keigolin
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ blog ของ keigo นะคะ ^^

blog นี้เป็น blog เก่าค่ะ ได้ย้ายบ้านไป thisiskeigo.wordpress.com แล้ว ไปติดตามกันได้ที่นั่นค่ะ ^^
หรือติดตามเพจกันได้ที่ http://www.facebook.com/thisiskeigo
ขอบคุณที่ติดตามกันค่ะ ^^
New Comments
Group Blog
 
 
ตุลาคม 2563
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
1 ตุลาคม 2563
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add keigolin's blog to your web]
Links
 

 

[Revu] Ideo Mobi Sukhumvit Eastpoint :: Spanning life

สวัสดีค่ะ ขอไม่อารัมภบทเยอะเนาะ เพราะรูปแน่นมากกกก 555 
วันนี้จะพาไปเดินชมโครงการคอนโดใกล้ BTS ค่ะ เป็นคอนโดสุขุมวิท คอนโดบางนา ที่เคโกะว่า เฮ้ยยย น่าสนใจมาก ๆ ใครสนใจมองหาคอนโดบางนา คอนโดสุขุมวิทซักห้องสองห้อง มามุงทางนี้ได้เลยค่ะ กับไอดีโอ โมบิ สุขุมวิท อีสต์ พอยท์ หรือ Ideo Mobi Sukhumvit Eastpoint 

ขออวยกันตั้งแต่หัวเรื่องตรงนี้เลยนะ เคโกะเพิ่งซื้อคอนโดไปค่ะ แล้วมาดูโครงการนี้คือแบบ อยากได้อะ ทำไมชั้นรีบบบบซื้อไปก่อนไรงี้อะ 

//ขอออกตัวตั้งแต่หัวเรื่องตรงนี้เลยนะคะ ว่าบล็อกแกงค์จำกัดรูปและตัวอักษร เลยทำให้เคโกะต้องตัดทอนข้อความลงให้กระชับขึ้น รวมถึงต้อง collate / combine รูปด้วยค่ะ T.T 



เล่าถึงการเดินทางก่อนนะคะ เคโกะไม่ได้เอารถไปนะ เลยนั่งรถไฟฟ้าไปค่ะ จากที่พักตัวเองไป ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีนิด ๆ อะ คือเร็วมากกกก เทียบกับเวลาปกติที่ขับรถไปแล้ว ต้องมีอย่างน้อย ๆ ครึ่งชม.ค่ะ เห้ยยย คือดี~ ละแบบ ลองสมมติว่า อยากไปเดินเล่น กินข้าวกับเพื่อนที่สยามไรงี้ ก็ 13 สถานีเอง แป๊บ ๆ ก็ถึงค่ะ แล้วถ้าอยากต่อรถไฟฟ้าใต้ดินที่สถานีอโศก ก็ห่างกันแค่ 8 สถานีเอง เพิ่มจากประมาณ 8 นาทีของเคโกะ (ตอนแรกว่า 10 นิด ๆ คือบวกเวลาแวนซ์มอไซค์มารฟฟ.ด้วยนะ) ก็อีกนิดเดียวค่ะ เพราะเคโกะอยู่โซนนั้นอยู่แล้วเนาะ จัดว่าเซฟเวลาไปได้เยอะค่ะ ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองที่เร่งรีบ รีบไปทำงาน รีบกลับบ้านมาพักผ่อน รีบไปเจอเพื่อน รีบไปแฮงค์เอาท์ไรงี้ ได้หมดเลย

จากตัวสถานีบางนา ใช้ Exit 3 ในการออกนะคะ


จากตัวสถานีรถไฟฟ้าเองก็มองเห็นตัวโครงการอยู่แล้วด้วย ซึ่งจริง ๆ จะอยู่ด้านหลังของคอนโดที่เห็น แต่เค้าติดกันไง ห่างกันแค่ไม่กี่ก้าวแหละ


ลงสถานีมาปุ๊บ ก็เดินต่อตรงไปอีกแค่ 250 เมตรเท่านั้นค่ะ ก็จะถึงตัวโครงการแล้ว ซึ่งเค้าทำแบบหน้ากว้างหรือ spanning ตามคอนเซปท์โครงการ ให้ความรู้สึกกว้างงงงงมากค่ะ

