Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2556
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
24 ธันวาคม 2556
 
All Blogs
 

รัตนโกสินทร์ ว.วินิจฉัยกุล



รัตนโกสินทร์  : ว.วินิจฉัยกุล

พิมพ์ครั้งที่ 12, ตุลาคม 2555 / จำนวน 638 หน้า / สนพ.ทรีบีส์ / ราคาปก 400 บาท

เรื่องย่อ(สปอยล์เนื้อหา)

   ปีพุทธศักราช ๒๓๔๘  ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช    ต้นรัตนโกสินทร์ เรื่องราวของ “ฟัก” ลูกชายของเจ้าสัวนายเตาชาวจีนแห่งโพ้นทะเลไกล  ที่ได้อพยพย้ายถิ่นฐานมาอยู่ที่เมืองสยามในสมัยนั้น เพื่อทำการค้าขายระหว่างเมืองจีนกับสยาม   มีสินค้าจะพวกเครื่องเคลือบกระเบื้องจีน  ผลไม้สด ผลไม้แห้ง เสื้อผ้าอาภรณ์ ผ้าปักลายจีน เป็นต้น

   อีกทั้งครอบครัวได้สร้างเตาเผา  เพื่อทำโรงงานกระเบื้องเคลือบขาย ครอบครัวของเจ้าสัวนายเตานับว่าเป็นคนร่ำรวยมั่งคั่งเลยทีเดียว ภรรยานั้นชื่อแม่พลับเป็นหญิงไทยเชื้อสายมอญ  มีลูกสาวคนโตชื่อ“ส้มจีน” เมื่อโตขึ้นก็ได้แต่งการแต่งการกับนายแสงลูกชายคุณพระพินิจจัยตุลาการในสมัยนั้น   เมื่อสิ้นคุณพระส้มจีนและครอบครัวก็ได้ย้ายไปกินตำแหน่งใหม่ที่หัวเมืองกาญจนบุรี

   ฟักมีน้องชายชื่อ “ทั่ง” ซึ่งโตไล่เลี่ยกันมา   ทั่งเป็นคนหัวไวในเรื่องการค้าขาย เจ้าสัวนายเตาเลยสนับสนุนให้ลูกชายคนนี้ดูแลกิจการเรื่องการค้าขายภายในบ้าน   เป็นเจ้าภาษีรังนกทางภาคใต้ สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว

   ฟักเป็นเด็กฉลาดรอบรู้มีผู้ทำนายว่าเมื่อโตขึ้นจะได้เป็นข้าราชการรับใช้แผ่นดิน   ผู้เป็นพ่อจึงสนับสนุนในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก   เพราะอาชีพข้าราชการถือว่ามีเกียรติแก่วงศ์ตระกูลเป็นอย่างมาก   โดยการให้ไปอยู่เป็นทนายคอยรับใช้คุณพระพินิจจัยผู้เป็นพ่อของพี่เขยของฟัก   ฟักเป็นคนหัวดีสามารถคัดลอกตำรากฎหมายและท่องจำกฎหมายได้อย่างแม่นยำและได้รับคำชมอยู่บ่อยๆ ในเรื่องความจำดี   เมื่อสิ้นคุณพระนินิจจัยฟักก็ได้ไปอยู่กับสมิงรัตสัง คือลุงของฟักนั่นเองเขาได้สนับสนุนฟักจนได้เข้ารับราชการจากขุน- หมื่นและใต่ระดับขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะมีผลงานดี

   เรื่องความรักเมื่อตอนเป็นหนุ่มน้อย  ฟักชอบพออยู่กับแม่ช้อง  หลานสาวคุณพระวินิจจัยแต่แม่ช้องเป็นหญิงทะเยอทะยาน  มักใหญ่ใฝ่สูง  เนืองจากกำพร้าแม่ตั้งแต่เด็กส่วนพ่อก็มีครอบครัวใหม่รับราชการอยู่ที่เมืองเหนือ แม่ช้องจึงต้องมาอยู่ภายใต้ชายคาและอยู่ใต้อำนาจส้มจีน   พี่สาวของฟักเพราะนางเป็นหลานแท้ๆ   แต่ก็เป็นได้แค่ผู้อาศัยเท่านั้น   แม่ช้องจึงตัดสินใจหนีไปอยู่กับคุณสน หลานชายคนเดียวของเจ้าพระยามหาเสนา   ซึ่งเป็นคนเกเร นักเลงหัวไม้

