จนในที่สุดฉันก็เริ่มทำใจแล้วว่า เธอคงเป็นวอล์คกิ้งไอริสชนิดที่มีแต่ใบไม่มีดอก หรือที่ชาวเรา...คนรักต้นไม้มักเรียกกันอย่างขำขำว่า เป็น พันธุ์ดูใบ เพราะมีแต่ใบไม่มีดอก เอาเหอะ มีแต่ใบไม่มีดอกก็ไม่เป้นไร อย่างน้อยก็เลี้ยงรอดไม่ตาย ฉันบอกตัวเองอย่างปลงตก แล้วในวันหนึ่งขณะที่ฉันตัดสินใจว่าจะย้ายกระถางวอล์คกิ้งไอริสทั้ง 2 กระถางนี้ให้ออกไปโดนแดดเสียบ้าง เผื่อเธออาจจะเปลี่ยนใจ ออกดอกมาให้ฉันได้ชื่นชมเสียที ขณะที่ฉันขยับกระถางวอล์คกิ้งไอริสทั้ง2 กระถางออกมาจากร่มเงา ฉันก็สังเกตเห็นบางสิ่งบางอย่าง ที่บริเวณปลายใบของต้นวอล์คกิ้งไอริสทั้ง 2 กระถางนั้นมีช่อดอกเล็กเล็กยื่นออกมา " ว้าวววว เธอก็กำลังจะมีดอกออกมาให้ฉันได้ชื่นชมแล้ว ไม่น่าเชื่อจริงจริง"
หากดูเหมือนว่า โชคไม่เข้าข้างฉัน เพราะหลายวันต่อมาฉันก็มีอันให้ยุ่งอยู่กับการดำเนินชีวิตที่แสนจะวุ่นวาย ทำให้ไม่มีเวลาอยู่ติดบ้าน กระทั่งในยามบ่ายของวันหนึ่งที่อยู่บ้าน จึงได้มีเวลาออกไปชมสวนและพานพบว่า วอล์คกิ้งไอริสทั้งสองต้นนั้นแย้มบานไปเรียบร้อยแล้ว ฉันจึงได้เห็นเพียงร่องรอยของความใกล้จะโรยราของเธอ ... เออหนอ อุตส่าห์เฝ้ารอดอกมานานนับปี พอออกดอกชุดแรกกลับได้เห็นแต่ดอกที่ใกล้โรยรา
หากกระนั้นฉันก็ยังไม่อับโชคไปเสียทีเดียวเลยหรอกนะ เพราะเพียงไม่กี่วันหลังจากที่ดอกชุดแรกแย้มยาน ดอกชุดที่สองก็ผลิบานออกมาให้ฉันได้ชื่นชมอีกครั้ง
กลีบดอกสีขาวสะอาดตาที่มีไส้กลางสีน้ำเงินแต่งแต้มด้วยสีน้ำตาลอมเหลือง สวยสมกับที่ฝ้ารอคอยมาานนับปีส่งกลิ่นหอมรวยริน หากน่าเสียดายที่บานเพียงวันเดียวแล้วก็ร่วงโรยรา ในหนึ่งก้านมีดอกอยู่หลายดอก ค่อยค่ออยทยอยบานตามกันมา หลังจากที่ดอกบานหมดแล้วตรงส่วนที่เป็นช่อดอกจะมีต้นเล็กงอกมา ส่วนนี้จะโน้มลงดิน และงอกรากเติบโตเป็นต้นใหญ่ต่อไป ลักษณะเช่นนี้เองจึงเป็นที่มาของชื่อ Walking Iris
ขณะที่ฉันปลื้มอกปลื้มใจอยู่กับการออกดอกของวอล์กกิ้งไอริสทั้งสองต้นนั้น ฉันก็นึกขึ้นมาได้ว่า เมื่อครั้งที่ใครคนนั้นยื่นกระถางต้นวอล์คกิ้งไอริสให้กับฉันเมื่อสองปีก่อนโน้น เขาได้บอกกับฉันว่า ดอกของเธอเป็นสีม่วงนี่นา เอ๊ะ หรือว่าจะจำผิด ฉันคิดในใจอย่างพิศวง
