ห้องมืด มืดตึ้ดตื๋อ

รู้จักคำว่า "ห้องมืด" ครั้งแรกเมื่ออายุเท่าไหร่กันนะ

ตั้งแต่จำความได้ บ้านหลังเก่าเป็นบ้านไม้โล่งๆ ไม่มีรั้วบ้าน ถัดจากถนนก็เป็นพื้นหญ้ากว้างประมาณเมตรกว่าๆ แล้วก็เป็นพื้นซีเมนต์กว้างซักเมตรหนึ่งแล้วก็ยกพื้นสูงเป็นเหมือนขั้นบันไดเข้าบ้าน

บ้านหลังเก่าหลังนั้นเป็นบ้านที่เราเกิดและโตขึ้นมา ไม่มีประตูบ้านแต่ละเป็นบานไม้เปิดโล่งได้หมด ทางเหนือเรียกว่า หน้าถัง ถัดจากส่วนที่เป็นโถงโล่งก็จะเป็นห้อง 2 ห้อง ห้องด้านซ้ายมือมีประตู เป็นห้องนอนของพ่อแม่และเรา อีกห้องหนึ่งเป็นห้องนอนเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่จะใช้เป็นเป็นห้องเก็บของมั่ง เอาไว้ทำอะไรมั่ง

ด้านหลังของห้องทั้งสอง ก็จะมีประตูเปิดลงไปเป็นพื้นที่ยาวๆ เป็นห้องครัว แล้วก็ห้องน้ำ

ส่วนด้านข้างทางขวาของบ้านจะเป็นโรงเก็บรถซาเล้ง มีหน้าต่างจากห้องโถงเปิดและสามารถไต่ลงไปที่โรงเก็บรถได้ด้วย

และมุมหนึ่งของโรงเก็บรถก็เป็นห้องเล็กๆ ที่มืดและเหม็นน้ำยาอยู่ตลอด เป็นห้องที่พ่อสร้างขึ้นมาเองและเรียกกันว่า "ห้องมืด"

ตอนเล็กๆ เวลาเข้าไปในห้องมืดนี้ทีไร เราก็จะรู้สึกกลัวและตื่นเต้นมาก เพราะทั้งแสงไฟสีแดงจากหลอดไส้ กลิ่นน้ำยาล้างอัดรูปที่เหม็น แสงวาวๆ ของน้ำยาที่กระทบกับแสงไฟ มันชวนให้ขนลุก

เราไม่ค่อยได้เข้าไปห้องนี้บ่อยเท่าไหร่ เพราะพ่อแม่ห้าม บอกว่าในนั้นมีน้ำยาอันตรายอยู่เยอะ อย่าเข้าไป

แต่นั่นก็เป็นความทรงจำที่เราจำได้ว่า "ห้องมืด" คืออะไร

และผลของการที่มีห้องมืดอยู่ในบ้าน มันก็ทำให้ครอบครัวเรามีรูปถ่ายเก็บไว้เยอะกว่าใครๆ ในอำเภอเลยละมั้ง

มาคิดก็แปลกดี จริงๆ แล้วเราความรู้จักกับกล้อง การถ่ายรูป การล้างการอัดรูปมาตั้งแต่เล็ก แต่ทำไมโตมาถึงไม่สนใจเอาเลยน้อ

มาเรียนมหาวิทยาลัย ชาวบ้านเขาก็แห่ไปเรียนวิชาการถ่ายรูปกัน แต่เราก็ไม่เคยไปเรียน กล้อง FM ของพ่อที่พ่อซื้อสมัยพ่อไปเรียนต่อประสานมิตรก็ได้เห็น ได้จับตั้งแต่เด็ก แต่ทำไมไม่สนใจจะเรียน จะศึกษามันหว่า

จนกระทั่งเรียนโทใกล้จบ ผีอะไรสิงไม่รู้ กวาดเอาเงินที่เก็บไว้ได้นิดเดียวไปซื้อกล้อง F65 เป็นกล้องฟิล์มที่ใช้ไม่คุ้มเลย จริงๆ อยากได้ F85 แต่ไม่มีตังค์เลยเอา F65 นี่แหละ แต่ถ่ายเองได้ไม่เกิน 10 ม้วน สาบานได้ นอกนั้นก็พ่อยืมไปใช้มั่ง น้องๆ ยืมไปถ่ายมั่ง แล้วมันก็เจ๊งในวันหนึ่ง สายแพร์ขาด ตอนนี้ซ่อมเสร็จแล้ว เป็นวัตถุโบราณอยู่ในกล่องพลาสติกที่บ้าน

