ธันวาคม 2548

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
9
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
All Blog
๒๒๒ ค ว า ม คิ ด ถึ ง ๒๒๒
ความคิดถึง....คุณเชื่อไหมว่า เมื่อเราเริ่มต้นที่จะคิดถึงใครสักคน เพียงแค่คนเดียวที่เราคอยส่งความคิดถึงไปตลอดเวลา เมื่อวันเวลาผ่านไป ผ่านไป นานเข้า นานเข้า มันจะกลายสภาพเป็นสิ่งหนึ่งที่เรียกว่า “ความรัก”

ผมเคยอ่านเจอในไดอารี่ของคุณ แรมรอน เขาเคยเขียนประโยค ๆ หนึ่ง ซึ่งผมเป็นคนหนึ่งล่ะ ที่ยกมือทั้งสองมือชูขึ้น และบอกว่า ผมเห็นด้วยสุดหัวใจ

...ความคิดถึงมีสองด้าน หลักการเดียวกับความรัก คือเป็นฝ่าย คิดถึง กับ ถูกคิดถึง ....

ไดอารี่ : แรมรอน อรุณเรือง

ความรัก ก็เหมือนกัน ...คือ การที่เราเป็นฝ่ายไปรักเขา กับ การที่ถูกเขารัก ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มจาก สิ่งแรกคือ ...ความคิดถึง

จากพัฒนาการของความคิดถึง เราเคยคิดถึง วันละหนึ่งครั้ง สองครั้ง ไปที่สามครั้ง และคิดถึงตลอดเวลา จนสุดท้าย ก่อนหลับก็ขอให้ได้คิดถึงใครสักที่ทำให้หัวใจรู้สึกอุ่น

ถ้าเป็นความรู้สึกอย่างนี้เกิดขึ้นแล้วล่ะก็ นั่นคือสิ่งที่กำลังพัฒนาขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง สิ่งนั้นเรียกว่า “ความรัก”

ระยะเวลาเป็นตัวฟูมฟัก “ความรัก” และ “ความคิดถึง” ในเบ้าหลอมอันเดียวกัน เบ้าหลอมที่หล่อหลอมให้คนสองคนจับมือเดินไปบนถนนแห่งรัก เบ้าหลอมนั้น เราอาจเรียกว่ามันว่า “ความเข้าใจ”

แต่นั่นก็อยู่ที่คนสองคนเท่านั้น ว่าจะเดินจับมือกันไปถึงไหน จะไปถึงที่สุดสายปลายทางได้หรือไม่นั่นก็แล้วแต่....

ความเข้าใจ หล่อหลอม รวมกันเป็นความรักและความคิดถึง

ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร สำหรับคู่รักที่เดินกันไปเพียงครึ่งทาง แล้วต่างหันมามองหน้ากันแล้วพูดว่า เราคงเดินต่อไปด้วยกันอีกไม่ได้แล้ว ....

ถึงตอนนั้นล่ะ เคยมีใครตั้งคำถามไหมว่า

....ความรักของคนสองคนหายไปไหน...?

เปล่า....ความรักไม่ได้หายไป เพียงแต่ความรักนั้น ถูกทดแทน เติมเต็มไปด้วยความรู้สึกผูกพันธ์ ห่วงใย เอื้ออาทร อดทน และพร้อมที่จะเผชิญทุกสิ่งทุกอย่างไปร่วมกันเข้าใจซึ่งกันและกัน ถึงจะประคับประคองความรักให้เดินไปพร้อม ๆ กันได้

แต่ถ้ามันไม่เป็นเช่นนั้น ก็คงต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งของความรัก ที่เป็นคน หมดความอดทน หมดความผูกพันธ์ หมดความห่วงใย และไม่พร้อมที่จะเดินไปด้วยกันอีก ความไม่เข้าใจเริ่มต้นจากตรงนี้...

การให้เพียงฝ่ายเดียว เหมือนการเทน้ำลงไปในแจกัน ที่ไม่มีวันเต็มอีกต่อไป ที่แจกันไม่เต็ม ก็เพราะว่าน้ำได้ไหลหายไปตามรอยร้าวของตัวแจกัน

ยิ่งเติมไปสักเท่าไร ก็ไม่มีทางที่จะทำให้น้ำในแจกันล้นออกมาได้อีกครั้ง คนเติมยิ่งเติมก็ยิ่งเหนื่อย แล้วใครจะทนเติมน้ำในแจกันร้าว ๆ ต่อไปอีก .....ยกเว้นคนบ้า...