ด้านหน้ามีสนามหญ้า กว้างขวาง ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เอาจริง ๆ อะ คนเมืองอย่างเรา ๆ เนี่ย แค่เห็นสนามหญ้าเขียว ๆ กว้าง ๆ ก็รู้สึกดีแล้วอะค่ะ เนอะ

 


เดินไปทางเข้าด้านหน้าล็อบบี้เลย ซึ่งตัวโครงการเค้ามีสองตึก คือ A และ B ตัวล็อบบี้นี้จะอยู่ตรงกลางระหว่างทั้งสองตึกพอดีค่ะ

 


จากนั้นก็จะมีแยกไปล็อบบี้ของแต่ละอาคารเองอีก โดยมีจุด access card ที่ต้องแตะบัตรผ่านด้วย เท่าที่ดูแล้ว ที่นี่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมากทีเดียวค่ะ มีการแตะบัตร access card อยู่หลายจุด กว่าจะถึงห้องเราได้อะ 

ในส่วนของล็อบบี้ทั้งสองอาคารนั้นก็จะมีการจัดตกแต่งเหมือนกัน เพดานสูงให้ความรู้สึกที่โล่งโปร่งดีค่ะ ตกแต่งใช้โทนกลาง ขาว-ดำ-น้ำตาล แซมด้วยทองเบา ๆ ไรงี้ค่ะ




ไปดูห้องตัวอย่างกันนะคะ เคโกะได้ดูห้องหลายแบบเลย ทั้ง Studio, 1-bedroom, 2-bedroom และยังได้ดูห้องเปล่าด้วยค่ะ มีรูปมาฝากเฉพาะห้องที่เป็น duplex ด้วยนะ ซึ่งเคโกะว่าก็น่าสนใจค่ะ

เริ่มกันที่ห้องขนาดเล็กสุดก่อนเนอะกับห้อง Studio type ค่ะ

  • Studio type ขนาด 26 sq.m.
ห้องประเภทนี้จะไม่ได้มีกั้นสัดส่วนอะไรเด็ดขาดออกจากกันนัก แต่โครงการนี้ก็พยายามทำให้ดูแบ่งออกอย่างชัดเจนพอประมาณ โดยใช้ผนังกั้นแบ่งส่วนกลาย ๆ ระหว่างห้องนอนและห้องครัว แต่ก็ไม่ได้มีประตูกั้นเป็นกิจจะลักษณะค่ะ 

สุขภัณฑ์ใช้ของ American Standard ทั้งหมด

เห็นวิวภายนอกจากห้องนอนด้วยนะ


 

 


ในความคิดเห็นส่วนตัว แม้ห้องจะขนาดเล็ก แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด ชอบตรงมีการกั้นเบา ๆ ให้รู้สึกแยกออกจากกันระหว่างส่วนของห้องนอนและห้องครัวค่ะ เคโกะว่าน่าจะเหมาะกับคนที่อยู่คนเดียวไรงี้ค่ะ เพราะขนาดกะทัดรัด ดูแลง่าย ความที่ห้องไม่ได้มีอะไรกั้นกัน ก็จะโล่งโปร่งสบายไปหมด ได้ความ easy to access all area ค่ะ
  • 1-bedroom ขนาด 36 sq.m.
จริง ๆ แล้วห้องแบบ 1 ห้องนอนแบบนี้ เค้ามีหลากหลายไซส์ขึ้นอยู่กับเลย์เอาท์ห้องนะ แต่เริ่มต้นที่ 36 sq.m. ค่ะ (เคโกะได้ไปดูห้องเปล่าขนาด 39 sq.m. ด้วยล่ะ ให้ความรู้สึกกว้างขึ้นมาอีกค่ะ)

พอย้ายจากห้องสตูดิโอมาเป็นห้อง 1 ห้องนอนแล้ว เอาจริง ๆ ก็รู้สึกว่ากว้างขึ้นเยอะเลยแล้วแหละ ห้องตัวอย่างที่ได้ไปดูนั้น เป็นห้องที่ไม่มีระเบียง แต่มีอ่างอาบน้ำค่ะ เคโกะว่ามีน้อยโครงการมาก ๆ นะที่เค้าใส่อ่างอาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ และห้องนี้ที่ได้ดู ห้องน้ำเป็นกระจกใสด้วยล่ะ สามารถแช่น้ำไป ดูทีวีไป หรือดูวิวนอกห้องได้สบาย ๆ เลย

