Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2550
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
23 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 

วันลอยกระทง



วันลอยกระทง เป็นวันเทศกาลสำคัญ วันหนึ่ง ของคนไทย
ซึ่งจะมีขึ้นใน วันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ เป็นช่วงที่อากาศโปร่งใสสบาย
และสิ้นสุดฤดูฝนแล้ว นอกจากนี้ ระดับน้ำ ในแม่น้ำ ลำคลอง ทั่วทั้งประเทศ
ก็มีระดับสูงด้วย


ประวัติวันลอยกระทง
........ประเพณีลอยกระทง การลอยประทีป หรือการลอยโคม มีปรากฏหลักฐาน ในวรรณคดีเรื่องนางนพมาศ หรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์ ซึ่งเป็นสนมเอกของพระร่วง ได้คิดประดิษฐ์ ดัดแปลงเป็นรูปกระทงดอกบัว แทนการลอยโคม เพื่อเป็นการสักการะ รอยพระพุทธบาทที่แม่น้ำนัมมทานที ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหนึ่งอยู่ในแคว้น ทักขิณาบถ ของประเทศอินเดีย ปัจจุบัน เรียกว่า แม่น้ำเนรพุททา นางนพมาศได้ทำกระทงลอย ที่แปลก จากนางสนมอื่นๆ เมื่อพระร่วงเจ้า ได้เสด็จทางชลมารค ทอดพระเนตรเห็นกระทง ของนางนพมาศ ก็ทรงพอพระทัย จึงมีราชโองการ ให้จัดพิธี ลอยกระทง ขึ้นทุกปี ในคืนวันเพ็ญเดือน สิบสองของทุกปี พระราชพิธีนี้จึงถือปฏิบัติ มากระทั่งถึงปัจจุบัน ประมาณ ๗๐๐ กว่าปีมาแล้ว


........พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงอธิบายในพระราชนิพนธ์เรื่อง "พระราชพิธีสิบสองเดือน" ความตอนหนึ่งว่า
........"การฉลองพระประทีปลอยกระทงนี้ เป็นนักขัตฤกษ์ ที่รื่นเริงทั่วไปของชนทั้งปวงทัวกัน ไม่เฉพาะแต่ การหลวง จะนับว่าเป็นพระราชพิธีอย่างใดก็ไม่ได้ ด้วยไม่ได้มีพิธีสงฆ์ พิธีพราหมณ์ อันใดเกี่ยวข้อง เนื่องในการลอย พระประทีปนั้น ..แต่ควรนับว่าเป็นราชประเพณี ซึ่งมีมาในแผ่นดินสยามแต่โบราณ ตั้งแต่พระนครยังอยู่ฝ่ายเหนือ"


ซึ่งความมุ่งหมายในการลอยกระทง มีจุดมุ่งหมายดังนี้

๑. เพื่อขอขมาลาโทษแด่พระแม่คงคา เพราะได้อาศัยน้ำกินและใช้ และมนุษย์มักจะทิ้งสิ่งปฏิกูลลงในแม่น้ำ จึงควรขอขมาลาโทษท่าน

๒. เพื่อสักการะรอยพระพุทธบาทนัมมทานที ซึ่งพระพุทธเจ้าได้ประทับรอยพระบาท ประดิษฐานไว้บนหาดทราย แห่งนั้น

๓. เพื่อบูชาพระอุปคุต ซึ่งชาวไทยภาคเหนือให้ความเคารพอย่างสูง โดยตำนานเล่าว่า อุปคุตนั้น เป็นพระมหาเถระรูปหนึ่ง ที่มีอิทธิฤทธิ์ สามารถปราบมารได้ ท่านจะนั่งสมาธิอยู่บนบัลลังก์แก้ว ในท้องมหาสมุทร

๔. เพื่อลอยทุกข์ โศก โรค ภัย และความอัปรีย์จัญไร เหมือนกับการลอบบาป ของศาสนาพราหมณ์ ถ้าใครเก็บกระทงไป เท่ากับเก็บความทุกข์ หรือเคราะห์กรรมเหล่านั้น แทนเจ้าของกระทง







