Group Blog All Blog
|
เครื่องย้อนเวลา ตัวเองกำลังเดินทางอยู่ในห้วงเวลาเก่า ๆ เดินผ่านประตูของกาลเวลา ของสถานที่บางแห่งโดยไม่รู้ตัว แต่เมื่อรู้สึกตัวอีกครั้ง ผมก็พบว่า หัวใจเจ็บปวดได้อีกครั้ง โดยไม่ต้องพยายามอะไรเลย และในวันนี้ผมก็ทำให้หัวใจเจ็บปวดอีกครั้ง โดยการกลับไปยืนตรงที่เดิมที่เคยยืนอยู่เมื่อ หลายปีก่อน...... มีคนเคยบอกผมว่า การเดินทาง คือการต่อยอดลมหายใจของชีวิต ของคนสิ้นรัก.... เพราะสถานที่แต่ละแห่งที่เราเดินทางไปนั้น อาจทำให้ในหัวมีภาพแห่งความทรงจำใหม่ ๆ เจอผู้คนใหม่ ๆ และเรียนรู้ที่จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง บ่อยครั้งนักที่ผมเองพบว่า ตัวเองกำลังเดินทางอยู่ในห้วงเวลาเก่า ๆ เดินผ่านประตูของกาลเวลา ของสถานที่บางแห่งโดยไม่รู้ตัว แต่เมื่ แต่เขาคือบอกผมไปว่า.... บางครั้งการเริ่มต้นใหม่นั้น ผมจะต้อง ฝ่าฟันขวากหนามสำคัญของความทรงจำที่เรียกว่า รัก ไปให้ได้เสียก่อน ผมจึงจะเริ่มต้นใหม่ได้ สถานที่บางแห่งเป็นที่ ๆ น่าจดจำ พร้อม ๆ กับ เป็นที่ ๆ ทำให้ความทรงจำที่เป็นตะกอน ถูกกวนให้ขุ่นลอยขึ้นมาโดยที่เราไม่ต้องการ จากการเดินทางเข้าไปเยี่ยมเยือนมันอีกครั้ง จริง ๆ แล้วผมควรจะเลิกคิดถึงเธอคนนั้นไปได้แล้ว ซึ่งก็จริงๆ แล้ว ผมเลิกคิดถึงเธอคนนั้นไปได้สักพักแล้ว พอ ๆ กับการออกเดินทางไปเรื่อย ๆ ของผม แต่ผมพลาดตรงที่.... ผมเดินกลับไปบนเส้นทางเดิมที่เคยมีเรา แต่วันนี้มีเพียงผม...เพียงแค่นั้น ผมเคยคิดว่าสักวันหนึ่งผมคงจะลืมความทรงจำนั้นไปได้เสียที แต่ตอนนี้ผมรู้ว่า ผมไม่มีทางลืมเรื่องรักของเราได้ พอ ๆ กับที่ไม่สามารถเริ่มต้นได้ใหม่อย่างจริงจังกับใคร สักคน... คนที่พยายามเดินเข้ามาในชีวิตในตอนนี้ ผมไม่ปฏิเสธความสัมพันธ์นั้น... พอ ๆ กันที่ผมไม่สามารถมอบหัวใจให้ใครอีกคนได้ เหมือนที่ผมไม่สามารถลบใครบางคนออกไปจากใจได้ ผมไม่ยึดเธอไว้กับผม เพราะรู้ว่ามันคงเห็นแก่ตัว ที่จะไม่บอกว่าในหัวใจผมในตอนนี้ยังเจ็บปวด เพราะรักครั้งเก่าที่ยังยึดเหนี่ยวอยู่ในใจ แล้วแกล้งทำลืมไปว่า ..เคยมีมัน ตรงหน้าขอบผาที่เคยยืน...ด้วยกัน มือเล็ก ๆ ของเธอเกาะเกี่ยวมือหนาของผมไว้ ลมหนาวพัดพาเส้นผมเธอให้พริ้วไปกับสายลม กลิ่นแชมพูอ่อน ๆ ที่เธอใช้ ราวกับว่าเรื่องราวหลายปีที่ผ่านมา มันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อชั่วโมงที่แล้ว ที่มือยังคงรู้สึกอุ่น พร้อมกับยังคงได้กลิ่นแชมพู ที่เธอใช้เป็นประจำ.... น้ำตายังคงรินรดหัวใจ เมื่อความจริงมันพร่างพรู ในใจผม... ความจริงที่ว่าเธอไม่ได้อยู่เพื่อเกาะกุมมือผมอีกแล้ว อาจจะฟังดูโหดร้าย... ใช่...มันโหดร้ายในตอนแรก ๆ ที่เธอจากไป และมันทรมานในปีต่อ ๆ มากับความทรงจำที่ไม่มีเธอ เพื่อนหลายคนพยายามช่วยผมขึ้นจากหลุมแห่งความโศกเศร้า... ในขณะที่บางคนด่าว่า ถ้ายืนมือลงไป หรือส่งเชือกลงไป แต่ผมไม่จับมันไว้ ต่อให้เรียกหรือตะโกน หรือบังคับให้ผมจับเชือกหรือมือไว้ ถ้าผมไม่ทำ แต่นั่งอยู่เฉย ๆ อยู่ในหลุมมืดนั้น ผมก็จะยังจมจ่ออยู่ที่ตรงนั้น ใช่...ผมรู้ ตราบใดที่ยังไม่พยายามปีนขึ้นมาเอง หรือรับความช่วยเหลือของใครผมก็จะยังอยู่กับความทรงจำ ที่ตายไปแล้ว กับวันเวลาเก่าๆ ที่ทำให้หัวใจเจ็บปวด แต่เมื่อผมพยายามปีน หรือจับมือใครสักคน แล้วขึ้นมา ยืนที่ปากหลุมได้... และเผลอคิดไปว่า ผมทำได้แล้ว.... ตอนนั้นล่ะ ... กว่าจะรู้ตัวผมก็กลับมานอนอยู่ที่ก้นหลุมอีกครั้ง บางครั้งการพยายามลุกขึ้นมาอีกครั้งก็ดูยากเย็น ต้องใช้แรงใจทั้งหมดที่มีช่วยตัวเองให้ตะกายขึ้นมา หาอากาศบริสุทธิ์ด้านบน.... เพื่อมองดูพระอาทิตย์ขึ้นในวันรุ่งขึ้นต่อไป มองเพื่อจะได้รักษาสัญญาที่ได้ให้ไว้กับเธอ ต่อลมหายใจตัวเอง .... ผมเดินลงภูกระดึง ด้วยความรู้สึกเหงาจับหัวใจ เมื่อถึงปลายภู... เมื่อประตูกาลเวลาถูกเปิดอีกครั้ง ผมคงได้เวลาเดินทางออกจากวันเวลาเก่า ๆ สักที ผมคิดอย่างนั้นจริง ๆ ตอนที่เดินลงมาจากที่นั่น... โดย: หน่อยอิง วันที่: 26 กันยายน 2550 เวลา:21:14:04 น.
|
จิตปาตลี
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Friends Blog
Link |
เวลาที่ผมาหายไปนาน ๆ ก็อย่าเพิ่งตกใจว่าผทจะเหงาตายไปหรือเปล่า...
ผมแค่กำลังอยู่ในการเดินทางเท่านั้น สำหรับผู้ที่เข้ามาทักทายกัน ทันทีที่ผมเห็นจะแวะเวียนไปทักทายตอบนะครับ
ด้วยมิตรไมตรีครับ