เค้าว่าผมอาจจะเป็น Frenum แม่เลยพาผมไปหาหมอฟันคร้าบ

ทู้นี้แม่ให้เครดิตยายเธอละกัน คนอะไรช่างสังเกตุจิงจิ๊ง อะไรที่เกี่ยวกับภีมไม่เคยรอดสายตาเหยี่ยวของยายไปได้ หุหุ

อยู่ๆยายก็มาบอกแม่ว่า เหงือกบนภีมปกติรึเปล่า ดูมันโค้งๆแปลกๆ แม่ซึ่งวิตกจริตง่ายอยู่แล้วเกี่ยวกับเรื่องลูก จึงจัดการแหกปากเธอดู ก็ไม่รู้อยู่ดีเพราะไม่เคยเห็นเหงือกบนเด็กคนไหนมาก่อน ยายไล่ให้แม่พาภีมไปหาหมอฟันเด็ก แต่แม่อยากหาข้อมูลก่อนเลยถ่ายรูปเอาไว้



ถ่ายเสร็จรูปมันไม่ชัดอย่างที่เห็นอ่ะนะ เพราะภีมไม่อยู่เฉยให้แหกปากถ่ายดิ แม่ส่งผ่าน BB ให้น้าอ้อดู น้าอ้อบอกดูไม่รู้แต่น่าจะปกติ แม่ตั้งกระทู้ถามในห้องชานเรือน แม่ๆที่มาตอบก็ว่าน่าจะปกติ ยัง..ยังไม่พอ แม่ส่งรูปให้แม่ๆธันวาดูทางเมลล์ แม่ตุ๋ม/น้องการ์ตูนเอารูปไปให้หมอดูอีกที แล้วตอบกลับมาอย่างรวดเร็วว่า อาจจะเป็น "Frenum"

โอ้ววว Frenum คืออะไร ร้ายแรงรึเปล่า ลูกตรูเป็นอะไรเนี่ย ไม่ได้แล้วมันคาใจทำงานไม่รู้เรื่อง อย่ากระนั้นเลยถามพี่กู(เกิ้ล)ดีกว่า ได้ข้อมูลมาดังนี้

เนื้อยึดริมฝีปาก(Labial frenum) เป็นแผ่นเนื้อเยื่อส้นใยยึดต่อที่ยึดระหว่างริมฝีปากกับกึ่งกลางกระดูกขากรรไกรด้านหน้า เมื่อมีการเกาะที่กระดูกขากรรไกรอยู่ในตำแหน่งค่อนข้างต่ำ จะทำให้ฟันหน้าห่าง
เมื่อเห็นชัดเจนในเด็กที่ยังเป็นฟันน้ำนม ว่าเนื้อยึดริมฝีปากนี้เกาะต่ำทำให้ฟันน้ำนมห่าง ในอนาคตเมื่อเปลี่ยนเป็นฟันแท้แล้วมีโอกาสค่อนข้างสูงที่ฟันแท้ในตำแหน่งนั้นจะห่างด้วย

การรักษา
+ผ่าตัดเนื้อเยื่อนี้(จริงๆแล้วการผ่าตัดนี้เป็นการผ่าตัดเล็ก ไม่ยุ่งยากอะไรมาก ) ซึ่งถ้าเราสามารถผ่าตัดได้เร็ว ยิ่งดี เพราะเมื่อฟันแท้ขึ้นมาจะได้ไม่มีปัญหาเรื่องฟันห่าง

+รอดูอาการไปก่อนจนให้เปลี่ยนเป็นฟันแท้ แล้วดูว่าการเกาะของเนื้อเยื่อนี้ทำให้เกิดปัญหารุนแรงแค่ไหน
---ถ้าทำให้ฟันห่างไม่มาก และคนไข้ก็ไม่กังวลกับการห่างของฟันก็ไม่ต้องทำอะไร
---ถ้าทำให้ฟันห่างมาก และคนไข้ก็ไม่กังวลกับการห่างของฟันก็ไม่ต้องทำอะไร
---ถ้าทำให้ฟันห่างไม่ว่าจะมากหรือน้อย แต่คนไข้มีความกังวล จะทำการรักษาโดย ผ่าตัดเนื้อเยื่อนี้ และทำการจัดฟันหรืออุดปิดช่องว่างเพื่อปิดช่องว่าง

