Life 3
ย้อนกลับไปเล็กน้อย ในสนามแข่งที่เสียงเชียร์กำลังกระหึ่มกึกก้อง โฆษกของสนามแข่งได้อธิบายระบบการแข่งเรทเกมในครั้งนี้ที่ต่างออกไปจากทุกครั้ง เพราะจะไม่ได้เป็นทีมแบทเทิลระหว่าง 2 ทีมใหญ่ตรงๆเหมือนรอบก่อนหน้า แต่จะเป็นลักษณะการ 'จับคู่ประลอง' ภายใต้เงื่อนไขแบบสุ่มด้วยให้คิงของแต่ละฝ่ายทอยเต๋าคนละ 1 ลูกแล้วหาแต้มรวม โดน 12 คือจำนวนเลขสูงสุด
พอนแต่ละตัวมีค่า = 1
ไนท์ = 3
บิชอบ = 3
รุค = 5
ควีน = 9
คิง (รีอาส) = 8
คิง (ไซร็อจ) = 12
ในเกมแรกผลการทอยเต๋า (1:3) ได้ผลรวม 4 ดังนั้นคนที่สามารถลงได้ในทีมเกลมอรี่ จึงมีแค่ ไนท์ และบิชอพ ส่วนอิตเซย์นั้นเนื่องจากใช้พอนถึง 8 ตัวในร่างจึงไม่สามารถลงแข่งได้ สมาชิกตัวเลือกของรีอาสจึงมีแค่ อาเชีย แกสเปอร์ เซโนเวีย และคิบะ ซึ่งกรณีการต่อสู้แบบ 1-1 นี่ทั้งอาเชีย-แกสเปอร์ซึ่งเป็นสายสนับสนุนไม่เหมาะสมแน่นอน
"ผมอาสาไปเองครับ"
คิบะพูดด้วยสีหน้าสบายใจ
"แน่ใจนะ ยูโตะคุง?"
"ครับผม! นี่พึ่งเกมแรก ดาบเซโนเวียน่าจะเก็บไว้อย่าพึ่งให้ใครรู้มากเกินไปจะดีกว่า"
จำนวนรวมสูงสุด (Maximum Roll) จะบอกว่าคิงสามารถส่งผู้เล่นลงสนามได้ทั้งหมดเท่าไหร่ โดยไม่เกินจำนวนสูงสุดที่ทอยเลขได้ ซึ่งจะเป็นการวัดความสามารถเชิงกลยุทธ์วางแผนหาจุดอ่อนและวิธีการเอาชนะทางกันระหว่างผู้แข่งแต่ละฝ่ายอีกด้วย หากผู้แข่งขันคนไหนแพ้ก็ถือว่า out และจะไม่สามารถวนกลับมาแข่งได้อีก ถ้าการทอยเกิดไม่สามารถหาผู้เล่นลงได้เลยจะทอยใหม่จนกว่าจะได้ตัวเลขที่ลงตัวกับจำนวนสมาชิกนั้นๆ
เสียงประกาศดังลั่นไปทั่วเวที พร้อมกับเสียงเฮขานลับมาจากผู้ชม/ผู้เชียร์ของทั้งสองทีมที่กำลังลุ้นอย่างใจจรดใจจ่อ
[คู่ที่1: คิบะ ยูโตะ(ไนท์) VS เบลูก้า เฟอร์คาส(ไนท์)]
[!!เริ่มได้!!]
นักรบหนุ่มรูปร่างงดงามคนนึงราวกับเจ้าชายยืนม้าประจันหน้ากับคิบะ และเขาได้ประกาศตนอย่างรู้ธรรมเนียมของการต่อสู้ทีเดียว
"ข้าพเจ้าคืออัศวินผู้รับใช้ นายเหนือหัวแห่งบารล์ 'ไซร็อจ' นาม 'เบลูก้า เฟอร์คาส' !!"
ตระกูลเฟอร์คาสนั่นมีชื่อเสียงมาหลายชั่วอายุคนทั้งด้านอัศวิน นักรบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 'อัศวินอาชา' จนตระกูลนี้จะได้ชื่อว่าเป็นเลิศที่สุดในบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการควบขี่พาหนะอย่างยิ่งเลยทีเดียว
"ผม อัศวินแห่งรีอาส เกลมอรี่, คิบะ ยูโตะ ยินดีที่ได้พบท่าน.."
