ชอบในสิ่งที่เลือก กับเลือกในสิ่งที่ชอบ อยู่ที่คุณตัดสินใจ ชีวิตของคุณ คุณคือผู้ลิขิต
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2550
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
7 สิงหาคม 2550
 
All Blogs
 
ผ่านไปเจอ

เวลาที่ผ่านไปแล้วไม่อาจหวนกลับคืนมา แต่ในบางเรื่องราวที่ผ่านไปก็ไม่ได้ล่วงเลยไปตามกาลเวลาเสมอ เหมื่อนชายคนนี้ที่ฉันได้พบเจอ แม้เวลาจะผ่านไปแล้วถึงหนึ่งปีเต็มที่เราไม่ได้เจอกัน แต่เขาก็ไม่เคยจางหายไปจากความทรงจำของฉัน แม้จะเป็นการพบเจอกันเพียงไม่กี่ครั้งก็ตาม
ฉันได้พบกับเขาในบ่ายวันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน 2549 จำได้ว่าวันนั้นฉันเป็นโรคตาแดง ฉันจึงไปหาหมอที่โรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่ง พร้อมกับสายชลเพื่อนสาวของฉัน เขามีผมยาวหยักโศก ผิวคล้ำ ตัวผอม สูงประมาณ 160 เชนติเมตร เขาใส่เสื้อยืดสีขาว กางเกงยีนขาดรุ่งริ่งบริเวณหัวเข่า ในเวลานั้นฉันสับสนว่าว่าเขาเป็นศิลปินอย่างที่ฉันอยากให้เป็น หรือว่าจะเป็นคนสติไม่ดีกันแน่
แต่เขาทำให้ฉันรู้สึกประทับใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบ ด้วยบุคลิกลักษณการแต่งกายที่แปลกตากว่าคนอื่นๆ การที่เขาเขาเดินเข้ามาทักเราสองคน และถามคำถามแปลกๆแต่น่าคิด ยิ่งเพิ่มความประทับใจแรกพบมากขึ้น โดยมีข้อแม้ว่าห้ามตอบซ้ำกัน
“รักอ่าน รักเรียน รักเขียน รักอ่านอะไร” (เขาถาม)
“รักการอ่านหนังสือสิค่ะ” (สายชลตอบ)
“รักที่จะอ่านเหตุการณ์สิ่งรอบข้างต่างๆค่ะ” (ฉันตอบ)
“รักเขียน รักอะไร” (เขาถามต่อหลังจากที่ไต้คำตอบของคำถามแรก)
“รักการเขียนหนังสืฮ” (สายชลตอบ)
ก็สายชลดันตอบตรงกับความคิดของฉันชะขนาดนี้แล้วฉันจะตอบอะไรดีละ เขามองหน้าฉันเหมือนจะบอกว่ากำลังรอคำตอบจากฉัน
“รักที่จะเขียนในสิ่งที่ชอบ เขียนในสิ่งที่ใช่ และเขียนในสิ่งที่อยากเขียน”
“แล้วเขียนจบไหม”
คราวนี้เราสองคนก็มองหน้ากันแบบงงๆประมาณว่าไม่เข้าใจคำถาม แล้วไม่นานเขาก็ถามคำถามเดิมอีก แต่คราวนี้ขยายใจความให้เข้าใจมากขึ้น
“ว่าไงเขียนจบไหม ชีวิตวัยรุ่นนะเขียนจบไหม”
“ไม่จบค่ะ” (สายชลตอบ)
“ทำไมไม่จบ” (เขาถามสายชล)
“ก็ชีวิตวัยรุ่นมันมีเรื่องราวมากมายที่ไม่อาจเขียนให้จบทั้งหมดได้สิค่ะ” (สายชลตอบ)
“แล้วเราละว่าไง” (เขาถามพร้อมกับพยักหน้ามาทางฉัน)
“...การเขียนเหรอค่ะ สำหรับหนูมันไม่มีวันสิ้นสุดหรอกค่ะ ตราบใดที่ยังอยากจะเขียนเพราะจะมีเรื่องอีกมากมายให้เราเขียน แต่การเขียนชีวิตวัยรุ่นของหนู หนูว่าจบนะเมื่อถึงเวลาเวลาหนึ่ง แล้วมันก็จะกลายเป็นความทรงจำที่ดีตลอดไป” (ฉันตอบ)
ระหว่างที่เราสามคนคุยกันนั้น เรานั่งที่ม้านั่งหน้าห้องยา ฉันแอบสังเกตุเห็นเภสัชกรที่อยู่ในห้องยาสองถึงสามคน มองมาทางเราแปลกๆ มีเภสัชกรคนหนึ่งยิ้มให้ฉันหลั่งจากที่รู้สึกตัวว่าฉันกำลังมองเขาอยู่ ตอนนี้ฉันชักจะแปลกใจเมื่อสังเกตุเห็นว่าไม่ใช่เพียงพี่เภสัชกรเท่านั้นที่มองมาทางเรา คนส่วนใหญ่ก็มองมาทางเราด้วย
และการสนทนาก็มาหยุดชะงักลงตอนที่ฉันได้ยินเสียงคล้ายคนเรียกชื่อของฉัน เป็นเสียงพี่เภสัชกรที่เรียกฉันให้ไปรับยา ฉันจึงบอกพี่เขาแล้วลุกขึ้นเดินไปรับยา แต่กลายเป็นว่าพี่เภสัชกรเรียกชื่อผิด ฉันจึงกลับมานั่งที่เดิม พอกลับมาพี่เขาก็ชวนคุยต่อ
“อยากเป็นลูกศิษย์ของดอกหญ้าจำแลงไหม” (เขาถามพร้อมมองหน้าเราสองคน)
“อยากเป็นสิค่ะ” (เราตอบแทบจะเป็นเสียงเดียวกัน)
“อยากเรียนอะไรล่ะ” (เขาถาม)
“อักษรค่ะ” (ฉันตอบอย่างมันใจ)
เขาพยักหน้าแล้วหันไปทางสายชล
“สัตวแพทย์ค่ะ” (สายชลเองก็คงจะตอบด้วยความมั่นใจเช่นกัน)
การสนทนาก็หยุดชะงักลงเป็นครั้งที่สอง แต่คราวนี้พี่เภสัชกรเขาเรียกชื่อฉันจริงๆ ฉันจึงเดินไปรับยา แล้วจึงขอตัวกลับบ้านหลังจากที่รับยาเสร็จแล้ว เพราะยังต้องกลับไปเรียนต่อ
หมอนัดให้ฉันมาดูอาการอีกทีวันที่ 6 กรกฏาคม 2549 ฉันตั้งใจว่าถ้าเจอเขาอีกที ฉันจะต้องถามชื่อเขาเป็นอันดับแรก และคงจะทำความรูจักกับเขามากกว่านี้ มันก็แปลกดีที่เราอยากรู้จักเขาทั้งๆที่พึ่งเคยเจอกัน และก็ไม่แน่ใจด้วยช้ำว่าเขาเป็นใคร
ดูจากท่าทางภายนอกเขามีลักษณะกล้ำกึ่งระหว่างศิลปินกับคนสติไม่ดี แต่งตัวคล้ายกับศิลปินแต่ก็ไม่ต่างจากคนสติไม่ดี แต่การพูดจาดูมีหลักการ หากฉันตัดสินตัวเขาจากภายนอกก็คงคิดว่าเข่าเป็นคนสติไม่ดี แต่ถ้าดูจากการพูดคุยก็เหมือนกับคนสติดีๆนี้เอง
จึงอยากพบเขาอีกครั้ง อยากจะหาคำตอบให้กับคำถามที่ค้างคาใจ เพราะยังรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ทำความรู้จักเขามากกว่านี้ แล้วฉันก็ได้เจอเขาจริงๆ แต่ฉันไม่ได้เข้าไปทักเขาอย่าวที่ตั้งใจไว้ ปริศนาที่อยู่ในใจถูกไขออกจนหมดสิ้นจากปากของพี่เภสัชกรว่าเขาป่วยสติไม่ดี เพราะเคยเสพยาเสพติตมาก่อน จึงมารักษาตัวที่โรงพยาบาล
รู้สึกเสียดายโอกาสที่วันนั้นตัวเองปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่ได้ทำอย่างที่ตั้งใจไว้ แต่เวลามันได้ผ่านไปแล้วคงมิอาจย้อนกลับ จะจดจำไว้ว่าครั้งหนึ่งฉันได้พบกับเขาศิลปิลของฉัน มันจะกลายเป็นอีกเรื่องราวความประทับใจ ว่าครั้งหนึ่งเคยเจอเหตูการณ์และใครบางคนที่ทำให้ฉันประทับใจ และจะเป็นกำลังใจห็เขาหายเร็วๆค่ะ




