Japan Trip 23-29 Jan 2016
สวัสดีค่ะ ในที่สุดก็กลับมา 5555 ช่วงนี้จิตตก เลยมาทิ้งเรื่องราวการเดินทางอีกทริปนึงที่น่าประทับใจมาก ๆ ครั้งนึงค่ะ
เคโกะชอบไปต่างประเทศหน้าหนาว แต่เชื่อมั้ยว่าไม่เคยสัมผัสหิมะเลยค่ะ ครั้งนี้ก็เลยจัดเต็ม ไปซะในที่ที่ต้องมีหิมะให้เคโกะสัมผัสแน่ ๆ แล้วก็เตรียมอุปกรณ์กันหนาวไปแบบ "งบน้อย" .. จะรอดมั้ยล่ะนั่น
23 Jan 2016 เดินทางด้วยสายการบิน AirAsia X มุ่งหน้าสู่สนามบินนานาชาตินาริตะ ไฟลท์นี้ดีเลย์ประมาณ 45 นาที แต่ทำเอาหวั่นใจมาก เพราะเคโกะจะต้องจับชินกังเซ็นไป Utsunomiya ในคืนนั้นค่ะ ซึ่งเราจะต้องทำเวลากันสุด ๆ
พอเครื่องแลนดิ้งปั๊บ เคโกะบอกคุณผู้ชายไว้แล้วล่วงหน้าว่ารีบออกไปให้เร็วที่สุดนะ เพราะเราไม่รู้ว่าจะติดอยู่กับตม.นานแค่ไหน และเราก็รู้ดีด้วยว่าทางเดินในสนามบินนั้นไกลมากกกกกกกกกกกกก เพราะฉะนั้นวิ่งได้วิ่งเลย ออกจากสนามบินให้เร็วที่สุดค่ะ เพราะงั้นพวกเราก็เลยวิ่งหน้าตั้ง อาศัยว่าไม่มีกระเป๋าโหลดก็เลยไวขึ้นอีกนิดนึง (ไป 7 วันแต่ไม่โหลดกระเป๋า ก๋ากั่นมาก ๆ)
สุดท้าย เราก็จับชินกังเซ็นได้ทัน และนั่งยาว ๆ ไปถึง Utsunomiya ค่ะ เข้าพัก Toyoko Inn Utsunomiya Ekimae
เช็คอินราบรื่น ก็พักผ่อนสำหรับวันถัดไปค่ะ
24 Jan 2016 นั่งรถไฟไป Nikko ค่ะ พอไปถึง JR Nikko ก็ออกจากสถานี ไปทางซ้ายสุด รอ Shuttle bus ของ Edo Wonderland ค่ะ วันนี้เราจะอยู่ที่นั่นทั้งวันค่ะ
ค่าเข้าชม 4,500Y (ณ ขณะนั้น) ซึ่งเคโกะซื้อไว้ก่อนล่วงหน้าจาก H.I.S ค่ะ ก็จะถูกกว่าหน่อยนะ
ด้านในของ Edo Wonderland ก็จะจำลองลักษณะบ้านเมืองโบราณยุคเอโดะ มีการแสดงหลายอย่าง สิ่งที่เคโกะว่ามันเป็นไฮไลต์เลยก็คือการแสดงนินจาค่ะ การแสดงนินจามี 2 ชุด เอาชุดที่การแสดงใช้เวลานานกว่าอะค่ะ (จำชื่อชุดการแสดงไม่ได้แล้วอ่า T.T)
แล้วก็มีพาเหรดให้ดูด้วยค่ะ ก็น่าสนใจพอสมควรอยู่
มื้อเย็นวันนั้นกลับมาที่สถานี Utsunomiya แล้วก็สุ่มเลือกร้านอาหารกินกัน ได้ร้านอาหารจีนฟิวชั่นเฉยเลย 555 (บอกก่อนได้เลยว่าทริปนี้ เคโกะเจอร้านอาหารจีนเยอะกว่าทุกครั้งค่ะ) พนง.ในร้านคุยภาษาจีนกันโขมงโฉงเฉงกันไป - -"