และผมก็อาจเป็นคนบ้า เพียงคนเดียวคนนั้นที่ยังพยายามเต็มน้ำลงไปในแจกัน เติมลงไปถึงแม้จะรู้ดีแก่ใจว่า มันไม่มีทางเติมจนเต็มได้ ผมก็ยังพยายาม...

ไม่ใช่เพราะผมเชื่อตามคำโบราณที่คนพูดกันมาหรอกนะ ว่า “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น”

แต่ผมเชื่อว่า ...ความพยายามอยู่ที่ไหน ความรักก็ยังอยู่ที่นั่น... แต่เป็นความรักของผม ไม่ใช่ของเรา ที่อยู่ที่นั่น

อาจจะเป็นความคุ้นชินเสียมากกว่าที่ผมจะอยู่ตรงที่เดิม ส่งความคิดถึงเธอ เหมือนเดิม และยังคงรักเธอเหมือนเดิม โดยไม่คำนึกว่า ใน ถนนแห่งรักที่มีผู้คนเดินอยู่เต็มไปหมดนั้น

ก็คงจะมีผมเพียงคนเดียว ที่เดินจูงมือกับความว่างเปล่าในถนนสายนั้น และถูกมองด้วยสายตาแปลก ๆ จากคนรอบข้าง แต่ผมก็ไม่สนใจ เพราะนั่นคือความสุขใจเพียงอย่างเดียวของผม

บางเวลา มันอาจจะเจ็บปวดบ้าง ในตอนที่คิดว่า ความคิดถึงและความรักของผมไม่มีทางที่ เธอจะรับรู้มัน แต่ผมก็กลัวเกินกว่าจะเลิกเติมน้ำในแจกันใบร้าว

ผมกลัวเกินว่าจะยอมรับว่าเธอไม่มีทางรับรู้ และผมก็กลัวว่า สักวันผมจะไม่เหลือใครแม้กระทั่งเศษเสี้ยวแห่งความทรงจำของเรา นั่นคือความเจ็บปวดในแง่ของ ความเหงาที่นาน ๆ ทีมันจะลอยตัวขึ้นมาจากก้นบึ้งหัวใจของผม

โลกหมุนเวียนผ่านไป เวลาเดินผ่านไปราวกับติดปีก และผมก็ยังเฝ้ามองดูเธออยู่ห่าง ๆ มองเห็นเธอมีความสุขในชีวิตที่เธอเลือกแล้วของเธอ ผมก็มีความสุขไปด้วย พร้อม ๆ กับการเติมน้ำลงในแจกันใบร้าวของผม

ถ้าใครจะเถียงผมว่า ผมจะมีความสุขได้ยังไง ก็คนที่ผมรัก เธอไม่ได้รักผมแล้ว....

เปล่า......จริง ๆ

ผมมีความสุข...ที่สักครั้งหนึ่ง ผมเคยมีความรัก กับคนดี ๆ เช่นเธอ
ผมมีความสุข...ที่เห็นคนที่ผมรักมีความสุข หัวเราะ ยิ้ม กินอิ่ม นอนหลับ
ผมมีความสุข...ที่ได้ปล่อยเธอไปให้เธอโบยบินมีอิสระอย่างที่เธอต้องการ
ผมมีความสุข...ที่ได้เรียนรู้ว่า ความรัก ไม่จำเป็นต้องครอบครอง เพียงแค่เรารู้สึกถึงมันไว้ในหัวใจก็พอแล้ว
ผมมีความสุข...ในทุก ๆ ครั้งที่คิดถึงเธอ
ผมมีความสุข...แม้ว่าวันนี้ผมจะไม่มีเธออีกต่อไปแล้วก็เหอะ
...

และมันก็ยังมีอีกหลายเหตุผลมากมายก่ายกองที่ผมเขียนไม่หมด เพราะมันอยู่ในความรู้สึกของผม เพราะฉะนั้นอย่าพยายามบอกผมว่า การที่เรารักใครสักคนไม่ต้องการเหตุผล...หรือการที่เราเลิกกับใครสักคนมันไม่มีเหตุผล

จะรักหรือจะเลิก มันมีเหตุผล อยู่ในตัวเองทั้งหมดทั้งสิ้นนั้นแหละ เพียงแต่ว่า เราจะพูดมันออกมา หรือจะเก็บไว้กับตัวเอง ก็อยู่ที่ตัวเรา จริงไหม?….

