ครูปั๊กกาเป้า.... O_o
Group Blog
 
<<
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
15 มกราคม 2551
 
All Blogs
 

ดั่งดวงตะวัน ... 2




ไหมทองมองเข้มด้วยความรัก
"ไหมขอบคุณนะคะ ไหมเชื่อแล้วค่ะ ว่าคุณจริงจังกับไหม ถ้าคุณคิดจะหลอกไหม คุณคงไม่ถามแบบนี้"
ไหมทองกับเข้มกระหนุงกระหนิงกันอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ต โดยไม่รู้ว่าฝ้ายเดินเข้ามาซื้อของและเห็นเข้าไกลๆ ฝ้ายรู้สึกคุ้นตากับรูปร่างของไหมทอง จึงรีบทิ้งของแล้วเดินมาดู โดยมีแก้วตามมาติดๆ อย่างไม่เข้าใจนัก แต่ระหว่างที่กำลังเดินตามหาไหมทอง ฝ้ายเกิดไปชนเข้ากับขายหญิงคู่หนึ่ง จนเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ไหมทองรู้ตัว รีบพาเข้มหนีออกไปขึ้นรถกลับทันที
"สตาร์ทรถเลยค่ะ"
"คุณกลัวพ่อกับแม่เอามากๆ เลยนะครับ"
"ไหมไม่อยากเสียคุณไป"
"ผมไม่ได้มาหลอกคุณนะ แล้วคุณก็โตแล้ว พ่อแม่คุณเขาจะใจร้ายกับเราทำไม"
"ถ้าพ่อกับแม่รู้ เขาก็จะไปไหนมาไหนกับเรา แล้วก็ไม่มีทางให้ไหมไปที่คอนโดฯคุณสองต่อสอง ท่านจะติดตามฉันเป็นเงาตามตัว คุณอยากให้ชีวิตเราเป็นอย่างนั้นหรือคะ"
ทางด้านของฝ้ายหลังจากที่ตามไหมทองไม่ทันแล้ว แก้วก็พาเธอมานั่งสงบสติอารมณ์ที่มุมหนึ่งในซูเปอร์มาร์เก็ต
"ฝ้ายคิดว่า ฝ้ายเห็นไหมทองก็เลยวิ่งมาดูว่าใช่หรือเปล่า"
"เอ้า ลูกมาที่นี่หรือ ที่นี่ก็อยู่ใกล้ๆร้านของไหม อาจจะใช่ก็ได้นะโทร หาลูกดีกว่า"
"ถ้าใช่เขาจริงๆ เขาคงไม่บอกหรอกว่ามา"
"ทำไมล่ะ?"
"ผู้หญิงที่ฝ้ายเห็น เขายืนกอดกับผู้ชายอยู่!"
คำสันนิษฐานของฝ้ายเป็นความจริง เพราะเมื่อทั้งสองกลับบ้านและสอบถามไหมทอง อีกฝ่ายก็ปากแข็งปฎิเสธ และทำท่าหงุดหงิดใส่ จนแก้วต้องกางปีกปกป้องไหมทอง และทำให้ฝ้ายน้อยใจจนได้
"พี่ขอโทษ" แก้วเดินตามมาง้อ
"ยิ่งพี่แก้ว ใจดีกับเขา ฝ้ายก็ยิ่งต้องดุ ทั้งๆที่ไม่ได้อยากทำสักหน่อย เมื่อไหร่พี่จะเข้าใจว่าเราเลี้ยงลูกด้วยควารักอย่างเดียวไม่ได้"
"พี่ก็พยายามปรับตัวแล้วไง พี่ให้เขาทำร้านด้วยตัวเอง พยายามห่างจากเขา เขาก็เริ่มโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว รู้จักตัดสินใจด้วยตัวเองแล้ว แต่เรื่องวันนี้ฝ้ายเองไม่ใช่หรือ ที่พยายามทำให้เขากลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง"
"พี่แก้วไม่ได้เห็นเหมือนที่ฝ้ายเห็น เขากับผู้ชายคนนั้น"
ฝ้ายยินยัน แก้วอึ้งไปชั่วครู่ ตัดสินใจว่าจะเชื่อดีหรือไม่ ก่อนจะพูดออกมา ตัดสินใจเด็ดขาด
"พี่เชื่อมั่นในตัวลูก ถ้าเขาจะมีแฟนเขาต้องบอกเรา ที่สำคัญเขาไม่มีทางไปยืนกอดกับผู้ชายกลางห้างฯ อย่างนั้นหรอก!"
