Home is behind The world ahead
<<
เมษายน 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
19 เมษายน 2555

ทำอย่างไรเมื่อถูกคนต่างชาติที่ไม่สนิทโอบไหล่

        ใครที่คุ้นเคยกับวัฒนธรรมต่างชาติอาจไม่ค่อยรู้สึกตะขิดตะขวงใจเท่าไหร่ ถ้าโดนคนต่างชาติสัมผัสมือ แขน หรือ โอบไหล่ แต่สำหรับคนที่เพิ่งมาอยู่แต่งแดนใหม่ ๆ คงไม่ชอบ และไม่รู้จะทำยังไง

         เรื่องมีอยู่ว่า ตอนนี้โรงเรียนของเราเพิ่งเปิดเทอมใหม่ได้แค่ 2 อาทิตย์ ประกอบกับตอนนี้เป็นเดือนเมษายนซึ่งที่เมืองไทยปิดเทอมภาคฤดูร้อน ทำให้นักเรียนไทยประมาณ 5-6 คน มาเรียนภาษาญี่ปุ่นคอร์ส 1 เดือนที่โรงเรียน คราวนี้เด็กนักเรียนคนอื่น ๆ ซึ่งมาจากหลายชาติ หลายภาษา แม้ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กเอเซีย แต่ก็มีเด็กนักเรียนจากทางยุโรป อเมริกา แอฟริกา มาเรียนบ้างเหมือนกัน

         ในห้องเรียนปกติอาจารย์จะให้นักเรียนเปลี่ยนที่นั่งทุกวัน เพื่อให้นักเรียนมีโอกาสได้พูดภาษาญี่ปุ่นกับเด็กชาติอื่น ๆ บ้าง วันนั้นเจ้าเด็กน้อยของเรา ก็ดันโดนอาจารย์ให้ไปนั่งคู่กับเด็กจากประเทศกาน่า แล้วต้องจับคู่สนทนาภาษาญี่ปุ่นกันตลอดคาบเรียนของวันนั้น (ประมาณ 4 ชั่วโมง) พอถึงเวลาเลิกเรียนเจ้าน้องของเรา กับเจ้าน้องกาน่า ก็เดินออกจากโรงเรียนไปสถานีรถไฟด้วยกัน หลังจากนั้นซักพักนึง น้องก็วิ่งกระหืดกระหอบกลับมาที่โรงเรียน แล้วบอกเราว่า 

        "ทำยังไงดีพี่ เมื่อตะกี้ เจ้าเด็กกาน่า มันมาโอบไหล่หนู แล้วพูดภาษาอังกฤษอะไรก็ไม่รู้ ฟังไม่ออก ฟังออกแต่คำว่า wife อะพี่ ทำไงดี"

         พอพูดจบน้ำตาของน้องก็ร่วงผล็อย ๆ เราก็เข้าใจดีว่า สำหรับนักเรียน ม. ปลาย โรงเรียนหญิงล้วน ที่ทางบ้านดูแลอย่างดี ถึงกับมีผู้ปกครองตามมาส่งถึงญี่ปุ่นและฝากฝังน้องไว้กับเรา อย่าว่าแต่โดนโอบไหล่เลย คุยกับผู้ชายที่ไม่ใช่พ่อ อาจจะไม่เคยเลยด้วยซ้ำ 

         เราก็เลยเสนอไปว่า พรุ่งนี้จะคุยกับอาจารย์ให้ ว่าไม่ให้น้องไปนั่งกับเจ้าเด็กกาน่า แล้วฝากน้องให้กลับหอพักไปกับเด็กไทยที่อยู่หอเดียวกัน    

          โดยส่วนตัว เรารู้จักเจ้าน้องกาน่าคนนี้ และไม่ได้รู้สึกว่าน้องเค้าดูลามก หรือว่าเลวร้ายอะไร อาจจะเป็นความไม่เข้าใจระหว่างวัฒนธรรม ส่วนเรื่องที่เด็กกาน่าพูดจาไม่เหมาะสม เราก็ไม่ได้ฟังอยู่ด้วย เลยไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วเค้าพูดอะไรบ้าง

          วันรุ่งขึ้น เราก็ไปคุยกับอาจารย์ให้ โดยให้น้องเค้าไปด้วย อาจารย์คนญี่ปุ่นบอกว่าวันนี้ไม่ได้นั่งด้วยกัน เพราะต้องสับเปลี่ยนคู่สนทนาไปเรื่อย ๆ แต่อาจารย์ ก็ไม่เข้าใจว่าแค่โอบไหล่มันเป็นอะไรหรือ อย่างนี้ไม่เรียกว่าเหยียดผิวหรือ เพราะเค้าดำใช่ไหมถึงตั้งข้อรังเกียจ ไม่อยากให้มาแตะต้อง

