Home is behind The world ahead
<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
30 กรกฏาคม 2555

หลอกแต่งงาน เพื่อเอาวีซ่าติดตามคู่สมรส

        ตั้งแต่ทำงานอยู่ที่โรงเรียนภาษาญี่ปุ่น ฉันค้นพบว่าการแต่งงานกันเพื่อวีซ่าไม่ได้เป็นเรื่องแปลประหลาดอีกต่อไป ตั้งแ่ต่ทำงานอยู่ที่นี่ หนึ่งในร้อยคนของนักเรียนทั้งหมด ไม่ว่าเด็กไทย หรือเด็กต่างชาติ ไม่ว่าชายและหญิง จะมีวัตถุประสงค์ในการมาเรียนภาษาญี่ปุ่น หรือพูดง่าย ๆ ว่า มาถือวีซ่านักเรียน เพื่อจับผู้ชาย หรือผู้หญิงชาวญี่ปุ่น


        เร็ว ๆ นี้ นักเรียนชาวออสเตรีย เชื้อสายตุรกี ก็เดินควงแขนกับสาวใหญ่อายุ 50 ขึ้น ไปไหนมาไหน จนอาจารย์ของเราไปเจอเข้า อาจารย์ก็มาถามที่โรงเรียนว่า "แฟนคนใหม่หรือ?" 

        เป็นที่รู้กันว่าสาวญี่ปุ่นนิยมหนุ่มยุโรป อเมริกาขนาดไหน สาวน้อย สาวใหญ่ ใคร ๆ ก็นิยมหนุ่มฝรั่งกันทั้งนั้น 

        "ไม่ใช่อ่ะ คนนั้นลูกค้า " หนุ่มน้อยพูดยิ้ม ๆ หน้าตาเฉย "แฟนผมเป็นเด็กมหาลัยอยู่ปี 3 ชื่อ... ครับ" 

       "เ่อ่อ.... เธอทำงานพิเศษอะไรอ่ะ"  (ละไว้ในฐานที่ทุกคนเข้าใจ ระวังตำรวจเข้าไปจับนะเออ) 

       "แล้วถ้าเรียนจบแล้ว คิดจะทำอะไรต่อที่ญี่ปุ่น" อาจารย์ถามต่อ

       "แต่งงานคร้าบบบ" เธอตอบได้หน้าตาเฉย ถามส่งรอยยิ้มทะเล้น ๆ มาให้อาจารย์อีกต่างหาก  

        ใครจะเป็นผู้หญิงโชคร้ายคนนั้น คงต้องติดตามดูต่อไป 

นอกจากเรื่องเด็กออสเตรียนี่ ก่อนหน้านั้นก็มีหนุ่มอุซเบกิสสถาน ที่แต่งงานกับสาวญี่ปุ่นก่อนวีซ่าหมดเพียง 3 วัน...ได้ข่าวว่าหนึ่งเดือนก่อนหน้า พ่อหนุ่มยังไม่มีแฟน 

        แต่ที่สุดที่เราเคยเจอ คือ สาวไทย ที่โดนจับได้ว่าทำงานในผับ กำลังอยู่ระหว่างจะถูกส่งตัวกลับไทย น้องจำต้องเปลี่ยนเป็นวีซ่าแต่งงานโดยเร็วที่สุด น้องจึงพาแฟนมาที่โรงเรียน และแจ้งความจำนงจะเปลี่ยนเป็นวีซ่าแต่งงาน 

        ทางเราก็ไม่ว่าอะไร ถ้าเปลี่ยนวีซ่าเมื่อไหร่ น้องก็ไม่ใช่ธุระของโรงเรียน ที่จะต้องตามตัวให้กลับประเทศอีกต่อไป หลังจากนั้นน้องก็ทำเรื่องแต่งงานตามปกติ ขอใบรับรองความเป็นโสด ขอใบแจ้งคุณสมบัติแต่งงาน และเอกสารอื่น ๆ 

        ท้ายที่สุดฝ่ายชายที่เป็นลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น ถือสัญชาติญี่ปุ่น ก็บ่ายเบี่ยง อ้างนู้น อ้างนี่ ไม่ยอมไปจดทะเบียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนน้องทนไม่ไหว ลากไปจดทะเบียนที่อำเภอด้วยตัวเอง  เมื่อถึงที่ว่าการอำเภอ ก็ปรากฏว่า 