ทางด้านดินก็มาง้อเปรี้ยวหวานที่โรงพิมพ์เช่นเดียวกัน แต่เจออ๊อดที่ตามมาเฝ้าขัดจังหวะ จนเปรี้ยวหวานแกล้งประชดหวานกับดินใส่ และเดินหนีพ่อออกมาอย่างหงุดหงิด ดินรีบฉวยโอกาสตามไปปลอบ
เปรั้ยวหวานหนีมาสงบสติอารมณ์ที่สนามบอล โดยมีดินอยู่เป็นเพื่อน แต่อ๊อดซึ่งหวงลูกสาวเป็นทุนเดิมก็ไม่ยอมแพ้ แอบเข้าไปซ่อนในกล่องใบใหญ่ที่ถูกทิ้งไว้แล้วคลานเข้ามาแอบฟังอยู่ใกล้ๆ
"ขอบคุณนะ ที่พยายามปลอบใจฉัน แต่ถึงยังไง ฉันก็ยังไม่มีอะไรคุยกับคุณอยู่ดี คุณกลับไปเถอะ"
"คุณไม่คุยกับผม แล้วคุณจะจีบผมได้ไง"
เปรี้ยวหวาน งง
"ตอนคุณบอกพ่อ ผมงี้ใจหายวูบเลย แหม่...ขอโทษจริงๆ คุณไม่ใช่สเปกนะ"
ดินส่ายหน้าอย่างรังเกียจ เปรี้ยวหวานเลยยิ้มออกมาอย่างหมั่นไส้
"อีตาบ้า"
"ยิ้มออกแล้ว งั้นช่วยฟังผมหน่อยเถอะนะ คุณไม่อยากรู้หรือว่าผมโกหกคุณทำไม อย่าบอกนะว่าเชื่อตามที่พ่อคุณบอก ที่หาว่าผมจีบคุณน่ะ"
"แล้วคุณโกหกฉันทำไม"
"ผมโกหกคุณว่าผมเป็นนักเขียน ทั้งที่เป็นตำรวจ เพราะต้องการสืบเรื่องของคนคนหนึ่ง"
"ใคร"
"พี่ชายคุณ!"
"พี่เข้ม !"
"เข้ม ลูกพ่อ"
อ๊อดพึมพำอย่างตกใจ
ทันใดนั้นเอง แป๊ดในชุดเล่นกีฬาวิ่งมาหาทั้งสองคน
"เอ้า เปรี้ยวหวานมาทำอะไรตรงนี้ คุณดินนี่นา ไม่ไปเที่ยวอาบอบนวดอีกหรือคุณตำรวจ?"
"โธ่ อย่าล้อผมสิครับ"
"ออกกำลังกายหรือคะ?"
เปรี้ยวหวานทัก
"มาซ้อมเพิ่งไปเรียนมวยไทยมา จริงๆเป็นคนสวยอ่อนหวานนะ แต่พวกผู้ใหญ่ชอบสอนแป๊ดว่าสวยมากๆ จะเป็นอันตราย"
"ต่อคนอื่นหรือครับ?"
"บ้า ต่อตัวเองต่างหาก เอ้ากล่องนี้มาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ดีๆ นี่ๆ จะโชว์ให้ดู เห็นเข้าแล้วอย่าติดใจนะ อย่าคิดมาจีบ บอกก่อนว่าเป็นคนถือตัว นี่ดูๆ"
แป๊ดหันไปเห็นกล่องที่อ๊อดอยู่ข้างในวางอยู่ เลยจะใช้กล่องนั้นแทนกระสอบทราย
"สุดยอดแม่ไม้มวยไทย จระเข้ฟาดหาง ย้าก ! "
แป๊ดออกท่าทางดุเดือดพอเท้าแป๊ดลอยมา กล่องกระดาษเลื่อนดึ๊บๆหลบไปสองสามฟุต เท้าของแป๊ดวืดไป
"เอ้า ทำไมกะผิด"
ดินกับเปรี้ยวหวานไม่ค่อยสนใจมอง แต่เห็นด้วยหางตาเลยไม่แน่ใจ
"เอ๊ะ เมื่อกี้ผมว่า..."