25 Jan 2016 วันนี้เราก็ยังคงอยู่ใน Nikko ค่ะ นั่งรถไฟสายเดิมไป JR Nikko อีกครั้ง (อ้อ มี JR Pass นะคะ เลยเน้น JR เป็นหลักค่ะ) แต่คราวนี้เราจะยังไม่ออกจากสถานี แวะซื้อตั๋ว 2-day pass ก่อน (คือ บังคับซื้อแบบ 2-day pass เพราะว่าจะไปถึงโซนน้ำตก หรือ Chuzenji waterfall ค่ะ ไม่มีแบบ 1-day นะคะ) ซึ่งตั๋วใบนี้ใช้ได้แค่รถบัสเท่านั้นค่ะ หากจะเข้าชมวัดในโซนมรดกโลกก็ต้องจ่ายค่าเข้าเพิ่มเองต่างหาก
เคโกะเริ่มเดินทางด้วยการเดินทางไปโซนที่ไกลสุดก่อน คือ น้ำตก Chuzenji ค่ะ -- จริง ๆ จะขึ้นกระเช้าชมวิวด้วย แต่อากาศไม่เป็นใจ งดขึ้นกระเช้าค่ะ
พอมาถึงสถานีโซนน้ำตก ก็ดูน้ำตกจากด้านบนก่อนเลย ซึ่งตรงนี้เดินมาชมวิวได้เลย ไม่เสียค่าชมค่ะ แต่ถ้าจะลงไปชมน้ำตกแบบใกล้ชิด จะต้องลงลิฟท์ไป ซึ่งมีค่าเข้าชมสถานที่ด้วย
สังเกตได้ว่าบางส่วนของน้ำตกก็ยังเป็นน้ำแข็งไปแล้วอะนะคะ
เคโกะเองก็ได้เสียค่าลิฟท์ลงไปดูน้ำตกแบบใกล้ชิดอยู่เหมือนกัน เมื่อได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดแล้วก็รู้สึกถึงความอลังการมากเลยค่ะ ทุกสิ่งทุกอย่างขาวโพลน แซมด้วยความแห้งแล้งสีน้ำตาลเต็มไปหมด สวยไปอีกแบบนะ
จากนั้นก็เดินไปอีกทางหนึ่ง เพื่อไปชมวิวทะเลสาบบ้างค่ะ ระหว่างทางเดินไปมีลมแรงพัดมาพอดี อากาศหนาวอยู่แล้วก็ยิ่งหนาวจับใจค่ะ
เสร็จสรรพก็นั่งรถบัสกลับลงมาที่โซนมรดกโลก เข้าชมวัด Toshogu shrine นะคะ ที่มีรูปปั้นลิง แมวหลับและสุสานโชกุนอ่ะค่ะ
แล้วก็ไปชมสะพานแดงแห่ง Nikko ไม่ไปจะเหมือนมาไม่ถึงหรือเปล่านะคะ 555
26 Jan 2016 วันนี้เราถึงจะเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมค่ะ แล้วก็นั่งชินกังเซ็นต่ออีก 2 ต่อเพื่อไปยังเมือง Kanazawa ค่ะ
ออกจากสถานี Kanazawa ปุ๊บ เราก็รีบไปเอาตั๋วรถบัสไป Shirakawa-go ก่อนเลย ซึ่งเคโกะจองตั๋วล่วงหน้าจากอินเตอร์เน็ตมานะคะ ไม่งั้นตั๋วหมดเร็วมาก ๆ ค่ะ จากนั้นก็เอากระเป๋าสัมภาระทั้งหมดไปดร็อปไว้ที่โรงแรม ซึ่งเคโกะเลือกเป็น Toyoko Inn Kanazawa-eki Higashi-guchi ค่ะ อยู่ใกล้ ๆ กับสถานีเนี่ยแหละ เดินไปไม่ไกลค่ะ จากนั้นก็รีบกลับมาขึ้นรถบัส
ใช้เวลาเดินทางชม.กว่า ๆ ก็มาถึง Shirakawa-go หมู่บ้านมรดกโลกแล้วค่ะ ตอนที่ไปมีแต่หิมะปกคลุมไปทั่วทุกพื้นที่ และนักท่องเที่ยวก็เยอะมาก ๆ ด้วยค่ะ
เดินวน ๆ ในหมู่บ้านแล้วก็เดินไปขึ้นรถไปยังจุดชมวิวค่ะ รถบัสนี้ไม่ฟรีนะคะ เสียค่ารถ 200Y ต่อเที่ยวค่ะ
ดื่มด่ำกับบรรยากาศหมู่บ้าน Shirakawa-go จนพอใจ ก็กลับลงมาเดินวน ๆ อยู่ในหมู่บ้าน รอรถบัสที่จองไว้ขากลับออกค่ะ ซึ่งเคโกะจองไว้เป็นรอบสุดท้ายเลยนะคะ