เขาทักทายกลับด้วยรอยยิ้มเช่นเดียวกับฝ่ายตรงข้าม
"....ข้าพเจ้าโชคดีจริงๆ ทั้งในฐานะอัศวินที่ได้รับใช้นาย และนายท่านก็ให้โอกาศแสนประเสริฐที่หาได้ยากยิ่งเช่นนี้ เวลาที่จะได้ปะทะกับดาบ 'ปีศาจศักดิ์สิทธิ์' อันลือนามท่านคิบะ ยูโตะ"
"ท่านยกยอผมเกินไปแล้ว อันที่จริง ผมต่างหากที่เฝ้ารอจะได้ประลองกับท่านเบลูก้า"
ม้าของเฟอร์คาสที่กำลังควบเยาะอยู่ตรงหน้าคิบะนั่นเองก็มีชื่อเสียงไม่น้อย ตามที่เขาศึกษามาก่อน- พวก 'อาชาหมอก' สิ่งมีชีวิตนึงที่อาศัยอยู่ในส่วนที่ลึกที่สุดของนรกโคคิวโทส พาหนะที่ได้ชื่อว่ารวดเร็วล้ำเลิศ แต่พยศเหลือร้าย ใครก็ตามที่ไม่ใช่เจ้านายที่มันยอมรับจะถูกเตะกลิ้งถึงตายเลยทีเดียว
เหมือนจะเห็นว่าคิบะกำลังจ้องมองม้าคู่ใจตัวเองอยู่ เบลูก้าจึงแนะนำคู่หูของตนต่อ
"นี่เป็นม้าตัวโปรดของข้าพเจ้าเอง อัลโทรบรัวซ์-เจ้าลมกรด ท่านคิบะ, เราปรารถนายิ่งที่จะได้สู้กับท่านอย่างจริงจังในวันนี้.."
[[การแข่งขันรอบที่ 1]]
เสียงของโฆษกที่ประกาศแจ้งเตือนดังไปทั่ว เขามีทั้งการอธิบายความเป็นมา ประวัติสังเขปของทั้งคู่ แต่นั่นยังไม่ใช่ความสนใจของคิบะและเฟอร์คาสในตอนนี้
"ขอข้าและอับโทรบรัวซ์ ได้ท้าทายความเร็วไร้ที่เปรียบของท่านคิบะดูหน่อย ว่าข้าพเจ้าสามารถเทียบเคียงท่านได้หรือไม่!"
เบลูก้าร้องเตือนก่อนจะหายตัวไปจากสายตาของผู้ชม
(เร็ว!)
ม้าของเฟอร์คาสนั้นเคลื่อนไหวแบบรวดเร็วมากทีเดียว ในจังหวะแรกนั้นคิบะยังขยับตัวไม่ทันด้วยซ้ำแต่ยังสามารถบล็อคการโจมตีของหอกยาวจากด้านข้างเอาไว้ได้ ก่อนที่ไนท์หนุ่มแห่งทีมเกลมอรี่จะเริ่มออกตัวแสดงความเร็วของเขาให้เห็นกันโดยสเต็ปออกไปด้านข้างทิ้งให้ฝีเท้าม้าของเบลูก้าวิ่งผ่านไปแบบฉิวเฉียด
"ไม่ง่ายเช่นนั้นหรอกท่าน!"
คิบะพูดโดยที่ไม่มีใครมองร่างจริงของเขาเห็น เพราะยังไม่ทันพูดจบเลยดาบของคิบะก็พุ่งไล่หลังเบลูก้าไปแทบจะถึงตัวแล้ว
ประกายแสงของโลหะแวววับ
เสียงเฮของผู้ชมทั้งสองฝ่ายดังลั่นออกมาจากทั้งสองฝั่ง
แสงสะท้อนกันไปมาเมื่อทั้งคู่พุ่งเข้าแลกอาวุธระหว่างกัน ระหว่างอัศวินหอก 'อาชานรก' กับดาบ 'มารศักดิ์สิทธิ์' อันโด่งดัง การปะทะอันรุนแรงของอาวุธพุ่งฉวัดเฉวียนไปมาราวสายฟ้าสองเส้นพุ่งกระแทกใส่พร้อมกันนับสิบๆครั้ง เป็นที่ตื่นเต้นเรียกเสียงเฮ จากผู้ชมทั้งสองฝ่าย
[เคร้ง!!] [เคร้ง!!]
'ความเร็วของท่านทัดเทียมกับย่างก้าวของอัลโทรบรัวซ์ได้เลยทีเดียว ..... น่าทึ่งยิ่งนัก อัศวินแห่งองค์หญิงรีอาส!!'
"ท่านเองก็ยอดเยี่ยม" คิบะพูดตอบจังหวะเดียวกับที่ปัดคมหอกให้พ้นรัศมี
"การผสมผสานกันระหว่างพาหนะคู่ใจและอาวุธประจำตัวนั้นสมบูรณ์แบบในการปกป้องกันและกันเป็นอย่างพอเหมาะ หากข้าจะเล่นงานม้า-หอกของท่านจะถึงตัว หากข้าจะจัดการท่าน-ม้าของท่านก็เข้าสกัด ดูเหมือนข้าไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะทำลายกระบวนท่าประสานนั่นสะแล้ว.!"
[SWORD SMITH!!]
(ดาบแห่งผู้รังสรรค์)
ออร่าสีแดงเจิดจ้าออกจากร่างคิบะวูบนึง [สวบ!] พื้นดินแยกออกเป็นแนวกว้างก่อนจะตามมาด้วยดาบมาร ดาบธาต ดาบศักดิ์สิทธิ์ นับร้อยๆพุ่งทะยานออกมาจากพื้นรอบตัวเข้าใส่เบลูก้า แต่ว่าในวินาทีเดียวกัน เท้าของอัลโทรบัวร์ติดไฟแล้วกระโดดพุ่งขึ้นสูงลิบลิ่วจนดาบเกือบทั้งหมดพลาดเป้าหมายไปและปะทะกันเอง คิบะเรียกดาบข้างๆขึ้นมาหลายเล่มและคว้าเล่มนึงออกมาจากดาบกองพะเนินต่อในทันที
[Lighing Strike!!]
เขาตะโกนใส่ดาบของตน ดาบที่เป็นธาตสายฟ้า เป้าหมายของเขาคือเบลูก้าที่กำลังกระโดดตัวลอยเสมือนเป็นเป้านิ่งกลางอากาศโดยไร้ซึ่งสิ่งกีดขวาง ท้องฟ้านั้นมืดครึ้มในฉับพลันก่อนจะสาดสายฟ้าห่าใหญ่ลงมาใส่อัศวินอาชาอย่างไม่มีทางพลาดเป้าแน่นอน
"ไม่ง่ายขนาดนั้น!"
เฟอร์คาสคว้างหอกของตัวเองสูงขึ้นไปอีก คมโลหะส่วนปลายนั้นทำปฎิกิริยาราวกับสายล่อฟ้าและเหนี่ยวนำกระแสไฟฟ้ารอบบริเวณให้ไปอยู่ที่ตัวหอกนั้นแทนที่จนสายฟ้าเหล่านั้นจนระเบิดออกเป็นละอองแสงเจิดจ้ารอบบริเวณ และโดยที่ยังไม่ทันแลนดิ้งลงพื้น ที่มือทั้งสองของอัศวินนั้นก็ล้วงเข้าไปในเปลวไฟของม้าคู่ใจก่อนที่จะชักมือกลับพร้อมกับหอกยาวอีกสองเล่มที่พร้อมจะทะยานสวนกลับใส่คิบะทันที
"รับมือ!!"
เบลูก้าชักม้าของตนที่พึ่งสัมผัสพื้นสะบัดหน้ากลับ วิ่งซิกแซกพุ่งเข้าใส่คิบะ และทุกครั้งที่เขาหักเลี้ยวไปมาร่างของอัศวินและม้าคู่ใจก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ [โคลนรึ!?] แถมทุกอยู่ยังเร็วจัดทัดเทียมกันกลับเบลูก้าร่างตั้งต้นและประสานการโจมตีเข้าหลายทิศทางพร้อมกันอีกด้วย
[เคร้ง!] [เคร้ง!] [ผลั่ก!]