"ไม่เป็นไร เอาใหม่"
แป๊ดตั้งท่าใหม่
"สุดยอดแม่ไม้มวยไทย จระเข้ฟาดหาง" แป๊ดออกเท้าไป กล่องกระดื๊บไปอีก
"ว้า พลาดอีกแล้ว"
"เอ๊ะในกล่องนั่น"
ทั้งดินและเปรี้ยวหวานเริ่มเห็นความผิดปกติ แต่แป๊ดไม่รอทั้งสองคนพูด จัดการใส่เต็มเหนี่ยวซัดใส่กล่องกระดาษเป็นชุดยาวเหยียด"
"งั้นเอาท่าใหม่ ตีเข่า ตีศอก สำรหับคนคิขุอาโนเนะอย่างเรา ต้องตีเข่าๆๆๆ ศอกๆๆ"
แป๊ดร้องจ๊าก กระโดดถีบกล่องกระดาษจนลืมตึง คนในกล่องล้มหงาย พังกล่องออกมาโวย
"โว้ย กูเอง !"
"คุณอ๊อดว๊ายไปอยู่ในนั้นได้ไง"
"พ่อ"
อ๊อดเดินเข้ามาบอกแป๊ดเสียงนิ่มๆ
"นี่ ถ้าคิดจะขึ้นชกมวยไทย ตั้งชื่อให้ไหม...อีแป๊ด เท้าทรพี"
"ต๊าย เพราะจังเลย ว่าแต่ทรพีนี่แปลว่าอะไร"
"ควายไง ควายถึก น่ะรู้จักไหม ส่วนแก บอกมานะ แกมาสืบเรื่องลูกชายอา เรื่องอะไรบอกมา"
ดินมองทั้งหมดอย่างอึดอัดใจ แต่ในที่สุดก็ยอมเปิดปากบอกความจริง
"ทางตำรวจกำลังสงสัยว่านายเข้มคือเจ้าพ่อโต๊ะบอลรายใหญ่ของเขตนี้"
"เจ้าพ่อโต๊ะบอล"
"คุณเข้มเนี่ยหรือ?"
"จริงหรือลูกเปรี้ยว?"
อ๊อดหันไปถาม
"ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ คุณใส่ร้ายพี่ชายฉัน!"
"คุณเข้มน่ะ การศึกษาก็มี อาชีพการงานก็มี เขาจะไปทำแบบนั้นทำไม"
"ถ้าเขาทำอาชีพสุจริต ผมก็อยากให้เขามารายงานตัวกับตำรวจ หมู่นี้ผมไม่เห็นเขาเลย เขาไปไหน"
"พี่เข้มไปทำงานต่างจังหวัด"
"หรือว่าเขาไหวตัวทัน เฮ้อ ไม่น่าพลาดที่ร้านสนุ้กเลย"
ดินบ่นพึม เปรี้ยวหวานโวยขึ้นมาทันที
"นี่หยุดปรักปรำพี่ชายฉันได้แล้ว พี่เข้มทำโรงพิมพ์ ทำร้านหนังสือเขาเป็นคนดี เขาไม่มีทางทำผิดกฎหมายหรอก"
"ผมว่า.."
"ไม่ฉันไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น ครั้งแรกคุณมาโกหก ครั้งที่สองคุณก็มาใส่ร้ายพี่ชายฉันอีก โน่นประตู ออกไป ออกไปได้แล้ว !"
"ในฐานะน้องสาว คุณคงต้องใช้เวลาทำใจกับเรื่องนี้ ไว้คุณใจเย็นลงแล้ว ผมจะมาหาใหม่"
อ๊อดพยายามจะเกลี้ยกล่อมให้เปรี้ยวหวานใจเย็นลง แต่อีกฝ่ายกลับหงุดหงิดใส่ จึงเดินตามดินไปอีกคน หลังจากที่อ๊อดถามดินซ้ำจนแน่ใจแล้วว่าเข้มเป็นผู้สงสัยจริง จึงแวะไปหาหินที่บ้านและเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนทั้งสามฟัง
"ไอ้คนทำโต๊ะบอลที่ว่าคือลูกแกหรือ?"