จากนั้นเริ่มทำงาน ก็ได้จับกล้อง canon A20 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ราคาสองหมื่นกว่าบาท ก็เลยรู้สึกว่าเออ อยากถ่ายรูปแฮะ ใช้ดิจิตอลก็ประหยัดดีด้วย ไม่เปลืองตังค์ค่าฟิล์ม ค่าล้าง (แต่เปลืองค่าถ่านมากๆ อัลคาไลน์ 2 ก้อน ถ่ายได้ไม่เกิน 40 รูป)

ต่อมาพอเก็บเงินจากทำงานได้อีกหน่อยก็ถอย fuji s5000 มาในราคา 19,900 เลือดตาแทบกระเด็นแน่ะ ใช้กล้องมาได้เกือบ 3 ปี คุ้มมากๆ จากถ่ายไปเรื่อย สะเปะสะปะ เจอไรก็ถ่ายๆๆๆ ก็เริ่มสนุกกับการเรียนรู้ที่จะถ่ายรูปแล้วล่ะ

แต่วางมือไปเกือบปี ตั้งแต่ท้องสาวไหม เพราะพอท้องใหญ่ขึ้นๆ มันก็เกะกะ มือก็ไม่นิ่ง จากที่เคยชอบมาโครนี่ ถ่ายไม่ได้เลย ก้มลงหน่อยก็ติดพุงละ เลยแทบจะทิ้งกล้องไปเลย

จนสาวไหมคลอดมาก็ถึงเริ่มจับกล้องอีกครั้ง แต่อีตอนสาวไหมได้ 5-7 เดือนฟูจิก็ดันมาเสีย จอ lcd ดับไปเลย เข้าศูนย์ซ่อมเสียไป 3,300 บาท กับเวลาอีกเกือบเดือน

ช่วงนั้นกระวนกระวายใจมาก กลัวสาวไหมคลานได้แล้วไม่มีกล้องมาถ่าย พอดีช่วงนั้นมี fuji 9500 กำลังดังเลย อยากได้มาก ไปถามที่ร้านโฟโต้บั๊ก ของหมด ขาดตลาด จริงๆ ก็ลงชื่อจองก่อนแล้วล่ะ แวะไปร้านโฟโต้บั๊กสาขาพันธุ์ทิพย์ พนักงานขายน่ารักคอดๆ แค่ถามว่าขอดู D50 แค่นั้นแหละ เอาเมมใส่ แบตใส่ ให้ลองเต็มที่ เลยประทับใจ ตัดสินใจชั่ววูบ ถอย D50 กลับบ้าน

แต่....ใช้แรกๆ นี่ มึนมาก เพราะไม่เคยใช้ DSLR รูปที่ได้ สีที่ได้ ก็ไม่ได้ปิ๊งจนแบบประทับใจอะไรเลย เลยชักเครียด เอ ตัดสินใจถูกเปล่าหว่า แล้วที่เด็ดสุดคือ ถอยกล้องมาได้ 2 วัน ทางโฟโต้บั๊กโทรมาบอกว่า 9500 มาแล้วนะครับ พี่จองคิวไว้จะรับไหมครับ เลยบอกว่า พี่เพิ่งถอย D50 จากร้านเมื่อวันก่อนอ่ะ น้องที่โทรมาเลยบอกว่า อ้อ พี่ที่มาเมื่อซื้อเมื่อวันก่อนเหรอครับ ดีแล้วพี่ เล่น D50 ดีกว่า

อ่านะ...ไหนๆ ก็ถอยแล้วอ่ะ ก็ต้องใช้ไป

แต่หลังๆ พอเริ่มมีตังค์ ถอยเลนส์ใหม่ๆ (ราคาถูก) มาใช้ เออ ก็เริ่มประทับใจขึ้นเรื่อยๆ แฮะ เดี๋ยวไว้มีเวลาจะเล่ามูลเหตุเรื่องการซื้อเลนส์ แต่วันนี้เขียนยาวแระ เดี๋ยวแปะรูปดีกว่า