        ฝ่ายชายแต่งงานแล้ว ทำให้ทะเบียนสมรสซ้อนไม่ได้ 

        คิดดูแล้วกันว่า ความไปแตกที่อำเภอต่อหน้าเจ้าพนักงานจดทะเบียน สำหรับน้องผู้หญิง มันทั้งเจ็บ ทั้งอาย  ส่วนฝ่ายชายก็ไร้ความคิดมาก ๆ คิดได้ยังไงว่าจะจดทะเบีียนสมรสได้ ทั้ง ๆ ที่มีหญิงอื่นเป็นภรรยาอยู่แล้ว

        เรื่องแบบนี้ มันก็มีอยู่ในโลกใบนี้ด้วย เราไม่รู้ว่าน้องเค้ารักจริงหวังแต่งแต่โดยผู้ชายหลอก หรือน้องเค้าคิดจะจับผู้ชายแต่งงานเพื่อเอาวีซ่า แล้วโดนหลอกตลบหลังอีกที

        สำหรับเราการกลับไทยคงเป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับน้อง ทางโรงเรียนเราก็เมตตาน้องคนนี้มากที่สุด ก่อนหน้านั้นเคยมีเรื่องแบบนี้ ผ.อ.ไล่ออกโดยไม่ถาม ไม่ฟังเหตุผลใด ๆ ทั้งนั้น แต่เพราะน้องอายุเพิ่งจะย่าง 20 จะเด็กก็ไม่ใช่ จะผู้ใหญ่ก็ไม่เชิง ทางโรงเีีรียนจึงสั่งพักการเรียนและให้น้องเรียนต่อที่โรงเรียนจนหมดอายุวีซ่า

         ท้ายที่สุดเมื่อเรียนจบ น้องก็กลับไทย แล้วไปเข้าเรียนต่อที่มหาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ฉันหวังว่าน้องคงเีรียนรู้จากประสบการณ์ที่ผ่านมา และอยากจะฝากบอกคุณพ่อ คุณแม่ว่า อย่าส่งเด็กที่เพิ่งจบม.ปลาย มาเรียนต่อต่างประเทศ ถ้าไม่มีใครคอยดูแล เด็กยังไม่มีวุฒิภาวะพอและอาจก้าวพลาดได้  

         เรื่องราวแต่งงานกันหลอก ๆ หรือหลอกคนญี่ปุ่นมาแต่งงาน ยังคงมีมาให้เห็นเรื่อย ๆ เห็นหลายต่อหลายคนมองผู้หญิงไทยไม่ดี ฉันก็จะบอกว่าเรื่องอย่างนี้ มีได้ทุกชาติ ทุกภาษา ไม่ว่าชายหรือหญิง ไม่ได้จำเพาะแต่เป็นคนไทย เป็นหญิงไทย ขอให้มองเป็นรายบุคคล ด้วยใจเป็นกลาง




 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2555
4 comments
Last Update : 30 กรกฎาคม 2555 14:13:03 น.
Counter : 4121 Pageviews.

 

อ่านแล้วก็ แปลกเนอะ เด็กสมัยนี้ก็คิดอะไรแปลกๆ

 

โดย: เก่ง (keng_toshi ) 30 กรกฎาคม 2555 17:15:34 น.  

 

สวัสดีค่ะ ไม่ได้เจอกันนานเลย (><)/

เรื่องที่ คุณปลาทองในกองหนังสือ เล่าเราก็เห็นอยู่บ่อยๆ
แต่เราว่าเรื่องนี้ยังนับว่าดีนะคะที่เขาแต่งงานจริงๆ
แบบถึงจะมีจุดมุ่งหมายว่าเพื่อวีซ่าแต่ก็แต่งจริงๆ
เพื่อนเราที่เจอสิแย่ จ้างแต่ง เลยล่ะค่ะ ー -)
แถมชอบมองเหมารวมว่าคนไทยทุกคนที่แต่งกับคนญี่ปุ่นต้องจ้างแต่งเหมือนกันแน่นอน ฟังแล้วอารมณ์เสียทุกทีเลย -*-)

ในความคิดเราคนที่จ้างแต่งหรือแต่งเพื่ออะไรก็อาจจะดีกว่าคนที่ทำผิดกฏหมาย หรือ หนีวีซ่า อยู่บ้าง เพราะคนเหล่านั้นเราว่ายังพยายามที่จะทำให้ถูกต้อง และก็ยังเสียภาษีบ้าง

แต่ก็นะคะ ชีวิตคนเราเลือกทางเดินได้ เมื่อเขาเลือกทางนั้นก็ต้องปล่อยเขาไป ก็หวังว่าเขาจะโชคดีเจอคนที่ดี

แต่หนุ่มลูกครึ่งนั่นเลวมากเลย น้องเขาก็น่าสงสารที่ไปเผลอใจกับคนแบบนั้น หวังว่าเขาจะโชคดีหลังจากนี้

คิดถึง คุณปลาทองในกองหนังสือ มากเลยค่ะ ไว้จะแวะมาอ่านอีกนะคะ (^^)

 

โดย: แม่บ้านมือใหม่ IP: 111.171.231.235 30 กรกฎาคม 2555 21:50:05 น.  

 

ถูกใจ บรรทัดสุดท้ายของบล๊อกนี้ที่สุดในโลกค่ะ

 

โดย: Max Bulliboo 31 กรกฎาคม 2555 4:27:08 น.  

 

สวัสดีค่ะ

คุณเก่ง จริงค่ะ เดี๋ยวนี้เด็กบางคนมีความคิดแปลก ๆ มีค่านิยมที่เราไม่เข้าใจ หรือจริง ๆ แล้ว ปลาทองจะแ่ก่เกินเข้าใจความคิดวัยรุ่นซะแล้ว

คุณแม่บ้านมือใหม่ สวัสดีค่ะ เราไม่ได้เข้ามานานเลยค่ะ งานยุ่งมาก จนกระทั่งปิดเทอมหน้าร้อนเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว

เจ้าเด็กลูกครึ่งนี่มีดีที่หล่อค่ะ ครึ่งยุโรป ครึ่งเอเซีย(แขกขาว) หล่อได้ใจมาก ๆ เลยค่ะ นอกจากนี้ยังปากหวาน ทะเล้น อีกต่างหาก คบเป็นเพื่อน หรือคบเป็นแฟน ก็คงจะดีค่ะ แต่คบเพื่อเป็นคู่ชีวิต คงจะไม่ไหว (ใครจะเป็นเจ้าสาวผู้โชคร้ายก็ไม่รู้) ตอนนี้ยังเป็นนักเรียนอยู่ค่ะ ยังไม่รู้บทสรุป

คุณ Max Bulliboo จริงค่ะ หญิงไทยพอแต่งกับคนต่างชาติ มักถูกมองในแง่ร้าย ทั้งที่เรื่องแบบนี้มีแค่ผู้หญิงไทยบางส่วนที่ทำ แต่ก็โดนเหมารวมไปหมด



 

โดย: ปลาทองในกองหนังสือ 31 กรกฎาคม 2555 13:56:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ปลาทองในกองหนังสือ
Location :
Kawasaki Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]




เป็นคนทำงานด้านเอกสารวีซ่านักเรียนของชาติต่าง ๆ ที่จะมาเรียนที่ญี่ปุ่น ในนั้นมีนักเรียนไทยประมาณ 10%

นอกจากนี้ยังเป็นล่ามจำเป็นให้นักเรียนเวลามีเรื่องกับตำรวจ หรือกรมตรวจคนเข้าเมือง

ดังนั้นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับนักเรียนที่เขียนในบล็อคจึงมักจะเป็นเรื่องของนักเรียนที่มีปัญหาเสียส่วนมาก ซึ่งเป็นนักเรียนส่วนน้อย ประมาณ 0.5% ของนักเรียนทั้งหมด ไม่ได้หมายความว่าที่ที่เราทำงานอยู่มีแต่เด็กมีปัญหาแต่อย่างใด
[Add ปลาทองในกองหนังสือ's blog to your web]