กลับมาถึงสถานี Kanazawa ก็หามื้อเย็นทานกัน ได้ซุชิสายพานมาค่ะ รสชาติก็พอใช้ได้อยู่ค่ะ
27 Jan 2016 วันนี้เราจะตะลุยในเมือง Kanazawa กันค่ะ โดยใช้ตั๋วรถ 1-day pass ราคา 500Y ค่ะ หาซื้อได้ที่จุดข้อมูลท่องเที่ยวที่สถานี Kanazawa นั่นแหละค่ะ
สวน Kenrokuen คือสิ่งที่นิยมมากันที่สุดค่ะ ได้ชื่อว่าเป็นสวนที่สวยติดอันดับด้วยค่ะ
แล้วก็เดินข้ามฟากไป Kanazawa Castle Park ค่ะ อยู่ฝั่งตรงข้ามกันเลย แต่ที่นี่เดินแต่รอบนอกค่ะ ถ้าเข้าด้านในก็มีค่าเข้าชมอีก เลยไม่ได้เข้าค่ะ
จากนั้นก็ไปหาข้าวเที่ยงทานกันที่ Omicho ค่ะ ได้ร้านอาหารจีนมาอีกแล้ว เหอ ๆ เจ้าของร้านเป็นคนไต้หวัน พอเห็นเคโกะพูดจีนได้ ก็รีบคุยกันกิ๊วก๊าวด้วยใหญ่เลยค่ะ 555
จากนั้นก็ไป Nomura Samurai Family Residence ค่ะ ก็เป็นบ้านของซามูไรล่ะค่ะ ซึ่งที่นี่ก็มีสวนสวย (อีกละ)
ต่อด้วย 21st Century Museum ค่ะ
ปิดท้าย 1-day ใน Kanazawa ด้วย Higashi Chaya District คือ เหมือนเป็นถนนเก่า ย่านเกอิชาอ่ะค่ะ เป็นโรงน้ำชา ร้านค้าย้อนยุคไรแบบนั้น
เสร็จสรรพ ก็กลับมาที่ Kanazawa station ค่ะ เพื่อนั่งชินกังเซ็นกลับเข้าโตเกียวแล้วค่ะ
ถึงโตเกียวก็เข้าที่พัก ซึ่งจองผ่าน airbnb.com มาค่ะ
มีพ็อคเก็ตไวไฟให้ใช้ด้วย คือดีงามมากค่ะ อยู่ในย่าน Ikebukuro ย่านที่เคโกะชื่นชอบย่านหนึ่งค่ะ
28 Jan 2016 เป็นวันช้อปปิ้งทั้งวันค่ะ 5555 ไม่มีรูปเลยค่ะ แหะ ๆ
29 Jan 2016 ตื่นแต่เช้ามืดค่ะ นั่ง N'EX ไปยังสนามบินนาริตะ และขึ้นเครื่องกลับไทยโดยสวัสดิภาพค่ะ
เคโกะเขียนสรุปรวบรัดไปหน่อยหรือเปล่าคะ แต่ยังไงก็สามารถไปตามอ่านได้ใน wordpress นะคะ ซึ่งจะลงรูปไว้ค่อนข้างเยอะ และมีรายละเอียดการเดินทางที่เยอะกว่านี้ แต่จะไม่ใช่รูปแบบไดอารี่ หรือเล่าเรื่องอย่างที่เคยเขียนในบล็อกแกงค์อ่ะค่ะ ^^"
ลายแทงแต่ละตอนที่ลงไว้ใน wordpress นะคะ
แล้วกลับมาเจอกันใหม่ค่ะ Goodnight!!!
Create Date : 12 กรกฎาคม 2559 |
|
13 comments |
Last Update : 12 กรกฎาคม 2559 0:22:14 น. |
Counter : 2036 Pageviews. |
|
 |
|
ถึงจะเป็นเรื่องย่อๆ..แต่ก็รับรู้เรื่องราวผจญภัยนะคะ..
อย่างเช่น รีบวิ่งเพื่อให้ทันรถไฟชินกังเซ็น..อิอิ
สวยทุกรูปเลยค่ะ..
7 วันไม่โลดกระเป๋าเลย สุดยอด