ข้อดีอข้อเสีย
-ถ้าเราแก้ปัญหาตั้งแต่ตอนเด็ก ข้อดีคือในอนาคตปัญหาเรื่องฟันห่างในฟันแท้ก็ไม่เจอ ปัญหาเรื่องเจ็บตอนแปรงฟันก็จะหายไป แต่ข้อเสียคือปัญหาเรื่องฝังใจกับการทำฟันเพราะเด็กคงร่วมมือได้ยาก แต่หมออาจจะต้องใช้ยาเพื่อช่วยให้เด็กมีอาการสลึมสลือตอนผ่าตัด
-ถ้ารอตอนโตแล้วค่อยรักษา ข้อดีคือความร่วมมือจะดี ทำให้การผ่าตัดง่าย แป็บเด๋วก็เสร็จ ไม่เจ็บมากด้วย ส่วนข้อเสียคือจะต้องมีการจัดฟันร่วมด้วยเพื่อปิดช่องว่างฟันห่าง หรือใช้วิธีอุดปิดช่องว่างแต่แบบนี้ไม่ค่อนแข็งแรงเท่าไร

ต่อไปรูปอาจจะหวาดเสียวหน่อยแต่เพื่อเห็นภาพ ดูๆไปละกันจะได้เข้าใจ

เป็นภาพเด็กที่เป็น Frenum น้องคนนี้เค้าอายุประมาณ 3 เดือนอ่ะนะ ไม่ใช่รูปภีมนะครับ



อันนี้เป็นรูปที่เป็นเยอะในรายที่ฟันแท้ขึ้นแล้ว



จบจากข้อมูลที่ได้สรุปว่ามันไม่อันตรายอะไร เพียงแต่ไม่หล่อ ถ้าจะหล่อก็ต้องผ่าตัดแล้วจัดฟัน ซึ่งก็จะเจ็บตัว เอาให้ชัวร์ๆไปให้หมอฟันธงดีกว่า แม่เลยจัดการโทรนัดหมอฟันเด็กที่โรงพยาบาลประจำ(ก็ที่ภีมเกิดแหล่ะ)

วันนัดไปถึงแผนกทันตกรรม มีแต่คนมองว่าเด็กตัวแค่นี้มาหาหมอฟันทำไมเนี่ย(ถ้าเค้ารู้ว่ายังไม่มีฟันจะขำกว่านี้ ) รอแป๊บนึงแม่แว่บไปซื้อกาแฟ หนมปังมากินกับพ่อ แต่ภีมอยากกินด้วย ฮึดฮัดๆ ร้องแอ๊ๆขอกิน อ่ะกะจริงๆ แม่อดไม่ได้ป้อนไปหน่อยตรงขนมปังอ่ะ ทีนี้ขอกินไม่เลิกจนพ่อกับแม่ต้องรีบกิน ดูดกาแฟก็จะแย่งดูด(ทีให้ดูดแก้วหัดดื่ม ไม่ยอมดูด เจ้านี่นิ) พอได้คิวพบหมอ โหห้องทำฟันเด็กนี่เก้าอี้มันกว้างจังวุ้ย มีของเล่นไว้หลอกล่อด้วยเต็มตะกร้าเลย พ่ออุ้มภีมนั่งบนเตียง จับภีมนอนให้หมอแหกปากดู พอหมอแหกปากภีมก็แหกปากร้องเลย ส่อแววกลัวหมอฟันนะเนี่ย หมอเอามือออกก็หยุดร้อง เล่นของเล่นที่พยาบาลเอามาให้

ผลตรวจคือ...หมอส่ายหน้า มีหัวเราะหึหึด้วย หมอบอกว่า หมอไม่ฟันธงเพราะฟันยังไม่ขึ้นเล้ย เหงือกเด็กเล็กดูยากเพราะ Frenum มันก็เกาะต่ำทั้งนั้น แต่ส่วนมากพอโตขึ้นเรื่อยๆกรามขยายมันก็ดึงขึ้นเอง หมอบอกอีก 6 เดือนมาดูใหม่ ตอนนี้ดูไม่รู้ ถึงเป็นก็ต้องรอรักษาตอนโตเหมือนข้อมูลที่แม่หามา เสร็จหมอก็สอนการเช็ดฟัน เช็ดลิ้น วิธีแปรงฟันเด็ก บอกให้กินน้ำมากๆลิ้นจะได้ไม่ขาว ฟันไม่ผุ ให้หัดเช็ดลิ้นด้วย เค้าจะได้เคยชินกับการทำอะไรในปาก เวลามาหาหมอฟันจะได้ไม่ยาก

