ยอดมนุษย์เงินเดือน...การพบกันครึ่งทางระหว่าง ระบบและความฝัน
แทบจะไม่ต้องคิดหรือชั่งใจเลยก็ว่าได้ เมื่อได้เห็นโปสเตอร์และชมตัวอย่างของภาพยนตร์เรื่อง “ยอดมนุษย์เงินเดือน” สิ่งแรกที่คิดเลยก็คือ มันต้องเหมือนชีวิตที่ชั้นประสบอยู่ทุกวันนี้แน่ๆ ประกอบกับพระเอกอย่างติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี ก็เป็นผู้เรียกแขกชั้นดีให้อยากเข้าไปชมภาพยนตร์
แม้ตัวหนังจะสื่อได้เข้าถึงมนุษย์เงินเดือนทำให้พูดถึงกันเป็นวงกว้างจากสื่อออนไลน์ แต่ส่วนตัวก็ไม่ได้คาดหวังอะไรกับตัวหนังมากนัก ขอแค่มุกตลกไม่ฝืดและบทไม่วืดจนเกินไปก็พอ แต่...ความรู้สึกหลังจากดูหนังจบคือ หนังให้อะไรมากกว่าที่คิด
หนังเล่าถึงชีวิตประจำวันของออฟฟิศหนึ่งในเมืองกรุง ที่แน่นอนใครๆ ก็เป็น ใครๆ ก็พบเจอ ทั้งเจ้านายขี้งก หรือแม้แต่กระทั่งปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้ต้องแก้เฉพาะหน้ากันไป แต่ทว่าออฟฟิศนี้กำลังเจอปัญหา เพราะเจ้านายต้องการให้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ภายในสิ้นปี และถ้าทำไม่ได้นั่นหมายความว่า “โบนัส” ที่ทุกคนใฝ่ฝันมาทั้งปีก็ต้องชวดไปด้วย
ปั้น (เจษฎาภรณ์ ผลดี) ได้รับมอบหมายให้คุมโปรเจคนี้ ปั้นเป็นคนเที่ยงตรงกับตารางประจำวันหรือแผนงานมากๆ ด้วยบุคลิกเนี้ยบๆ และหน้าตาดีจึงเป็นที่กรี๊ดของสาวๆ แต่ในเวลางานเค้าเป็นคนจริงจัง ทำตามระบบและไม่ยืดหยุ่นให้ใครเลย
หวาย (ณัฐชลัยย์ สุขะมงคล) เด็กแนวที่โดนแม่บังคับมาทำงานเป็นผู้ช่วยปั้นเป็นเวลา 3 เดือน หวายอยากเป็นนักเขียนการ์ตูน เธอจึงมักออกท่องเที่ยวหรือใช้ชีวิตอิสระเพื่อหาแรงบันดาลใจ
เมื่อคนจริงจังมาเจอกับคนสบายๆ การทำงานจึงมักเกิดปัญหาขึ้นเสมอๆ ปั้นมองว่าหวายเป็นเด็กและไม่เหมาะกับงานนี้ ส่วนหวายก็ไม่ได้เอาใจใส่งานมากนัก อาจเพราะเธอไม่เห็นว่าชีวิตของมนุษย์เงินเดือนจะดีตรงไหน
แล้วเรื่องก็ดำเนินไปเรื่อยๆ จากการทำงานเร่งด่วนที่ต้องให้ทันปลายปี และปัญหาที่เกิดขึ้นมากมาย หนังอาจไม่ได้ลงลึกถึงตำแหน่งงานและความรับผิดชอบของแต่ละคน แต่ถือว่าแค่นี้ก็ทำให้รู้ได้แล้วว่า งานออฟฟิศ ไม่ใช่งานง่ายๆ เพราะมีปัญหาและความน่าเบื่อเป็นตัวรุมเร้า แต่หนังก็ยังสร้างอารมณ์ขันและกัดให้เจ็บจี๊ดๆ ในหัวใจได้ตลอดเวลา
หนังเอ่ยถึงประเด็นที่น่าสนใจว่า คนมีความฝันนี่จำกัดเฉพาะ คนอยากเป็นนักเขียน อยากมีร้านอาหาร อยากเป็นนักท่องเที่ยวจริงหรือ แล้วมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานกันทุกวันนี้เป็นผู้ไม่มีความฝันจริงหรือ น่าสนใจตรงที่ปั้น พยายามหาคำตอบให้กับคำถามเหล่านั้น เพราะความฝันของเขาคือการตั้งใจทำงานเพื่อให้ได้เงินเยอะๆ และจะได้มีไว้ดูแลคนรักของเขา ในขณะที่หวายมีความฝัน แต่ยังไม่เริ่มลงมือทำเพราะคิดว่าต้องมีแรงบันดาลใจเจ๋งๆ เสียก่อน
สิ่งที่ควรทำ 10 อย่างในหนึ่งปี ที่ปั้นเขียนให้กับหวาย จึงเป็นสิ่งที่ทำให้คิดได้ว่า การทำตามความฝัน บางครั้งก็ต้องทำอย่างมีระบบ จะทำเป็นเรื่อยๆ มาเรียงๆ นั้นคงไม่ประสบผลเสียที
ยอดมนุษย์เงินเดือน ไม่ได้ตัดสินว่าการทำงานแบบนี้ดีหรือไม่ดี แต่หนังบอกให้เรารู้จักผสมกันระหว่าง “ระบบ” และ “อิสระ” เพราะไม่ว่าเราจะเป็นมนุษย์เงินเดือนหรือไม่ หรือจะเป็นคนทำงานอิสระ ทุกๆ งานล้วนต้องมี ระบบ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเป๊ะๆ ถึงขนาดที่ไม่ยอมโอนอ่อนให้กับอะไรเลย
ส่วนเรื่องความฝัน ก็ไม่แน่นะ มนุษย์เงินเดือนที่เรามองว่าเป็นคนไม่มีความฝัน พวกเขาเหล่านั้นอาจจะมีความฝันอยู่ก็ได้ เลยตั้งใจทำงานกันอยู่ทุกๆ วัน (อย่างน้อยน้องเลขาก็ทำให้รู้ได้ว่าคนทุ่มเทย่อมเป็นที่ต้องการของทุกคน)
Create Date : 11 ธันวาคม 2555 |
|
1 comments |
Last Update : 11 ธันวาคม 2555 19:45:37 น. |
Counter : 2688 Pageviews. |
|
|
|