สิ่งที่ชอบอีกอย่างคือ มีมุมโต๊ะเครื่องแป้งเล็ก ๆ ในห้องนอนด้วย และมี walk-in closet มาให้ด้วยค่ะ เหมาะกับสาว ๆ เนอะ 

แอบกระซิบว่า เค้าตกแต่งห้องตัวอย่างมาได้น่ารักจริง ๆ ค่ะ น่านั่งเล่นถ่ายรูปยาว ๆ อะ 5555 


 

 



สิ่งที่แปลกก็คือ ห้องแบบ 1 ห้องนอนนี้เค้าใส่เตียงไว้แค่ 5 ฟุตค่ะ (เทียบกับห้องแบบสตูดิโอ ที่เค้าใส่เตียง 6 ฟุตไว้ให้ดู) และเท่าที่ได้ข้อมูลมาก็คือ อ่างอาบน้ำและระเบียงก็ไม่ได้มีทุกห้องนะ ห้องไหนที่มีอ่างอาบน้ำ ก็จะไม่มีระเบียง ไรงี้ค่ะ
  • 2-bedroom ขนาด 56 sq.m.

มาต่อที่ห้องตัวอย่างขนาดใหญ่ เคโกะว่าเหมาะกับครอบครัวที่มีลูกแหละ น่าจะกำลังดีค่ะ 

ห้องแบบ 2 ห้องนอนแบบนี้จะมีห้อง master bedroom ค่ะ ซึ่งห้องตัวอย่างที่ไปดูจะอยู่ด้านซ้ายมือ มีห้องน้ำในตัว มีอ่างอาบน้ำด้วย ส่วนห้องเล็กก็จะไม่มีห้องน้ำในตัว ต้องออกมาใช้ร่วมกับส่วนรวมภายนอกค่ะ แต่ก็สามารถ access ห้องน้ำจากในห้องตัวเองได้ด้วย

ส่วนระเบียงก็จะ access ได้จากส่วนกลางห้อง 

โดยส่วนตัวคิดว่าห้องนอนแคบไปนิดค่ะ เดินผ่านปลายเตียงไปที่หน้าต่างแคบไปหน่อย (แล้วจะเดินไปเพื่อออ? 555) 

เตียงขนาด 5 ฟุตเช่นกันกับห้อง 1 ห้องนอน และใช้ผลิตภัณฑ์สุขภัณฑ์ของ American Standard เช่นกันค่ะ


 
 
 
 
 
ส่วนตัวคิดว่าเหมาะกับขนาดครอบครัว 3 คน พ่อแม่ลูกไรงี้ค่ะ พอจะมี space ส่วนตัวแต่ละคนอยู่นะ และก็ไม่ได้แน่นจนเกินไปค่ะ
 
  • Duplex ขนาด 50 sq.m.
ปิดท้ายห้องตัวอย่างที่ห้องดูเพลกซ์ ซึ่งเป็นห้องเปล่านะคะ ได้ยินมาว่าคนไทยไม่ค่อยฮิตห้องแบบนี้เท่าไหร่ แต่เผอิญเคโกะเพิ่งได้ดูคลิปรีวิวห้องของคุณกอล์ฟ พิชญะมา ซึ่งเค้าซื้อห้องดูเพลกซ์แบบนี้แหละ แล้วตกแต่งเองทั้งหมด ออกมาดูดีมากเลยนะ ให้ความรู้สึกเหมือนบ้าน 2 ชั้นเลยค่ะ ลองหาดูเป็นไอเดียกันน้าาา เผื่อสนใจค่ะ 


 