"แล้วไง จะด่าข้าอีกสิ วันนี้อารมณ์ไม่ดีนะโว้ย สู้คนนะวันนี้น่ะ สู้นะ"
"เอ๊ะไอ้นี่แค่ถาม เดี๋ยวปั๊ด"
หินค้อน ธงรีบร้องห้าม
"เฮ้ย อย่า"
"นี่ไม่ต้องห้ามเลยนะ"
ทุกคนหยิบจานอาหารพรึ่บคนละจานสองจาน กลัวจะมีคนอาละวาดทำลายอาหาร
"แกสองคนน่ะทะเลาะกันทุกวันอยู่แล้ว แต่ต้มข่าไก่ฝีมือแอ๋วน่ะ ได้กินนานๆที"
หินกับอีอดยอมเลิกรา แอ๋วนั่งปะติดปะต่อเรื่องราว
"อืมม์ ลูกของคนนี้เป็นตำรวจ เข้ามาจีบลูกคนนี้เพื่อจะจับลูกชายเขา"
แอ๋วชี้หิน และอ๊อด นกน้อยเดินถือตะกร้าจ่ายกับข้าวเข้ามา ชี้หินและธงและอ๊อด ประกอบคำพูด
"ส่วนลูกสาวของคนนี้ก็รักกับลูกชายของคนนี้ แต่ลูกสาวคนนี้มาขัดขวาง"
"ไม่น่ารักเลยนะนกน้อย เป็นผู้หญิงไม่ควรพูดแบบนี้"
"ก็มันจริงนี่"
"เฮ้อ พวกพี่หินนี่มันวนเวียนยังไงก็ไม่รู้เนอะ แล้วลูกพี่แก้วล่ะ ไม่มีปัญหาวนเวียนอะไรกับเขาบ้างหรือ?"
แก้วอึ้ง นึกถึงคำพูดของฝ้ายที่บอกว่าเห็นไหมทองกอดกับผู้ชายแต่ไม่ยอมรับรีบปฎิเสธเสียงดังลั่น
"ไม่ ไม่มีทาง ...ไหมทองของพี่ไม่มีทางทำให้พี่เสียใจหรอก"
เปรี้ยวหวานรู้สึกไม่สบายใจกับข้อกล่าวหาของดิน จึงติดต่อเป้เพื่อหาตัวเข้ม โดยไม่รู้ว่าดินแอบเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ และตามเปรี้ยวหวานมาถึงร้านหนังสือ แต่ดินแอบดูเปรี้ยวหวานไปสักพักก็หันมาเจอจ่านิดที่ตามมาสบทบ และมัวแต่คุยกันจนกระทั่งมองหาเปรี้ยวหวานไม่เจอ
ความจริงแล้วเปรี้ยวหวานแอบซ่อนตัวในรถของเป้ แล้วตามมาที่คอนโดฯของเข้มจนได้ แต่ขณะเดียวกันดินก็ขับรถวนเวียนมองหาเปรี้ยวหวานอยู่หน้าคอนโดฯแห่งนั้น
เปรี้ยวหวานแอบตามเป้ขึ้นไปข้างบนและพบไหมทองอยู่ในห้องพักกับเข้ม เข้มไม่รู้จะทำยังไงจึงยอมให้น้องสาวเข้ามา และแนะนำให้รู้จักกับไหมทอง
"เข้มเขาพูดถึงคุณเปรี้ยวหวานอยู่บ่อยๆ แต่ไม่เห็นบอกว่าหน้าตาน่ารักขนาดนี้"
"เปรี้ยวยินดีที่ได้รู้จักค่ะ พี่เข้มไม่เคยมีแฟน เปรี้ยวนึกอยากให้พี่เขามีคนมาดูแลนานแล้ว"
"เย็นแล้ว ไหมกลับร้านก่อนนะคะ"
พอไหมทองออกไปปั๊บ เปรี้ยวหวานโวยทันที
"ว่าไงคะ จะตอบเปรี้ยวได้หรือยัง โกหกว่าอยู่ต่างจังหวัดทำไม ?"