รุ่นพ่อ ต้องเข้าห้องมืด รุ่นเราก็ต้องเข้าโปรแกรม photoshop หัดแต่งรูปซะหน่อย ใช้กล้องดิจิตอลแรกๆ นี่ มึนมาก ไม่รู้ว่าเขาต้องใช้โปรแกรมช่วย รูปออกมานี่ จืดชืดซะไม่มีอ่ะ แต่ก็ยังมองว่า เออ สวย หลงตัวเองจริงๆ เลยช้าน

หลังๆ ก็หัดใช้ auto contrast รูปก็ค่อยดูดีขึ้นหน่อย แล้วก็ปรับ sharpen สองสามวันนี่เพิ่งลอง filter อื่นๆ อืมม สนุกวุ้ย



รูปนี้ถ่ายตอนไปทำบุญวันเกิดสาวไหมที่วัดพระธาตุดอยสะเก็ด ไม่เคยไปเลย ทางขึ้นสวยมากๆ แสงกำลังส่องลงมาลอดผ่านกิ่งไม้ สวยยังกะในหนังแน่ะ แต่แวะถ่ายไม่ได้ เพราะกำลังขึ้นดอย เลยคิดว่าไว้มาถ่ายวันหลัง

แต่พอทำบุญเสร็จ ขาลงก็ เออ น่าจะถ่ายได้นะ ไม่มีรถสวน ก็เลยถ่ายๆๆ ดีที่พ่อสาวไหมเป็นคนขับ สาวไหมก็ปีนไปนั่งแค็บหลัง ก็เลยมีโอกาสถ่ายได้เยอะ แต่รูปที่ได้ก็สวยสู้ของจริงไม่ได้ เลยต้องมาเข้าห้องมืดกันซะหน่อย



ทำเป็นขาวดำด้วย



นี่ทางลง ถ่ายให้เห็นกระจกรถด้วยนิดหน่อย



ดอกกุหลาบหน้าพระตำหนักดาราภิรมย์ ตอนที่ไปน่ะ ดอกกุหลาบโรยเกือบหมดละ เหลือไม่กี่ดอกที่ยังพอจะสวยๆ มั่ง ก็เลยถ่ายมา

ลองใช้ photoshop แต่งรูปให้เป็นแบบนี้



รูปขันดอกนี่ แอบถ่ายในพระตำหนักนั่นแหละ ปรับสีให้ซีดลงมาหน่อย ใส่เกรนด้วยจะได้ดูเก่าๆ จริงๆ แล้วเคยเห็นพี่บางคนใส่ filter ที่เป็นแบบเหมือนภาพฟิล์มเก่าๆ อ่ะ สวยจัง เอามาจากไหนอ่า อยากได้ๆ อยากทำเป็น



ประตูในพระตำหนักนั่นแหละ ลองปรับให้แสงตรงประตูจ้าๆ หน่อย อยากปรับสีเป็นซีเปีย ก็ไม่รู้จะปรับตรงไหน ก็มั่วเอาอีกตามเคย



รูปพ่อสาวไหมตอนเด็ก คิคิคิ....ถ้าตอนที่พ่อสาวไหมเล็กๆ ก็คงหน้าแบบนี้แหละ แต่เห็นว่ามีรูปเด็กๆ แค่ใบสองใบเอง น่าสงสารอ่า จริงๆ ถ้าพ่อไม่ได้เป็นคนถ่ายรูป มีห้องอัดที่บ้าน เราก็คงไม่มีรูปตอนเด็กๆ เยอะเหมือนกันนั่นแหละ สาวไหมนี่เกิดมาในยุคที่เทคโนโลยีต่างๆ มันก้าวหน้า พ่อแม่มีการมีงานทำ มีเงินพอที่จะซื้ออุปกรณ์บันทึกภาพสาวไหมไว้ได้มากมายโดยไม่เดือดร้อน โชคดีแค่ไหนแล้วนะเนี่ย



รูปนี้ถ่ายเมื่อวานตอนไปกินข้าวแช่ นาน น๊านนนนน ทีจะได้เหยียบย่างเข้าไปในสถานที่ไม่เหมาะกับตัวเองเช่นนี้ ถ่ายรูปมาแบบผิดๆ พลาดๆ จริงๆ จะโฟกัสที่แก้วน้ำ แต่พอรูปออกมาไหงมันโฟกัสที่จานไปได้น้อ

แต่ว่า แต่งรูปเยอะๆ เนี่ย ก็รู้สึกเฝือๆ นะ ต้องนานๆ ทีแต่งซะทีถึงจะดูตื่นเต้นหน่อย

เอาเป็นว่า หัดถ่ายรูปให้เข้าท่าตั้งแต่จากกล้องเลยดีกว่ามั้ง ปรับใน photoshop ให้น้อยที่สุด แต่ได้ภาพที่ดูดีที่สุด น่าจะเป็นเป้าหมายต่อไปนะ

ถึงไม่ได้เข้าห้องมืดที่เหม็นน้ำยาแล้ว แต่ถ้าอยู่หน้าคอมพ์นานๆ สายตาก็ล้าได้นะเจ้าคะ

วีต้าเบอรี่ขวดหนึ่งแพงค่ะ!!