และนั่นคือความสุขและเหตุผลบางส่วนที่ผมมีที่ผมรู้สึก ซึ่งบางครั้งมันก็ปน ๆ กันไปบ้างกับความทุกข์ของผม แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า ผมจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ...

ผมต้องอยู่ต่อไปซิ... เพราะเธอคือความสุขทั้งหมดที่ผมมี ที่ผมรู้สึก เหมือน ๆ กับการเติมน้ำใจแจกันของผม...ผมมีความสุขที่ได้เติมมันลงไป แม้จะรู้ว่า แจกันใบนั้นมันไม่เคยเติมได้จนเต็มเลยก็ตาม

14.50
11/12/48
จิตปาตลี



Create Date : 11 ธันวาคม 2548
Last Update : 11 ธันวาคม 2548 14:59:44 น.
Counter : 651 Pageviews.

1 comments
  
โดย: wormearth IP: 58.136.199.254 วันที่: 19 พฤษภาคม 2549 เวลา:23:27:36 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

จิตปาตลี
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ลิขสิทธิ์ของงานเขียนทุกชิ้นในบล็อคนี้ เป็นของผู้เขียนตามกฎหมาย ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ต่อด้วยวิธีใดๆ โดยไม่ได้รับอนุญาต จากเจ้าของผลงาน หากต้องการนำงานเขียนชิ้นใดไปเผยแพร่ กรุณาติดต่อขออนุญาตจากเจ้าของเรื่อง


คนที่จากไปอาจจะดีกว่า
คนที่เหลืออยู่ข้างหลัง....
เพราะการเหลืออยู่เพียงคนเดียว
มันทุกข์ทรมานยิ่งกว่า
การตายไปแล้วเสียอีก...



Love of my life
you've hurt me
You've broken my heart and now you leave me
Love of my life can't you see
Bring it back, bring it back
Don't take it away from me
Because you don't know -
What it means to me

Love of my life - don't leave me
You've taken my love and now desert me
Love of my life can't you see
Bring it back, bring it back
Don't take it away from me
Because you don't know -
What it means to me

You will remember -
When this is blown over
And everything's all by the way -
When I grow older
I will be there at your side to remind you
How I still love you - I still love you

Back - hurry back
please bring it back home to me
Because you don't know
What it means to me

Love of my life
Love of my life ...



คืนนี้ มันช่างซาบซึ้งถึงไออุ่น
เมื่อเราสองเคียงข้างกัน
คืนนี้ ไม่เป็นแค่ความฝัน
ฉันมิเธออยู่ในอ้อมแขนตามลำพัง
เอ่ยคำรัก ใต้เงาแสงจันทร์
สบตากัน อย่างรู้ใจ
จูบเบา ๆ และลูบไล้ กอดเธอไว้ในอก
จะมีอะไรที่ดีไปกว่าสิ่งนี้ที่เฝ้ารอ

แค่หนึ่งคืน ก็อิ่มเอมสุขใจ
ที่ได้สัมผัส ไอรักกันและกัน

แค่หนึ่งคืน ก็เนิ่นนาน
เหมือนล่องลอยสู่วิมานสุดฟ้า

คืนนี้ เธอได้ยินไหม เสียงหัวใจ
ซึ่งเรียกร้องเพียงแต่เธอ
คืนนี้ ขอเพียงได้พร่ำเพ้อ
เรียกแค่ชื่อเธอ
เมื่อเป็นของกันและกัน

เอ่ยคำรัก ใต้เงาแสงจันทร์
สบตากัน อย่างรู้ใจ
จูบเบาๆและลูบไล้
กอดเธอไว้ในอก
จะมีอะไรที่ดีไปกว่าสิ่งนี้ที่เฝ้ารอ

แค่หนึ่งคืน ก็อิ่มเอมสุขใจ
ที่ได้สัมผัส ไอรักกันและกัน
แค่หนึ่งคืน ก็เนิ่นนาน
เหมือนล่องลอยสู่วิมานสุดฟ้า
อัศจรรย์และลึกล้ำ
เกินกว่าคำ พูดใด
ยากเกินที่ใครจะมาแยกเรา
ถึงแม้พรุ่งนี้ ไม่มีเธอแล้ว
จะเก็บคืนนี้ไว้กับใจ
แค่หนึ่งคืน ก็อิ่มเอมสุขใจ
ที่ได้สัมผัส ไอรักกันและกัน
แค่หนึ่งคืน ก็เนิ่นนาน
เหมือนล่องลอยสู่วิมานสุดฟ้า

(แค่หนึ่งคืน : เอ็กซ์แอลสเต๊ป)