[อุ๊ก..]
ร่างที่ 1-2-3-4-5... คิบะเองก็แทบจะนับไม่ทัน เพราะทุกร่างนั้นประสานงานรุกรับและคอยสกัดกั้นการเคลื่อนไหวของคิบะ พร้อมกับสร้างร่างใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพื่อไล่ต้อนไม่ให้เขาตั้งตัวติด แม้จะยังพอปัดป้องคมหอกได้ แต่ไนท์ของเกลมอรี่เองก็เริ่มได้รับบาดเจ็บบ้างแล้ว
[SWORD of Bretrayer!]
(ดาบแห่งผู้ทรยศ)
คิบะเรียกดาบอีกเล่มนึงขึ้นมา... ดาบ 'มาร-ศักดิ์สิทธิ' หรือธาตผสานที่รุนแรงที่สุดในการต่อต้านเผ่าปีศาจ เพราะพลังทำลายของอาวุธแสงและความมืดที่หลอมหลวมกันจนเป็นหนึ่งเดียวอันน่าพิศวง อัศวินหนุ่มคว้าดาบควงด้วยสไตล์ดาบสองมือแบบเดียวกับเซโนเวีย คิบะกลับเป็นฝ่ายพุ่งกลับเข้าใส่ร่างของเบลูก้า เพื่อไม่ให้โดนโจมตีฟรีฝ่ายเดียว
[เคร้ง!] [ฉับบบบบ!]
สองเท้ากระโจนเข้าใส่ด้วยความเร็วเกินสายตาคนทั่วไป ดาบนึงปัดหอกทิ้งเปิดทางตามด้วยดาบอีกเล่มนึงสับผ่ากลางร่างของอัศวินบนหลังม้าตัวนั้น ก่อนจะพุ่งไปเบรคเอี๊ยดบนพื้นด้านหลัง
[ฟู่...ฟ]
ร่างของเบลูก้าสลายหายไปหมดสิ้น ....ร่างที่คิบะได้ฟันไปนั่นเป็นแค่ 1 ในภาพลวงตาที่สร้างขึ้นมาโจมตีท่านั้น พร้อมกับร่างของเบลูก้าที่เหลือก็เริ่มตีกรอบล้อมคิบะไว้อีกครั้งนึง
อัศวินหนุ่มสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนยิ้มเสียงเครียดหน่อยๆ
[เฮ้ออออออ...]
"......ให้ตายเถอะ ผมเองก็ไม่อยากโชว์ไพ่ตายต้องแต่ต้นแบบนี้หรอกนะ.....แต่ว่า ขืนมัวแต่ยั้งมือแบบนี้ผมคงต้องเหนื่อยเกินกว่าจะสู้รอบถัดไปไหวแน่เลย..."
พูดจบคิบะก็สลายดาบ 'มาร-ศักดิ์สิทธิ์' ในมือทิ้งไป และสร้างดาบ 'ศักดิ์สิทธิ์' เล่มใหม่ขึนมาถือแทนในมือ
"ผมเองก็เป็นคนขี้เหนียวกว่าที่คิดนะเนี่ย...การแข่งรอบนี้ผมพยายามจะจับการเคลื่อนไหวของท่านให้ได้ และจัดการแบบปกติไป แต่ขืนทำแบบนั้นนอกจากเสียเวลาแล้ว ยังเปลืองเรี่ยวแรงเยอะน่าดู พอคิดถึงการแข่งรอบหลังจากนี้แล้ว ผมคงต้องขอเลือกวิธีที่ดีกว่าแบบ 'ดาบเดียวจอด' เลยละกันครับ"
เขาพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่มั่นใจเป็นอย่างยิ่ง
"ดูท่านมั่นใจเสียจริง แน่หละว่าท่านเป็นอัจฉริยะที่เหนือกว่าทั้งข้าและอัลโบทรัวซ์ไปแล้ว แต่กระนั้น!! ข้าพเจ้าเองก็ไม่ยอมถูกโค่นโดยง่ายดายเช่นนั้นแน่! เพื่อมิตรสหายของข้าในรอบถัดไปเช่นกัน ข้าจะขอแขนท่านสักข้างนึงเป็นอย่างน้อย" เบลูก้าตอบทันควัน
"ใช่เลย นั่นแหละทำไมท่านถึงเป็นคู่มือที่น่ากลัว" คิบะพยักหน้ารับคำ "ไม่มีศัตรูไหนจะน่าเกรงขามเท่ากับคู่ต่อสู้ที่ตกลงปลงใจอย่างแน่วแน่แล้ว....นั่นทำให้ผมต้องคิด คิดที่จะแสดงความสามารถอีกอย่างนึงของตัวเองตอนนี้"
เขาปักดาบลงพื้น
[BALANCEEE BREAKERRR!!!]