 

Create Date : 29 มีนาคม 2550
9 comments
Last Update : 29 มีนาคม 2550 14:48:59 น.
Counter : 1743 Pageviews.

 

ภาพสวยจังค่ะ
(น้องน่ารักมากเลย)

 

โดย: My name is h-n-u-n-a 29 มีนาคม 2550 15:55:26 น.  

 

ภาพสวย หัวบล๊อกก็น่ารัก

 

โดย: ป IP: 203.154.74.95 29 มีนาคม 2550 16:03:05 น.  

 

ขอบคุณค่าคุณ My name is h-n-u-na ชื่อคุณหนูนาป่ะคะ ถ้าอ่านไม่ผิด

กำลังปรับปรุงบล็อกแก๊งค์ค่ะ ยังลังเลว่าจะทำแบบไหนดีระหว่างเซ็ทแบบไดอะรี่กับบล็อกแก๊งค์

กรุ๊ปบล็อกนี้เพิ่งสร้างค่ะ ว่าจะแปะรูปถ่ายที่ถ่ายมาไว้ที่นี่ นอกเหนือไปจากเรื่องของสาวไหมน่ะค่ะ

ถ้าเรื่องของสาวไหมจะอยู่ที่กรุ๊ป "เก็บไว้ในหัวใจคงไม่พอ" นะคะ

ขอบคุณที่เข้ามาทักทายกันค่ะ

 

โดย: [NostalgiA] 29 มีนาคม 2550 16:04:39 น.  

 

ยัยปุ๊ก มาสมัครสมาชิกที่นี่แล้วทำบล็อกนี่ดีกว่า เข้า multiply ยากมากๆ จำพาสก็ไม่ได้ เลยไม่ได้ไปทักทายเพื่อนๆ ที่โน่นเลย

มานี่ดีกว่า

 

โดย: [NostalgiA] 29 มีนาคม 2550 16:05:53 น.  

 

หวัดดีค่ะ พอดีผ่านมาเจอบล๊อกนี้เข้านะค่ะ แต่ก็พอดีเรย เพราะว่ากำลังคิดจะซื้อD50 อ่ะค่ะ มาเห็นรูปที่นี่เรยสงสัยจะได้ถอยจิงๆซะหล่ะมั๊ง อิอิ

 

โดย: C (SFL ) 29 มีนาคม 2550 16:52:49 น.  

 

สีสวยทุกรูปเลยคับ

 

โดย: kwor (Kwor ) 29 มีนาคม 2550 20:59:10 น.  

 

สามภาพแรก นึกว่าไม่ใช่เมืองไทย ยังดีภาพที่สามเห็นธงชาติไทย ไม่งั้นไม่เชื่อนะเนี่ย

ภาพสวยครับ

 

โดย: fzero 30 มีนาคม 2550 22:41:43 น.  

 

แวะมาห้องมืดด้วยคน

 

โดย: iamlek IP: 58.136.117.20 9 เมษายน 2550 13:37:05 น.  

 

น้องน่ารัก และรูปสวยมากเลยครับ

ผมตามมาหาของกินถึงนี่เลย ^-^

 

โดย: Flipphonic IP: 61.7.150.34 13 มิถุนายน 2550 0:33:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