Create Date : 07 สิงหาคม 2550
Last Update : 9 กันยายน 2550 11:48:39 น. 2 comments
Counter : 401 Pageviews.

 
สวัสดีจ้ะหลานรัก


เพิ่งเห็นรูปหน้าหนูตรง profile
ถ้าพบเจอที่อื่นก็จำไม่ได้แล้ว


แต่ตอนนั้นลุงจำเด็กหญิงคนหนึ่งที่พูดจาซักถามวิทยากรฉะฉาน
และยังส่งจดหมายมาถึงลุงอีก

ยินดีที่ได้มาพบกันตรงนี้
เขียนหนังสือให้สม่ำเสมอนะหลานรัก



โดย: พ่อพเยีย วันที่: 7 สิงหาคม 2550 เวลา:17:21:32 น.  

 
สวัดดีค่ะลุงโดม
หนูเองก็รู้สึกดีที่ครั้งนั้นหนูได้ไปเข้าค่ายที่นั้น
ทั้งที่ตอนแรกหนูก็เกือบจะไม่ไปเพราะไม่มีเพื่อนรุ่นเดียวกันสนใจจะไปเลยเพราะเป็นช่วงปิดเทอมพอดี
เพื่อนๆต่างก็มีเรียนพิเศษบ้างไปเทียวต่างจังหวัดบ้าง
แต่ก็มีอะไรบางอย่างที่ทำให้หนูตัดสินใจที่จะไป
ทั้งๆที่ปรกติแล้วเราจะไปกันทั้วแก้งค์
อย่างตอนนั้นเพื่อนๆของหนไปเรียนพิเศษที่เชียงใหม่
สรุปว่าตอนนั้นมีหนูคนเดียวที่ไม่ไปกับเพื่อน

และหลังจากเข้าค่ายหนูก็รู้สึกว่าอยากเขียน
ก็คอยนั่งเขียนบันทึกความประทับใจเรื่องราวในชีวิตแต่ละวัน บ้างครังก็เป็นการเขียนความรู้สึกของตนเอง

หนูเองก็รูสึกขอบคุณที่ได้รู้จักกับลุง
และทำให้หนูได้ทำในสิ่งที่ตนชอบ
หนูจะพยามแบ่งเวลาไห้ดีค่ะระหว่างเรียนกับการเขียนบล็อก


โดย: lukkongpoka วันที่: 11 สิงหาคม 2550 เวลา:12:49:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

lukkongpoka
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add lukkongpoka's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.