มะลิไทยแลนด์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
13 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add มะลิไทยแลนด์'s blog to your web]
Links
 

 

วันที่ 23 ตุลาคม 2551 นั่งรถไฟไปอัสวาน ล่องเรือเฟลุกก้า

รถไฟ nefertiti class จะแบ่งเป็นห้อง ห้องหนึ่งจะมี 6 ที่นั่ง แถวละ 3 ที่นั่ง ในห้องก็กว้างขวางดี แอร์ก็เย็นกำลังดี และยังมีปุ่มให้ปรับอุณหภูมิได้อีก เสียแต่ว่าเบาะที่นั่งมันเอนไม่ได้เลย ตั้งฉากอย่างเดียว เราเอากระเป๋าเดินทางมารองที่ขามันก็พอช่วยทำให้เลื้อยได้ดีขึ้น แต่ก็ยังเมื่อยอยู่ดี รถไฟมันก็เป็นรถไฟอยู่วันยังค่ำ มันไปเรื่อย ๆ ของมัน แบบว่าถึงก็ช่างไม่ถึงก็ช่างจริง ๆ บางทีเรายังรู้สึกเหมือนกับว่ามันหยุดอยู่เฉย ๆ ซะงั้น และที่สำคัญมันจอดทุกสถานีเลย เราหลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดคืน เปลี่ยนไป 300 กว่าท่า มันก็ไม่สบายสักท่า รู้สึกเมื่อยมาก ๆ เข้า ก็ออกมาเดินสำรวจห้องอื่น ๆ ว่าเค้าอยู่กันยังงัย เห็นบางห้องผู้โดยสารพากันลงไปนอนกองอยู่ที่พื้น ท่าทางก็น่าจะสบายดีเพราะเห็นหลับปุ๋ยเลย บางห้องโชคดีคนนั่งไม่เต็มก็สามารถนอนเหยียดบนเบาะได้เลย แต่ห้องเราเต็มจนถึงลุกซอร์ นั่นแหละผู้โดยสารชาวอียิปต์ 4 คนที่ร่วมห้องกับเราถึงลงกันหมด เลยเหลือเรา 2 คน ครองห้อง คราวนี้เลยได้เหยียดแข้งขาหน่อย ความจริงก็เตรียมใจมาบ้างแล้วว่าจะต้องนั่งรถไฟนาน และคาดว่าน่าจะถึงอัสวานในช่วงบ่าย แต่ก็แอบหวังว่าน่าจะถึงเร็วกว่านั้น เพราะตอนที่ได้ตั๋วรถไฟมาก็ถามพนักงานโรงแรมว่าเราจะถึงอัสวานประมาณกี่โมง เขาบอกว่าออก 22.00 น. ก็น่าจะถึงประมาณ 10.00 น. แต่เราก็คิดว่าคงจะ late แต่ไม่คิดว่าจะนานขนาดนี้ เพราะเราไปถึงอัสวานประมาณ 14.30 น. รวมเบ็ดเสร็จที่นั่งบนรถไฟ 16 ชม. ครึ่ง






ที่นั่งของnefertiti class จะสบายตอนเค้าลงกันไปหมดแล้ว

พอไปถึงสถานีอัสวานก็มีชายหนุ่มมารอรับ ค่อยสบายหน่อย อย่างน้อยก็ไม่ต้องหาทางไปโรงแรมเองแหละ คนที่มารับคือ คุณ Muhmed Makhub คนที่เราส่ง e-mail โต้ตอบด้วย และแจ้งให้เขารู้ว่าเราจะไปรถไฟขบวนไหน ตู้ไหน นั่นแหละ เค้าเอารถแท็กซี่มารับเราไปที่โรงแรม ความจริงโรงแรมก็อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟเท่าไหร่ แต่ถ้าเดินไปเองก็คงมีงง ๆ เล็กน้อย เพราะทางเข้าโรงแรมจะอยู่ด้านหลังตึก ซึ่งดูสภาพแล้วอดวาดภาพห้องพักไม่ได้ว่า จะน่ากลัวขนาดไหน แต่พอขึ้นไปชั้นบนบริเวณเคาน์เตอร์โรงแรมแล้ว ก็คิดว่าห้องพักคงไม่ได้เลวร้ายอะไร สิ่งแรกที่ตรึงเราไว้ คือ วิวแม่น้ำไนล์ที่มองผ่านจากหน้าต่างของ lobby โรงแรม สวยบาดใจจริง ๆ สามีเรากดชัตเตอร์ไม่หยุดเลย จนกระทั่งคุณ Muhmed ต้องขอขัดจังหวะ เพราะเค้าจะเสนอบริการต่าง ๆ ให้กับเรา อันได้แก่บริการทัวร์อาบูซิมเบล บริการล่องเรือเฟลุกก้า และรวมถึงบริการท่องเที่ยวที่ลุกซอร์ด้วย แต่เราบอกว่าเราสนใจอยู่ 3 รายการ คือ อาบูซิมเบล ล่องเรือเฟลุกก้า และเดินทางโดยรถบัสจากอัสวานไปลุกซอร์ เราเห็นราคาแล้วก็พอรับได้อีกเหมือนเดิม เลยไม่ได้ต่ออะไร ตกลงไม่รู้พอรับได้หรือไม่กล้าต่อ แต่ก็ถามเขาว่าพอจะลดราคารายการไหนให้เราได้บ้าง เขาเลยบอกว่าสำหรับคนไทยเขาให้ราคาพิเศษอยู่แล้ว เอาเป็นว่าเขาจะลดค่ารถจากอัสวานไปลุกซอร์ให้ จากคนละ 100 EP. เหลือคนละ 90 EP. เราก็ตกลงตามนั้น แล้วให้เราจ่ายเงินเลย ตามนี้ อาบูซิมเบล ,ฟิเล ,high dam, unfinished obelisk คนละ 75 EP. ล่องเรือเฟลุกก้า คนละ 30 EP./2.30 ชม. และค่ารถอัสวาน-ลุกซอร์ 90 EP/คน รวม 195 EP/คน เราเลยถามเขาว่าเราสามารถล่องเรือตอนนี้เลยได้หรือไม่ เค้าก็รีบโทร.ติดต่อให้ แล้วบอกว่ายังทัน เพราะตอนนั้นก็ใกล้บ่าย 3 โมง แล้ว ถ้าช้ากว่านี้ก็จะไม่ได้แล้ว เค้าก็เลยให้เราทิ้งกระเป๋าไว้ตรงนั้น แล้วเราก็รีบไปลงเรือกัน


