บึ้ม! หน้า"บิ๊กซี" ราชดำริดับ1เจ็บ8
เกิดเหตุระเบิดป้ายรถเมล์หน้าห้างบิ๊กซีราชดำริมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 8ราย เสียชีวิต 1 ราย รถเมล์เสียหาย2คัน เผยระเบิดถูกซุกในถุงขยะ เจ้าหน้าที่ปิดถนนเร่งตรวจสอบแล้ว
เมื่อเวลา 17.45 น. ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นบริเวณป้ายรถเมล์ด้านหน้าห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี สาขาราชดำริ เป็นเหตุให้ประชาชนที่ยืนรอรถเมล์ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บ 9 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาลตำรวจ รพ.จุฬาฯ และโรงพยาบาลหัวเฉียว โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 ราย ประกอบด้วยนายวีระศักดิ์ แซ่แต้ อายุ 40 ปี อาการสาหัส ถูกส่ง โรงพยาบาลหัวเฉียว นายธวัชชัย ทองมาก อายุ 51 ปี อาการสาหัส ถูกส่งโรงพยาบาลตำรวจ
ขณะที่ผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 7 ราย คือ นายสมใจ พันทิมา อายุ 30 ปี น.ส.ชานุ อายุ 24 ปี ชาวพม่า นายปวร พรนิเทศ อายุ 17 ปี นายบุญเรือง แก้วสมบัติ อายุ 51 ปี นางมุฑิตยา เฉลิมประภาส อายุ 37 ปี นายสมชาย เอี่ยมประชา อายุ 37 ปี และนายชนะภัทร ตั้งศิริพานิช อายุ 47 ปี ต่างถูกนำกระจายส่งโรงพยาบาล 4 แห่งคือ โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลจุฬาฯ โรงพยาบาลหัวเฉียว และโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ขณะที่รถประจำทางที่จอดอยู่ในบริเวณดังกล่าวได้รับความเสียหาย 2 คัน
ต่อมาเมื่อเวลา 21.30น. รายงานข่าวแจ้งว่า นายธวัชชัย ที่ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสและถูกส่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ได้เสียชีวิตแล้ว ส่วนนายวีระศักดิ์ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นเดียวกันยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหัวเฉียว ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่เหลือ แพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พยานที่พบเห็นเหตุการณ์ระบุว่าระเบิดอยู่ในถุงสีดำซึ่งตั้งอยู่บริเวณป้ายรถเมล์และเกิดระเบิดขึ้นทำให้ประชาชนที่ยืนรอรถเมล์ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.ลุมพินีได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว และได้ปิดการจราจรด้านหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีฝั่งมุ่งหน้าแยกราชประสงค์ 4 ช่องทางเพื่อให้เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบหาหลักฐาน
ด้าน พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เบื้องต้นคาดการณ์ว่าน่าจะเป็นระเบิดแสวงเครื่อง เนื่องจากมีพยานได้ยินเสียงการทำงานของวงจรระเบิดก่อนที่จะเกิดเสียงดังขึ้น รวมทั้งพบเศษแก้วกับตะปูในที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุของเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง พบหลักฐานทางคดีหลายอย่างประกอบด้วย ถ่ายไฟฉายขนาด 2 เอ สีเขียวยี่ห้อเนชั่นแนล ชิ้นส่วนเศษสายไฟสีเหลือง สีเขียว สีแดง เศษขดลวดและเศษแผงวงจรอีเลคโทนิคส์ เศษชิ้นส่วนกระป๋องโค้ก ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นการต่อระเบิดไว้ในกระป๋องดังกล่าวและตั้งเวลาไว้
นอกจากนี้ยังพบสะเก็ดระเบิดที่เป็นชิ้นส่วนเล็กขนาด 1-2 มิลลิเมตรจำนวนมาก รวมทั้งบริเวณรั้วสังกะสีด้านหลังป้ายรถเมล์ยังถูกสะเก็ดระเบิดเป็นรูเล็กๆหลายแห่ง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่า เป็นระเบิดชนิดตั้งเวลาจุดชนวนด้วยนาฬิกา ส่วนจะเป็นระเบิดชนิดใดอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ของเจ้าหน้าที่สรรพวุฒิ อย่างไรก็ตามในช่วงเช้าวันที่ 26 ก.ค.เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง
ด้านกองบัญชาการตำรวจนครบาล จะมีการประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์และติดตามผลการสอบสวนในวันที่ 26 ก.ค.นี้เวลา 11.00น.
น.ส.จรรยา อุดสูงเนิน พนักงานเก็บค่าโดยสาร รถประจำทางสาย 74 ให้การว่า ขณะเกิดเหตุรถของตน ต่อท้ายรถประจำทางสาย 2 โดยสังเกตมีกลุ่มควันลอยมาจากด้านหน้า จากนั้นได้ยินเสียงดัง แป๊ะ 1 ครั้ง ก่อนต่อมาเกิดระเบิดขึ้น แรงระเบิดทำให้กระจกหน้าแตก สะเก็ตระเบิดบางส่วนมาโดนผู้โดยสาร ทำให้ผู้โดยสารร้องด้วยความหวาดกลัว และตกใจ คนขับจึงขับรถไปจอดด้านหน้าบริเวณหน้าห้างเกษรพลาซ่า ก่อนลงมาไปตรวจสอบความเสียหาย
ด้านนายอุไร เวียงสง อายุ 52 ปี คนขายกาแฟ ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 20 เมตร ให้การด้วยความตื่นเต้นว่า ขณะเกิดเหตุกำลังแกะถุงกาแฟอยู่ จากนั้นได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว เมื่อหันไปมองพบว่าประชาชนต่างร้องขอความช่วยเหลือและมีคนบาดเจ็บหลายราย บางคนก็มีเลือดไหลตามตัวค่อนข้างมาก
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้รับทราบสถานการณ์ระเบิดที่บิ๊กซีราชดำริแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้รายงานให้ทราบ ซึ่งนายกฯให้เจ้าหน้าที่ประเมินสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม นายกฯไม่ได้พูดถึงว่าจะกลับจากเสม็ดเร็วกว่ากำหนดเดิมในเย็นวันที่ 27 ก.ค. หรือไม่ เพราะรอให้เจ้าหน้าที่ประเมินสถานการณ์ก่อน ทั้งนี้ช่วงเทศกาลวันหยุดยาวได้มีการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลเป็นพิเศษอยู่แล้ว ส่วนสาเหตุมาจากอะไรเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่จะประเมิน
ข้อมูลจากposttoday.com
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [
