~@-@~ สะบายดีปะเทดลาว - 1 ~@-@~
เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่มาเยี่ยมเยียนบล็อกเรื่อยเปื่อยแห่งนี้คงพอทราบว่า เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เจ้าของบล็อกหนีงานไปเที่ยวประเทศลาวมาเป็นเวลาหนึ่งเดือน และบอกกล่าวไว้ว่ากลับจากเที่ยวแล้วจะมาเล่าประสบการณ์ให้อ่านกัน แต่เพราะระยะเวลาที่ไปเที่ยวมามันหลายวัน สถานที่ที่ไปก็มากเหลือเกิน จะเขียนเล่าให้ละเอียดเหมือนกับที่จดบันทึกประจำวัน หรือเขียนแบบความเรียงจากนครวัด-นครธม ก็คงจะยาวยืดไปจบเอาปีใหม่หน้าแน่ๆ อ่านกันตาลาย เลยขอเล่าแบบบันทึกสั้นๆ ว่าในแต่ละวันไปที่ไหนมาบ้าง และแปะภาพให้ชมแทน ถ้าสงสัยตรงไหนก็สอบถามกันในบล็อกเลยนะคะ จะตอบให้เท่าที่ตอบได้ค่ะ
ไปเที่ยวลาวกันเลยดีกว่า
**ชื่อเรื่องนั้น ไม่ได้สะกดผิดนะคะ แต่สะกดให้เหมือนกับที่ประเทศเขาใช้อ่ะค่ะ **
** สะบายดี แปลว่า สวัสดี **
** ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวประกอบในบล็อก บางส่วนนำมาจากหนังสือ 2 เล่มนี้ค่ะ
1. คู่มือนักเดินทาง - ลาว โดย มัทรียา ธาราทรัพย์ สำนักพิมพ์อทิตตา (ในเครือนิตยสารเที่ยวรอบโลก)
2. ชื่นชมสถาปัตย์ - วัดในหลวงพระบาง โดย วรลัญจก์ บุณยสุรัตน์ สำนักพิมพ์เมืองโบราณ
ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ

====================
เชียงราย ปากแบง หลวงพระบาง
วันที่ 1 [ 15 พ.ย. 48 ]
แบกเป้หลัง (ที่หนักที่สุดเท่าที่เคยแบกมา) ออกจากบ้านไปพบป้าหนอนที่หมอชิต 2 เพื่อขึ้นรถบัสวีไอพีไปเชียงราย ที่ไม่ได้มุ่งตรงไปเชียงของเลย เพราะนัดไปเยี่ยมเพื่อนที่นั่น
วันที่ 2 [ 16 พ.ย. 48 ]
ถึงเชียงรายตอนเช้า ก็เดินชมสถานที่ต่างๆ รอบเมืองทั้งวัน และวันนี้เป็นวันลอยกระทง บางวัดก็มีการลอยโคมขึ้นฟ้า ตกดึกก็ไปลอยกระทงที่แม่น้ำกก


พระที่วัดพระสิงห์ช่วยกันปล่อยโคม (เขาเรียกว่าอย่างนี้หรือเปล่าอ่ะคะ เริ่มงง จะบอกว่าบอลลูนก็ไม่ใช่ ???)
วันที่ 3 [ 17 พ.ย. 48 ]
ออกจากเชียงรายไปเชียงของ เข้าพักที่เรือนพักตำมิละ เป็นเรือนพักไฮโซริมแม่น้ำโขง ขอบอกว่าบรรยากาศดีสุดยอด ยิ่งไปไปช่วงพระจันทร์เต็มดวง ได้เห็นตอนกำลังขึ้นแล้วกรี๊ด หยิบกล้องมากด กด แทบไม่ทัน

เรือนพักริมแม่น้ำโขง


พระจันทร์กำลังขึ้น เขินอ่ะที่จะบอกว่าเกิดมาเพิ่งเคยเห็นตอนกำลังขึ้น แหะ แหะ

ตอนเช้า พระอาทิตย์ขึ้น ก็สวยไม่แพ้กัน ถึงหมอกจะหนาไปหน่อยก็ตาม
วันที่ 4 [ 18 พ.ย. 48 ]
ข้ามจากเชียงของไปห้วยไซ แขวงบ่อแก้ว ประเทศลาว ซื้อปี้ (Ticket) ลงเรือช้า ราคาเป็นแสน (กีบ) ล่องแม่น้ำโขง จุดหมายปลายทาง คือ หลวงพระบาง