ตำนานวันลอยกระทง

การลอยกระทงเพื่อบูชาพระพุทธบาท
........รอยพระพุทธบาท ที่ปรากฏที่ฝั่งแม่น้ำนัมมทานที มีความเกี่ยวข้องกับพุทธประวัติ คือ ครั้งหนึ่ง พญานาคได้ทูลอาราธนา สัทมาสัมพุทธเจ้า ให้เสด็จไปโปรดแสดงธรรมในนาคพิภพ เมื่อพระองค์เสด็จกลับ พญานาคทูลขออนุสาวรีย์ ไว้กราบไหว้ บูชา พระพุทธองค์เลยทรงประดิษฐ์ รอยพระบาทไว้หาดทราย เพื่อให้ นาคทั้งหลาย สักการบูชา


การลอยกระทงเพื่อบูชาพระจุฬามณี
........ครั้งเมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ เสด็จออกจากนครกบิลพัสด์ เพื่อจะข้ามแม่น้ำ เมื่อทรงทราบว่า พ้นเขตกรุงกบิลพัสด์แล้ว จึงประทับเหนือหาดทรายขาว และตั้งใจจะบรรพชา จึงทรงจับพระเมาลีด้วยพระหัตถ์ และใช้พระขรรค์ตัดพระเมาลี โยนขึ้นไปบนอากาศ พระอินทร์ได้นำผอบทองมารองรับไว้ และนำไปบรรจุไว้ยังจุฬามณี เจดีย์สถานในเทวโลก
........ตามปกติเหล่าเทวดา จะมาบูชาพระจุฬามณี เป็นประจำ แม้พระศรีอาริยเมตไตรยเทวโพธิสัตว์ ในอนาคต จะมาจุติบนโลก และตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ยังเคยเสด็จมาไหว้ จึงถือว่าการบูชาพระจุฬามณี เป็นการบูชา พระศรีอาริยเมตไตรยด้วย


การลอยกระทงเพื่อต้อนรับพระพุทธเจ้ากลับจากเทวโลก
........เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกบวช จนได้บรรลุสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว หลังจากเผยแผ่ ธรรมคำสั่งสอน แก่สาธุชน โดยทั่วไปได้ระยะหนึ่ง จึงเสด็จไปจำพรรษาอยู้บนชั้นดาวดึงส์ เพื่อเทศนาธรรมโปรดพระพุทธมารดา ครั้นจำพรรษาจนครบ ๓ เดือน พระองค์จึงเสด็จกลับโลก เมื่อท้าวสักกเทาวราชทราบพุทธประสงค์ จึงเนรมิต บันไดทิพย์ขึ้น อันมีบันไดทอง บันไดเงิน และบันไดแก้ว ทอดลงสู่ประตูเมืองสังกัสสนคร
........ในการเสด็จลงสู่โลกมนุษย์ ครั้งนี้ เหล่าทวยเทพ และประชาชน ทั้งหลายได้พร้อมใจ ทำการสักการบูชา ด้วยพวงมาทิพย์ การลอยกระทงตามตำนานนี้เหมือนกับการตักบาตรเทโว


การลอยกระทงเพื่อบูชาพระนารายณ์บรรทมสิทธุ์
........เป็นความเชื่อตามหลักศาสนาพราหมณ์ เป็นการบูชาพระนารายณ์ ที่บรรทมอยู่ในมหาสมุทร นิยมทำใน วันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน๑๒ และ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑ จะทำในกำหนดใดก็ได้


การลอยกระทงเพื่อบูชาท้าวพกาพรหม
........นิทานของชาวบ้านที่เกี่ยวกับวันลอยกระทง ที่เล่าต่อกันมาคือ เรื่องของกาเผือกสองผัวเมีย ทำรังอยู่บน ต้นไม้ ในป่าหิมพานต์ วันหนึ่งกาตัวผู้ออกไปหากิน แล้วกลับเข้ารังไม่ได้ ปล่อยให้นางกาซึ่งกำลังกกไข่ ๕ ฟอง รอด้วยความกระวนกระวายใจ จนมีพายุมา ทำให้พัดรังของกาเผือกกระจัดกระจาย ไข่ตกลงน้ำ ส่วนแม่กา ถูกลมพัดไปคนละทาง เมื่อแม่กาย้อนกลัมมาดูไข่ที่รัง ก็ไม่พบ จึงร้องไห้จนขาดใจตาย ไปเกิดเป็นท้าวพกาพรหม อยู่บนพรหมโลก ส่วนใข่ทั้ง ๕ ฟอง ลอยน้ำไปในสถานที่ต่าง ๆ บรรดาแม่ไก่ แม่นาค แม่เต่า แม่โค และแม่ราชสีห์ มาพบเข้า จึงนำไปรักษาตัวละฟอง ครั้งถึงเวลาฟัก กลับกลายเป็นมนุษย์ ทั้งหมด


