90 Days-Falling In Love Days ปวดใจมากมาย น้ำตาไม่รู้มาจากไหน
หลังจากดู Taste sweet love จบวันเสาร์ ฝืนทนดูหน้านางเอกมาก ๆ วันอาทิตย์เลยบอกตัวเองเลยว่า อยากดูซีรี่ย์ซึ้ง ๆ เศร้า ๆ ขออิน ๆ ร้องไห้ ๆ เลยนะ ไปค้นซีรี่ย์ที่ซื้อมา ทุกซีรี่ย์ที่ซื้อไม่เคยเข้าไปดูเรื่องย่อก่อนเลยซักเรื่อง ขอแค่เป็นซีรี่ย์เกาหลีที่พอคุ้น ๆ ว่ามีคนในเน็ทแนะนำหรือเป็นเรื่องใหม่ก็ซื้อมาหมดเลย
พอคุ้น ๆ ว่าเรื่อง 90 days มันเป็นเรื่องเศร้า แล้วก็คุ้นอีกว่ามีคนบอกว่าไม่สนุก บ้างก็ว่าน่าเบื่อ น่ารำคาญ ยืดเยื้อ ก็เลยเอาวะ ซื้อมาแล้วก็ต้องดู ไม่งั้นเปลืองตัง ถ้าดูแล้วไม่สนุก น้ำตาไม่ไหลนี่เซ็งเลยนะ เพราะเคยดู Autumn in my heart หรือ Im sorry, I love you หรือ Thank you ที่เค้าว่าเศร้านัก เศร้าหนา ซึ้งนัก ซึ้งหนา ยังเอาน้ำตาเราไปไม่ได้ซักกะหยด แค่มีแอบคลอ ๆ นิดหน่อยเอ๊ง
เปิดมาปุ๊บ อ้าว นางเอกเรื่อง Romance 19*25 สูตรคูณหัวใจที่เล่นเป็นคุณครูที่เราชอบนี่หว่า ชอบนางเอกแบบนี้อ่ะ น่ารัก ตาโต ๆ ดูหน้าพระเอก อ้าว เรื่อง Exhibition of firework ที่มันน่าเบื่อ ๆ นี่หว่า
พอเริ่มดูตั้งแต่ 9 โมงเช้าวันอาทิตย์ โห ไอ้เรื่องนี้.... เล่นเอาน้ำตาชั้นไปตั้งแต่ตอนแรกเลยเหรอวะ สุด ๆ อ่ะ ตอนแรกกระชับดี ดูไปเรื่อย ๆ แบบคนกระหายน้ำ อยากรู้ว่าตอนต่อ ๆ ไปจะเป็นยังไง เพราะสำหรับเรา เรื่องนี้มันสนุกอ่ะ แทบไม่ได้กรอ forward เลย ดูแล้วปวดใจตั้งแต่ตอนแรกเลย รู้เลยว่าสุดท้ายพระเอกต้องตาย แต่อยากรู้ว่าตายเดี่ยวหรือตายคู่นะ ตอนที่ 2 น้ำตาไหลอีกแล้ว ดูไปประมาณ 12 ตอนตั้งแต่ 9 โมงเช้ายันเที่ยงคืน น้ำตาไหลเป็นระยะ ๆ ตลอดทั้งวัน เศร้าก็จริงนะ แต่ไม่น่าเบื่อเลยสำหรับเรา แอบเชียร์พระเอก นางเอกนะ ถึงแม้ว่าบางคนจะดูว่ามันเป็นหนังชู้ก็เถอะ พระเอก นางเอกเล่นเก่งมาก ถึงอารมณ์สุด ๆ บางตอน คุยโทรศัพท์กัน เค้าไม่พูดอะไรกันเลย น้ำตาไหลกัน 2 คน ทำเอาคนดูน้ำตาไหลไปด้วยเลย
ตื่นเ้ช้ามาดูอีก 5 ตอนสุดท้ายตั้งแต่ 10 โมงยันบ่ายแก่ ๆ ก็เอาอีกแล้ว ร้องเป็นระยะ ๆ แล้วมาโฮ แบบว่า ร้องมากมายเอา 2 ตอนสุดท้าย เล่นเอาแว่นมัวเพราะคราบน้ำตาเลย จะไม่ใส่ก็ไม่ได้เพราะสั้นตั้ง 500 หน้านี่เหนียวไปหมด เพราะน้ำตามันเลอะเทอะเต็มหน้าไปหมด เพิ่งเคยร้องไห้เยอะ ๆ สะอึกสะอื้นเป็นชั่วโมงแบบนี้ครั้งแรกเลยมั้ง แล้วเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องแรกที่ทำให้น้ำตาเราไหลได้ แถมยังมากมายด้วย ดีนะไม่ดูจบตอนเข้านอน ไม่งั้นพรุ่งนี้ไปทำงานแบบตาบวมแน่ ๆ