สถานีรถไฟอัสวาน


ทางเข้าโรงแรมอยู่หลังตึก


lobby โรงแรม มองไปเห็นวิวแม่น้ำไนล์


ห้องพักมองเห็นวิวแม่น้ำไนล์แจ่ม

เรานั่งกันแค่ 2 คน มี 2 คู่ ชาวนูเบียน เป็นสารถี เป็นการล่องเรือที่สุดแสนจะโรแมนติก ไม่คิดว่าจะได้ล่องเรือแบบนี้ในประเทศอียิปต์ อากาศสดชื่น เย็นสบาย เราว่าเรือเฟลุกก้านี่เป็นพาหนะที่อะเมซิ่งจริง ๆ มันขับเคลื่อนด้วยแรงลม และความชำนาญของคู่หูชาวนูเบียนทั้ง 2 คน ที่ต้องรู้จังหวะ ประสานกันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ภาพเรือเฟลุกก้าจำนวนมากที่ล่องอยู่ในแม่น้ำไนล์สีน้ำเงินเข้ม เหมือนสีน้ำทะเลก็ไม่ปาน ทำให้เรารู้สึกประทับใจมาก ๆ เรือจะล่องไปถึง Botanic garden แล้วแวะให้เราลงไปชมเกาะ จากนั้นก็นัดไปรับเราที่ท้ายเกาะ บนเกาะนี้ก็จะมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงพวกพืชสมุนไพรมากมายหลายชนิด แต่เราไม่ค่อยรู้เรื่องต้นไม้เท่าไหร่ เลยเดินดูสักพักก็ออกไปเดินชมวิวแม่น้ำไนล์ ซึ่งจากเกาะนี้สามารถเห็นวิวทะเลทรายที่อยู่อีกฝั่งได้ค่อนข้างชัด มองไปเห็นทรายเนียนละเอียดตัดกับสีแม่น้ำไนล์ ทำให้รู้สึกหลงใหลทะเลทรายขึ้นมา นึกถึงนิยายรักระหว่างฟาโรห์กับหญิงสาวชาวไทยขึ้นมาจับใจ จาก Botanic garden เราก็จะล่องเรือกินลมชมวิวต่อไปจนกระทั่งถึงเกาะ Elephantine เป็นเกาะที่มีหมู่บ้านชาวนูเบียนอยู่ เราไปถึงเกาะประมาณเกือบ 5 โมงเย็น เห็นมีพิพิธภัณฑ์ด้วยกะจะเข้าไป แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าปิดแล้ว เราเลยไปเดินเที่ยวในหมู่บ้านนูเบียนแทน มีเด็กหนุ่มที่แนะนำตัวเองว่าเป็นลูกของหัวหน้าหมู่บ้านเป็นไกด์พาเดินเที่ยวชมในหมู่บ้าน เราต้องจ่ายเงินให้เด็กหนุ่มคนละ 10 EP. เขาพาเราเดินไปรอบ ๆ หมู่บ้าน ไปดูสุเหร่า เยี่ยมชมบ้าน มีจระเข้เลี้ยงไว้ในบ้านด้วย พาไปดูที่เลี้ยงสัตว์ ทำเกษตรของหมู่บ้าน แล้วก็เล่าเรื่องราวการใช้ชีวิตของชาวนูเบียนให้ฟัง รู้สึกว่าคนนูเบียนชอบอะไรที่มีสีสัน ดูได้ดูจากสีบ้าน ข้าวของเครื่องใช้ของเขา ก็ดูน่ารักดี เสร็จแล้วเรารีบไปขึ้นเรือกลับไปที่ท่า เราให้ทิปเขาไป 20 EP. เขาก็ขอบคุณ ไม่ว่าอะไร ไอ้เราล่ะกลัวเหมือนที่เพื่อน ๆ เจอว่าเขาจะต่อว่า ๆ น้อยไป
























