ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
 
ตุลาคม 2561
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
19 ตุลาคม 2561
 
 
รักเกินต้าน Can't Resist บทที่ ๑ (Yuri)



คิดถึง

คิดถึงมากจนหัวใจแทบคับอก

หยักยิ้มยกบนหน้าไม่เสื่อมหาย

ความคิดถึงบันดาลทุกข์โศกคลาย

อยากจะร่ายคาถาไปหาเธอ.

“ตกลงแกชอบพ่อของลูกศิษย์จริงหรือเปล่า?”พิจิตราเพื่อนรักซึ่งเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยถามขึ้น หลังมานั่งทานมื้อเย็นในร้านเจ้าประจำโดยอินทุอรเป็นเจ้ามือ และสินาถนั่งอยู่ด้วย

“ก็ไม่รู้สิ”ครูดนตรีโรงเรียนประถมตอบกึ่งรับกึ่งสู้ ทำหน้าลำบากใจประหนึ่งอมบอระเพ็ดเข้าไป

สินาถผู้จัดการนางแบบชื่อดังขมวดคิ้วกับคำตอบ

“แปลว่าอะไร?”

“จริงๆฉันไม่ได้คิดอะไรกับเขาน่ะสิ” เธอตอบเสียงอ่อย

“หา!” พิจิตราทำเสียงประหลาดใจ แล้วกดเสียงต่ำกว่าปกติ “ไม่คิดอะไร แต่แกออกไปกินอาหารกับเขาตั้งหลายครั้ง?”

“แต่ไม่ได้ไปกันแค่สองคนนะลูกสาวเขาก็ไปด้วยนะ”

“นั่นเรียกว่าออกเดทรู้รึเปล่า?”

“ก็เขาชวนไปทานที่โรงแรมห้าดาวเนื่องในวันเกิดลูกสาวแล้วแกจะให้ฉันปฏิเสธยังไง” ยกเหตุผลขึ้นมาบังหน้า

พิจิตราส่ายหัวอย่างเซ็งๆกับเหตุผลที่เพื่อนยกมาอ้าง ก่อนเอ่ยดักคอออกมา

“เห็นแก่กินว่างั้น”

ง่ารู้อีก

สาวหน้าคมทำหน้าเจื่อนๆที่โดนรู้ทัน แล้วเอ่ยแก้ตัวออกมา

“อาหารอร่อยนะ แต่ให้จ่ายเองฉันไม่ไปเด็ดขาดหัวละตั้งห้าร้อยกว่า แถมไม่รวมค่าเครื่องดื่มด้วย แพงตายชัก”

“โหย จะงกไปไหนย่ะกะอีแค่ห้าร้อยพันนึงช็อปปิ้งชุดหนึ่งก็แพงกว่าแล้ว” อาจารย์สาวค่อนขอดอย่างหมั่นไส้ด้วยฐานะการเงินของเพื่อนรักไม่ได้เป็นครูประถมทั่วไป ขยันสอนดนตรีพิเศษ แถมยังเป็นหลานสาวเจ้าของสวนทุเรียนหมอนทองเมืองนนท์อีกด้วย

“แหม ก็มันอยากกินแต่เสียดายตังค์นี่” ครูดนตรีพึมพำความจริงออกมา

“ถ้าหมอนั่นมาได้ยินเหตุผลคงดีใจน้ำตาร่วงแน่” พิจิตราอดจิกความงกเกินพิกัดของเพื่อนสาวไม่ได้

อินทุอรทำหน้าจ๋อยๆรู้สึกผิดกับผู้ชายคนนั้นนิดๆ หลังคิดตาม

“แกก็พูดเกินไปงั้นคราวหน้าแกก็เลี้ยงฉันที่โรงแรมสิ”

“เฮ้ย! เรื่องอะไรเกินงบ เก็บไว้ซื้อชุดสวยๆ ดีกว่า”อาจารย์สาวรีบปฏิเสธเสียงแข็ง

“เชอะฉันก็คิดเหมือนกันนั่นแหละ”