ดูจบปุ๊บ รีบมาอัพบล็อคเลย ปวดใจจัง บีบคั้นจัง อินจัง ประทับใจจัง (ขออภัยมีจังเยอะไปหน่อย) ความรู้สึกเหมือนตอนดู Cloud Stairway จบเลย แต่อันนั้นมันจบ happy น่ะนะ แต่ความรู้สึกเดียวกันก็คือรู้เลยว่าพระเอก นางเอกเค้ารักกันมาก มีความทรงจำตั้งแต่สมัยมอปลายเหมือนกัน แล้วเค้า 2 คนก็เจ็บปวดกับความรักผิดเวลาเหมือนกัน
ถ้าให้คำนิยามซีรี่ย์เรื่องนี้คำเดียวนะ ขอให้คำนี้เลย ปวดใจ มันปวดใจตั้งแต่ตอนแรกยันตอนสุดท้ายเลย แต่ชอบเรื่องนี้นะ สนุกดี ชอบ ๆ น่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง แถมยังเีรียกน้ำตาได้ทั้งเรื่องเหมือนกัน ดูแล้วรู้สึกว่าทุกตัวละครนี่ทุกข์กันหมดเลย แต่เค้าก็ทุกข์เพราะมีเหตุผลของเค้า ไม่มีใครถูก ไม่มีใครผิด
นอกจากความรู้สึกปวดใจแล้ว มันก็รู้สึกอบอุ่นแบบบอกไม่ถูกเหมือนกันนะ แม้จะไม่อบอุ่นแบบเปลี่ยนนิสัยคนแบบ Thank you แต่ก็อบอุ่นในความรักที่ยาวนานตั้งแต่สมัยเรียนของพระเอก นางเอก อบอุ่นกับการเติมเต็มสิ่งที่ขาดไปสมัยเรียนให้แ่ก่กันและกันเพียงวันเดียวของทั้งคู่ อบอุ่นในความรักของเพื่อนพระเอก ที่คอยช่วยเหลือกันมาอย่างยาวนานจนถึงปัจจุบัน
ชอบ 2 ตอนสุดท้ายมากเลย (ทั้งที่คนอื่น ๆ จะไม่ชอบ 2 ตอนสุดท้ายเพราะเค้าบอกว่ามันยืดเยื้อ น่าเบื่อ) ชอบเพราะเค้าเอาพระเอก นางเอกตอนปัจจุบันอายุ 30 แล้ว ไปอยู่ในสถานที่สมัยที่ทั้ง 2 คนยังอยู่มอปลายที่เกาะเจจู ได้ทำอะไรดี ๆ ร่วมกันแล้วก็พลัดพรากจากกันทั้ง ๆ ที่รักกันมาก
ถ้าเรื่องอื่นก็อาจจะทำแค่ พระเอกหรือนางเอกเดินผ่านที่ ๆ เคยทำอะไรร่วมกัน แล้วภาพก็ตัดย้อนไปสมัยมีความสุข แต่เรื่องนี้เค้าเอาอดีตมาผสมกับปัจจุบันเลย แปลกดี แล้วก็ชอบมากด้วย
ชอบตอนที่พระเอกไปที่ทะเลเกาะเจจูแล้วพูดความในใจให้นางเอกรับรู้ แต่คนที่ฟังเป็นนางเอกสมัยมอปลายใส่ชุดนักเรียนมาแอบนั่งฟังแบบแบ๊ว ๆ ไม่รู้อิโหน่อิเหน่
หรือตอนนางเอกปัจจุบันนั่งรถกลับก็มีฉากที่พระเอกสมัยมอปลายขี่จักรยานตาม หรือตอนที่พระเอกยืนดู ตัวเองกับนางเอกสมัยมอปลายซ่อมจักรยานตรงที่จอดจักรยานในโรงเรียน หรือแม้แต่ภรรยาพระเอกไปกดตู้ชาก็สวนทางกับนางเอกตอนมอปลายที่จะไปกดชาให้พระเอกเหมือนกัน แต่สมัยโน้นกับสมัยนี้ราคาไม่เหมือนกัน