ทิวทัศน์ระหว่างทาง สวยมากกกกกก แต่ถึงวิวจะสวยขนาดไหนก็มีแอบหลับเหมือนกัน อิอิ
การเดินทางมาทางนี้จะใช้เวลาสองวัน ดังนั้นเราต้องพักที่ปากแบง เมืองท่าเล็กๆ ของแขวงอุดมไซ ก่อนหนึ่งคืน

เมืองปากแบงตอนเย็น
วันที่ 5 [ 19 พ.ย. 48 ]
เรือออกจากปากแบงแต่เช้า ทิวทัศน์กลางแม่น้ำโขง ที่มีเกาะแก่งจำนวนมาก รูปทรงต่างๆ มองไปทางไหนก็เพลิน ถึงหลวงพระบางตอนเย็นแล้วก็รีบหาที่พักหรูๆ ถูกๆ โดยด่วน

เมืองปากแบงตอนเช้า หมอกเยอะมากกกก เห็นแล้วก็กรี๊ดอีกแล้ว

เรือช้าที่พาเราไปหลวงพระบางค่ะ
เมืองหลวงพระบาง หรือที่คนลาวทั่วไปจะเรียกว่าเมืองหลวง เพราะเคยเป็นราชธานีเก่าของอาณาจักรล้านช้าง และเป็นที่ประทับของเจ้ามหาชีวิต (พระเจ้าแผ่นดิน) ก่อนที่จะเปลี่ยนระบอบการปกครองมาเป็นสาธารณรัฐ ตัวเมืองหลวงพระบางตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำคานและแม่น้ำโขง เต็มไปด้วยวัดวาอาราม อาคารบ้านเรือนแบบเก่า ผู้คนมีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ยึดมั่นในขนบธรรมเนียมประเพณีและพุทธศาสนา หลวงพระบางได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเมืองมรดกโลก (The World Heritage Town) ของ UNESCO เมื่อปี 2538 และตอนที่เราไป เขาก็ฉลองเมืองมรดกโลกครบสิบปีพอดี
วันที่ 6 [ 20 พ.ย. 48 ]
ได้กินเฝอ (ก๋วยเตี๋ยวน้ำ) มื้อแรกที่นี่ ที่ร้านนางแอ ใกล้ตลาดดาลา อร่อยมากจนต้องไปฝากท้องไว้อีกหลายเช้า ได้ลองมาหมด ทั้งเฝอ ข้าวเปียก และข้าวซอย

ข้าวซอยและกาแฟร้อน ที่ร้านนางแอ
วันนี้ก็เที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ในหลวงพระบาง

วัดเชียงทอง วัดที่เราฟันธงว่าสวยที่สุดในลาว
วัดเชียงทอง เป็นวัดที่เก่าแก่วัดหนึ่งของหลวงพระบาง สร้างในราว พ.ศ. 2102-2103 โดยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ก่อนที่พระองค์จะย้ายเมืองหลวงไปนครเวียงจันทน์ วัดนี้ถือเป็น "วัดประตูเมือง" ทั้งยังเป็นท่าเทียบเรือด้านเหนือ สำหรับการเสด็จประพาสทางชลมารคของกษัตริย์ รวมถึงนักเดินทางที่มาทางเรือ วัดนี้จึงได้รับการอุปถัมภ์มาโดยตลอด โดยเฉพาะในสมัยเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวงศ์และเจ้ามหาชีวิตศรีสว่างวัฒนา กษัตริย์สองพระองค์สุดท้ายของลาว

ด้านหลังของวัดเชียงทอง เป็นวัดลาวจำนวนน้อยที่ด้านหลังของสิม (วิหาร) จะมีลวดลายประดับ เพราะวัดส่วนใหญ่ จะปล่อยให้โล่งๆ ขาวๆ

