"จิ๊บ ไผ่เขียว" รับสารภาพหมดเปลือก เครือข่ายค้ายาบ้ารายใหญ่อยู่ที่ "บางบัวทอง"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 ธันวาคม ตำรวจชุดสืบสวนของ สภ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยชุดสืบสวนจาก กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัด (กก.สส.ภ.จว.) พระนครศรีอยุธยา และชุดสืบสวนจากกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 (บก.สส.ภ.1) นำตัวนายนพพล ประสงค์ศิล อายุ 23 ปี หรือ "จิ๊บ ไผ่เขียว" ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์โตโยต้า ยี่ห้อยาริส บริเวณทางต่างระดับวงแหวนบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา จน ด.ช.โภคิน ดีผิว หรือน้องโตมี่ เสียชีวิต ออกจากห้องขังของ สภ.อุทัย มาสอบปากคำเพื่อหาข้อมูลในการขยายผลทางคดี โดยเฉพาะเครือข่ายการค้ายาเสพติด
จากการสอบสวน นายจิ๊บรับสารภาพว่าได้ร่วมกันค้ายาบ้าจริง แต่เพิ่งเข้าวงการได้ปีเศษ และเริ่มเข้ามาอย่างจริงจังหลังถูกจับกุมที่ จ.ปทุมธานี ในคดีเกี่ยวกับยาเสพติด แต่เป็นเพียงผู้ค้ารายย่อย ซึ่งอยู่ในระหว่างประกันตัว ส่วนพี่ชายเข้าวงการค้ายาเสพติดมาตั้งแต่ปี 2549 ต่อมาถูกจับกุม ศาลตัดสินจำคุก 2 ปี ระหว่างถูกจับกุมได้รู้จักกับนักโทษคดียาเสพติดในคุกและเรียนรู้เครือข่ายการค้ายาเสพติด พอพ้นโทษออกมา นายโจ๊กได้ออกมาค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง เพียงระยะเวลา 2 ปีเศษ ก่อนจะผันตัวเองเป็นผู้ค้ายาบ้ารายใหญ่
นายจิ๊บสารภาพต่อว่า การสั่งยาบ้าจะสั่งครั้งละ 20 มัด จำนวน 40,000 เม็ด จากเอเย่นต์ค้ายาบ้ารายใหญ่จากเขต อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี หรือจากเอเย่นต์ภาคเหนือ ส่วนเงินค่ายาจะโอนผ่านธนาคาร ครั้งละไม่เกิน 4 ล้านบาท จากนั้น เอเย่นต์จะนำยาบ้ามาวางตามจุดริมถนนสายวงแหวนตะวันตก หรือถนนสายเอเชีย หรือวงแหวนบางปะอิน ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนจะมีพรรคพวกขับขี่รถจักรยานยนต์ซุปเปอร์โฟร์ไปรับตามจุดนัดหมาย
"เมื่อได้ยาบ้ามาแล้วจะนำมาขาย ส่วนใหญ่ขายส่งเป็นถุง ถุงละ 200 เม็ด หรือขายเป็นมัด มัดละ 2,000 เม็ด โดยจะใช้เวลาขายไม่เกิน 1-2 วัน เน้นขายในเขต อ.บางปะอิน วังน้อย และอุทัย" นายจิ๊บรับสารภาพ พร้อมระบุว่า เมื่อได้เงินมา จะนำเงินส่วนหนึ่งไปซื้อยาเพื่อต่อยอดธุรกิจ ส่วนเงินที่เหลือนำมาซื้อรถแต่งจักรยานยนต์และซื้อปืนตามความชอบส่วนตัว
ต่อมาเวลา 11.00 น. พนักงานสอบสวน (พงส.) สภ.อุทัย แจ้งข้อหานายจิ๊บรวม 2 ข้อหา คือ ร่วมกันครอบครองยาเสพติดประเภท 1 ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครองครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามหมายจับ เลขที่ 744/2553 ลงวันที่ 13 ธันวาคม 2553 ก่อนที่พนักงานสอบสวน จาก สภ.พระอินทร์ราชา เจ้าของพื้นที่เกิดเหตุยิง "น้องโตมี่" ได้เข้าแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาเพิ่มเติม ซึ่งนายจิ๊บรับสารภาพทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่นำตัวออกจากห้องขังที่ สภ.อุทัย มาสอบปากคำ นายจิ๊บมีสีหน้าสดชื่นและยิ้มแย้มบางครั้ง ผู้สื่อข่าวได้ถามว่า "เมื่อคืนนอนหลับดีหรือไม่ เครียดหรือไม่ที่ถูกคุมขังในห้องขัง" นายจิ๊บ กล่าวว่า "นอนหลับดี ไม่เป็นไร ไม่ได้เครียดอะไรมากนัก" เมื่อถามว่ามีอะไรจะบอกเพื่อนร่วมขบวนการค้ายาบ้าหรือไม่ นายจิ๊บกล่าวว่า "ไม่มีอะไรจะบอก"
