Bloggang.com : the grinning cheshire cat : antipasti และ pasta ที่ Bella Napoli สุขุมวิท 31

antipasti และ pasta ที่ Bella Napoli สุขุมวิท 31

ภาพจาก bkkmenu.com

ไปกินร้านนี้มานานละ แต่ไม่ได้เขียนถึงสักที ทีนี้มะรืนจะไป Coffee Bean by Dao เลยต้องมาอัพซะหน่อย เรื่องจะได้เรียงตามลำดับเวลา (ยายนี่ตรรกะแปลกๆ)

รู้จักร้านนี้จากพี่ grappa พร้อม tagline พิซซ่าอร่อยที่สุดในประเทศไทย หรืออะไรประมาณนี้แหละ แต่พอไปกินเข้าจริงๆ ปรากฏว่า LMJ ติดใจ antipasti (เป็นพหูพจน์ของ antipasto ที่แปลว่าออร์เดิร์ฟ - LMJ ไม่ชอบคำว่า "อาหารเรียกน้ำย่อย" อย่างแรง ฟังแล้วชวนแหวะมากกว่าอยากกิน) กับพาสต้าของร้านนี้มากกว่าพิซซ่าเยอะเลย

ร้านอยู่ในซอยสุขุมวิท 31 ค่ะ อยู่ทางซ้่ายมือ หน้าต่างเป็นกระจกสี เข้าไปไม่ลึกก็เจอแล้วค่ะ ก่อนไปเสิร์ชในเน็ทดู พบเสียงก่นด่าบริการของร้านมากพอดู แต่ไปเข้าจริงๆ ก็ไม่มีอะไรน่ากลัว ซึ่งพี่ grappa สันนิษฐานว่า 1.คนไทยคาดหวังบริการแบบเอาใจเกินเหตุไป 2.ตอนที่ไปเป็นมื้อเที่ยง คนไม่เยอะ ถ้าไปตอนมื้อเย็นก็ไม่แน่ (อ้าว)

พอได้ืที่นั่งเสร็จสรรพเราก็สามารถสั่งจาน antipasti แล้วเดินไปตักได้ เป็นบุฟเฟต์แบบตักที่อยากกินได้ทุกอย่าง แต่ไม่ใช่ all you can eat นะคะ จานเล็กกับกลางตักได้ชั้นเดียว (ห้ามวางทับ) จานใหญ่ตักได้สองชั้น

ข่าวว่า antipasti นี่จะหมุนเวียนเมนูไปเรื่อยๆ ครั้งละประมาณสิบอย่าง มีสลัดด้วย แต่ LMJ เป็นสัตว์ชอบกินเนื้อค่ะ ไม่สน เมนูวันนั้นเท่าที่จำได้ก็มี ซี่โครงหมูอบ หอยแมลงภู่อบ มะเขือยาวอบ มันฝรั่ง ลูกชิ้น (meatball) ทุกอย่างหอม นุ่ม และฉ่ำมากๆๆๆๆๆ ให้กินแต่ antipasti อย่างเดียวยังได้เลยอ่ะ เพราะเขามีขนมปังให้ฟรีมาหนึ่งตะกร้าอยู่แล้ว ขนมปังก็กรอบนอก นุ่มใน หอมอร่อยเช่นกัน

นอกจากนั้นเราก็สั่งพาสต้าสองสีใส่กุ้งกับกั้งที่เป็นอาหารประจำวันมาค่ะ ปกติพาสต้าแบบไทยๆ นี่น่ะมักจะใช้เนยผัดใช่ไหมคะ ก็เลยไม่คุ้นกับน้ำมันที่นองอยู่ก้นจาน แต่กินได้ตามสบายค่ะ เพราะเป็นน้ำมันมะกอก ซึ่งเขาว่าเป็นน้ำมันคุณภาพดีอย่างหนึ่งของโลก

กุ้งแกะเปลือกหั่นเป็นชิ้นๆ เคี้ยวหนุบหนับมาก ที่สำคัญคือกั้ง ที่ LMJ ไม่เคยกินมาก่อนเลยค่ะ เขาจะผ่าครึ่งให้แคะเนื้อออกมาได้ง่ายๆ ผลการชิมคือกั้งหนึบกว่า เหนียวกว่า และคาวกว่ากุ้งค่ะ ถ้าให้เลือกคงเลือกกุ้งมากกว่า แต่ถ้าจำเป็นก็กินได้ค่ะ อ้อ พาสต้าสีเขียวกับเหลือง นุ่มเหนียวหนักแน่นมาก ชอบ

ระหว่างที่กินพาสต้ากันอยู่พิซซ่าก็ยกมาเสิร์ฟ แต่ด้วยความกำลังติดพันก็เลยไม่ได้กินทันที ทำให้พิซซ่าไม่ร้อนเท่าที่ควรแล้วค่ะ แล้วนอกจากนั้นพวกเราสั่งพิซซ่าหน้าสี่อย่างไป (เพราะพิซซ่าอิตาลีหน้าไม่อลังฯ เหมือนพิซซ่าไทยค่ะ หน้าหนึ่งๆ จะมีเนื้อสักอย่างกับผักสักสองสามอย่างเท่านั้น) แต่ปรากฏว่ามันเป็นพิซซ่าสี่หน้า คือโรยหน้าแยกกัน ไม่ได้คละกันเหมือนพิซซ่าไทย เลยกินกันด้วยความเกรงใจพิกล เพราะไปกันสามคน แต่พิซซ่าแต่ละหน้ามีสองชิ้น จะกินหน้าไหนก็กลัวอีกสองคนจะชอบหน้านั้นแล้วอดกินไปด้วย

หรือไม่ก็เพราะตั้งความหวังไว้มากว่าจะอร่อยที่สุดในประเทศไทยนั่นเอง เลยผิดหวัง และรู้สึกว่ามันไม่อร่อยเท่าที่ควร

ก่อนหน้านี้ได้ยินเสียงเล่าลือมาว่าร้านนี้เสิร์ิฟพาสต้าในหม้ิอดินมีแผ่นแป้งปะหน้า แต่พาสต้าสองสีที่กินไปเสิร์ฟมาในจานธรรมดานิ อย่ากระนั้นเลย ต้องสั่งต้นตำรับมาลองเสียหน่อย ได้พาสต้าซีฟู้ดที่เรียกว่า Misto Mare มากินกันค่ะ กุ้งทั้งตัว อร่อยมากๆ เส้นก็เหนียวนุ่มอร่อยจริงๆ แต่ที่เด็ดมากคือแผ่นแป้งที่เขาตั้งใจจะเอาไว้กักความร้ัอนก่อนเสิร์ฟนั่นแหละคะ อร่อยมากๆ หอมนุ่มกรอบ เคี้ยวหนึบๆ เด็ดขา่ดที่สุด

ทั้งหมดนี้กินแกล้ม house wine ที่อร่อยพอควร แต่ maewpilar ที่ไม่ดื่มไวน์บอกว่าเหมือนกินยาธาตุ หง่ะ

ปิดท้ายด้วยขนมสุดโปรดอย่างหนึ่งของ LMJ ทีรามิสุค่ะ รสชาติพอใช้ แต่บรรยายละเอียดไม่ได้ ลืมไปหมดแล้ว พี่ grappa บอกว่า panna cotta ของที่นี่ก็อร่อย แต่ไม่มีโอกาสได้ลองชิม

ร้านเปิดสองรอบนะคะ มื้อเที่ยงรู้สึกจะสิบเอ็ดโมงครึ่งถึงบ่ายสอง แล้วก็มื้อเย็น วันธรรมดาหกโมง เสาร์อาทิตย์ห้าโมง ถึงเที่ยงคืนค่ะ

อ้อ ต้องให้ดาวด้วยนิ สี่ดาวครึ่งแล้วกันค่ะ ****1/2

Create Date : 12 พฤศจิกายน 2549

Last Update : 17 ตุลาคม 2551 19:58:38 น.

12 comments

Counter : 1724 Pageviews.