คู่หูชาวนูเบียน






elephantine island














หมู่บ้านชาวนูเบียน

พอขึ้นไปบนฝั่งได้ก็รู้สึกหิวขึ้นมาทันที จริงสิ! วันนี้เรายังไม่ได้กินอะไรเป็นเรื่องเป็นราวเลย เพราะอยู่บนรถไฟตลอด ก็เลยไปหาอาหารกิน วันนี้กะว่าจะนั่งกินร้านอาหารริมแม่น้ำไนล์ชมวิวสักหน่อย เดินไปเจอร้านใกล้ ๆ ท่าที่เราขึ้นเรือแหละ มีรายการอาหารและราคาโชว์หน้าร้านให้เราตัดสินใจได้ก่อน เราก็เลยเลือกร้านนี้ ร้านอาหารริมแม่น้ำจะเปิดไฟสลัว ๆ และมีให้เลือกนั่งกินบนบก กับนั่งกินในเรือที่ลอยอยู่ในแม่น้ำ เราเลือกนั่งกินบนบก แล้วมองวิวเรือในแม่น้ำ วันนี้เราลองสั่งข้าวและอาหารประเภทปลามากิน แต่ไม่ลืมสั่งสลัดผักคนละจานด้วย เพราะตั้งแต่มาเที่ยวเรายังไม่ได้กินผัก ผลไม้ที่เป็นเรื่องเป็นราวสักที ไม่เหมือนอยู่เมืองไทย อาหารเย็นรสชาติใช้ได้ เมนู fish tagen เหมือนเนื้อปลาต้มในน้ำปลากระป๋องบ้านเราเลย ส่วน kabab ปลา ก็เป็นบาร์บีคิวปลานั่นเอง ราคาอาหารค่อนข้างแพงเพราะเค้าบวกค่า sevice และ tax 10% ซึ่งเค้าก็แจ้งไว้ที่ป้ายหน้าร้านแล้ว มื้อนี้เราจ่ายไป 60 EP. กินอาหารเสร็จก็แวะซื้อเสบียงสำหรับพรุ่งนี้ เพราะกว่าจะได้กินข้าวกลางวันคงจะบ่ายแก่ ๆ นั่นแหละ เรียบร้อยแล้วก็เข้าห้องพัก ต้องรีบเข้านอน เพราะพรุ่งนี้ไปอาบูซิมเบล ต้องตื่นตั้งแต่ ตีสองสี่สิบห้า รับอาหารเช้าแบบกล่องตีสาม ตีสามสิบห้ามีรถมารับจากโรงแรม ออกเดินทางพร้อมกันแบบ convoy ตอนตีสี่ นี่คือกำหนดการที่คุณ Muhmed บอกเราไว้ ก่อนนอนไม่ลืมตั้งนาฬิกาปลุก 2 เรือน กลัวพลาดจ๊ะ




แม่น้ำไนล์ยามค่ำคืน




อาหารเย็น






 

Create Date : 13 พฤศจิกายน 2551
5 comments
Last Update : 13 พฤศจิกายน 2551 12:31:08 น.
Counter : 1143 Pageviews.

 

ดีจัง มีโอกาสคงได้ไปมั้งนะ

แวะมาเที่ยว แล้วเป็นกำลังใจให้ค่ะ

 

โดย: Pimnattha 13 พฤศจิกายน 2551 12:37:21 น.  

 


แวะมาอิจฉาเจ้าค่ะ

 

โดย: อุ้มสี 13 พฤศจิกายน 2551 13:02:05 น.  

 

สวยงามครับ

 

โดย: Lucky in Life 14 พฤศจิกายน 2551 18:18:20 น.  

 

โห อาหารอลังการมากค่ะ อย่างนี้ไม่แพงนะคะเนี่ย
แถมท่าทางดูน่าอร่อยอีก ได้บรรยากาศไปด้วย
ถือว่าซื้อบรรยากาศก็แล้วกันเนอะ

ราคานี่คุณมะลิไม่ต่อเลยเหรอคะ ได้ยินว่าต้องต่อเยอะ ๆ
แต่ราคาที่โรงแรมให้มาก็สมเหตุสมผลดีแหละนะคะ
แล้วถ้าจะไปติดต่อกับเรือเฟลุกก้าเอง ก็ลำบากกว่านี้แน่

มาตามอ่านข้อมูลเรื่อย ๆ ค่ะ

 

โดย: นางสาวดุ่บดั่บ 15 พฤศจิกายน 2551 7:41:08 น.  

 

ตามติดไปเที่ยว

 

โดย: กวนฐานฮวา ณ อเบอร์ดีน 19 พฤศจิกายน 2551 23:20:32 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.