ในความรู้สึกเคโกะอะ เคโกะรู้สึกว่าค่อนข้างจะแบ่งแยกออกระหว่าง living room และห้องนอนชัดเจนกว่าห้องแบบ 1 ห้องนอนซะอีกค่ะ ให้ฟีลบ้าน 2 ชั้นอย่างที่บอกไปมากกว่าค่ะ เพราะเค้าจะเป็น 2 ชั้นเลย เข้าห้องมาชั้นล่างก็จะเป็นส่วน living room และห้องครัวไรงี้ พอขึ้นไปชั้น 2 ก็จะเป็นห้องนอน ซึ่งในส่วนของ living room อะ จะเจาะทะลุขึ้นมาถึงชั้น 2 เลย ก็เลยจะทำให้รู้สึกถึงความโล่งโปร่งมาก ๆ ค่ะ 

แต่สิ่งที่เคโกะแอบงง ๆ เล็กน้อยก็คือ ประตูห้องสามารถเข้าออกได้ทั้ง 2 ชั้นเลย คือชั้นล่างก็เข้าออกได้ เดินขึ้นบันไดมาก็มีทางออกห้องอีก ถามใจเคโกะนะ เคโกะว่าไม่ควรมีอยู่ชั้นบนอีกอะนะคะ 5555

และห้องน้ำมีแค่ห้องเดียว อยู่ชั้นล่าง ติดกับครัวนะคะ ไม่ค่อยโอเคในจุดนี้เท่าไหร่ ^^"

จบการทัวร์ห้องแล้ว เคโกะจะพาไปดู facilities หรือบริเวณส่วนกลางคอนโดของโครงการกันค่ะ ซึ่งเค้ามีอยู่ 2 ชั้นเลยคือชั้น 5 และชั้น 32 ค่ะ

เคโกะขอพาไปดูชั้น 32 ก่อนนะ ก็จะเป็นในส่วนของที่เรียกว่า Panoramic Lounge ค่ะ 

พื้นที่บริเวณนี้ก็สามารถขึ้นมานั่งชมวิว ทำงานไป อ่านหนังสือไรงี้ก็ได้ค่ะ เพลิน ๆ ดี ถ้าอากาศแจ่มใสจริง ๆ มองวิวออกไปเห็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาได้หลายสะพานเลยนะ ซึ่งวิวทางซ้ายมือจะเป็นวิวโค้งแม่น้ำ พื้นที่จ.สมุทรปราการแล้วค่ะ มองเห็นบางกระเจ้าด้วยนะ



วิวพาโนรามาที่ว่าค่ะ 


ส่วนตัวเคโกะชอบเก้าอี้สองตัวนี้เป็นพิเศษ สามารถนอนเอกเขนก นอนโง่ ๆ ดูวิวในยามที่อยากอยู่คนเดียว ทอดอารมณ์เรื่อยเปื่อยได้ดีเลยค่ะ


แล้วเคโกะจะพาไปดูที่ชั้น 5 บ้างนะคะ

ที่ชั้น 5 จะประกอบไปด้วย 3 ส่วนใหญ่ ๆ ก็คือ 
  • Social Club
  • Fitness
  • Swimming Pool (รวมส่วนที่เป็น Garden walk / Hidden Cave ด้วยนะคะ)

เริ่มที่ส่วนของ Swimming Pool ก่อนเลยดีกว่า เพราะเวลาออกมาจากลิฟท์ชั้น 5 เราก็จะเจอกับส่วนของสระว่ายน้ำก่อนค่ะ 

โครงการมีคอนเซปท์การออกแบบที่ไปในทางสอดแทรกองค์ประกอบธรรมชาติและเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน หรือที่เรียกว่า Future - Nature เพราะฉะนั้นก็เลยจะเน้นดีไซน์ที่มีลักษณะเป็น curve เพื่อให้ความรู้สึกแบบธรรมชาติ สระว่ายน้ำก็เลยจะมีลักษณะโค้งเว้าไปตามการวางตัวและดีไซน์ของพื้นที่นะคะ น่าจะอยู่ที่ประมาณ 60 เมตรค่ะ

วันที่เข้าไปเยี่ยมชมโครงการ บังเอิญสีน้ำออกเขียว ๆ ไปหน่อย ^^"

 