"พี่เอ้อ พี่มีแฟนแล้วไง อยากย้ายออกมาอยู่เป็นส่วนตัวบ้าง"
"แล้วทำไมไม่บอกเปรี้ยวตรงๆล่ะ?"
เข้มพยายามโกหกไปเรื่อยๆ
"เพราะ เอ้อ ก็ว่าจะบอกอยู่ไม่เอาน่า ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายอะไรสักหน่อย"
"แล้วเรื่องมีตำรวจมาตามพี่ที่โรงพิมพ์ล่ะ คอขาดบาดตามพอไหม?"
"อะไรนะ?"
เปรี้ยวหวานเล่าเรื่องของดินให้เข้มฟังจนหมดเปลือก จนเข้มถึงกับอึ้งไป
"ว่าไง ทำจริงๆหรือเปล่า?"
เข้มยังอ้ำอึ้งอีก เปรี้ยวหวานโกรธมาก ด้วยความสนิทกัน ดูก็รู้ว่าเข้มโกหก เปรี้ยวหวานตรงเข้าไปตีเข้ม รัวหมัดลงไปที่อกและแขนของเข้ม
"พี่เข้ม นี่แน่ะ นี่ นี่ทำแบบนี้ทำไม น้องเสียใจแค่ไหนรู้ไหม ไม่คิดถึงตนเอง ก็น่าจะคิดถึงน้องบ้าง นี่แน่ะ นี่ นี่"
เข้มดึงตัวเปรี้ยวหวานเข้ามากอดรักสุดหัวใจ ทุกอย่างก็เพื่อน้องคนนี้เท่านั้น
"ฟังนะ เราสองคนโตมาด้วยกัน ชีวิตของเรามีกันและกันเท่านั้น ถ้าน้องไม่เชื่อใจพี่แล้วน้องจะเชื่อใจใครได้อีก"
"แต่ว่า.."
"ไม่...ขอแค่เชื่อใจพี่ น้องต้องเชื่อพี่ อย่าเชื่อคนอื่น พี่ไม่ได้ทำไม่ได้ผิดกฎหมาย จริงๆนะ"
คราวนี้เปรี้ยวหวานเริ่มอึ้ง มองหน้าเข้ม เข้มยังมองมาอย่างจริงจัง เปรี้ยวหวานครุ่นคิด หรือว่าพี่ชายพูดจริง
"แล้วทำไม พี่ต้องย้ายออกจากบ้าน?"
"ช่วงนี้พี่มีปัญหานิดหน่อย ไหมทองน่ะ พ่อแม่เขาดุมาก เขาไม่ให้เราคบกัน ที่พี่ซ่อนตัวก็เพราะเหตุนี้ล่ะ"
"เพราะคุณไหมหรือ ?"
"ใช่ เปรี้ยวหวานต้องช่วยเราสองคนนะ"
"ช่วยยังไงคะ?"
