11 กค 63 วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง
พระกริ่งปวเรศ ซ้าย ท่านฤาษีชีวกโกมารภัจจ์ ขวา ท่านท้าวเวสสุวรรณ รูปลักษณ์นี้เพิ่งเคยเห็น
เปลี่ยนเรื่องเขียนบ้าง เรื่องเจ็บป่วยเขียนมากคนก็เบื่ออ่าน แต่ก็ยังไม่ห่างจากความเจ็บป่วยสักเท่าไหร่ ก็ป่วยนานนะเกือบเดือนครึ่งแล้ว ใครๆก็บอกว่าควรหายได้สักที เจ้าตัวก็อยากให้หายเป็นปกติ แต่มันก็ยังไม่ปกติปวดมึนงงในหัวอยู่พอรำคาญ จนลูกพี่จอมสรุป บอกว่าโรคหายแล้วแต่ที่เป็นน่ะเป็นอาการของคนแก่ยอมรับซะว่าแก่ ปวดมึนงงเวียน ส่วนอาจารย์แพทย์ก็บอกว่าถ้านัดอีกหนึ่งเดือนยังไม่หายปกติจะเจาะหลังเอาน้ำไขสันหลังออกมาตรวจใหม่ ว้าว คราวหน้าหายหรือไม่หายก็ต้องบอกหมอหายแล้วล่ะ
ป่วยก็ดีเหมือนได้เข้าสอบ แต่ละคนก็ต้องเข้าสอบไม่ช้าก็เร็ว และข้อสอบใครยากใครง่าย ไม่มีใครหนีพ้นเกิดแก่เจ็บตายไปได้ ป่วยนี้ทำให้ได้ภาวนามากขึ้น ได้ทำบุญเยอะมาก ได้ท่องเที่ยวไปวัดหลายแห่ง มีการ rejuvinate สมอง หูจมูกตา ดีกว่าเดิม สายตาที่ยาวน้อยลง ต้องตัดแว่นเปลี่ยนเลนส์ใหม่ วัดอยู่ใกล้ถนนใหญ่ เห็นเจดีย์สีทอง บนภูเขาไม่สูงมาก
เข้าพรรษาปีนี้ได้ไปรวมพวกหมู่ อยู่วัดหลายวัน อยู่ในวัดสบายใจสบายกาย ไม่ป่วยเจ็บอะไร เหมือนคนไม่เคยป่วย ได้เป็นกรณีศึกษาวิบากกรรมของกายนี้ให้หลวงพ่อสอนกับคนอื่นๆไปอีก
ภูเรือ ทางผ่านไปวัด ผ่านไปผ่านมานานกว่าสิบปี เพิ่งเคยสังเกตมีเจดีย์สีทองอยู่บนภูเขาใกล้ๆ แต่นิสัยลูกพี่จะไม่มีการแวะระหว่างทางแม้จะอยากไปก็ตาม แต่มีเหตุบังเอิญต้องวกรถกลับเป็นโอกาสดีได้ขอแวะวัดแห่งนี้ด้วย
"วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง" ระหว่างทางขึ้นวัด มองดูวัสดุข้าวของที่นำมาใช้ ประณีตงดงามแม้แต่กำแพงวัด คิดในใจ วัดสวยงามประณีตเหลือเกิน ต้องใช้เงินทุนไม่น้อยทีเดียว
ทำเลที่ตั้งวัด อยู่บนเขาไม่สูงมาก มองเห็นทิวทัศน์โดยรอบ สิ่งก่อสร้างแต่ละสิ่งมี scale สูงใหญ่ ไม้แต่ละแผ่นเลอค่าประกบกันประณีตเรียบกริ๊บ วัดใครสร้างหนอ สวยงามเลอค่าเหลือเกิน จะถามใครก็มองไม่เห็นใครสักคน นอกจากคนงานก่อสร้างสองสามคน อย่าดีกว่า เดินชมไปก่อน สวยงามวิเวกดีเหลือเกิน เป็นบุญตา พระอุโบสถ ประณีตยิ่งใหญ่อลังการ ที่ปากทางเข้ามีพญานาคเจ็ดเศียรหน้าตาแปลกๆไม่อ้าปากแลบลิ้นยาวเหมือนที่อื่น แกะสลักด้วยหินสีเขียวแท่งใหญ่ยาวมาก
พระประธานในอุโบสถ พระกริ่งปวเรศ พระพุทธเจ้าไภสัชยาคุรุไวฑูรยประภา จอมแพทย์ พระกริ่งปวเรศ วัดสมเด็จภูเรือมิ่งเมือง องค์พระพุทธรูปปางหมอยา เป็นพระพุทธรูปลักษณะนั่งขัดสมาธิราบ เหมือนปางมารวิชัย แต่พระหัตถ์เบื้องซ้ายถือหม้อน้ำมนต์ ประทับขัดสมาธิเพชรบนฐานบัวคว่ำบัวหงาย บรรจุองค์พระบรมสารีริกธาตุเพื่อบรรจุไว้ที่องค์พระปฏิมากรนี้ ตัวอาคารมีสถาปัตยกรรม ศิลปกรรม และประติมากรรมที่งดงามยิ่ง หลังคาที่ผสมผสานความงามสไตล์ไม้สนซีดาร์ ผลิตมาจาก Fiber Cement ที่ใช้นวัตกรรมขั้นสูง น้ำหนักเบา งดงาม โบสถ์วิหารงานไม้สลักอลังการ พระนอน พระวิหาร นาคหัวบันได แกะจากหินหยกแม่น้ำโขงจากประเทศพม่า แท่งตันๆ สวยงาม
ที่ผนังพระอุโบสถฝั่งตรงข้ามพระประธาน มีภาพพระพุทธเจ้า สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณสังวร และ ครูบาอาจารย์สายวัดป่า...กราบๆ ดีใจ ที่คิดแต่แรกว่า เป็นทุนจีน ไม่น่าใช่แล้ว
เดินออกด้านหลังพระอุโบสถ พระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีในรัชกาลที่ 9
พระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งทรงผนวช
ภาพใหญ่เต็มฝาผนัง ด้านหลังพระอุโบสถ คิดถึงพระองค์เหลือเกิน มีคนเดินผ่านมา สองคน กรุณาเล่าเรื่องวัดให้ฟัง วัดนี้สร้างบนที่ดินที่ซื้อไว้ด้วยพระราชทรัพย์ของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีนานมากแล้ว เมื่อครั้งในหลวงรัชกาลที่ 9 ประชวร สำนักพระราชวังใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์และเจ้าภาพได้บูรณะสร้างวัดขึ้นมาใหม่เพื่อให้พระองค์หายประชวร มีพระประธาน เป็นพระกริ่งปวเรศ เป็นพระพุทธเจ้าปางที่ช่วยรักษาโรค มีท่านฤาษีชีวกโกมารภัทร นับเป็นโชคดี เราได้กราบขอพระท่านทั้งหมดให้หายเจ็บป่วย สุขภาพแข็งแรง พระพุทธรูปปางปรินิพพาน เหมือนที่กุสินาราพระพุทธรูปภายในวิหารรายทั้งสี่แห่ง รอบพระอุโบสถ ยังมีเจดีย์ อีกสององค์ บนยอดเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และ อาคารทางยาวลงเขา มีหลายส่วนที่ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง จึงไม่สามารถเดินไปได้ วัดนี้ใช้เวลาก่อสร้างเพิ่มเติมมาแล้ว 4-5 ปี และยังคงก่อสร้างต่อเนื่องอยู่
ที่จริงไม่อยากนำมาเขียนลงบันทึก ไม่อยากให้คนไปมาก ไม่อยากให้วัสดุและการก่อสร้างที่ประณีตงดงามได้รับความกระทบกระเทือนเสียหาย อยากให้อยู่สะอาดงดงามเช่นนี้ตลอดไป แผ่นไม้ปูพื้นพระอุโบสถแต่ละแผ่นกว้างใหญ่ประกบกันไว้เรียบสนิทขัดเงาลงเคลือบไว้มันปลาบสะท้อนภาพได้ราวกับแผ่นกระจก ไม้แกะสลักแผ่นหนาใหญ่แต่ละแผ่นบนหน้าบัน ข้างฝาทุกแผ่นงดงามเลอค่ามาก
ถ้าผู้คนไปสักการะเที่ยวชมแล้วอยากให้ช่วยกันรักษาอย่ามือบอนคุ้ยแคะแกะเกาลูบคลำ ดูแต่ตามืออย่าต้องของจะเสีย ให้ได้เป็นสถานที่เลอค่า สะอาด ประณีต งดงาม สื่อแสดงความเลื่อมใสศรัทธาในพุทธศาสนา และสถานที่บอกเล่าเรื่องราวความระลึกถึงในหลวงรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีในพระองค์ และสมเด็จพระพี่นางฯ อีกแห่งหนึ่งที่มีพร้อมรวมในสถานที่เดียวกันค่ะ
Create Date : 11 กรกฎาคม 2563 |
Last Update : 11 กรกฎาคม 2563 17:38:10 น. |
|
31 comments
|
Counter : 2691 Pageviews. |
|
|