สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า หลังจากที่ภาพเขียนของแวนโก๊ะ มุลค่ากว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1,550 ล้านบาท) ถูกขโมยด้วยการตัดอออกจากกรอบรูป ออกไปจากพิพิธภัณฑ์ ในกรุงไคโร ประเทศอียิปต์ เมื่อวันเสาร์ ( 21 สค.) ที่ผ่านมา ทำให้ทางการอิยิปต์ถูกตำหนิอย่างหนัก ในด้านระบบรักษาควมปลอดภัยที่หละหลวม
โดยนายแอบเดล เมกิด มาห์มูด อัยการสูงสุดแห่งประเทศอียิปต์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบ ไม่พบว่าระบบเตือนภัยในพิพิธภัณฑ์มาห์มูด คาลิล ทำงานแต่อย่างใด นอกจากนั้นยังพบว่า กล้องวงจรปิดในพิพิธภัณฑ์จำนวนกว่า 43 ตัว สามารถใช้งานได้เพียง 7 ตัวเท่านั้น
โดยพบว่าเกิดข้อผิดพลาดขึ้น เมื่อนายฟารุค ฮอสนี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ได้ออกมาแถลงว่า สามารถจับชายชาวอิตาเลียน 2 คน พร้อมกับภาพเขียนดังกล่าวได้ภายในวันเดียวกัน แต่ในภายหลังเขาได้ออกมากล่าวกลับคำแถลงการณ์ดังกล่าว โดยกล่าวว่า เขาได้รับข้อมูลที่ผิดพลาด และภาพเขียนก็ยังคงสาบสูญอยู่
โดยนายมาห์มูด กล่าวว่า ทางการได้เคยออกมาเตือนถึงความจำเป็นในการปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยของพิพิธภัณฑ์ หลังจากที่ภาพเขียนสมัยคริสตศตวรรษที่ 19 จำนวน 9 ภาพ ของนายโมฮัมหมัด อิบราฮิม พาช่า อดีตผู้นำอียิปต์ ถูกขโมยออกจากพระราชวังมูฮัมหมัด อาลี เมื่อปีที่ผ่านมา
ภาพเขียนดอกไม้ดังกล่าวมีขนาด กว้าง 30 ซม. และยาว 30 ซม. โดยเชื่อว่าถูกเขียนขึ้นโดยวินเซนต์ แวน โก๊ะ ในปี 1887 ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตจากการยิงตัวตาย เพียง 3 ปี ก่อนหน้านี้ ภาพเขียนดังกล่าว ถูกนำออกจากพิพิธภัณฑ์เดียวกันในอียิปต์ ไปยังประเทศคูเวตเป็นเวลากว่า 10 ปี ก่อนที่จะถูกนำกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
โดยภาพดังกล่าวมีชื่อว่า "ดอกป๊อปปี้" หรือ "แจกันและดอกไม้" ซึ่งเขียนโดย "แวนโก๊ะ" จิตรกรชาวดัตช์ชื่อดัง
พิพิธภัณฑ์มาห์มูด คาลิล ถูกตั้งชื่อตามนักการเมืองชาวอียิปต์รายหนึ่ง ในช่วงยุค 1930 โดยเป็นสถานที่จัดแสดงผลงานของจิตรกรระดับโลก อาทิ คล็อด โมเนต์, เรอนัวร์ และเอดการ์ เดอกาส์
ข้อมูลจากมติชนออนไลน์