สินาถหัวเราะเบาๆกับความขัดแย้งที่ดูจะเป็นเรื่องปกติของสองคนนี้ ถ้าวันไหนเจอแล้วไม่ขัดคอกันเลย จึงจะเป็นเรื่องประหลาด

“เอาน่าจิตแกจะบ่นอะไรนักหนา อินก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว จะออกเดทกับหนุ่มๆ บ้างก็ไม่แปลกหรอกถ้าอินเดทกับสาวๆ สิถึงจะน่าสงสัย” ผู้จัดการนางแบบพูดติดตลก

อาจารย์มหา’ลัยหลุดขำออกมา

“เออจริงด้วย”

“พูดบ้าๆ ถึงฉันจะชอบเล่นดนตรีไทยแต่ฉันคงไม่ฝักใฝ่แบบแกหรอกนะนาถ” ครูสาวรีบพูดแก้อย่างเร็ว

คนโดนแขวะยิ้มกว้างไม่คิดถือสา ใจกว้างกับรสนิยมของเพื่อนที่แตกต่างกัน...เป็นเพื่อนสนิทไม่จำเป็นต้องชอบเหมือนกัน

“ฉันเห็นมาเยอะแล้วไม่ชอบอะไรมักได้แบบนั้น ดูน้องพิมพ์สิ ตอนแรกๆ เกลียดหน้าฉันจะตายสุดท้ายเราก็มาคบกัน” สินาถเอ่ยไปถึงพิมพ์อัปสรคนรัก ซึ่งตอนนี้กลายเป็นนางแบบชื่อดังของVKModels

“ฉันไม่คิดจะกินเด็กและไม่คิดจะคบผู้หญิง ฉันอยากมีครอบครัวเหมือนคนทั่วไปมากกว่า” อินทุอรพูดจากใจหลังเคี้ยวข้าวหมดคำ ไม่ได้รังเกียจความรักที่ผิดแปลกแตกต่าง แค่มีจุดยืนของตัวเองเท่านั้น

หวังว่าแกจะไม่กลืนน้ำลายตัวเองหรอกนะ

“ฉันจะคอยดู”ผู้จัดการนางแบบยิ้มพราย ก่อนเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่น “ว่าแต่ช่วงนี้แกติดต่อพี่นางบ้างหรือเปล่า?”

‘พี่นาง’ ที่สินาถเอ่ยถึงคือ หมอดูชื่อดังที่ทั้งสามคนสนิทสนมมาหลายปีพี่นางคอยให้คำปรึกษาเรื่องสำคัญหลายเรื่องทำหน้าที่เป็นทั้งพี่สาวและที่ปรึกษาที่ดี

“โทรคุยอาทิตย์ที่แล้ว”ครูดนตรีพูดยิ้มๆ

“แล้วพี่นางว่าไง?”พิจิตราอดถามไม่ได้ ด้วยจำได้ว่า ก่อนหน้าที่สินาถจะเจอเรื่องร้ายๆ พี่นางยังได้ทายอะไรบางอย่างเอาไว้ด้วย

...เรื่องดีๆ ของอินทุอร

“พี่นางบอกว่า ‘ฉันกำลังจะเจอคนนั้นแล้ว เป็นคนที่รู้จักมาก่อน คล้ายๆ ลมหวน อาจจะมีอุปสรรคเอาการแต่ก็จะผ่านไปได้’”

เพื่อนสองคนหันสบตากันแวบหนึ่ง

“แล้วมีคนเข้าข่ายหรือยัง?”สินาถหันไปซักต่อ

ครูสาวส่ายหน้าไปมา

“ยังฉันก็ลุ้นอยู่เนี่ยว่าใคร” น้ำเสียงซ่อนความตื่นเต้นไว้ไม่มิด

“ถ้าเจอก็บอกด้วยจะช่วยสแกนว่าเป็นคนดีหรือเปล่า” อาจารย์สาวกล่าวอย่างเป็นห่วง กลัวอินทุอรจะถูกคนโฉดล่อลวงด้วยมีจิตใจใสซื่อเกินไป