หอไหว้สีกุหลาบ

เศียรช้างชูงวง ที่ผนังสิมทางทิศเหนือ จากหนังสือบอกว่าจะใช้เป็นช่องให้น้ำพระพุทธมนต์ที่รดผ่านรางรดสรงมายังพระพุทธรูปในสิม ไหลผ่านท่อที่ฝังไว้และไปออกที่เศียร์ช้าง เพื่อให้ประชาชนนำน้ำที่ได้ไปประพรมร่างกายเพื่อเป็นสิริมงคลในวันสงกรานต์

วัดเชียงทองในอีกรูปแบบหนึ่ง

ถ้ำติ่ง
ถ้ำติ่ง จากหนังสือบอกไว้ว่า เมื่อพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชเสด็จกลับจากเชียงใหม่ โปรดให้ก่อสร้างตกแต่งถ้ำและนำพระพุทธรูปมาประดิษฐานเป็นอนุสรณ์แห่งสัมพันธไมตรีระหว่างล้านช้างหลวงพระบาง และล้านนาเชียงใหม่ ต่อมาทุกๆ วันปีใหม่ลาว ชาวหลวงพระบางจะนำพระพุทธรูปมาไว้ในถ้ำ ถือว่าเป็นการถ้ำบุญที่ยิ่งใหญ่

ทางเข้าถ้ำเทิง ด้านบน น่าเสียดายที่ลวดลายสึกกร่อนไปค่อนข้างเยอะ

พระพุทธรูปจำนวนมากในถ้ำติ่ง
วันที่ 7 [ 21 พ.ย. 48 ]
เช้าวันนี้ออกสำรวจวิธีการใส่บาตรข้าวเหนียวว่าจะเริ่มยังไง ที่ไหน หลังจากนั้นก็เดินเที่ยวชมสถานที่สำคัญในโซนวัดวิชุนนะลาด (วิชุนราช) และวัดต่างๆ ในละแวกนั้น

สิมวัดวิชุน สวยและแปลกกว่าสิมของวัดอื่นๆ ในหลวงพระบาง จากหนังสือบอกไว้ว่าได้รับอิทธิพลมาจาก วิหารแบบไทลื้อสิบสองปันนา
วัดวิชุนนะลาด วัดนี้เจ้ามหาชีวิตวิชุลราชโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2046 โดยตั้งชื่อวัดตามพระนามของพระองค์ เมื่อสร้างเสร็จก็ได้อัญเชิญพระบางจากวัดมโนรมย์มาประดิษฐานไว้ที่นี่ วัดนี้มีความสำคัญด้วยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์สำคัญหลายองค์ เช่น ในปี พ.ศ. 2091 พระเจ้าไชยเชษฐาธิราชได้อัญเชิญพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) กับพระพุทธบุษยรัตนจักรพรรดิพิมลมณีมัย (พระแก้วขาว) หรือ พระจันทรรัตนะ จากเมืองเชียงใหม่มาพร้อมพระองค์แล้วประดิษฐานไว้ที่นี่

พระธาตุหมากโม ตามประวัติกล่าวว่าพระนางพันตีเชียง อัครมเหสีของเจ้ามหาชีวิตวิชุลราช โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2057
ตอนบ่ายๆ ก็เดินเล่นริมแม่น้ำคาน บรรยากาศดีหลายๆ อากาศเย็นสบาย

บริเวณที่แม่น้ำโขงกับแม่น้ำคานมาสบกันเห็นเป็นแม่น้ำสองสี พยายามมองให้เห็นเป็นสองสีหน่อยนะคะ แหะ แหะ
====================
เที่ยวกับโอ้โฮแทรเวลไปแล้ว 7 วัน แล้วค่อยมาเที่ยวกันต่อนะคะ มาดูกันว่าอีก 20 กว่าวันที่เหลือไปที่ไหนมาบ้าง

Create Date : 05 มกราคม 2549 |
|
8 comments |
Last Update : 5 มกราคม 2549 22:33:17 น. |
Counter : 1768 Pageviews. |
|
 |
|