ก่อนกลับหมอมีบอก "ปกติข้อมูลพวกนี้(หมายถึงเรื่อง Frenum นะ) หมอจะเป็นคนบอกคนไข้ แต่นี่คนไข้เอาข้อมูลมาถามหมอเลยนะคะ" สงสัยหมอจะหมายถึงแม่รู้ดีเกิ๊น วิตกเกิ๊น หมอคงนึกในใจ ยัยแม่นี่โอเว่อร์จริงๆ

สรุปหมอใจดีไม่คิดเงินซักบาท ปกติเอกชนไม่น่าปล่อยผ่าน ค่าหมอก็ไม่เอา นัดใหม่อีก 6 เดือนข้างหน้านะจ๊ะ

กลับบ้านไปทั้งยาย ทั้งน้า ทั้งตา ถามใหญ่ว่าเป็นมั๊ย แม่เลยบอกหมอเค้าดูไม่ออก บ้านนี้วิตกเกิน อะไรเกี่ยวกับภีมล่ะไม่ได้เลย (มีเรื่องอื่นๆอีก ไว้ไม่ลืมจะเล่าให้ฟัง ขำดีแต่ละเรื่อง) ยายบอกสงสารมันถ้าเป็นต้องผ่าตัด กลัวหลานจะเจ็บ หึหึ

เห็นมั๊ยลูกยายใส่ใจกับภีมขนาดไหน มีแต่คนบอกแม่ช่างสังเกตุเน๊อะ เหงือกบนยังไปเห็นได้ แม่บอกไม่ใช่แม่หรอก ยายต่างหาก เค้าเลี้ยงภีมด้วยใจ ด้วยความรัก ทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับภีมไม่เคยเล็ดรอดสายตายายไปได้ แม่โชคดีมียายดูแลลูกให้ แม่ยอมรับว่าลำพังแม่เองคงเลี้ยงภีมไม่ดีเท่ายายเลี้ยง ยายเป็นคนทำข้าวให้ภีมทุกมื้อ(แม่แค่อุ่นอ่ะ ) หาผลไม้มาป้อน มาคั้นน้ำให้กิน พาไปเดินเล่นเช้าเย็น ภีมโชคดีสุดๆนะที่ได้ตากับยายเลี้ยง เรียกว่าโตมาได้เพราะยายเลี้ยงอย่างแท้จริง

ภีมโตขึ้นเมื่อตายายแก่ลง หนูต้องดูแลตายายนะลูก ต้องจูงตายายไปเดินเล่นเหมือนตอนที่ตายายพาภีมไปเดินตอนนี้นะ

ต้องป้อนข้าวยายเหมือนที่ยายคอยป้อนข้าวภีมนะ

ต้องคุยกับตาเหมือนที่ตาคอยคุยกับภีมเล่นกับภีมไม่ให้ภีมเหงานะ ดูแลตากับยายให้ดีนะลูก

น้าเอื้อยด้วย เค้ารักภีมมาก ไม่เคยเกี่ยงที่จะดูแลภีมเลย มีแต่จะแย่งดูแล้วดูได้ดีด้วย คอยเล่นกับภีมจนภีมติด เป็นห่วงหนูตลอด โทรมาก็ถามถึงแต่ลิงของน้าเป็นไง

จำคำแม่ไว้นะ คนกตัญญูจะไม่ลำบาก จะไม่ตกอับ ไม่ใช่กับพ่อแม่เท่านั้นแต่กับคนอื่นที่มีพระคุณกับเราด้วย อย่าทำให้เค้าเสียใจนะครับคนดีของแม่

เป็นเหตุผลหนึ่งที่แม่เขียนบล๊อค เพื่อไว้ให้ภีมได้อ่าน ได้รับรู้ว่าใครเค้าใส่ใจ เค้าดูแล และรักเราแค่ไหน ที่แม่เขียนบรรยายไม่ได้ถึงครึ่งหนึ่งของความเป็นจริงเลยน๊า

พวกเรารักลูกมากครับ

Create Date : 23 กันยายน 2553 Last Update : 23 กันยายน 2553 21:13:23 น. Counter : 8202 Pageviews.		4 comments
Share Tweet