_____ เ ว ร _____


ค่ำนี้ จู่ๆ ก็เกิดนึกอยากอัพเพลงขึ้นมาซ่ะดื้อๆ
เพลงที่นึกก่อน คือ leaving on the jet plane ของ John Denver
ซึ่งเดียวจะอัพต่อจากเพลงนี้..

พอขึ้นมาบนห้อง
จู่ๆ เพลงนี้ มันก็ดังขึ้นมาในหัวใจซ่ะงั้น..


แน่นอนว่า ทั้ง 2 เพลงนี้ ยอมเป็นเพลงโปรด ในทางใดทางหนึ่ง

เพลง "เวร" นี่เป็นหนึ่งในเพลงประจำใจ ช่วงสมัยเรียนมหา'ลัยปีต้นๆ
..ไม่ใช่ว่า พอปีปลายๆ แล้วมันจะไม่ประจำใจนะ

แต่เมื่อเวลาเปลี่ยน ความคิดอ่าน ความอินในบทเพลงก็เปลี่ยนแปลงไปบ้าง
เพลงยังคงเป็นเพลง เนื้อหายังคงเดิม ..การตีความอาจจะเปลี่ยนไปบ้าง

เพลงที่จะเป็นอมตะได้ในรูปแบบหนึ่ง
คือเพลงที่มีนัยยะลึกซึ้งเป็นตัวของตัวเอง
บางที.. นัยยะลึกซึ้งนั้น อาจจะสูงส่งมากเกินไปกว่า
นัยยะที่ผู้ประพันธ์บทเพลงนั้น ได้ตั้งโจทย์ไว้ในเบี้องต้นเสียด้วยซ้ำ

เพลงที่เป็นอมตะหลายๆ เพลง มีลักษณะดังนี้

เพลงขอคาราบาวในยุคต้นๆ เอง
มีเพลงที่ มีลักษณะ "แฝงนัยยะทางปรัชญา" อย่างเป็นตัวของตัวเองสูง อยู่หลายๆ บทเพลง

ผมเองก็ถือเป็นแฟนเพลงคาราบาวคนหนึ่ง..
..แม้จะไม่ถึงขนาดเป็นแฟนเพลงพันธ์แท้
แต่ให้เปิดเพลงของคาราบาวมา 7 ใน 10 เพลง ผมน่าจะร้องได้

ยิ่งเป็นเพลงยุคต้นๆ อาจจะเกือบๆ 100% เลยด้วยซ้ำ
..เพียงแต่เพลงของคาราบาวในยุคหลังๆ (หลังจากแยกวงครั้งใหญ่)
ผมอินน้อยกว่าเพลงในยุคแรกๆ และอาจจะไม่ได้ติดตามมากนัก

ถึงอย่างไร เพลงที่พี่แอ๊ดแต่งในยุคหลังๆ
เพลงที่มีลักษณะเชิงปรัชญา กำลังใจ คาราบาวแดง แบบนั้นก็ยังชอบฟังอยู่


แต่เพลงขอคาราบาว ที่ผมน่าจะฮัมบ่อยที่สุด
และชอบร้องให้หลานตัวเล็กๆ ฟัง เห็นจะเป็นเพลง "ขี้เมาใจดี"


คุยเรื่อยๆ เปื่อยๆ วันไปไหนไม่รู้..
..ตอนต้น ที่เริ่มเขียนบล็อกนี้ เริ่มพูดถึงเพลง "เวร" นี้

ทำให้ผมนึกถึงเพลงอีกเพลงหนึ่ง ที่เป็นเพลงประจำตัว ประจำใจในช่วงเดียวกัน
คือ "ใจพเนจร" ที่พี่จิ๊ก ประภาส แต่ง ให้พี่อ๊อฟร้อง


คุยไม่เข้าประเด็นสักทีว๊อยยย..

ไปฟังเพลงเวรดีกว่า (ฟังจบแล้วเผื่อนึกอะไรออก)




_____เวร____

-คาราบาว
-

เย็นลมโชยโบกโพยพัด พลิ้วปลิวยอดไม้ใหญ่
ย่อมโบกพัดสะบัดกิ่งไกว ย่อมหวั่นไหวเป็นธรรมดา

โลกกลมๆ ก็ใบนี้ มีความหวังอยู่มากมาย
แต่เวรและกรรมคอยทําลาย.. ให้ย่อท้อยอมจํานน


เขียนเพลงขึ้นบทหนึ่ง เขียนเตือนความทรงจํา
แด่เวรและแด่กรรม ..สุดดีความงมงาย


ยามลมโชยโบกโบยพลิ้ว บนหนทางของความจริง
กระแสลมที่เคยหยุดนิ่ง เพียงหยุดพักฤดูกาล

เกิดเป็นคนก็ควรคิด คิดถึงธรรมชาติที่เป็นจริง
โลกสมบูรณ์ด้วยสรรพสิ่ง สัมผัสได้ด้วยกายตน


เขียนเพลงขึ้นบทหนึ่ง เขียนเตือนความทรงจํา
แด่เวรและแด่กรรม ..สุดดีความงมงาย

เขียนเพลงขึ้นบทหนึ่ง เขียนเตือนความทรงจํา
แด่เวรและแด่กรรม ..สุดดีความงมงาย


โลกหมุนไปใช่ความฝัน ล้วนแปรผันไปบนแกน
ธรรมชาติเมื่อยามแร้นแค้น ดั่งสอนคนให้พากเพียร
เชื่อคารมดั่งลมพัด ที่ผ่านมาและผ่านไป
จงทําตนดั่งต้นไม้ ที่เหยียดตรงและเติบโต

เขียนเพลงขึ้นบทหนึ่ง เขียนเตือนความทรงจํา
แด่เวรและแด่กรรม ..สุดดีความงมงาย

เขียนเพลงขึ้นบทหนึ่ง เขียนเตือนความทรงจํา
แด่เวรและแด่กรรม ..สุดดีความงมงาย

เขียนเพลงขึ้นบทหนึ่ง เขียนเตือนความทรงจํา
แด่เวรและแด่กรรม สวัสดีความงมงาย.. . .



**************


แหม..ฟังแล้วดินดีแหะ..

โลกหมุนไปใช่ความฝัน ล้วนแปรผันไปบนแกน
ธรรมชาติเมื่อยามแร้นแค้น ดั่งสอนคนให้พากเพียร
เชื่อคารมดั่งลมพัด ที่ผ่านมาและผ่านไป
จงทําตนดั่งต้นไม้ ที่เหยียดตรงและเติบโต







Create Date : 16 ตุลาคม 2551
Last Update : 16 ตุลาคม 2551 22:35:03 น. 0 comments
Counter : 422 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

บุญทับ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




กฎของเราก็คือ
เรามีความสุขสนุกสนาน
ได้มากเท่าที่เราต้องการ
แต่ต้องไม่ทำร้ายจิตใจใคร
..แม้แต่คนเดียว


จากหนังสือ ฟ้ากว้าง..ทางไกล



มวลเมฆ คือเนินเขาทำด้วยไอน้ำ เนินเขา คือมวลเมฆสร้างด้วยศิลา..(รพินทรฯ)
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
16 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add บุญทับ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.