ส่วนรอบ ๆ นั้นเป็น Garden walk ค่ะ โดยมีถ้ำหรือ hidden cave แอบ ๆ อยู่ใต้สระว่ายน้ำด้วย สามารถมานั่งทำงานหรือเม้าท์มอยกันตรงนี้ก็ได้ค่ะ

ซึ่งแรงบันดาลใจของสิ่งพวกนี้ก็มาจากคอนเซปท์ของโครงการ ที่อยากให้คล้ายธรรมชาติมากที่สุด อารมณ์แบบเข้าป่าอะค่ะ ก็จะมีถ้ำ มีน้ำตกไรงี้เนาะ ก็เลยเป็นที่มาของ facilities ต่าง ๆ เหล่านี้ค่ะ

ชอบการเลือกใช้วัสดุของที่นี่นะ คือ ใช้หินก็จริง แต่เป็นหินที่ไม่เก็บความร้อนค่ะ เคโกะไปเดินวันที่แดดร้อนจัดเลย แต่พอแตะหินที่ใช้เป็นวัสดุก่อกำแพง ทางเดินอะไรตรงนั้นแล้ว ไม่ร้อนเลยค่ะ สบาย ๆ เลยแหละ

และสิ่งที่เจ๋งไปกว่านั้นก็คือ จะมีทางเดินที่ walk through จากชั้นล่างด้านหน้าโครงการขึ้นมาถึงตรงนี้ได้เลยด้วย เจ๋งมั้ยล่ะ

ในความคิดของเคโกะ ซึ่งเป็นสาวติดการออกกำลังกายแล้ว การเดินขึ้นมา 5 ชั้นเนี่ย ถือว่าไม่ได้เป็นเรื่องที่ลำบากเกินไปค่ะ ในทางกลับกัน ได้ออกกำลังกายดีซะอีก เก็บสเต็ปการก้าวเดินของแต่ละวันไปได้เยอะเลยด้วยนะ ชอบไอเดียนี้ค่ะ ^^


แล้วเราเดินไปที่ส่วนกลางอีกส่วนที่เคโกะว่าเก๋ไก๋ไม่แพ้กับชั้น 32 ที่เป็นส่วนของ Panoramic Lounge เลยค่ะ นั่นก็คือห้อง Social Club ที่ตกแต่งออกมาได้หรูหรามาก ๆ เหมาะกับการนั่งทำงาน อ่านหนังสือชิลล์ๆ หรือจะเมาท์มอยสังสรรค์กับเพื่อนก็ได้นะ



ตรงนี้เค้ามี 2 ชั้นเชื่อมถึงกันด้วยบันไดภายในเลยค่ะ พื้นที่ส่วนกลางใช้สอยตรงนี้เยอะเลยนะ


อีกฟากนึงของส่วนกลางชั้นนี้ ที่อาคาร B ก็คือห้องฟิตเนสค่ะ ที่สำหรับเคโกะ ผู้ซึ่งออกกำลังกายในฟิตเนสเป็นประจำมานาน และเคยใช้บริการมาหลายที่แล้ว ห้องฟิตเนสที่นี่คือใหญ่มาก ๆ ค่ะ 

นอกเหนือไปจากเครื่องเล่นประเภท cardio แล้ว ก็ยังมีส่วนของ weight training ด้วยค่ะ นอกจากนั้นก็ยังจะมีห้องโยคะด้วย และตามที่ได้ข้อมูลมาก็คือ ยังลงอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายยังไม่ครบค่ะ จะมีมาเพิ่มอีก และยังไม่พอนะ ยังจะมีส่วนของ cross training ด้วยแหละ ซึ่งเคโกะมองว่า เห้ย ครบครันมากค่ะ มาเป็นลูกบ้านโครงการนี้คือไม่ต้องไปสมัครฟิตเนสข้างนอกแล้วแหละ



แอบไปดูห้องน้ำที่อยู่ข้าง ๆ ห้องฟิตเนสนิดนึง ก็มีทั้งห้องน้ำ 4 ห้องและห้องอาบน้ำ 2 ห้องให้บริการเสร็จสรรพเลยค่ะ แต่ไม่มีซาวน่าให้นะคะ ซึ่งเคโกะว่า ไม่มีซาวน่าก็ไม่ได้ขี้เหร่แล้วค่ะ เท่าที่มีไว้ให้บริการก็เยอะมาก ๆ แล้วอะนะ

