หนึ่งดวงใจฉันมี ฉันยังคงอยู่ ติดตัวไป ไม่หาย กลางทาง..
ช่วงนี้ เป็นช่วงขุดกรุเพลงเก่าหรือยังไงไม่รู้ 555 (ลงแต่ละเพลง สมัยคุณป้ายังสาวทั้งนั้นเลย เอิ๊กๆ)
เพลงนี้เคยเป็นเพลงประจำตัวของผม , สมัยอยู่มหา'ลัยปีหนึ่งครั้งแรก (555 แสดงว่ามีปีหนึ่งมากกว่า 1 ครั้ง หล่ะสิ - อายว่ะ)
เพลงนี้แต่งโดย พี่จิก ประภาส ชลศรานนท์
จริงๆ ชอบเพลงนี้ตั้งแต่ได้ฟังเพลงนี้ครั้งแรกๆ แล้ว แต่ตอนนั้น นับว่า ยังวัยรุ่นมากอยู่
แล้วมาชอบมากๆ ในยุควัยแสวงหา ช่วงอยู่มหา'ลัยปีต้นๆ
ซึ่งตอนนั้นก็เริ่มชอบเฉลียงแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้ว่า เพลงนี้แต่งโดยประภาส
มารู้เอาทีหลัง หลายขวบปี ว่าเพลงนี้แต่งโดยพี่จิก , ซึ่งเมื่อรู้ ก็ไม่รู้สึกแปลกใจอะไร พี่จิก เป็นหนึ่งในนักแต่งเพลง ที่แต่งเพลงโดนใจผมไว้หลายต่อหลายเพลง ..ตั้งแต่เพลงของเฉลียง ไปจนถึงเพลงของนักร้อง ศิลปินคนอื่นๆ ทั้งในยุคที่พี่เค้ายังทำค่ายเพลงอยู่ , มาจนถึงเดียวนี้ แต่งเพลงตามวาระพิเศษ หรือเพลงหลายๆ เพลงที่แต่งลงรายการคุณพระช่วย..
หลายๆ เพลงที่พี่จิกแต่ง โดนใจผมมาเนินนาน หลายๆ เพลง ยังฝัง และอินอยู่ในหัวใจ มาจนถึงเดี๋ยวนี้
เป็นหนึ่งในศิลปิน นักแต่งเพลง ที่ควรแก่การขโมยวิชาอย่างยิ่ง.. (แต่ท่าทางจะขโมยยาก , ของเค้าดีจริงๆ ยากแก่การเลียนแบบอ่ะ)
ใจพเนจร - Pongpat
//www.imeem.com/bekira/music/J5cni1s-/pongpat/
ใจพเนจร
-พงษ์พัฒน์-
เสาะมันไปทุกแดน ทุกแผ่นดิน ก้มดูดินดูฟ้าตามใจ.. เพื่อนเราคือสายลมที่แกว่งไกว กอดคอไปทุกแห่งทุกหนทาง
หนึ่งดวงใจฉันมี ฉันยังคงอยู่ ติดตัวไปไม่หายกลางทาง อาจจะเคยร้อนรุมและเปราะบาง ..แต่เรื่องราวนั้นห่าง เลือนหายไป
อาจจะมีเหงาใจ แม้ชั่วยาม แต่ไม่เคยพร้ำเพ้อใดใด หากจะมองฟ้างามแค่สุขใจ , แต่ไม่เคยฝันใฝ่ให้ถึงดาว
เพียงลำพัง เรานี้พอใจ ไม่เคยคิดร้ายใครก่อน ใครมาดีเราก็ดีไป หากมาร้าย.. ร้ายคืนไปเช่นกัน (หากใครดี.. ฉันยอมพลีให้หมดใจ..)
หลับไปเพียงครึ่งคืนก็ตื่นพอ ต่อเรื่องราวพรุ่งนี้เป็นไร โลกยังคงให้เราค้นต่อไป ด้วยดวงใจยิ่งใหญ่กับสายลม
******************
ตอนนี้อยู่ในภาวะ "ลอกคราบ" หลังจากไปเที่ยวหัวหินสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา..
ก็ตั้งใจจะไปทั้งหัวหิน ไปทั้งปราณบุรี นั่นแหละ แต่ไม่ได้เตรียมตัว ว่าจะต้องไปขับมอเตอร์ไซค์
เลยไม่ได้เตรียมทั้งหมวก ทั้งเสื้อแขนยาวไปกันแดด
ปรากฎว่าต้องไปหาเพื่อนที่เพชรบุรีด้วย ก็เลยต้องเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่ไปกึ่งๆ ทำเวลา จากหัวหินไปเพชรบุรี (70 กว่ากิโล) , เพชรบุรีย้อนกลับมาดูนั่นนู้นนี่ที่ชะอำ (กินข้าวผัดปู ที่สะพานหิน , โห..ปูอย่างเยอะ เนื้อปูเอามารวมๆ กัน คงได้เป็นปูสักตัวกว่าๆ , แต่เค้าคิดราคาแค่ 50 บาทเอง รวมเป๊บซี่อีก 1 ขวดนะ -เลยทิปให้อีก 10 บาท เป็น 60 บาท - ข้อหาถูกใจ )
จากชะอำกลับมาหัวหิน , แล้วขี่เลยไปปราณบุรี ไปอีก 20-30 กิโล ถึงปากน้ำปราณ ก็ยังขี่เรียบชายหาดไปอีกหลายกิโล เลยเขาหัวกระโหลกไปอีกไกลเลย ..นี่ถ้าไม่เห็นว่าฟ้ามันเริ่มจะมืดแล้วหล่ะก๊ คงจะขี่ไปให้สุด ดูว่ามีอะไรอยู่ที่ปลายทาง (แต่ยังไม่ค่อยอยากขับรถตอนมืดๆ น่ะ-เลยต้องหยุด เมื่อคิดว่าเพียงพอแล้ว)
ขี่รถตากแดด ชมนกชมไม้อยู่ทั้งวัน..
ก็สงสัยตัวเองว่า ไปทำความฝันตกไว้ริมทะเลตั้งแต่เมือไหร่? สืบสาวราวเรื่องกับตัวเอง ก็ยังไม่เจอต้นตอเป็นชิ้นเป็นอัน..
..คงคิดได้แต่เพียง เป็นความฝันที่อาจจะเริ่มก่อตัวจากมุมเล็กๆ ของจิตใจ จากระหว่างการเดินทางมากมายตั้งแต่สมัยวัยรุ่นเป็นต้นมา ก่อตัวขึ้น ทีละนิดทีล่ะหน่อย ค่อยๆ สะสมเอาไว้ จนมันขยายตัวขึ้น , และถูกตอกย้ำจากความรักที่พบเจอและรู้จักมาตลอดทาง
สะสม เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งขนาด และความชัดเจนในหัวใจเราเอง..
ภาพต่างๆ ยังคงแจ่มชัดอยู่ และยังคงแจ่มชัดมากขึ้นเรื่อยๆ ..
สงสัยกับตัวเอง.. ..
"ฉันทำความฝันหล่นหายไว้ริมทะเล" ..ที่ไหนนะ?
ที่ไหนสักแห่งหนึ่ง.. ..ที่ที่ฉันจะพบเจอความฝันของฉัน , พบเจอกับคนที่เข้าใจ และพร้อมที่จะฝันร่วมกันไปกับฉัน
ที่ไหนสักแห่งหนึ่ง.. .
Create Date : 16 มิถุนายน 2552 |
Last Update : 16 มิถุนายน 2552 17:05:52 น. |
|
0 comments
|
Counter : 599 Pageviews. |
|
|
|
|
|