........กุมารทั้ง ๕ ต่างเห็นโทษภัยในการเป็นฆราวาสและอานิสงส์ ในบรรพชา จึงลามารดา เลี้ยงไปบวช เป็นฤาษี ต่อมา ฤาษีทั้ง ๕ ได้มีโอกาสพบปะกันจึงถามถึงนามวงศ์ และมารดาของกันและกัน จึงทราบว่าเป็นพี่น้อง ฤาษีทั้ง ๕ มีนามดังนี้

....... คนแรก ชื่อกกุสันโธ (วงศ์ไก่)
........คนที่สอง ชื่อนาคมโน (วงศ์นาค)
........คนที่สาม ชื่อกัสสโป (วงศ์เต่า)
........คนที่สี่ ชื่อโคตโม (วงศ์โค)
........คนที่ห้า ชื่อเมตเตยโย (วงศ์ราชสีห์)


........ต่างตั้งอธิฐานว่า ถ้าจะได้เกิดเป็นพระพุทธเจ้าขอให้ร้อนไปถึงพระมารดา ด้วยแรงอธิฐานจึงร้อนไปถึง ท้าวพกาพรหม จึงเสด็จลงมาและจำแลงเป็นกาเผือก แล้วเล่าเรื่องหนหลังให้ฟัง พร้อมบอกว่าถ้าคิดถึงมารดา เมื่อถึงคืน วันเพ็ญเดือน ๑๑ เดือน ๑๒ ให้เอาด้ายดิบผูกไม้เป็นตีนกา ปักธูปเทียนบูชาลอบกระทงในแม่น้ำ แล้วท้าวพกาพรหมก็เสด็จกลับไป


........ตั้งแต่นั้นมา จึงมีการลอยกระทงบูชาท้าวพกาพรหม และเพื่อเป็นการบูชารอยพระพุทธบาท ที่แม่น้ำ นัมมทานที ส่วนฤาษีทั้ง ๕ ต่อมาได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ดังนี้

ฤาษีองค์แรก กกุสันโธ ได้แก่ พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า พระกกุสันโธ
ฤาษีองค์ที่สอง โกนาคมโน ได้แก่ พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า พระโกนาคมม์
ฤาษีองค์ที่สาม กัสสโป ได้แก่ พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า กัสสปะ
ฤาษีองค์ที่สี่ โคตโม ได้แก่ พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า สมณโคดม
ฤาษีองค์ที่ห้า เมตเตยโย ได้แก่ พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า พระศรีอาริยเมตไตรย


........พระพุทธเจ้า ๓ องค์แรก ได้บังเกิดบนโลกแล้ว พระพุทธเจ้าองค์ที่ ๔ คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน พระพุทธเจ้าองค์ที่ ๕ คือ พระศรีอาริยเมตไตรย จะมาบังเกิดในโลกมนุษย์ในอนาคต