   “แม่เพ็ง” ลูกสาวพระยาอสุเรนทรราชเสนา  ซึ่งรับราชการเป็นปลัดทูลฉลองวังหน้า  รับใช้กรมพระราชวังบวรฯ ส่วนแม่คือคุณหญิงเรียมเป็นลูกสาวขุนนางเก่าฐานะร่ำรวยมั่งคั่ง  ฟักเคยได้ช่วยแม่เพ็งตกน้ำ  ตั้งแต่แม่เพ็งยังเล็กๆ เมื่อโตขึ้นมาแม่เพ็งได้เข้าไปรับใช้เสด็จฯในวัง  แต่ก็แวะมาเยี่ยมบ้านบ่อยๆ

   จนเมื่อวันหนึ่งฟักเกิดไปเจอเข้าและถูกใจ  และได้ให้ผู้ใหญ่ไปสู่ทาบทามสู่ขอ   ฟักได้ให้คำมั่นสัญญากันว่าตราบใดที่ยังมีแม่เพ็งอยู่เขาจะไม่มีหญิงอื่นเป็นอันขาด...

   พิธีแต่งงานเกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่นาน   อยู่กินกันมาจนฟักได้ลูกสาวถึง ๔ คน  สร้างความผิดหวังให้ฟักอยู่ไม่น้อย  เพราะเขาอยากได้ลูกชายมาสืบสกุล ฟักจากบ้านไปทำสงครามใหญ่ที่เขมรอยู่ครั้งหนึ่ง  เดินทัพไปตีไกลถึงไซ่ง่อน เมืองญวน

   พ่อทั่งแต่งงานกับลำดวนมีลูกชาย ๒ คน  สร้างความยินดีให้กับเจ้าสัวฯ และแม่พลับเป็นอย่างมาก  แต่เจ้าสัวก็ยังรอหลานชายเจ้าลูกชายคนโตอย่างฟักอยู่ดี

   จนแล้วจนรอดฟักก็ยังไม่มีลูกชาย  แม่พลับจึงได้เอ่ยปากขอแม่เพ็งว่า อยากหาเมียอีกคนให้พ่อฟักเผื่อว่าจะมีลูกชายสืบสกุลกับเขาสักคน  เมื่อแม่ผัวเป็นคนเอ่ยปาก  แม่เพ็งเลยไม่กล้าปฏิเสธ   ต้องจำใจยอมรับและคัดเลือกบรรดาชาวบ้านหรือลูกข้าราชการตำแหน่งเล็กๆที่เป็นแม่บ้านแม่เรือนคุณสมบัติเพียบพร้อมเข้ามารับใช้สามี

   ท้ายสุดแล้วฟักจะทำอย่างไร  เมื่อแม่พลับเตรียมบ้านเล็กๆเอาไว้ให้เขา และคำสัญญาที่มีไว้ก่อนแต่งงานกับแม่เพ็ง  ฟักจะทำอย่างไร ....


ความคิดเห็นหลังจากที่ได้อ่าน

   เป็นการเล่าเรื่องของการผสมวัฒธรรมระหว่างไทย-จีน  ผ่านตัวละครอย่าง “ฟัก” ชายหนุ่มลูกครึ่งไทย-จีน กับเรื่องราวการใช้ชีวิต  ตลอดจนวิถีชีวิตและความเป็นอยู่  และได้เห็นเรื่องราวของความมุ่งมั่นที่จะเข้ารับราชการ  สังคมสมัยก่อนความร่ำรวยอาจจะมาทีหลัง  เพราะเทียบคนที่มียศตำแหน่งแล้วดูจะมีภาษีมากกว่า

   อาจจะเชยไปแล้วสำหรับคนที่เคยได้อ่านเรื่องนี้  เพราะคงจะได้อ่านกันมานานมากแล้ว แต่สำหรับผมเพิ่งจะหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาอ่าน  นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่สร้างชื่อให้กับอาจารย์ตั้งแต่ยุคแรกๆ  จำได้ว่าเคยดูละครเรื่องนี้เมื่อตอนเด็กๆ   แต่ก็ต้องยอมรับว่าจำไม่ได้ว่าจริงๆว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไร  เมื่อตอนอ่านรู้สึกว่าเป็นงานเขียนที่บรรยายเรื่องราวได้เต็มอิ่มอรรถรสดีจริงๆ  ด้วยเนื้อหาและภาษาสวยๆ  บวกกับเรื่องราวในประวัติศาสตร์  ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ได้กล่าวถึงชีวิตและความเป็นอยู่ของชาวสยาม  การที่มีชาวต่างชาติและชาวจีนเข้ามาทำการค้าขายกับไทย  ทำให้สังคมในสมัยก่อนนี้ชาวจีนเข้ามาค้าขายและมีครอบครัว  แต่งงานกับลูกหลานชาวไทย  เกิดการกลืนวัฒนธรรมกันไป

