Group Blog All Blog
|
๒๒๒ ค ว า ม คิ ด ถึ ง ๒๒๒ ความคิดถึง....คุณเชื่อไหมว่า เมื่อเราเริ่มต้นที่จะคิดถึงใครสักคน เพียงแค่คนเดียวที่เราคอยส่งความคิดถึงไปตลอดเวลา เมื่อวันเวลาผ่านไป ผ่านไป นานเข้า นานเข้า มันจะกลายสภาพเป็นสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า ความรัก ผมเคยอ่านเจอในไดอารี่ของคุณ แรมรอน เขาเคยเขียนประโยค ๆ หนึ่ง ซึ่งผมเป็นคนหนึ่งล่ะ ที่ยกมือทั้งสองมือชูขึ้น และบอกว่า ผมเห็นด้วยสุดหัวใจ ...ความคิดถึงมีสองด้าน หลักการเดียวกับความรัก คือเป็นฝ่าย คิดถึง กับ ถูกคิดถึง .... ไดอารี่ : แรมรอน อรุณเรือง ความรัก ก็เหมือนกัน ...คือ การที่เราเป็นฝ่ายไปรักเขา กับ การที่ถูกเขารัก ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มจาก สิ่งแรกคือ ...ความคิดถึง จากพัฒนาการของความคิดถึง เราเคยคิดถึง วันละหนึ่งครั้ง สองครั้ง ไปที่สามครั้ง และคิดถึงตลอดเวลา จนสุดท้าย ก่อนหลับก็ขอให้ได้คิดถึงใครสักที่ทำให้หัวใจรู้สึกอุ่น ถ้าเป็นความรู้สึกอย่างนี้เกิดขึ้นแล้วล่ะก็ นั่นคือสิ่งที่กำลังพัฒนาขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง สิ่งนั้นเรียกว่า ความรัก ระยะเวลาเป็นตัวฟูมฟัก ความรัก และ ความคิดถึง ในเบ้าหลอมอันเดียวกัน เบ้าหลอมที่หล่อหลอมให้คนสองคนจับมือเดินไปบนถนนแห่งรัก เบ้าหลอมนั้น เราอาจเรียกว่ามันว่า ความเข้าใจ แต่นั่นก็อยู่ที่คนสองคนเท่านั้น ว่าจะเดินจับมือกันไปถึงไหน จะไปถึงที่สุดสายปลายทางได้หรือไม่นั่นก็แล้วแต่.... ความเข้าใจ หล่อหลอม รวมกันเป็นความรักและความคิดถึง ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร สำหรับคู่รักที่เดินกันไปเพียงครึ่งทาง แล้วต่างหันมามองหน้ากันแล้วพูดว่า เราคงเดินต่อไปด้วยกันอีกไม่ได้แล้ว .... ถึงตอนนั้นล่ะ เคยมีใครตั้งคำถามไหมว่า ....ความรักของคนสองคนหายไปไหน...? เปล่า....ความรักไม่ได้หายไป เพียงแต่ความรักนั้น ถูกทดแทน เติมเต็มไปด้วยความรู้สึกผูกพันธ์ ห่วงใย เอื้ออาทร อดทน และพร้อมที่จะเผชิญทุกสิ่งทุกอย่างไปร่วมกันเข้าใจซึ่งกันและกัน ถึงจะประคับประคองความรักให้เดินไปพร้อม ๆ กันได้ แต่ถ้ามันไม่เป็นเช่นนั้น ก็คงต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งของความรัก ที่เป็นคน หมดความอดทน หมดความผูกพันธ์ หมดความห่วงใย และไม่พร้อมที่จะเดินไปด้วยกันอีก ความไม่เข้าใจเริ่มต้นจากตรงนี้... การให้เพียงฝ่ายเดียว เหมือนการเทน้ำลงไปในแจกัน ที่ไม่มีวันเต็มอีกต่อไป ที่แจกันไม่เต็ม ก็เพราะว่าน้ำได้ไหลหายไปตามรอยร้าวของตัวแจกัน ยิ่งเติมไปสักเท่าไร ก็ไม่มีทางที่จะทำให้น้ำในแจกันล้นออกมาได้อีกครั้ง คนเติมยิ่งเติมก็ยิ่งเหนื่อย แล้วใครจะทนเติมน้ำในแจกันร้าว ๆ ต่อไปอีก .....ยกเว้นคนบ้า... และผมก็อาจเป็นคนบ้า เพียงคนเดียวคนนั้นที่ยังพยายามเต็มน้ำลงไปในแจกัน เติมลงไปถึงแม้จะรู้ดีแก่ใจว่า มันไม่มีทางเติมจนเต็มได้ ผมก็ยังพยายาม... ไม่ใช่เพราะผมเชื่อตามคำโบราณที่คนพูดกันมาหรอกนะ ว่า ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น แต่ผมเชื่อว่า ...