ประกายแสงรอบตัวเจิดจ้าขึ้น ก่อนจะหลอมลวมตัวกันเป็นโลหะ.....พวกมันก่อร่างสร้างตัวเองขึ้นมาอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นดาบศักดิ์สิทธิ์ลอยอยู่กลางอากาศ ดาบนับร้อยๆปรากฎตัวขึ้นกลางสนามรบและไม่ได้หยุดอยู่แค่ตัวดาบ ลำแสงล่อหลอมผ่านตัวดาบกลายเป็นเกราะมือ เกราะแขน เกราะไหล่ เกราะบ่า เกราะลำตัว เกราะศรีษะ ที่มีสัญลักษณ์มังกรคำราม จนดาบเล่มนั้นกลายเป็นอาวุธในมือของนักรบที่น่าเกรงขาม และไม่ใช่เพียงร่างเดียวแต่เป็นทุกร่างครบถ้วนตามจำนวนดาบนับร้อยเรียงรายราวกับกองทัพอัศวินมังกร
[กึ่ง!]
ร้อยนักรบสาวเท้าออกมาก่อนจะหยิบดาบศักดิ์สิทธิตรงหน้าเป็นอาวุธ ภาพที่เห็นตรงหน้าไม่ใช่แค่เพียงคนดู พิธีกร คู่แข่งอย่างเฟอร์ก้า แม้แต่สมาชิกร่วมทีมทุกคนยังต้องทึ่งจนตาค้าง เพราะความสามารถที่น่าตกตะลึง บัดนี้คิบะกลายเป็น 'One-Man-Army' โดยสมบูรณ์แบบไปแล้วเมื่อเขาคนเดียวสามารถสร้างกองทัพนับร้อยพันอันน่าเกรงขามได้อย่างไม่น่าเชื่อ
"....ไม่ เป็นไปไม่ได้!? ความสามารถ Balance-Break มันต้องมีแค่แบบเดียวนิ! แล้วท่านก็ใช้ 'ดาบแห่งผู้ทรยศ' ไปแล้วชัดๆ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีความสามารถ Balance-Break ถึงสองแบบในตัวคนๆเดียวกัน!"
.
.
[กึก]
คำพูดของเบลูก้า ชะงักไปครู่นึงเหมือนเขาจะนึกอะไรออกบางอย่าง น้ำเสียงเขาสั่นด้วยความลังเลเล็กน้อย
"....หรือว่านั่น อย่าบอกนะว่าเป็นความสามารถ 'ดาบแห่งผู้รังสรรค์'"
คิบะยิ้มรับขณะที่ยืนอยู่แถวหน้าสุด
"พูดถูกแล้วครับ กองพล 'กรอรี่-เดรค' ความสามารถขั้นสูงสุดของดาบแห่งผู้รังสรรค์ ~Blade Blacksmith เป็นรูปแบบรองลงมาในสถานะของ 'ผู้รังสรรค์' นั่นแหละครับ "
ผม(อิตเซย์) ซึ่งฟังอยู่จากด้านนอกก็ทึ่งไม่น้อย ใช่เลยว่าในตอนสิ้นสุดเหตการณ์ดาบศักดิ์สิทธิ์ 'เอ็กซคาลิเบอร์' กับจอมเทพโคคาบิเอลนั่น คิบะได้รับคุณสมบัติ 'ผู้รังสรรค์' คืนจากวิญญาณของเพื่อนพ้องที่ตายไปก่อนหน้าเพื่อให้เขารอดชีวิต การหลอมรวมของคุณสมบัติเฉพาะทางจำนวนมากจากเพื่อนของเขาที่เป็นเด็กทดลองเหมือนกันทำให้เกิดปฎิกิริยาแปลกประหลาดที่หลอมรวมธาตตรงข้ามสุดขั้วอย่าง [แสง] และ [ความมืด]ให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้จนเกิดความสามารถสุดยอดอย่าง 'Sword of Betrayer' (ดาบแห่งผู้ทรยศ) เป็นความสามารถสูงสุดของตัวคิบะนั่นเอง
---แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า คุณสมบัติ 'ผู้รังสรรค์' จะหายตามไปด้วย--
ในปัจจุบันนั้น ส่วนใหญ่แล้วคิบะนั้นใช้ดาบปีศาจ-ศักดิ์สิทธิ์ จากความสามารถ Betrayer เป็นจุดเด่นหลัก เพราะมีพลังอำนาจสูงสุดในการโจมตี และเข้ากับสไตล์การต่อสู้ด้วยความเร็วของเขาแต่กับคู่ต่อสู้ที่มี 'จำนวน' เปรียบเทียบแล้วรูปแบบผู้รังสรรค์ซึ่งสามารถสร้างดาบจำนวนมหาศาลได้จะมีประโยชน์กว่ามาก แม้ในร่างนี้จะเสียจุดเด่นด้านการผสมผสานธาตของดาบไปก็ตามที
"ท่านเฟอร์คาส! ข้าไปล่ะ!!"
คิบะตะโกนก้องก่อนจะนำทัพอัศวินมังกรควงดาบพุ่งเข้าใส่ ราวกับกองทัพพายุดาบกำลังเดินหน้าปะทะศัตรู
"หนอย! ข้ายังไม่ยอมล้มง่ายๆหรอก!"
เบลูก้าก็ร้องตอบ ร่างแยกอัศวินอาชาของเขาเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนจะดาหน้าสวนอย่างไม่ยอมแพ้
[ทั้งสองฝ่ายเข้าประจัญบานกันแล้วครับ!! ร่างแยก 1-2-3-4 นับไม่ทันแล้ว!! น่าตื่นตาตื่นใจจริงๆกับอัศวินของทั้งสองทีม!]
[เคร้ง!] [ปึ่ก!] [ฉั่วะ!] [โครม!!]
โฆษกของสนามแข่งบรรยายให้ผู้ชมด้วยความตื่นเต้น แต่ดูจะเกินกำลังที่ปากของคนๆเดียวจะอธิบายสนามรบที่อยู่ๆเปลี่ยนจากการดวลเดี่ยวของอัศวิน ไปเป็นกองกำลังย่อมๆโหมโรมรันอย่างดุเดือดไปทั่วทั้งสนามแข่ง นักรบของคิบะทุกร่างเข้าห้ำหั่นกับร่างเงาของเฟอร์ก้าด้วยความเร็วที่ทัดเทียมกับร่างต้น แน่นอนว่าอัศวินเงาของเฟอร์คาสก็ว่องไวไม่แพ้กัน ดาบหลายเล่มรุมฟันอัศวินจนยับเยิน พร้อมๆกับหอกหลายเล่มพร้อมกับร่างของม้าศึกก็พุ่งทะลวงใส่นักรบมังกรจนแตกกระเจิง
ดาบประทะหอก เท้าปะทะม้าจนฝุ่นฟุ้งตลบไปทั่ว
[โคคครมมมม!!]
แต่สุดท้ายความแตกต่างก็คือ 'จำนวน' นักรบมังกร 'กรอรี่-เดรค' ที่ทั้งว่องไวและได้เปรียบในปริมาณสามารถไล่ต้อนเบลูก้าจนสำเร็จ ร่างต้นของเฟอร์คาสนั้นได้แผลฉกรรณ์ที่ท้องของตัวเองล้มกลิ้งตกจากหลังม้า และกองทัพอันน่าเกรงขามของทั้งสองฝ่ายก็สลายเป็นละอองแสงหายไป
[ผู้ชนะคือ ไนท์แห่งทีมเกลมอรี่ 'คิบะ ยูโตะ']
เสียงของโฆษกสนามประกาศออกอากาศ
.
.
.
ทีมเกลมอรี่ ออกนำไปก่อน 1 WIN
[Ohh YES!! เยี่ยมมาก เพื่อนยาก!]
อิตเซย์คิดในใจ