“ไม่ลืมแน่นอนรับรองฉันจะบอกพวกแกเป็นคนแรกๆ เลย” เธอรับปากหนักแน่นสองสาวเป็นเพื่อนรักที่คบหากันมานาน ถ้าไม่บอกสองคนนี้แล้วจะให้ไปบอกใคร

ครูสาวไม่กล้าบอกน้าสาวซึ่งเป็นญาติผู้ใหญ่คนสำคัญจนกว่าจะมั่นใจว่า...เจอตัวจริง กลัวหน้าแหกหมอไม่รับเย็บ ด้วยผู้ใหญ่ปรามาสไว้ว่าชีวิตเธอคงไม่พ้นเกาะคานแน่น

ฉันไม่เชื่อน้านุชหรอกจะทำให้ถอนคำพูดให้ได้ คอยดูสิ

บอกกับตัวเองในใจแบบนั้นกวาดตามองอาหารบนโต๊ะที่พร่องไปเกือบหมด ก่อนเอ่ยชวนในฐานะเจ้าภาพที่ดี

“จะสั่งอะไรเพิ่มก็สั่งนะฉันว่าวันนี้ต้มยำอร่อย”

“ไม่ไหวอ่ะอิ่มจนจะจุกอยู่แล้ว อ้วนเกินเดี๋ยวใส่ชุดไม่ได้ ลำบากต้องไปออกกำลังอีก”สินาถปฏิเสธ หันไปมองเพื่อนอีกคน “แกเอาอะไรหรือเปล่า?”

“เอาไอติมดีกว่า”พิจิตราบอก

“งั้นสั่งเลยจะได้ไม่ช้าฉันจะรีบกลับไปดูละคร เรื่องนี้กำลังใกล้จบแล้ว” เจ้ามือบอก หลังมองเวลาหนึ่งทุ่มเกือบครึ่ง

“ทั้งปี”พิจิตราส่ายหน้ากับกิจวัตรประจำวันของเพื่อน ที่ติดละครหลังข่าวเหลือเกิน หากใครทำให้อินทุอรกลับบ้านดึกหรือไม่เฝ้าหน้าจอได้ ถือว่าเก่งมาก

“แหมก็พระเอกหล่อมาก ไม่ดูได้ไง” เธอตอบเขินๆ ถึงสาเหตุที่ชอบดูละครหลังข่าวด้วยส่วนใหญ่จะมีนักแสดงใหม่หน้าตาดีหลายคน

ผู้จัดการสาวอมยิ้มในหน้าหันมาแซวเพื่อนอีกคน

“แกจะสั่งอะไรก็สั่งนะจิตทำเจ้าภาพเสียเส้น เดี๋ยวคราวหน้าได้กินบะหมี่ข้างถนนไม่รู้ด้วย”

“เออจริงด้วย”พิจิตรารับมุก

“ช่างว่ากันจริง”เจ้ามือค้อนผองเพื่อนแบบไม่จริงจัง

อาจารย์สาวโบกมือเรียกพนักงานมาสั่งของหวานหลังเขาทวนรายการก็เดินกลับไป เธอพลันนึกอะไรขึ้นมาได้

“แล้วคุณย่าผอ.เป็นยังไงบ้าง?”

“เมื่อวานไปเยี่ยมหมอให้พักดูอาการอีกสองสามวันถ้าไม่มีอะไรก็คงกลับบ้านได้” ครูสาวตอบ

“โรคหัวใจกำเริบ?”สินาถเดา คนสูงอายุส่วนใหญ่มักมีโรคนี้เป็นเพื่อนสนิทบางคนคบหากันจนเป็นเพื่อนตายไปเลยก็เยอะ

“อือคงจะเครียดเรื่องหลานชายไปก่อเรื่องงามหน้ามา” อินทุอรทำหน้าเซ็งเมื่อคิดถึงมนต์ธรหลานชายผอ. โรงเรียนประถม ‘รุ่งนพคุณ’ ที่ขยันก่อเรื่องฉาวโฉ่หลายต่อหลายครั้ง เขามีส่วนทำให้สถานศึกษาแห่งนี้มีชื่อเสียงไม่ค่อยดีนัก

มีลูกหลานชั่ว...บรรพบุรุษในปรโลกคงปลื้มใจน้ำตาไหลพราก

“คราวนี้ทำอะไรอีก?”พิจิตราถาม ก่อนเดาออกมาถึงพฤติกรรมของคนไม่รักดี“อย่าบอกนะว่าไปทำผู้หญิงท้อง”

“ว้าว! แกทายแม่นมาก ถูกต้องครับ”เธอทำมือเลียนแบบพิธีกรชื่อดังในรายการโทรทัศน์ “ผู้หญิงที่ท้องเป็นลูกสาวคนใหญ่คนโตเสียด้วยงานนี้ไม่รู้จะจับแต่ง หรือจ่ายชดเชยเท่าไหร่”

“ถึงเรียกเป็นร้อยล้านคุณย่าผอ. คงขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกมั้ง” อาจารย์สาวพูดติดตลก

“ก็ไม่แน่ตอนนี้โรงเรียนเอกชนกำไรไม่เยอะเหมือนเมื่อก่อน เด็กน้อยลงทุกปี” สินาถค้าน ด้วยคนรุ่นใหม่นิยมมีครอบครัวน้อยลงแถมยังมีลูกแค่หนึ่งหรือสองคนเท่านั้น อัตราเด็กเกิดใหม่จึงลดฮวบจนน่าใจหายซึ่งไม่ได้เป็นแค่ในเมืองไทย แต่เป็นกับหลายประเทศที่พัฒนาแล้ว

“ใช่เมื่อก่อนมีเรียนชั้นละสี่ห้อง ตอนนี้บางชั้นยุบเหลือแค่สามห้องเอง เศรษฐกิจแบบนี้ผู้ปกครองบางคนสู้ค่าเทอมไม่ไหวขอย้ายเด็กไปเรียนโรงเรียนรัฐบาลกลางปีก็มีบ่อยๆ” ครูสาวพูดเสริมขึ้น

สาวหน้าคมไม่แน่ใจนักว่าโรงเรียนที่เปิดมานานแห่งนี้จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหน หลังรู้มาว่าครูใหม่สามคนได้รับซองขาวเนื่องจากทางโรงเรียนจำเป็นต้องลดอัตราลง ประกอบกับมีโรงเรียนนานาชาติของคนต่างชาติผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดยิ่งทำให้การแข่งขันในธุรกิจนี้ดุเดือดมาก

ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะถึงคิวฉัน?

“แย่ขนาดนั้นเชียว”อาจารย์มหา’ลัยทำหน้าตกใจ

“อือ”เธอขานรับในลำคอ

ทั้งสามหยุดสนทนาลงชั่วขณะรอจนพนักงานเสิร์ฟไอศกรีมแล้วจากไป จึงคุยกันต่อ

“ทำเลโรงเรียนนั้นราคาดีมากเลยนะถ้าขายคงได้หลายร้อยล้าน” สินาถเสริมขึ้น ก่อนยกแก้วน้ำขึ้นจิบ

“นั่นก็อีกเรื่องที่คุณย่าสมรคิดต่างกับลูกชายพี่มนตรีตั้งใจจะขายที่ตรงนั้นท่าเดียวเลย หากได้มรดกสงสัยจะไม่เหลือซาก” สาวหน้าคมพูดพาดพิงถึงพี่เขยอย่างเบื่อๆ

‘พี่มนตรี’ มีลูกติดสองคนจากภรรรยาเก่าคือ มนต์ธรและเปมิกาก่อนมาแต่งงานกับอรนภาพี่สาวแท้ๆ ของอินทุอรหลายปีก่อน ทั้งคู่มีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคนคือน้องแก้มเขาเป็นรองผอ.โรงเรียน ‘รุ่งนพคุณ’ แต่แทบไม่เข้าที่ทำงานด้วยหันไปประกอบธุรกิจส่วนตัว ซึ่งล้มเหลวไม่เป็นท่าตลอดแต่ก็ยังไม่คิดยอมถอดใจ

เธอกับพี่เขยมีทัศนคติตรงกันข้ามหลายเรื่องแต่ติดที่วัยวุฒิน้อยกว่าทำให้ไม่สะดวกที่จะพูดอะไรออกมา จึงได้แต่เก็บไว้ในใจ

ไม่รู้พี่อรคิดยังไงถึงได้เลือกผู้ชายคนนี้?

“งั้นแกเตรียมหางานสำรองได้เลยไม่ก็กลับไปทำสวน” พิจิตราเอ่ยแบบไม่อ้อมค้อม มองความเป็นไปได้มากที่ผอ.อาวุโสจะสละตำแหน่งในเร็ววัน เพราะอายุมากและปัญหาสุขภาพซึ่งหมายถึงโรงเรียนแห่งนี้คงไม่พ้นปิดตัวลง พูดจบก็ตักไอศกรีมทุเรียนเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย

“ไม่แน่หรอกฉันลุ้นทางออกสุดท้ายอยู่ อาจจะมีอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยก็ได้นะ”

“ใครอัศวินขี่ม้าขาว?”สินาถย้อนทวนคำอย่างสนใจ

“หลานสาวของคุณย่าที่เรียนอยู่ต่างประเทศน้องแปม” อินทุอรเอ่ยชื่อของเด็กสาวที่คุ้นเคยหลายปีก่อนแต่ไม่เคยได้รับข่าวคราวของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย ทราบความเป็นไปของหล่อน จากคำบอกเล่าของคุณสมรหรือไม่ก็ชุติมาเท่านั้น

ทั้งที่เธอเขียนไลน์และข้อความไปหากว่าร้อยหนในปีแรก หลังอีกฝ่ายบินไปอังกฤษ หล่อนเปิดอ่านทุกครั้ง แต่ว่าไม่ตอบแม้แต่คำเดียวทำให้หญิงสาวทั้งโมโหทั้งหงุดหงิดงุ่นง่านใจ ตั้งใจจะถามถึงเรื่องนี้หากมีโอกาสเจอเปมิกาอีกครั้ง

...อยากรู้เหลือเกินว่าตนทำอะไรให้หล่อนไม่พอใจ?

หากอังกฤษอยู่ไกลระยะกรุงเทพฯ– เชียงใหม่ หญิงสาวคงแล่นไปหาเพื่อปรับความเข้าใจแล้วแต่นี่อยู่ห่างกันเกือบครึ่งโลก จึงทำได้แค่รออีกฝ่ายกลับมาเท่านั้น

ในใจอินทุอรแคร์และคิดถึงเด็กสาวคนนั้นมากเหลือเกิน แต่ไม่มั่นใจว่าหล่อนจะคิดเหมือนกันหรือเปล่า?