   ตามสุภาษิตไทยที่ว่าเข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม    คงจะใช้ได้กับชาวจีนที่อพยพเข้ามาอยู่ในประเทศไทยเรื่องนี้   เพราะมีการแต่งงานกับชาวไทยเกิดการผสมกันระหว่างวัฒธรรมไทยกับจีนลูกหลานที่เกิดมาก็เลยรับเอาทั้งสองวัฒธรรมไป   ในเรื่องการใช้ภาษาลูกของเจ้าสัวนายเตาจึงสามารถพูดได้ทั้งสองภาษา   แม่พลับผู้เป็นผู้เลี้ยงลูกส่วนใหญ่ก็จะเลี้ยงแบบไทยๆ

   ชอบชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้าน  ที่ใช้การเดินทางส่วนมากเป็นทางแม่น้ำลำคลอง  พาเรือแจวกันไปค้าขายหรือสัญจรไปมาหาสู่    วิถีชีวิตส่วนมากจึงอยู่กับแม่น้ำมีบ้านเรือนริมคลอง    แม้แต่การเดินทางไปต่างประเทศของเจ้าสัวนายเตา   ที่เดินทางกลับไปไหว้บรรพบุรษที่เมืองจีนพร้อมกับเรือของทางคณะทูตไทยเดินทางไปเจริญความสัมพันธ์กับจีนก็เดินทางโดยเรือเช่นกัน   อาจจะต้องใช้เวลาค่อนข้างมากก็จริง แต่มันก็เป็นทางเลือกเดียวในสมัยนั้น นอกจากจะใช้โดยสารแล้ว   ยังสามารถที่จะใช้บรรทุกสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาขายในเมืองไทยได้อีกด้วย

   แม้กระทั่งวัฒธรรมการมีเมียบ่าว   ของเหล่าข้าราชการหรือชาวบ้านที่พอมีฐานะร่ำรวย  คนสมัยก่อนมองว่าเรื่องมีเมียน้อยเมียบ่าวนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ผู้คุมอำนาจในบ้านก็มักเป็นเมียหลวงหรือเมียแต่งนั่นเอง   อ่านเรื่องนี้จบรู้สึกอิ่มกับวรรณกรรมทางด้านภาษามากๆ ประวัติศาสตร์แน่นจริงๆ 




 

Create Date : 24 ธันวาคม 2556
16 comments
Last Update : 24 ธันวาคม 2556 17:20:16 น.
Counter : 7802 Pageviews.

 

เป็นนิยายพีเรียดในดวงใจอีกเรื่องเลยละครับ

 

โดย: อุ้มสม 24 ธันวาคม 2556 17:20:49 น.  

 

สนุกและประทับใจมากครับ
อ่านเรื่องนี้แล้ว ต้องไปต่อ ด้วยบูรพา และ สองฝั่งคลอง ด้วยนะครับ

 

โดย: สามปอยหลวง IP: 122.154.3.131 24 ธันวาคม 2556 18:57:01 น.  

 

ยังไม่เคยอ่านนิยาย แต่เคยดูละครค่ะ...เดี๋ยวจะลองหาอ่านดูค่ะ แล้วก็อยากลองอ่านบูรพาและสองฝั่งคลองตามคุณสามปอยหลวงด้วย

 

โดย: Aneem 24 ธันวาคม 2556 18:59:32 น.  

 

เคยดูละครเหมือนกันค่ะ แต่จำไม่ค่อยได้แล้ว
ส่วนหนังสือยังไม่เคยอ่านค่ะ น่าอ่านมากค่ะ คงจะค่อย ๆ ตามเก็บอ่านกันไป เพราะมีเยอะ

 

โดย: polyj 24 ธันวาคม 2556 20:04:30 น.  

 

เป็นอีกเล่มที่ประทับใจมาก ๆ ค่ะ

 

โดย: หวานเย็นผสมโซดา 24 ธันวาคม 2556 20:26:23 น.  

 


เป็นนิยายพีเรียดเรื่องหนึ่งที่เขียนดีมาก
และเราก็หยิบมาอ่านบ่อยๆ ค่ะ
รู้สึกดีกับความรักเดียวใจเดียวของพ่อฟัก
ที่ตัดใจจากแม่ช้องได้เด็ดขาด
และไม่สนใจจะมีเมียรองทั้งๆ ที่สมัยนั้นเป็นเรื่องปกติมาก

 

โดย: a murder suicide 24 ธันวาคม 2556 22:47:30 น.  

 

น้องอุ้มสม / กลายเป็นเล่มโปรดของพี่ไปแล้วคับ ชอบ

คุณสามปอยหลวง / บูรพา อ่านแล้วครับ ชอบที่สุดเลย รู้สึกอึดอัดกับความรักแบบว่ารักมากเกลียดมาก แต่อย่างไรความรักก็มากกว่าความเกลียด ชอบมากๆโดยเฉพาะช่วงท้ายๆ น้ำตาแทบจะคลอเบ้าที่พ่อแม่ลูกจะได้เจอกัน
ส่วนสองฝั่งคลอง คงไม่พลาดแน่ๆครับ

คุณ Aneem / Polyj / ละครผมจำไม่ได้เลยครับว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร มาอ่านเอาเรื่องนี่แหละถึงจะรู้...

หวานเย็นฯ /



a murder suide /

 

โดย: Nat_NM 25 ธันวาคม 2556 8:12:53 น.  

 

ขอบคุณสำหรับรีวิวค่า แอบเชยด้วยคนนะคะ เพราะเราก็ไม่เคยอ่านเหมือนกัน ^^ อ่านรีวิวแล้วรีบจดในลิสต์ทันที

 

โดย: Sab Zab' 25 ธันวาคม 2556 12:17:20 น.  

 

เป็นอีกเรื่องที่ประทับใจค่ะ

 

โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ 25 ธันวาคม 2556 13:03:31 น.  

 

ในดวงใจเล่มหนึ่งเลยค่ะ

 

โดย: jackfruit_k 25 ธันวาคม 2556 15:41:34 น.  

 

คุณ Sab / ฮ่า ๆ แสดงว่ายังมีอีกหลายคนที่ยังไม่ได้อ่าน เพราะนิยายเรื่องนี้ส่วนมากคนจะอ่านกันตั้งแรกๆ ของนามปากา ว.วินิจฉัยกุล หนับหนุนให้อ่านเลยครับ

คุณพุดน้ำบุศย์ / คุณ ขนุนJackfriut_K / ประทับใจเช่นกันครับ



 

โดย: Nat_NM 25 ธันวาคม 2556 15:58:25 น.  

 

มายกมือว่าอ่านแล้วค่ะ ชอบการเล่าเรื่องของ อ.วินิตามาก ที่ใส่เรื่องราวความรักของตัวละคร คู่กับฉากและวิถีชีวิตในสมัยนั้น ได้เนียนมาก

 

โดย: Serverlus 25 ธันวาคม 2556 20:46:34 น.  

 

เหมือนจะเคยดูละคร จำได้ลางๆ รีวิวนี้ทำให้รู้สึกกระจ่างขึ้นมาทันทีเลยค่ะ

 

โดย: คุณหนูฤดูร้อน 28 ธันวาคม 2556 17:18:47 น.  

 

สุขสันต์ปีใหม่นะครับ

 

โดย: สามปอยหลวง 2 มกราคม 2557 10:00:06 น.  

 

เคยเป็นละครใช่ไหมคะ เหมือนคลับคล้ายคลับคลา


**สวัสดีปีใหม่ค่ะ**

 

โดย: Pdจิงกุเบล 2 มกราคม 2557 14:53:16 น.  

 

Serverlus / ชอบการเล่าเรื่องของอาจารย์เช่นกันครับ


คุณหนูฤดูร้อน / ดูละครนานแล้วจนจำไม่ได้เลยต้องมาอ่านรื้อฟื้นความจำหน่อย

สามปอยหลวง / สวัสดีปีใหม่ครับ

PD จิงกุเบล / เคยเป็นละครครับ แต่นานมากๆๆๆแล้ว

ปล.สวัสดีปีใหม่ 2557 นะครับ

 

โดย: Nat_NM 6 มกราคม 2557 8:19:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


blissfultime
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Friends' blogs
[Add blissfultime's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.