"ปกปิดที่อยู่ของเราไว้ก่อน อย่ามาหาพี่ช่วงนี้ ถ้าพ่อแม่เขารู้ว่าเปรี้ยวหวานเป็นน้องพี่ เขาอาจจะสะกดรอยตามเปรี้ยว เราสองคนจะลำบาก"
"ซีเรียสขนาดนั้นเชียวหรือ"
"ซีเรียสมาก เชื่อพี่นะ อย่ามาหาพี่อีก วันนี้ก็เหมือนกัน รีบกลับไปก่อน แล้วค่อยโทร คุยกัน"
"พี่เข้ม" เปรี้ยวหวานลังเล
"ไปเถอะน่า เอาไว้เราสองคนเคลียร์กับพ่อแม่ไหมเรียบร้อยแล้ว พี่จะย้ายกลับบ้านนะนะ กลับไปก่อน"
เปรี้ยวหวานยังนั่งงง เข้มมองซ้ายมองขวาแล้วใส่หมวกให้กระชับ เดินไปอีกทางหนึ่ง
"เอ้านี่จะไปเลยหรือ พี่เข้ม พี่เข้ม"
ดินกับจ่านิดเดินตามหาเปรี้ยวหวานอยู่ในละแวกใกล้ๆและเห็นเข้มเข้า จึงรีบวิ่งตามไปในเวลานั้นหินซึ่งได้รับโทรศัพท์จากจ่านิด และตามมาสมทบด้วยความเป็นห่วงดิน รีบวิ่งตามลูกชายไปด้วย และทันเห็นดินกับเข้มต่อสู้กันจนดินถูกทำร้ายล้มลง และเกือบโดนรถชน หินรีบกระโจนเข้าไปขวางมอเตอร์ไซด์คันนั้น
"อย่า"
รถมอเตอร์ไซด์เฉี่ยวหินเซลงไป หินยกแขนยัน แขนครูดไปกับพื้น
"เฮ้ออะไรวะ อยากตายหรือไง"
รถมอเตอร์ไซด์คันนั้นที่พยายามประคองตัวเองไม่ให้ล้มหันมาด่าหิน หินหันไปมองลูก ไม่สนใจรถที่ต่อว่าตนอยู่
ดินลุกขึ้นได้แล้ ไม่สนใจอย่างอื่น ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพ่อมองหาแต่เข้ม ดินเห็นเข้มวิ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของถนน ดินลุกขึ้นวิ่งไป หินจับแขนที่เลือดออก ยิ้มมองดินภูมิใจ พูดออกมาอย่างชัดเจนด้วยหัวใจคนเป็นพ่อ
"ไปเลยลูกไปปกป้องประชาชนส่วนพ่อ จะปกป้องลูกเอง !"
ดินวิ่งไปที่กลางถนน แล้วเสียงแตรยาวดังเข้ามาอีกครั้ง ที่ด้านหลังดิน ดินตกใจหันขวับมามองรถปิคอัพคันหนึ่ง พุ่งตรงเข้ามาที่ร่างของดิน รอยยิ้มของหินเปลี่ยนเป็นสีหน้า บิดเบี้ยว ตะโกนลั่น
"ไม่"
รถปิคอัพพุ่งชนดินเปรี้ยง !!! โดยไม่คาดฝัน หินตะโกนเสียงดัง วิ่งเข้าไปหาลูก
"ลูกพ่อ"
หินวิ่งเข้าไป กอดร่างของลูกไว้ เลือดออกที่ขา ดินหมดสติ
"ลูกพ่อ ไม่ ต้องไม่เป็นแบบนี้ ไม่ ไม่ !!"
เข้มหนีรอดไปได้ แต่เริ่มกังวลกับความปลอดภัยของตัวเอง จึงบอกให้เป้ไปหาที่คอนโดฯให้ใหม่ และบอกข่าวร้ายกับไหมทองที่แวะมาเยี่ยม โดยอ้างว่าจะไปอยู่ต่างจังหวัด ไหมทองตกใจมากยังคุยกันไม่รู้เรื่อง แก้วก็โทรศัพท์มาขัดจังหวะอีก ไหมทองรีบโกหกให้แก้วไปเข้าคิวรอซื้อขนมปังร้านโปรด เพื่อถ่วงเวลาคุยกับเข้มต่อไป
"คุณจะทิ้งไหมหรือคะ คุณเบื่อไหมแล้วใช่ไหม?"
ไหมทองเข้ามาเกาะแขน
"ไปกันใหญ่แล้ว ผมไม่ได้เบื่อคุณสักหน่อย"
ไหมทองน้ำตาไหลสำหรับคนโลกแคบอย่างไหมทอง เข้มเป็นแฟนคนแรกและนี่คือเรื่องเสียใจที่สุดในชีวิต
"คุณได้ร่างกายของไหม คุณก็เลยเบื่อ คุณไม่ได้จริงใจกับไหมมาตั้งแต่ต้น!"
"ไม่ใช่อย่างนั้นนะ"
มือถือของไหมทองดังขึ้นขัดจังหวะอีก ไหมทองแทบจะตะโกนลงไปในโทรศัพท์
"อะไรอีกล่ะพ่อ ?"
"ฝนมันตกน่ะลูก พ่อเข้าไปหาลูกที่ร้านก่อนแล้วกันนะ"
"ไม่ค่ะ พ่อยังมาหาหนูไม่ได้ พ่อต้องซื้อขนมนั่นมาให้หนูได้ยินไหมคะ ?"