เมื่อเวลา 13.30 น. หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำจิ๊บ ไผ่เขียว พ.ต.อ.อนุสรณ์ วายะคำ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันและปราบปราม สภ.อุทัย และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ กองกำกับการสืบสวน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา อาวุธปืนยาวครบมือ รวมกว่า 15 นาย คุมตัวจิ๊บ ไผ่เขียวออกจากห้องขัง สภ.อุทัย โดยสวมเสื้อเกราะกันกระสุนให้จิ๊บป้องกันการฆ่าตัดตอนจากขบวนการค้ายาบ้ารายใหญ่ เพื่อนำตัวมายังศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ทั้งนี้ ขบวนรถขนย้ายไปฝากขัง ประกอบด้วยรถยนต์จำนวน 3 คัน คือรถกระบะตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษเป็นคันนำหน้า เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินนำขบวน ตามด้วยรถตู้ตำรวจ ปิดท้ายด้วยกระบะตำรวจที่มีเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษ ประจำดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทาง
เมื่อมาถึงศาล เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายจิ๊บ ไผ่เขียว เข้าห้องขังของศาลเพื่อให้ศาลพิจารณาฝากขัง โดยทำทุกอย่างด้วยความรวดเร็วที่สุด ท่ามกลางการติดตามทำข่าวของสื่อมวลชน โดยพนักงานสอบสวน จาก 2 สถานีตำรวจ คือ สภ.พระอินทร์ราชา อ.บางปะอิน และ สภ.อุทัย อ.อุทัย ยื่นสำนวนการสอบสวนรวม 4 คดี คือ
1.ร่วมกันฆ่าและพยามฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและร่วมกันพกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปโดยไม่รับอนุญาตและร่วมกันยิงปืนโดยใช่เหตุและร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ เป็นคดีที่นายจิ๊บ ไผ่เขียว ร่วมกับพี่ชาย คือนายโจ๊ก ไผ่เขียว ที่ถูกวิสามัญไปก่อนหน้าก่อเหตุยิงน้องโตมี่ โดยในสำนวนระบุว่า นายจิ๊บ ไผ่เขียว ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนขี่รถให้นายโจ๊กเป็นคนลั่นปืนยิง
2.ตามหมายจับของศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ข้อหาร่วมกันกับนายโจ๊ก ยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง และร่วมกันพกพาอาวุธปืนไปในเมือง ได้ก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้าในคืนลอยกระทงเขตพระอินทร์ราชา ตามหมายจับเลขที่ จ.739/2553 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2553 คดีนี้นายจิ๊บให้การรับสารภาพในสำนวนการสอบสวน
3.ร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยตำรวจสามารถตรวจยึดยาบ้าจำนวน 36,000 เม็ด ในห้องที่นายโจ๊กและนายจิ๊บ ได้เช่าไว้ที่สไมล์แมนชั่น ในเขต ต.คานหนาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยนายจิ๊บให้การรับสารภาพ
4.ร่วมกันมีปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาต คดีนี้ตำรวจสามารถอายัดปืนจำนวน 20 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนปืน 953 นัด ที่ห้องเช่าสไมล์แมนชั่น ในเขต ต.คานหนาม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยนายจิ๊บให้การรับสารภาพ
โดยศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้พิจารณาตามคำร้องของพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีที่คัดค้านการประกันตัวและขอฝากขังครั้งที่ 1 อนุญาตให้ฝากขังครั้งที่ 1 ไม่ให้ประกันตัวและนำไปฝากขังที่เรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ที่มามติชนออนไลน์
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [
