ฉันไม่รู้ว่า.... คนอื่นเขาจะเป็นเหมือนอย่างฉันหรือเปล่า หากสำหรับฉันเองแล้วนั้น ยามที่เห็นต้นไม้ ดอกไม้ ฉันมักจะมีความทรงจำเกี่ยวกับผู้คนและสถานที่ต่างๆ เกิดขึ้นในห้วงคำนึงเสมอ ๆ เช่นทุกครั้งที่เห็นยี่เข่ง ใจฉันก็หวนระลึกถึงพ่อครูสิงห์แก้ว มโนเพ็ชร สล่าทำตุงฝีมือชั้นครูของล้านนา ชายชราที่เป็นปูชนียบุคคลที่สังคมพึงยกย่อง หรือยามที่เห็นต้นเหงือกปลาหมอครั้งใด ใจก็อดกระหวัดถึง ก๋งหมอ ....หมอยารากไม้แห่งเกาะช้าง..แทบทุกครั้งไป น่าแปลกที่ฉันไม่เคยรู้ว่า .....แท้ที่จริงแล้ว..... ฉันเป็นคนที่รักต้นไม้ นั่นอาจเป็นเพราะฉันไม่ค่อยได้มีโอกาสอยู่บ้านเหมือนคนอื่นอื่นเขา ด้วยมีชีวิตที่ต้องเดินทางอยู่เสมอเพื่อเรียนรู้เรื่องราวและทำความเข้าใจในผู้คน ทำให้ไม่เคยมีโอกาสอยู่ติดบ้าน ไม่เคยได้ปลูกต้นไม้ใบหญ้า ไม่เคยได้ทักทายกับไม้ดอก .ไม้ผล เนื่องเพราะภาระหน้าที่การงานที่ทำให้ต้องเดินทางไปตามสถานที่ต่างๆอยู่ตลอดเวลา ตราบกระทั่งสายลมแห่งโชคชะตาพัดพาวิถีชีวิตฉันให้เปลี่ยนไป จึงได้มีโอกาสอยู่บ้านมากขึ้น ได้มีเวลาสัมผัสกับต้นไม้ใบหญ้าที่บ้านและได้ค้นพบว่า .... แท้จริงแล้วฉันเป็นคนรักต้นไม้ ในวันนี้ ..... เมื่อมองย้อนกลับถึงวันคืนที่ผ่านเลย.....จึงได้พบว่า ฉันรักต้นไม้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว เห็นได้จากที่ฉันมักจะหอบหิ้วต้นไม้ใบหญ้ากลับมาบ้านด้วยเกือบทุกครั้งที่ไปทำงานต่างจังหวัด ซึ่งถ้าจะว่าไปแล้ว ที่ผ่านมานั้น ฉันเป็นเพียงผู้หอบหิ้วต้นไม้ดอกไม้มาให้พี่ชายปลูกเท่านั้น เพราะหลังจากที่เอาต้นไม้เข้าบ้าน ฉันก็แทบจะไม่มีเวลาได้เหลียวแลต้นไม้ต้นนั้นเลย ช่วงที่อยู่กรุงเทพฯ เวลาแต่ละวันก็หมดไปอย่างรวดเร็ว เช้าขึ้นก็ต้องรีบออกจากบ้าน กว่าจะได้กลับบ้านก็ดึกดื่นเที่ยงคืน บางครั้งก็กลับเอาตอนเช้าเพียงเพื่อมาอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ไปทำงานต่อ แล้วจะให้ฉันเอาเวลาไหนไปชายตามอง หรือรดน้ำพรวนดินต้นไม้ใบหญ้ากันเล่า ช่วงสองสามปีที่ผ่านมานี้ ฉันได้อยู่บ้านมากขึ้น ตื่นเช้าก็มีเวลารดน้ำต้นไม้ ตกเย็นก็มีเวลาเดินดูใบไม้ใบหญ้า ได้ลงมือปลูกต้นไม้ด้วยตัวเองและได้สัมผัสกับอารมณ์ปิติ ยามที่เห็นต้นไม้ที่เฝ้าปลูกมานานปีเริ่มผลิดอกออกผล วันนี้....ที่บ้านฉันมีต้นไม้หลากหลายชนิด บางต้นซื้อหามาจากแหล่งขายต้นไม้ บางต้นเพื่อนให้มา บางต้นขอเขามา และบางต้นก็ขุดถอนมาจากข้างทาง สำหรับประเภทหลังนี่มักเป็นพวกวัชพืชเล็กๆ หรือดอกหญ้าที่หลายคนมองข้ามไป หากฉันก็สู้อุตส่าห์หอบหิ้วอย่างทะนุถนอมจนมาถึงบ้านและนำลงดินปลูกอย่างดิบดี รอดบ้าง ตายบ้าง จวบกระทั่งเมื่อมีโอกาสอยู่บ้านมากขึ้นจึงได้เห็นการผลิบานของไม้ดอก...ไม้ผล ได้รับรู้ว่า...มือที่เปื้อนดินเพราะการปลูกต้นไม้นั้นนำความอิ่มเอมมาสู่หัวใจ และได้ค้นพบความจริงอันยิ่งใหญ่ว่า .. ยามที่หัวใจร้อนรุ่ม ว้าวุ่นและสับสน ก็ผ่อนคลายลงได้ด้วยต้นไม้ ใบหญ้า ยามที่บาดเจ็บจากผู้คนและสังคมปลาใหญ่กินปลาเล็กเฉกเช่นทุกวันนี้....ก็ยังได้อาศัยความงามของไม้ดอกไม้ใบคอยปลอบประโลมหัวใจให้ชื่นฉ่ำ เมื่อได้ยินและได้ยลสรรพสำเนียงแห่งธรรมชาติอันยิ่งใหญ่เฉกนี้จึงได้ตระหนักว่า...แท้จริงแล้ว...เราช่างกระจ้อยร่อยเสียนี่กระไร ... ....... ต้นไม้กว่าครึ่งของที่บ้านฉันนั้น ได้มาจากการไปทำงานในต่างจังหวัด ด้วยอาชีพการผลิตสื่อโทรทัศน์ ทำให้ฉันมีโอกาสได้เดินทางท่องเที่ยวไปยังที่ต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ มีโอกาสได้พบปะผู้คนมากหน้าหลายตา ได้พานพบว่า ผู้คนเหล่านั้นล้วนแต่รักต้นไม้เฉกเดียวกับฉัน ด้วยเหตุนี้เองยามที่เห็นต้นไม้ที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาครั้งใด ฉันจะมีความทรงจำเกี่ยวกับผู้คนเหล่านั้น ต้นไม้ดอกไม้แต่ละต้นของฉันจึงมีความทรงจำมากมาย......ไว้ให้จดจำ ......... ........ .........
เห็นแล้วรู้สึก......
บอกไม่ถูกค่ะ
แต่ออกไปทางบวก