[NostalgiA]
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ใช้อินเตอร์เน็ทเป็นครั้งแรกประมาณปี 2541 สิ่งที่แรกที่รู้จักในอินเตอร์เน็ทคือ ICQ มันทำให้ได้น้องชายที่น่ารักมา 1 คน (ตามมาด้วยพ่อแม่อีก 1 ครอบครัว) ... ต่อมาเล่น pirch เป็น ติดงอมแงม เกือบทำให้เรียนไม่จบ ฮ่า.... จากโปรแกรมนี้ ทำให้ได้พี่สาวตัวสูงโย่งที่แสนดีมา 1 คน ได้เพื่อนที่เกือบจะเกินเพื่อนมา 1 คน ได้เพื่อนที่ดีและน่ารักอีกหลายสิบ...และได้พ็อกเก็ตบุ๊ก "แชตติดหนึบ คนติดเน็ท" มา 1 เล่ม (ใครไม่เคยอ่านก็เสียใจด้วย เพราะหาซื้อไม่ได้แล้ว ฮ่าๆ)

ต่อมาก็เข้าเว็บ pantip และก็วนๆ เวียนๆ อยู่แถวๆ เหลิมไทย BP จนแยกมาเป็นห้องกล้องก็แวะเวียนไปเรื่อง ไปจตุจักรด้วย (ไปหาของกินกับต้นไม้) กิเลศพอกพูนมากๆ ก็แวะห้องรัชดา กะไปหารถขับ (ก๊ากก พูดเหมือนมีตังค์เยอะ) ได้เพื่อนจากพันทิพเป็นร้อย ได้ศัตรูมาด้วย ทั้งๆที่กรูไม่ผิด ฮ่าๆ ...แต่ก็ดี ทำให้ได้รู้ว่าคนเราพื้นฐานจิตใจสันดานเดิมมันไม่เหมือนกัน ย่อมไม่สามารถเข้าใจอะไรที่คนบางคนเข้าใจได้ อธิบายให้ตายก็ไม่มีวันเข้าใจ โอวาทของพระพุทธเจ้าที่กล่าวว่าบัวมีสี่เหล่าจึงเป็นสัจธรรมที่เที่ยงตรงและแน่นอนที่ซู้ดดดด

พอท้องก็ห่างหายจากพันทิพไปอยู่เว็ปแปลน หลงเข้าบ้านท้องป่องท้องแฟบ ได้รู้จักเพื่อนดีๆ ที่นี่เกือบสิบคน แต่คงไม่สนิทกันเท่านี้หากไม่มีเรื่องราวของผู้หญิงโรคจิตคนหนึ่งที่แอบอ้างว่าเป็นแอร์โฮสเตสไฮโซ สวยเหมือนดาราฮอลลีวู้ด มีลูกครึ่งน่ารักน่าชัง....เพราะเธอคนนี้ทำให้เราได้คุยกับเพื่อนๆ คนอื่นๆ ในห้องลับ (taro mom and the chamber of secret)

และเพื่อนกลุ่มนี้นี่เองที่ทำให้จิตใจเราดีขึ้นมากมายในหลายครั้ง หลายสถานการณ์ ตั้งแต่ครั้งที่สาวไหมเป็นคาวาซากิ ไปจนถึงโครงการสั่งซื้อเตาอบ (ขนาด 300 ลิตร)

บล็อกแก๊งค์นี้ สมัครไว้นานเกือบๆ 2-3 ปีได้แล้วมั้ง แต่ไม่ได้เขียนซักที เพราะโง่ ทำไรไม่เป็น จนกระทั่งไปสอดรู้สอดเห็นไดของเพื่อนคณะวิจิตรศิลป์คนหนึ่ง (จริงๆ ก็ไม่ใช่เพื่อนเราหรอก แต่เรียนปีเดียวกันก็ตีขลุมว่าเป็นเพื่อนละกัน) เห็นแล้ว เออ...น่าจะเขียนอะไรมั่งวุ้ย

เลยพยายามสุดชีวิตที่จะตกแต่งบล็อกและเขียนบล็อก สุดท้ายก็เขียนจนสถิติขึ้นไปเกือบ 8 พัน บล็อกแก๊งค์ก็ปิดปรับปรุงและทำให้สถิติหายหมด ฮ่า....

เป็นคนนิสัยเสีย ไม่ค่อยชอบตอบกระทู้ที่ตัวเองตั้งและเวลามีคนมาคอมเมนท์ก็ไม่ค่อยชอบตอบ ทั้งๆที่ซาบซึ้งใจมากๆ กับคอมเมนท์ของทุกคน...ขอโทษด้วยนะคะที่เป็นคนโรคจิตเช่นนี้

แต่จะพยายามตอบสุดความสามารถค่ะ




search engine marketing company image link
free hit counter script
Group Blog
 
 
มีนาคม 2550
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
29 มีนาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add [NostalgiA]'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.