“จะไหวเหรอ?” อาจารย์สาวส่ายหัวอย่างไม่คาดหวัง“ขนาดมืออาชีพอย่างคุณย่ายังจะไม่ไหว นับประสาอะไรกับเด็กจบใหม่”

“ฉันเชื่อว่าถ้าเป็นน้องแปมต้องกอบกู้โรงเรียนได้แน่” ครูสาวพูดอย่างเชื่อมั่น

มั่นใจอะไรจะขนาดนั้น

เพื่อนสองคนหันสบตากันอย่างสงสัยว่าเด็กสาวคนนั้นเก่งขนาดไหนเชียว อินทุอรถึงได้เชื่อมั่นนัก แต่ด้วยความที่ไม่รู้จักเปมิกามากแค่เจอสองสามครั้ง จึงไม่กล้าวิจารณ์ ก่อนเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นต่อ

เช้าวันหยุดอินทุอรแวะไปเยี่ยมคุณสมรที่โรงพยาบาล ซึ่งอีกฝ่ายถือหุ้นอยู่จำนวนไม่น้อย...จึงได้สิทธิ์พิเศษในฐานะวีไอพี

“ขอบใจนะอินที่แวะมาเยี่ยมบ่อยๆ” ผอ.โรงเรียนวัยหกสิบปลายยิ้มแย้มทักทายอดีตลูกศิษย์ขณะนอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียง โดยมีชุติมาคนสนิทนั่งเฝ้าอยู่ห่างๆ

“ไม่เป็นไรค่ะครูช่วงนี้อินว่างค่ะ” ครูสาวยิ้มบางๆ ทรุดนั่งเก้าอี้ข้างเตียง

สาวหน้าคมขยันมาเยี่ยมหญิงสูงวัยแทบจะวันเว้นวันด้วยนับถืออีกฝ่ายเกินกว่านายจ้าง หากแต่เป็นครูบาอาจารย์สมัยเด็กสมรรู้จักกับคุณยายที่เสียไปแล้ว และนงนุชน้าสาวของตนพ่วงด้วยตำแหน่งแม่สามีของพี่สาวอรนภาอีกด้วย

...นับแล้วจึงไม่ต่างจากญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง

“ครูมีอะไรจะให้อินช่วยน่ะจะได้ไหม?” ผอ.อาวุโสเอ่ยกึ่งขอร้อง

เธอกระพริบตาถี่ๆ

“อะไรคะ?”

“ครูกำลังคิดจะให้มีตำแหน่งผู้ช่วยผอ. ครูอยากให้อินสนับสนุนเขาหน่อย”

“ใครคะ?”คนฟังทำหน้าแปลกใจกับตำแหน่งสำคัญนี้ว่า ใครกันคือผู้เหมาะสมในสายตาของสมร

คงไม่ใช่มนต์ธรหรอกนะ

อินทุอรไม่อยากให้เป็นหลานชายของสมรพฤติกรรมหลายอย่างของเขาไม่เหมาะกับการเป็นผู้บริหารสถานศึกษาอย่างมาก

...แต่ความจริงแล้วคนไม่ดีไปทำงานที่ไหน ก็ทำให้ธุรกิจพลอยเหม็นเน่าไปด้วย

“ลองทายสิคนนี้อินก็รู้จักนะ” คนเจ็บมีแก่ใจเล่นเกมทายปัญหา

ใครกัน?

ครูดนตรีขมวดคิ้วนิ่งคิดเกือบนาทีก่อนส่ายหน้า

“ยอมแพ้ค่ะ”

สมรหัวเราะเบาๆอย่างอารมณ์ดี ก่อนยอมเฉลย

“ก็จะใครซะอีก น้องแปมน่ะ”

“น้องแปมกลับมาแล้วเหรอคะ?”หญิงสาวทำเสียงสูง ประหลาดใจสุดๆ ที่ได้ยินชื่อของเด็กสาวแสนน่ารักคนนั้น

“น่าจะถึงพรุ่งนี้ใช่ไหมชุ?” ผอ.อาวุโสหันไปถามเลขาฯ ของตนเพื่อความแน่ใจ

“ค่ะท่าน มาถึงประมาณตีห้ากว่าๆ” ชุติมาตอบอย่างคล่องแคล่ว

เธอเป็นเลขาฯที่รู้ใจเจ้านายเป็นอย่างดี ด้วยเป็นหลานสาวของแจ่มแม่บ้านที่อยู่กับสมรมาเนิ่นนานจึงได้รับการอุปการะตั้งแต่เด็ก เรื่องที่คุณท่านสนใจเป็นพิเศษไม่พ้นเรื่องสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะ หลานสาวคนโปรด...เปมิกา

น้องแปมกลับมาแล้ว!