การลอยกระทงเพื่อบูชาพระอุปคุตต์
........การลอยกระทงเพื่อบูชาพระอุปคุตต์นี้ เป็นประเพณีของชาวเหนือ และชาวพม่า พระอุปคุตต์นี้ เป็นพระอรหันต์ หลังสมัยพุทธกาล โดยมีตำนานเล่าว่า พระเจ้าอโศกมหาราช มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา ได้โปรด ให้สร้าง พระสถูปเจดีย์ และพุทธวิหารขึ้นทั่วชมพูทวีป มหาวิหารที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ "อโศการาม" ซึ่งตั้งอยู่ในแคว้นมคธ หลังจากพระสถูปต่าง ๆ ๘๔๐๐๐ องค์สำเร็จแล้ว พระเจ้าอโศกทรงมีพระราชประสงค์ จะนำพระบรมสารีริกธาตุ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไปบรรจะตามสถูปต่าง ๆ และมีการเฉลิมฉลอง ยิ่งใหญ่ เป็นเวลา๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน
........ด้วยเกรงว่าพญามาร จะมาทำลายพิธี พระเจ้าอโศมหาราชจึงนิมนต์พระอุปคุตต์ที่จำศีลอยู่ในสะดือทะเล องค์เดียวเท่านั้น ที่สามารถ ปราบพญามารได้ หลังจากนั้นพญามารก็สำนึกตัวหันมายึดเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง ส่วนพระอุปคุตต์ หลังจาก ได้ปราบพญามารแล้วจึงลงไปจำศีลอยู่ที่สะดือทะเลตามเดิม
........พระอุปคุตต์นี้ไทยเรียกว่า พระบัวเข็ม ชาวไทยเหนือหรือชาวพม่าจะนับถือพระอุปคุตต์มาก


กิจกรรม
........การลอยกระทงในปัจจุบัน ชาวบ้านจะเตรียมกระทง ที่ทำจากวัสดุที่หาง่าย ตามธรรมชาติเช่น หยวกกล้วย และดอกบัวนำมาประดิษฐ์ เป็นกระทงที่ สวยงาม ปักธูปเทียนและดอกไม้ เครื่อง สักการบูชา อธิฐานในสิ่งที่มุ่งหวัง พร้อมขอขมาต่อ พระแม่คงคา นำไปลอย ตามแม่น้ำ วัด หรือสถานที่จัดงาน นอกจากนี้ยังมีการจุดพลุ ตะไล และ ดอกไม้ไฟ ทางจังหวัดสุโขทัยมักจะมีการจัดงาน เผาเทียนเล่นไฟ


ประเพณีในแต่ละท้องถิ่น

........ภาคเหนือตอนบน นิยมทำโคมลอย เรียกว่า "ลอยโคม" หรือ "ว่าวฮม" หรือ "ว่าวควัน" ทำจากผ้าบางๆ แล้วสุมควันข้างใต้ให้ลอยขึ้นไปในอากาศอย่างบอลลูน ประเพณีของชาวเหนือนี้เรียกว่า "ยี่เป็ง" หมายถึงการทำบุญในวันเพ็ญเดือนยี่(ซึ่งนับวันตามแบบล้านนา ตรงกับวันเพ็ญเดือนสิบสองในแบบไทย)

........จังหวัดตาก จะลอยกระทงขนาดเล็กทยอยเรียงรายไปเป็นสาย เรียกว่า "กระทงสาย"

........จังหวัดสุโขทัย ขบวนแห่โคมชักโคมแขวน การเล่นพลุตะไล ไฟพะเนียง

........จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลอยกระทงตามประทีป พื้นที่จัดงาน
บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

........ภาคอีสานจะตบแต่งเรือแล้วประดับไฟ เป็นรูปต่างๆ เรียกว่า "ไหลเรือไฟ"

........กรุงเทพฯ จะมี งานภูเขาทอง เป็นรูปแบบงานวัด เฉลิมฉลองราว ๗-๑๐ วัน ก่อนงานลอยกระทง และจบลงในช่วงหลังวันลอยกระทง

........ภาคใต้ อย่างที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาก็มีการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ นอกจากนั้น ในจังหวัดอื่นๆ ก็จะจัดงานวันลอยกระทงด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ในแต่ละท้องถิ่นยังอาจมีประเพณีลอยกระทงที่แตกต่างกันไป และสืบทอดต่อกันเรื่อยมา





บรรณานุกรม
ธนากิต. (2541) "วันสำคัญของไทย" กรุงเทพฯ : ชมรมเด็ก..
บุญเติม แสงดิษฐ. (2541) "วันสำคัญ" กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์พชรการพิมพ์



------------------------------------

เพลงวันลอยกระทง
"เพลง รำวงวันลอยกระทง"


วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองเต็มตลิ่ง
เราทั้งหลายชายหญิง
สนุกกันจริง วันลอยกระทง
ลอย ลอยกระทง ลอย ลอยกระทง
ลอยกระทงกันแล้ว
ขอเชิญน้องแก้วออกมารำวง
รำวงวันลอยกระทง รำวงวันลอยกระทง
บุญจะส่งให้เราสุขใจ บุญจะส่งให้เราสุขใจ

วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำก็นองเต็มตลิ่ง
เราทั้งหลายชายหญิง
สนุกกันจริง วันลอยกระทง
ลอย ลอยกระทง ลอย ลอยกระทง
ลอยกระทงกันแล้ว
ขอเชิญน้องแก้วออกมารำวง
รำวงวันลอยกระทง รำวงวันลอยกระทง
บุญจะส่งให้เราสุขใจ บุญจะส่งให้เราสุขใจ








 

Create Date : 23 พฤศจิกายน 2550
11 comments
Last Update : 2 สิงหาคม 2551 1:09:37 น.
Counter : 4211 Pageviews.

 



*** สวัสดีคะ แวะมาเยี่ยมและมาเชิญไปร่วมลอยกระทงด้วยกัน พร้อมนี้หน่อยเอากระทงมาฝากจ้า ***

 

โดย: หน่อยอิง 23 พฤศจิกายน 2550 23:10:51 น.  

 

อ้อ เป็นเช่นนี้เอง

 

โดย: อุปนิกขิต 23 พฤศจิกายน 2550 23:12:13 น.  

 

Photo Sharing and Video Hosting at Photobucket


ได้ความรู้เพรียบ....

 

โดย: ฉันขอมีเธอในหัวใจ 23 พฤศจิกายน 2550 23:15:56 น.  

 

ดีจัง ได้ความรู้

 

โดย: พนบ. 23 พฤศจิกายน 2550 23:23:46 น.  

 

สุขสันต์วันลอยกระทงนะคะ

พรุ่งนี้แล้วนะ... เตรียมกระทงหรือยัง

 

โดย: โสดในซอย 23 พฤศจิกายน 2550 23:26:39 น.  

 


เที่ยวให้สนุกนะครับ วันลอยกระทง

 

โดย: pukilf 24 พฤศจิกายน 2550 0:07:13 น.  

 

ดีจัง ได้ทราบประวัตฺความเป็นมาของการลอยกระทงด้วย ไปลอยกระทงด้วยกันไหมค่ะ//www.moohin.com/festival/pictures/k1.jpg

 

โดย: กบเทียน 24 พฤศจิกายน 2550 9:16:12 น.  

 

แวะมาทักทายค่ะ..
สุขสันต์วันลอยกระทงค่ะ...



 

โดย: kanok_noi 24 พฤศจิกายน 2550 12:46:55 น.  

 

ได้ความรู้เพียบเลย......
แล้วก็ขอบใจจ้า....น้องกบที่เข้าไปเยี่ยมบ้านพี่......
ไม่ค่อยงามเท่าไหร่.....เลยนะ 5555

 

โดย: พี่ขวัญเอง (NuHring ) 24 พฤศจิกายน 2550 14:15:05 น.  

 

ขอบคุณจ้ะกบ...ได้ความรู้ใหม่ๆ เกี่ยวกับประเพณีลอยประทีปเพียบเลย..

 

โดย: ฝน วนันฯ (fon_wanan ) 25 พฤศจิกายน 2550 4:29:33 น.  

 

กบจ๋า..พี่ขออนุญาต add บล็อกเน้อ..ขอบคุณจ้า..

 

โดย: ฝน วนันฯ (fon_wanan ) 25 พฤศจิกายน 2550 4:38:26 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


naragorn
Location :
นครศรีธรรมราช Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ก็แค่คนธรรมดาๆ คนหนึ่ง

..เรียนหนังสือ ~*~..ทั้งทำงานที่รัก และ งานที่ต้องทำตามหน้าที่ แลกเงินเพื่อยังชีพ ..~*~..อยู่บ้านเลี้ยงน้องหมา..ลั่ลล้า







Friends' blogs
[Add naragorn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.