ด้วยความสงสัยระคนอยากรู้ฉันจึงตัดสินใจส่งเสียงตามสายไปทักทายใครคนนั้น พร้อมกับถามไถ่ข้อเท็จจริง ผมจำไม่ผิดหรอกครับ เพราะตั้งใจแล้วว่าจะให้ชนิดดอกสีม่วง แล้วใบมันก็ต่างกันชัดเจน ผมหยิบมาถูกต้นแน่ เอ๊ะหรือคุณเอาไปซุกไว้ตรงไหนของสวนเลยหาไม่เจอ เสียงปลายสายที่ตอบกลับมาอย่างสดใสระคนกระเซ้า กลับเพิ่มความประหลาดใจให้กับฉัน สำหรับผู้ที่หลงใหลและคุ้นเคยกับไม้ดอกไอริสเฉกเดียวกับเขาแล้ว ย่อมไม่มีวันเผลอเรอหรือสับสนที่จะหยิบสายพันธุ์ผิดชนิดมาให้ฉันอย่างแน่นอน ก็อาจเป็นไปได้ว่าคงหยิบสลับกับใครสักคนตอนที่จัดต้นไม้กลับบ้านแล้วค่ะ ฉันตอบก่อนกล่าวเสริมไปว่า แต่ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ต้นไหนก็เหมือนกันเพราะเป็นไอริสที่เพื่อนให้มาอยู่แล้วไม่ต่างกันหรอกค่ะ ต่างกันสิครับ เพราะผมตั้งใจให้ดอกสีม่วงกับคุณ แต่ไม่เป็นไรครับ เอาไว้คราวหน้าเจอกัน ผมจะเอาต้นดอกสีม่วงไปให้ คือเสียงสนทนาจากปลายสายอีกด้านหนึ่งก่อนที่การสนทนานั้นจะยุติลง
ที่จริงแล้ว ฉันไม่ได้มีเจตนาจะทวงถามวอล์คกิ้งไอริสสีม่วงจากใครคนนั้นหรอกนะ เพราะสำหรับฉัน ต้นไม้ที่ได้รับมาจากเพื่อน ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ต้นไหน ก็มีความหมายสำหรับฉันเสมอ เพราะนั่นคือ ต้นไม้ที่เพื่อนมอบให้มาด้วยความตั้งใจ ต้นไม้เหล่านั้นจึงเปี่ยมไปด้วยคุณค่าแห่งมิตรภาพจนมิอาจประเมิณราคาได้ในความรู้สึกของฉัน ต้นไม้จากผองเพื่อนที่ฉันได้รับมาปลูกจึงแตกต่างไปจากต้นไม้ทุกทุกต้นในบ้าน เป็นต้นไม้ที่ได้รับการดูแลเป็นพิเศษไปกว่าต้นไม้อื่นใดที่ฉันเสาะหามาปลูกเอง
ฉันค่อยค่อยแทรกพลั่วมือขนาดเล็กลงไประหว่างโคนต้นวอล์คกิ้งไอริสอย่างเบามือ หลังจากที่เฝ้ามองดูอยู่หลายวันและลังเลใจว่าควรจะแยกค้นอ่อนของเธออกมาเสียทีหรือไม่ ลำต้นเล็กเล็กที่แผ่กว้างออกลักษณะคล้ายพัดดูบอบบางจนฉันเริ่มใจเสียและนึกตำหนิตัวเองว่า ใจร้อนมากไปหรือเปล่าที่รีบแยกต้นอ่อนของเธอออกมา ฉันตั้งใจว่าจะแยกวอล์คกิ้งไอริสสีขาว ม่วงนี้ออกมา เพื่อส่งมอบให้กับนวมิตรอีกคนหนึ่ง ผู้ซึ่งตกปากรับคำว่า จะให้ต้นศรีตรังพันธุ์ออสเครเลียกับฉันหลังจากที่เธอเห็นฉันเปรยด้วยความปราถนาอยู่บนหน้ากระดานสนทนาในเว็บไซค์แห่งหนึ่งที่ฉันเป็นสมาชิก อีกไม่นานวอค์ลกิ้งไอริสต้นนี้ก็จะเดินทางไปเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างฉันกับเพื่อนใหม่อีกคน วอลค์กิ้งไอริส ...... ไอริสเดินได้ ช่างเป็นชื่อที่เหมาะสมเสียนี่กระไร ช่างเหมาะสมสำหรับการเป็นต้นไม้มิตรภาพที่เชื่อมสายใยสัมพันธ์ระหว่างผู้คน ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพียงคนแปลกหน้า ให้กลายมาเป็นเพื่อนกัน ในวันนี้ ...
ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารหญิงไทย
ฉบับที่ 809 ปีที่34 ปักษ์หลัง มิถุนายน 2552
ปรับปรุงแก้ไขโดยผู้เขียน
6 ส.ค.52