ความพยายามอยู่ที่ไหน ความรักก็ยังอยู่ที่นั่น... แต่เป็นความรักของผม ไม่ใช่ของเรา ที่อยู่ที่นั่น อาจจะเป็นความคุ้นชินเสียมากกว่าที่ผมจะอยู่ตรงที่เดิม ส่งความคิดถึงเธอ เหมือนเดิม และยังคงรักเธอเหมือนเดิม โดยไม่คำนึกว่า ใน ถนนแห่งรักที่มีผู้คนเดินอยู่เต็มไปหมดนั้น ก็คงจะมีผมเพียงคนเดียว ที่เดินจูงมือกับความว่างเปล่าในถนนสายนั้น และถูกมองด้วยสายตาแปลก ๆ จากคนรอบข้าง แต่ผมก็ไม่สนใจ เพราะนั่นคือความสุขใจเพียงอย่างเดียวของผม บางเวลา มันอาจจะเจ็บปวดบ้าง ในตอนที่คิดว่า ความคิดถึงและความรักของผมไม่มีทางที่ เธอจะรับรู้มัน แต่ผมก็กลัวเกินกว่าจะเลิกเติมน้ำในแจกันใบร้าว ผมกลัวเกินว่าจะยอมรับว่าเธอไม่มีทางรับรู้ และผมก็กลัวว่า สักวันผมจะไม่เหลือใครแม้กระทั่งเศษเสี้ยวแห่งความทรงจำของเรา นั่นคือความเจ็บปวดในแง่ของ ความเหงาที่นาน ๆ ทีมันจะลอยตัวขึ้นมาจากก้นบึ้งหัวใจของผม โลกหมุนเวียนผ่านไป เวลาเดินผ่านไปราวกับติดปีก และผมก็ยังเฝ้ามองดูเธออยู่ห่าง ๆ มองเห็นเธอมีความสุขในชีวิตที่เธอเลือกแล้วของเธอ ผมก็มีความสุขไปด้วย พร้อม ๆ กับการเติมน้ำลงในแจกันใบร้าวของผม ถ้าใครจะเถียงผมว่า ผมจะมีความสุขได้ยังไง ก็คนที่ผมรัก เธอไม่ได้รักผมแล้ว.... เปล่า......จริง ๆ ผมมีความสุข...ที่สักครั้งหนึ่ง ผมเคยมีความรัก กับคนดี ๆ เช่นเธอ ผมมีความสุข...ที่เห็นคนที่ผมรักมีความสุข หัวเราะ ยิ้ม กินอิ่ม นอนหลับ ผมมีความสุข...ที่ได้ปล่อยเธอไปให้เธอโบยบินมีอิสระอย่างที่เธอต้องการ ผมมีความสุข...ที่ได้เรียนรู้ว่า ความรัก ไม่จำเป็นต้องครอบครอง เพียงแค่เรารู้สึกถึงมันไว้ในหัวใจก็พอแล้ว ผมมีความสุข...ในทุก ๆ ครั้งที่คิดถึงเธอ ผมมีความสุข...แม้ว่าวันนี้ผมจะไม่มีเธออีกต่อไปแล้วก็เหอะ... และมันก็ยังมีอีกหลายเหตุผลมากมายก่ายกองที่ผมเขียนไม่หมด เพราะมันอยู่ในความรู้สึกของผม เพราะฉะนั้นอย่าพยายามบอกผมว่า การที่เรารักใครสักคนไม่ต้องการเหตุผล...หรือการที่เราเลิกกับใครสักคนมันไม่มีเหตุผล จะรักหรือจะเลิก มันมีเหตุผล อยู่ในตัวเองทั้งหมดทั้งสิ้นนั้นแหละ เพียงแต่ว่า เราจะพูดมันออกมา หรือจะเก็บไว้กับตัวเอง ก็อยู่ที่ตัวเรา จริงไหม? . และนั่นคือความสุขและเหตุผลบางส่วนที่ผมมีที่ผมรู้สึก ซึ่งบางครั้งมันก็ปน ๆ กันไปบ้างกับความทุกข์ของผม แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า ผมจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ... ผมต้องอยู่ต่อไปซิ... เพราะเธอคือความสุขทั้งหมดที่ผมมี ที่ผมรู้สึก เหมือน ๆ กับการเติมน้ำใจแจกันของผม...ผมมีความสุขที่ได้เติมมันลงไป แม้จะรู้ว่า แจกันใบนั้นมันไม่เคยเติมได้จนเต็มเลยก็ตาม 14.50 11/12/48 จิตปาตลี โดย: wormearth IP: 58.136.199.254 วันที่: 19 พฤษภาคม 2549 เวลา:23:27:36 น.
|
จิตปาตลี
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Friends Blog
Link |