เราว่าคู่รักที่รักกันมานาน ๆ มีอดีตและความทรงจำดี ๆ ร่วมกันมาตั้งแต่สมัยเรียนมอต้น มอปลายนี่น่าอิจฉามากนะ เรามักจะอินกับอะไรแบบนี้จัง เพราะเค้าดูมีอดีตที่ยาวนานร่วมกัน เหมือนถ้าเรากลับไปโรงเรียนที่เราเคยมีความทรงจำร่วมกัน ตะกอนแห่งความสุขในอดีตมันก็จะฟุ้งกระจายขึ้นมาทั่วบริเวณนั้นจนเรารู้สึกได้
เหมือนกับที่พระเอกพูดกับนางเอกว่า
เกาะเจจู มันเต็มไปด้วยความทรงจำเรื่องของเธอ
แล้วก็บอกอีกตอนนึงว่า
คงเป็นเพราะความทรงจำที่ฉันรักเธอมากแล้วทิ้งเธอไปมันฝังลึกอยู่ในยีนฉันซะแล้ว ต่อให้ตายไปก็ลืมเธอไม่ได้ ฉันหนีความว่างเปล่าในใจฉันไม่เคยพ้นเลย
นางเอกก็น่ารักนะ เพราะความที่หูตัวเองใช้การไม่ค่อยได้ข้างนึง แต่ก็ได้คำพูดจากพระเอกบอกว่า
แม้เธอจะได้ยินไม่ชัด แ่ต่เธอก็ได้ยินในสิ่งที่คนอื่นไม่ได้ยิน
นางเอกจะรู้ว่าแม้พระเอกจะยิ้มให้ แต่ภายในรอยยิ้มนั้นก็ซ่อนความเจ็บปวดไว้ข้างใน
หนังทำให้รู้เลยว่าพระเอก นางเอกคู่นี้เค้ารักกันมากขนาดไหน
ถึงจะเป็นหนังชู้ก็เหอะ แต่เราดูแล้วก็ยังเชียร์พระเอกกับนางเอกนะ แอบไม่รู้สึกผิด แล้วก็ไม่รู้สึกสงสารภรรยาพระเอก
หรือ สามีนางเอกเลย
ก็รู้นะว่าเค้าไม่ได้ทำผิดอะไร แต่ความรักมันห้ามกันได้ง่าย ๆ ซะที่ไหนล่ะ อีกอย่าง พระเอกก็มีเวลาไม่มากนักด้วย เค้าก็พยายามหักห้ามใจตัวเองกันมาตั้งหลายครั้ง เหมือนตอนนึงที่นางเอกสับสนมาก ๆ จนต้องออกไปวิ่งที่สนามกีฬาแล้วพูดกับตัวเองว่า
การวิ่งมาราธอน พอวิ่งเหนื่อยจนหายใจไม่ทัน หัวใจก็เจ็บจนเหมือนจะระเบิด แต่เรากลับรู้สึกสบายใจ เรียกว่าเราได้ไปถึงขีดสุด เป็นความสุขที่ได้จากการวิ่งผ่านความทรมาน พอฉันนึกถึงการวิ่งไปสู่ขีดสุดของความทรมานนี้ ตรงขีดสุดนั้น... จะมีใครยืนอยู่นะ จะมีอะไรรอฉันอยู่ตรงนั้น ฉันจะมีลมหายใจเฉือกต่อไปไหมนะ
เวลายิ่งมีน้อย กลับต้องมาทิ้งให้กับทิฐิของกันและกัน เหมือนที่คุณลุงในโรงพยาบาลที่พระเอกช่วยแกะลูกอมให้ถามว่าพระเอกเป็นมะเร็งใช่มั้ย พระเอกก็ตอบว่าใช่ คุณลุงเลยเตือนสติพระเอกประมาณว่า ยังไงตอนจะตายก็ทุกข์อยู่แล้ว จะต้องมารีบทุกข์ทำไมตั้งแต่วันนี้ ใช้ชีวิตให้มีความสุขเถอะ
มันก็ยากนะ ถ้าเรามีเวลาเหลืออยู่บนโลกนี้แค่ 90 วัน แล้วเราจะเลือกอะไรระหว่าง ความรัก กับ ความถูกต้อง
Create Date : 19 พฤษภาคม 2551 |
|
20 comments |
Last Update : 28 ธันวาคม 2557 16:56:46 น. |
Counter : 4419 Pageviews. |
|
|
|