"มาร์ค" ยอมรับ "สลายแดง" เจ็บปวดที่สุดในชีวิตนายกฯ
มาร์ค ยอมรับเสียใจที่สุดในชีวิตนายกฯคือ เหตุทหารปะทะเสื้อแดงคอกวัว แจงไม่อยากให้มีคนตาย ย้ำทำงานไม่แพ้แม้ว และไม่ปรารถนาเป็นเหมือน
(9 เม.ย.) เมื่อเวลาช่วงค่ำวานนี้(8 เม.ย.) ที่สโมสรราชพฤกษ์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนในงานสื่อมวลชนสัมพันธ์ทำเนียบรัฐบาลตอนหนึ่งว่า ยอมรับสถานการณ์ที่หนักที่สุดในการเป็นนายกฯ คือการปะทะกันของเจ้าหน้าที่ทหารกับคนเสื้อแดงที่สี่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เม.ย. ปีที่แล้ว เพราะไม่ต้องการให้เกิดการสูญเสีย เมื่อเกิดขึ้นก็รู้สึกเสียใจไม่คิดว่าจะมีคนใช้ความรุนแรงถึงขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ก่อนจะเข้ารับตำแหน่ง ก็มีปัญหาความขัดแย้งแต่ไม่ได้คิดว่าจะรุนแรง ถึงขั้นที่มีผู้เสียชีวิต ซึ่งครั้งนี้ก็ต้องลองดูว่าประชาชนจะจดจำตนในรูปแบบไหน หากชนะการเลือกตั้ง กับแพ้การเลือกตั้ง
จากนั้นผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ประชาชนจะเลือกนายอภิสิทธิ์อีกครั้งเพื่ออะไร นายกฯกล่าวว่า เพื่อเดินหน้าต่อไป เพื่อทำงานให้คนทั้งประเทศ ไม่ใช่ทำงานเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง เมื่อถามว่าถ้าได้เป็นรัฐบาลอีกครั้งจะเอาโควต้าตำแหน่งกระทรวงใหญ่ ไว้เป็นของประชาธิปัตย์หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ถ้าเลือกได้ก็อยากเห็นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่พรรค ปชป.ถูกโยงกับกองทัพ นายกฯกล่าวว่า เป็นความพยายามที่จะกล่าวหา เพราะอีกฝ่ายหนึ่งตั้งรัฐบาลไม่ได้ แต่ในยุคที่กองทัพได้งบประมาณมากที่สุดในประวัติศาสตร์ คือ ในสมัยรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนกรณีที่นายสุเทพเคยพาแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลไปพบ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีต ผบ.ทบ. ก่อนการจัดตั้งรัฐบาลนั้น ก็เป็นเพียงการไปขอความคิดเห็นเท่านั้น
เมื่อถามว่ามีคนมองว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรม นายกฯกล่าวว่า อย่างเช่นการปฏิวัติตนก็ไม่เห็นด้วย แต่ก็ต้องดูว่าสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณทำผิดหรือปล่า และก็ไม่ได้มีใครไปดึงครอบครัวพ.ต.ท.ทักษิณเข้ามา แต่เป็นตัวพ.ต.ท.ทักษิณที่ทำตัวเองทั้งนั้น
สุดท้าย นายกฯ ยังย้ำว่า ได้ทำดีที่สุด ทั้งการแก้ปัญหาการเมืองและวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศ แต่ยอมรับยังนำพาประชาธิปไตยได้ไม่เต็มที่ แต่หากผ่านการเลือกตั้งไปได้ก็ถือเป็นความสำเร็จอีกระดับหนึ่ง ต่อข้อถามมีสิ่งใดที่รู้สึกว่ายังแพ้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เห็นว่าเป็นเรื่องที่ตอบยาก เพราะตนเอง และ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำงานในสถานการณ์ต่างกัน จึงไม่คิดว่าเป็นการแพ้หรือชนะ แต่ยืนยันไม่ปรารถนาที่จะเป็นเหมือน พ.ต.ท.ทักษิณ.
ที่มาsanook.com
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [
