาวที่เขาแอบปลื้มว่าจะออกไปเก็บดาวตกมาเป็นของหมั้น โดยไม่รู้ว่าบรรดาเจ้าชายและแม่มดใจร้ายก็ออกตามล่าดาวตกดวงนี้เพื่อผลประโยชน์ของตน

เหตุผลที่สองคือการถ่ายภาพวิวทิวทัศน์และการเนรมิตฉากต่างๆในเรื่องล้วนแต่สวยงามตระการตามากกว่าที่คาดไว้ ด้วยความที่ตัวหนังเป็นแฟนตาซี แต่แฟนตาซีในเรื่องนี้กลับหลุดกรอบความจำเจตามหนังจำพวกเดียวกัน เนื่องจากว่าฉากทั้งหลายในหนัง มีความสำคัญและเป็นดั่งเช่นตัวช่วยบรรยายลักษณะบุคลิกของบรรดาตัวละครในเรื่อง

และเหตุผลที่สามคือเหล่านักแสดงนำที่เข้าถึง “บทบาท” จนคนดูเชื่อและหลงรักตัวละครทุกๆตัวไม่เว้นแม้แต่นักแสดงรับเชิญอย่าง ปีเตอร์ โอ ทูลซึ่งรับบทเป็นกษัตริย์มานอนบนเตียงพูดบทไม่กี่บรรทัด แถมด้วยหน้าจิตๆของแกทำให้เราเชื่อไปเลยว่าเขาเป็นคนที่ชั่วร้ายโดยไม่ต้องเล่นบทโหด ยิ่งไปกว่านั้นตัวละครที่ขโมยซีนที่สุดกลายเป็นของกับตันเชคสเปียร์ (โร เบิร์ต เดอ นีโร) ซึ่งบุคลิกภายนอกดูดุร้ายแต่ภายในลึกๆกลับเป็นคนรักสนุกจนเกินคาดคิด

ถ้าหากลองสังเกตดีๆแล้วจะพบว่านักแสดงเกือบทุกตัวพยามทำตัวเองให้กลายเป็นตัวตลกและดูป้ำๆเป๋ออาทิ แคลร์ เดนส์รับบทเป็น อีเวน(ดาวตก) ทุกครั้งที่เธอสนทนากับตัวละครอื่นๆหน้าตาของเธอจะคล้ายๆกับหญิงสาวสติไม่เต็มเต็ง ส่วนมิเชลล์ ไฟเฟอร์รับบทแม่มดก็เป็นตัวละครอันน่าหลงใหลแต่ซุกซ่อนความร้ายกาจแบบคาดไม่ถึงและทำให้เราฮาไปกับการพลิกตัวเองให้กลายเป็นหญิงแก่น่าเกลียดได้อย่างน่าชื่นชม

แก่นของเรื่องอาจจะพยามพูดถึงความอยากมีอยากได้ของคนซึ่งทุกๆคนบนโลกล้วนต่างทำตามสิ่งที่จิตใจของตนโหยหาโดยอาจลืมคำนึงถึงความถูกต้องและความเป็นธรรมชาติ ซึ่งแสดงให้เราเห็นไม่ว่าจะเป็นทริสตันที่พยามตามหาดาวตกเพื่อคนที่เขารักโดยหารู้ไม่ว่าลึกๆแล้วอีกฝ่ายหนึ่งนั้นมองเขาเป็นเพียงตัวตลก แม่มดลาเมียก็ออกล่าดาวตกเพื่อความสาวของตนเอง หรือกระทั่งบรรดาเจ้าชายที่แย่งชิงความเป็นใหญ่จนสุดท้ายจะพบว่าพวกเขานั้นจะเข่นฆ่ากันไปทำไม เนื่องจากความเป็นใหญ่ที่ต้องแลกด้วยเลือดเนื้อทำให้พวกเขาไม่เหลือสิ่งใดเลย

ขณะที่เป้าหมายรองของหนังได้พูดถึงการพยามรักษาสถานภาพของตนให้อยู่ในขอบเขต บางคนต้องปิดบังตนเองเพื่อความอยู่รอด บางคนปิดบังตัวตนเพราะหน้าที่การงาน ส่วนหลายคนพยามเปิดเผยตัวเองเพียงเพราะอยากให้ตัวของพวกเขาเป็นที่รู้จักและยำเกรงในตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา

ดาวตกอย่างอีแวนอาจจะเป็นตัวละครที่กลายเป็นศูนย์กลางแห่งความปั่นป่วนก็อาจจะไม่ผิดนัก เพราะถ้าไม่มีเธอก็คงไม่มีปัญหาเหล่านี้และแน่นอนว่าคงไม่มีภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่อย่างไรก็ตามทีดาวตกหรือนางฟ้าตกสวรรค์อย่างเธอนั้นกลับช่วยให้เด็กหนุ่มคนหนึ่งเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเด็กชายไปสู่ผู้ใหญ่ที่พร้อมจะรับมือกับปัญหาชีวิตที่เข้ามาก็คงนับได้ว่าเธอนั้นมาเพื่อจุดประกายไฟให้คนคนหนึ่งและจุดไฟให้อีกหลายคนสู้ชีวิตแบบสุดใจขาดดิ้น

อย่างที่เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าดวงดาวก็เป็นแค่เพียงเศษหินที่ลอยอยู่ในอวกาศแต่ถ้าหากเรามองให้ดี บางทีสิ่งที่ส่องประกายระยิบระยับบนฟ้าอาจจะดูสวยงามตรงกันข้ามอาจจะไม่เกิดประโยชน์อะไรเพราะสิ่งของที่มีค่านั้นขึ้นอยู่กับตัวบุคคลว่าจะประเมินคุณภาพของมันอย่างไร

เช่นเดียวกับดวงดาวถ้าหากเราคิดแค่ว่าเป็นเพียงเศษหินมันก็จะเป็นเช่นเดียวกับความคิดของเรานั่นแหละ

Create Date : 10 พฤศจิกายน 2550 Last Update : 20 พฤศจิกายน 2550 21:37:51 น. Counter : 1104 Pageviews.		4 comments
Share Tweet