ส่วนสุขภัณฑ์ที่เลือกใช้นั้น คือ Cotto ค่ะ แม้จะไม่เหมือนกับในห้องที่อยู่อาศัย แต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่น้าาาา


ก็เป็นภาพรวมทั้งหมดของโครงการ Ideo Mobi Sukhumvit EastPoint ค่ะ แต่ก่อนจะจบกันตรงนี้ เคโกะขอแจงรายละเอียดโครงการเพิ่มเติม และพาทัวร์รอบ ๆ อีกนิดนึงนะ //บอกแล้วว่าบล็อกนี้ยาวมากจริง ๆ ค่ะ ^^" 

ตัวโครงการนี้เริ่ม pre-sale ตั้งแต่ปี 2018 แล้วค่ะ น่าจะเสร็จในราว ๆ Nov. 2020 และเข้าอยู่ได้ในเดือน Dec 2020 

ทั้งหมดของโครงการมี 1160 units สัดส่วนของที่จอดรถจะอยู่ที่ 47% ซึ่งเคโกะมองว่าเยอะทีเดียวเลยนะ สิ่งที่เก๋ไก๋ก็คือ ใน 47% นี้มี hydrolic parking ด้วย ซึ่งมีอยู่ราว ๆ ประมาณ 20 lots ค่ะ 

ถามว่า แล้วคนที่จอดรถไว้ที่ hydrolic parking ชั้นบนจะทำยังไง ทางโครงการก็ให้ข้อมูลมาว่า ก็จะมีการฝากกุญแจรถไว้ให้เลื่อนรถค่ะ 

นอกจากนี้มี EV charging station 1 จุดด้วยนะ 



EV charging station ที่ว่าค่ะ


ทางเข้าออกมีจุดรักษาความปลอดภัยเรียบร้อยดี เข้าออกได้ทางเดียวค่ะ 


แล้วก็ร้านค้าใต้คอนโด ตอนนี้มี 7-11 มาแล้ว 1 รายค่ะ แต่ก็จะมีร้านค้าอื่น ๆ ตามมาอีกล่ะนะ


ปิดท้ายด้วยภาพภายนอกคอนโดโครงการนี้ค่ะ มองไปเห็นสถานีรถไฟฟ้าใกล้ ๆ เลย และจังหวะดี เจอรถไฟฟ้าวิ่งผ่านด้านหน้าพอดีค่ะ


 


สำหรับในเรื่องโลเคชั่น สถานที่ใกล้เคียงนั้น พอดีเคโกะมีพี่ที่ออฟฟิศที่สนิทกันอยู่คอนโดใกล้ ๆ นี่แหละ เลยพอจะมีข้อมูลของสถานที่ใกล้เคียงที่น่าสนใจสำหรับไลฟ์สไตล์คนเมืองมาแนะนำคร่าว ๆ นะคะ 

อันดับแรกเลย ไม่พูดถึงไม่ได้เลย สถานที่ที่ใกล้ก็คือไบเทค บางนาค่ะ 5555 ใกล้ชนิดที่เดินถึงอะ 

ขยับออกไปอีกหน่อย ก็เป็นห้างสรรพสินค้านะคะ ที่ใกล้เคียงก็จะมีเซนทรัลบางนา กระดึ๊บไปทางศรีนครินทร์ก็จะมีทั้งพาราไดซ์ และซีคอน ศรีนครินทร์ค่ะ แต่ถ้าอยากได้ใกล้ ๆ ก็จะมี The Coast Village ที่เป็นคอมมูนิตี้มอลล์อยู่ฝั่งตรงข้าม เลยแยกบางนามานิดเดียวค่ะ

นอกจากนี้แล้ว ก็ยังใกล้กับซอยลาซาล ขึ้นชื่อเรื่องเป็นแหล่งของกินเลยค่ะ มีร้านอาหาร คาเฟ่มากมายในซอยลาซาลเลยค่ะ ซึ่งพี่ที่ออฟฟิศเคโกะคนที่ว่านี้น่ะ เค้าชอบไปแถว ๆ ดาดฟ้า ลาซาลมากค่ะ เค้าว่าร้านค้า ร้านอาหาร คาเฟ่เพียบ มีตลาดใกล้ ๆ ด้วยนะ 