อินทุอรตื่นเต้นกับข่าวนี้นัยน์ตาคู่หวานเป็นประกาย ตื่นเต้นจนหัวใจเต้นแรงกว่าปกติ แต่ยังคงระงับสีหน้าได้เป็นอย่างดี

“ฉันดีใจที่แปมกลับมาส่วนจะเรียนต่อโทที่เมืองไทยฉันก็ไม่ขัดใจหรอกแค่หวังว่าหลานคนนี้จะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง” สมรพูดเสียงเครียด เมื่อคิดไปถึงลูกชายและหลานชายคนโตซึ่งกระเหี้ยนกระหือรืออยากจะเอาโรงเรียนประถม ‘รุ่งนพคุณ’ อันเป็นมรดกตกทอดของตระกูลแลกกับเงินก้อนโตเสียเหลือเกิน ซึ่งเป็นเรื่องที่เธอยอมรับไม่ได้จึงตวาดกลับไปแบบไม่ไว้หน้า

“ถ้าฉันยังไม่ตายพวกแกอย่าหวังให้ฉันขายโรงเรียนกิน ไอ้พวกลูกหลานเนรคุณ”

หลังโดนด่าแบบนั้นมนตรีกับมนต์ธรหน้าม้าน ไม่กล้าสู้หน้าเธอไปหลายอาทิตย์รวมถึงไม่กล้าปริปากพูดเรื่องนี้อีกเลย

ขืนยกมรดกให้เจ้าพวกนี้คงขายหมดแน่

สมรนึกเป็นห่วงอนาคตไม่อยากฝากธุรกิจไว้ในเงื้อมมือผู้ชายสองคนนี้ ผอ.อาวุโสต้องการให้โรงเรียนอายุเกือบร้อยปีแห่งนี้ดำรงอยู่เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้กับเด็กรุ่นต่อๆ ไปตามเจตนารมณ์ของคุณปู่ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียน

“ความรู้คือการเรียนรู้ค้นคว้า ฝึกฝน รวมถึงสั่งสมประสบการณ์จากคนในอดีต ตกทอดมาสู่คนรุ่นหลัง สิ่งสำคัญที่สุดที่มนุษย์ทุกคนพึงมีคือความรู้และคุณธรรม”

...และตอนนี้เปมิกาจึงเป็นความหวังสุดท้ายของเธอ

“อินเชื่อนะคะว่าน้องแปมเป็นเด็กดีมาก ต้องไม่ทำให้ครูผิดหวังแน่ค่ะ” อินทุอรพูดหนักแน่น

สมรนิ่งไปแล้วยิ้มออกมา

“นั่นสินะ”หญิงสูงวัยพึมพำ “ขอบใจนะอิน ถ้าแปมรู้ว่าอินเชื่อมั่นในตัวเขาแบบนี้แปมต้องดีใจแน่”

อินทุอรฝืนยิ้มออกมาไม่มั่นใจกับคำพูดของสมรนัก หลังหล่อนไม่ยอมติดต่อกับเธอตลอดสี่ปี...แบบไม่มีสาเหตุ

แต่อินไม่แน่ใจว่าน้องแปมจะคิดแบบนั้นเลยนะคะครู

OoXoO

ขอบคุณที่กรุณาติดตามค่ะ ถ้าชอบก็อย่าลืมกด 'ติดตามบล็อก' จะได้ไม่พลาดตอนใหม่

พบกันตอนหน้าค่ะ

นาง ^^

OoXoO




Create Date : 19 ตุลาคม 2561
Last Update : 19 ตุลาคม 2561 17:47:31 น. 0 comments
Counter : 1342 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 
 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com