        เราก็บอกว่ามันเป็นวัฒนธรรมไทย ที่ไม่ชอบให้ใครมาแตะเนื้อต้องตัว แต่อาจารย์ก็ไม่ค่อยเข้าใจ ก็เห็นเด็กไทยคนอื่น ๆ จับมือ โอบไหล่กับเจ้าเด็กอิตาลี หรือ เด็กออสเตรีย เป็นปกติ ตกลงมันเป็นวัฒนธรรมไทยที่ไม่แตะเนื้อต้องตัวกัน หรือเป็นเพราะว่าเป็นเด็กแอฟริกาเลยไม่อยากให้มาแตะเนื้อต้องตัว

         เราก็ไม่รู้จะอธิบายยังไงให้คนญี่ปุ่นเข้าใจง่าย ๆ ว่าสำหรับเมืองไทยมันแล้วแต่การเลี้ยงดู ก็เลยบอกน้องไปว่า เดี๋ยวเราจะคุยกับเด็กกาน่าเอง ไม่ให้มายุ่งกับน้อง แต่น้องเค้าก็ไม่เอา บอกว่าจากนี้ไปจะหลบหน้า ไม่คุยด้วย คิดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร

         เราก็หวังว่าคงไม่มีปัญหาอะไร ก็ผู้ปกครองมาฝากฝังน้องไว้กับฉันถึงที่โรงเรียน ถ้ามีอะไรที่พอทำได้ ก็อยากจะดูแลให้ดีที่สุด ว่าแต่ว่า ถ้าเราไม่ชอบให้คนต่างชาติมาถูกเนื้อต้องตัว ต้องทำยังไงหรือ



Create Date : 19 เมษายน 2555
Last Update : 19 เมษายน 2555 8:30:29 น. 7 comments
Counter : 1345 Pageviews.  

 
มันเป็นเรื่องยาก ที่ต่างชาติจะเข้าใจ


โดย: ON THE WAY IP: 125.25.164.203 วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:9:59:49 น.  

 
จอมแก่นว่า มันอยู่ที่เราจะอธิบายให้เค้าฟังว่ายังงัย
เพราะ คนไทยบางคนนั้นไม่ถือในเรื่องแบบเนี่ย
อย่างจอมแก่น ก็จะบอกคนคนนั้นไปตามตรงว่า จอมแก่นไม่ชอบให้ทำแบบนี้ แล้วอธิบายบอกเค้าไปว่าทำมั้ย เป็นการส่วนตัว ไม่รวมคนไทยบางกลุ่ม
ชาวต่างชาติ ถ้าบอกเค้าตรงๆๆว่าไม่ชอบ เค้าก็จะไม่ทำกะเราอีกต่อไปเลยอะจ้า


โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:11:34:23 น.  

 
ก็บอกไปตรงๆ ค่ะ เพราะเคยโดนเพื่อนคนจีนที่โตในเยอรมันโอบตอนถ่ายรูป ตอนนั้นเพื่อนคนนี้อยู่ตรงกลางซ้ายขวาคือตัวเองกับเพื่อนคนไทยอีกคน พอเขาโอบ 2 สาวไทยสะดุ้งเด้งดึ๋งอัตโนมัติจนเขาตกใจ เลยอธิบายไปว่าบ้านเมืองเราไม่ทำแบบนี้ เขาก็เข้าใจแล้วก็ระวังไม่แตะต้อง 2 สาวนี่ แต่นั่นก็เป็น 10 กว่าปีมาแล้วค่ะ เด็กสมัยนี้เท่าที่เห็นไม่ค่อยถือเนื้อถือตัวกันสักเท่าไร อจ. ญี่ปุ่นก็เลยไม่เข้าใจ การหลบหน้ามันจะกลายเป็นการสร้างปัญหาใหม่รึเปล่าคะ เดี๋ยวเขางงเอานา


โดย: เจซอง วันที่: 19 เมษายน 2555 เวลา:22:40:19 น.  

 
สวัสดีคะ ตอนนี้พี่อยู่ญี่ปุ่นคะ มี่เรื่องอยากรบกวนถามคะ เพื่อนที่ไทยได้มาเที่ยวที่บ้าน เพิ่งกลับไปไทยตอนกลางเดือนมีนาเดือนที่แล้ว มาอยู่ที่นี้เกือบ3เดือน ที่มาได้นานเพราะว่าที่ที่ไทยน้ำท่วมแล้วโรงงานหยุดยาว.. ทางบริษัทออกหนังสือรับรองให้และทางสามีพี่เป็นคนออกจดหมายเชิญและหนังสือรับรองให้ มาเที่ยวที่บ้านครั่งนี้เป็นครั้งที่3คะ ระหว่างที่มาอยู่ก็พบรักกับคนลาว และไปยื่นคำร้องขอแต่งงานไว้แล้วก่อนกลับไปไทย อยากถามว่า ถ้าเพื่อนจะมาอีกในสิ้นเดือนเมษานี้ หรือประมาณเดือนพฏษภาคมโดยทางไม่มีหนังสือรับรองจากทางบริษัทเพราะได้ลาออกจากบริษํทแล้วเพื่อเตรียมตัวแต่งงานแล้วมาอยู๋ญี่ปุ่น และถ้าไม่มีหนังสือรับรองหรือจดหมายเชิญ จากทางพี่ จะสามารถขอวีซ่ามาอีกได้หรือไม่ โดยจะใช่ใบยื่นคำร้องขอแต่งงานประกอบการขอวีซ่าคะ ไม่ทราบว่าถ้าไม่ได้แต่งงานกับคนญี่ปุ่นวีซ่าจะออกให้ง่ายหรือแปล่าคะ..ขอบคุณมากคะ


โดย: paa IP: 27.133.82.196 วันที่: 20 เมษายน 2555 เวลา:8:20:54 น.  

 
เข้าใจเนอะ ก็ด้ววยความที่เป็นเด็ก ก็ตกใจ เก่งก็เคยเป็นนะ แบบมีคนมาโดนตัวน้ำตาร่วงเลย คนอื่นเค้าไม่เข้าใจนะ แบบเหมือนกับว่าเราเวอร์ไหม อะไรทำนองนี้


โดย: keng_toshi IP: 125.25.166.210 วันที่: 20 เมษายน 2555 เวลา:12:36:41 น.  

 
ปกติไม่ค่อยถือตัวเท่าไหร่ค่ะ แต่มันจะมีเซ้นส์เองว่าคนไหนทำเพราะทักทาย คนไหนทำเพราะมีหวังเล็กหวังน้อย ต้องบอกน้องค่ะว่าสมัยนี้ต้องสู้คน เอาศอกอาวุธคู่ตัวนี่แหละกันไว้แล้วตะโกนบอกน้องกาน่าว่า I dont like it!

บางทีขึ้นรถไฟแล้วมันเบียดกันมาก จะดูซ้ายขวาว่าหญิงหรือชาย ถ้าเป็นชายนี่เจอศอกคู่ดันไว้เลยค่ะ ตัวเองไม่ได้สวยหรือเซ้กซ๊่อะไรหรอกนะคะ แต่ไม่สบายใจ


โดย: มารน้อยไร้สังกัด วันที่: 22 เมษายน 2555 เวลา:1:03:52 น.  

 
ตอนนี้ พอดีมีชั้นเรียนเปิดเพิ่ม ก็เลยย้ายเด็กกาน่าไปเรียนห้องใหม่ คิดว่าปัญหาคงจบ เพราะอาทิตย์หน้าน้องก็จะกลับไทยแล้ว

เราว่าวิธีีที่ดีที่สุดคืออธิบายไปตามตรง แต่ถ้าน้องเค้าเลือกจะหลบหน้า เราก็คงไม่ทำอะไร จะเรียกเด็กกาน่ามาพูดฝ่ายเดียวก็ดูเหมือนไม่แฟร์

อาจารย์ญี่ปุ่นบอกว่า อย่าเอาเรื่องเด็ก ๆ มาเป็นอารมณ์มากไป เด็ก ๆ เดี๋ยวทะเลาะกัน เดี๋ยวก็ดีกัน อึม...หรือจะจริงอย่างที่อาจารย์ว่า


โดย: ปลาทองในกองหนังสือ วันที่: 24 เมษายน 2555 เวลา:12:36:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ปลาทองในกองหนังสือ
Location :
Kawasaki Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]




เป็นคนทำงานด้านเอกสารวีซ่านักเรียนของชาติต่าง ๆ ที่จะมาเรียนที่ญี่ปุ่น ในนั้นมีนักเรียนไทยประมาณ 10%

นอกจากนี้ยังเป็นล่ามจำเป็นให้นักเรียนเวลามีเรื่องกับตำรวจ หรือกรมตรวจคนเข้าเมือง

ดังนั้นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับนักเรียนที่เขียนในบล็อคจึงมักจะเป็นเรื่องของนักเรียนที่มีปัญหาเสียส่วนมาก ซึ่งเป็นนักเรียนส่วนน้อย ประมาณ 0.5% ของนักเรียนทั้งหมด ไม่ได้หมายความว่าที่ที่เราทำงานอยู่มีแต่เด็กมีปัญหาแต่อย่างใด
[Add ปลาทองในกองหนังสือ's blog to your web]