เคโกะว่าทำเลดีงามค่ะ ^^

ปิดท้ายอย่างจริงจังด้วยความรู้สึกส่วนตัวหลังจากการเยี่ยมชมโครงการค่ะ 

อย่างที่เคโกะจั่วหัวไว้ตอนต้นเลยอะค่ะว่า เคโกะมาดูแล้วรู้สึกชอบมาก ถ้าไม่ติดว่าซื้อคอนโดไปก่อนหน้าแล้ว ที่นี่ก็น่าจะเป็นตัวเลือกช้อยส์ต้น ๆ ของเคโกะเลยอะ ทั้งทำเล ทั้ง facilities โครงการเอง แถมยังมีคนรู้จักอยู่แถว ๆ นั้นด้วยอีก คือแบบ ดีอะค่ะ

โดยส่วนตัวเลยนะ ชอบสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนสค่ะ ใหญ่ อลังการมากจริง ๆ แต่เคโกะกลับเฉย ๆ ในเรื่องของการดีไซน์ที่ว่าให้ดูเหมือนธรรมชาติ ในลักษณะเป็นถ้ำ เป็นน้ำตกไรงี้ ไม่ค่อยอินค่ะ ฮาาาา 

ชอบพื้นที่ส่วนกลางอีกอย่างด้วย ทั้ง Panoramic Lounge ชั้น 32 และ Social Club ชั้น 5 เลยค่ะ เคโกะชอบการตกแต่งอะ ให้ความรู้สึกหรูหรา แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกโล่ง โปร่ง และสบาย ๆ ดีค่ะ อย่างที่เคโกะบอกแหละ ชอบการนั่งโง่ ๆ มองวิวชั้น 32 ค่ะ 55555 เคโกะว่าได้พักสายตา มองอะไรที่ออกแนวธรรมชาติ ๆ (วิวแม่น้ำเจ้าพระยา) บ้าง ก็ผ่อนคลายสายตา และผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานได้ดีค่ะ

แต่ในส่วนห้องพักอาศัยนั้น เคโกะยังไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่นะ เอาตรง ๆ เลย ^^" 

ไม่ชอบการตกแต่งเอง ชอบแบบ full-fernished มากกว่าค่ะ (ฮาาาา //เป็นสาวขี้เกียจแหละ 555) และสำหรับห้อง 1-bedroom ถ้าให้เคโกะเลือกอ่างอาบน้ำกับระเบียงห้อง เลือกระเบียงห้องแบบไม่ต้องคิดเยอะเลยค่ะ เพราะไม่ชอบอ่างอาบน้ำเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่เก็ทว่าเอาออพชั่นอ่างอาบน้ำไปทำไม ไม่ได้ชอบนอนแช่ตัวอะค่ะ แหะๆ 

แต่สิ่งที่ชอบก็คือมี walk-in closet มาให้ ซึ่งก็ตามประสาผู้หญิงเนอะ เสื้อผ้า เครื่องประดับ accesseries อะไรก็ไม่รู้เยอะแยะไปหมด การที่มี walk-in closet มาเนี่ย ทำให้เราหมุนตัวดูความเรียบร้อยบนตัวเราได้ง่ายขึ้นค่ะ จะหยิบเสื้อผ้ามาทาบสี ดูความแมชชิ่งกันก็ง่ายไปหมดด้วย

ก็ความรู้สึกส่วนตัวล้วน ๆ เนาะ ^^"

ถ้าสนใจก็ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 
https://www.ananda.co.th/th/condominium/sukhumvit-eastpoint
หรือเข้าไปเยี่ยมชมโครงการได้ค่ะ 
Google Maps: 
https://g.page/ideo-mobi-sukhumvit-eastpoint?share

#AnandaDevelopment #UrbanlivingSolution #IdeoMobi #IdeoMobiSukhumvitEastpoint
 

 




 

Create Date : 01 ตุลาคม 2563
0 comments
Last Update : 10 ตุลาคม 2563 18:11:22 น.
Counter : 1257 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.