แก้วตกใจอึ้งไป น้อยครั้งเหลือเกินที่ไหมทองจะหัวเสียแบบนี้
"ทำไมต้องทำเสียงดุด้วยล่ะ อารมณ์ไม่ดีหรือ?"
ไหมทองรู้ตัวพยายามสงบสติอารมณ์
"ขอโทษค่ะ"
"งานที่ร้านคงเหนื่อย เอาๆเดี๋ยวพ่อหาทางซื้อไปให้ลูกนะ"
แก้ววางหู แล้วเดินออกไปตากฝนรอขนมให้ลูก เป็นชายคนเดียวที่ไม่มีร่มแต่ก็ยังเข้าแถวรอท่ามกลางสายฝน แก้วหนาวแต่ก็ยังยืนอย่างอดทน
เข้มพยายามเกลี้ยกล่อมไหมทองด้วยเหตุผลต่างๆนานา จนอีกฝ่ายเริ่มเย็นลง และยอมให้เข้มย้ายออกไปแต่เพียงลำพัง แต่เมื่อถึงเวลาต้องแยกย้ายกันไหมทองก็เดินตากฝนร้องไห้กลับมาที่ร้าน
"พ่อยังไม่มาอีกหรือลูก ไหนนัดกับแม่ไว้ที่นี่ตั้งชั่วโมงแล้ว"
ฝ้ายตามมาถึงร้านแต่ไม่ทันเห็นอาการของไหมทอง
"ไม่รู้สิคะ"
ฝ้ายมองไหมทองอย่างแปลกใจ แล้วเหลือบมองแก้วที่มาถึงพอดี
"ไปทำอะไรมา ตัวเปียกหมดเลย?"
"ได้มาแล้วลูก นี่นะอุตส่าห์ยืนเข้าแถวตั้งสองชั่วโมง ฝนก็ตกลงมาอีก พ่อไปจัดใส่จานให้นะ"
ไหมทองเบื่อหน่าย หมดอารมณ์ทุกอย่าง
"ไม่อยากกิน พ่อกินเองเถอะค่ะ"
"เอ้า ทำไมล่ะลูก ดูทำหน้าเข้าสิ งานที่ร้านยุ่งมากหรือ คนสวยยิ้มหน่อยน่า"
ไหมทองหันหน้าหนี
"ลูกไม่อยากกินก็วางไว้เถอะค่ะ คุณมานั่งก่อน เจี๊ยบๆเอาน้ำร้อนมาให้คุณผู้ชาย แล้วก็เอากุญแจนี่นะไปเอาผ้าเช็ดตัวกับเสื้อใหม่ในรถฉันมาให้ด้วย"
เจี๊ยบจัดการเอาน้ำร้อนให้แล้วออกไปข้างนอกตามคำสั่ง
"เอางี้ไหม พ่อป้อนเหนื่อยๆอย่างนี้กินของหวานเข้าไปเดี๋ยวก็หายเหนื่อย"
แก้วตามตอแย ทำให้ไหมทองหมดความอดทน ตะโกนขึ้นมาพร้อมปัดขนมในมือพ่อทิ้งอย่างไม่ใยดี จนขนมกลิ้งตกลงพื้น
"พ่อน่ะ ไหมอารมณ์ไม่ดี ขออยู่คนเดียวได้ไหมค่ะ!"
"ไหมทอง ทำแบบนี้ได้ยังไง พ่อเขาอุตส่าห์ตากฝนจนเป็นหวัดซื้อขนมให้เรา ทำไมใจร้ายอย่างนี้ หา"
"ก็ไหม .."
"ไม่เป็นไรหรอกฝ้าย"
"หมู่นี้เราเป็นอะไร ทำไมท่าทางมีความลับนัก แถมยังหงุดหงิดไม่เข้าเรื่อง ปิดบังอะไรพ่อกับแม่อยู่ บอกมานะ"
ฝ้ายเขย่าตัวไหมทองถาม จนไหมทองสะปัด โวยกลับ ระบายสิ่งที่อัดอั้นในใจลึกๆที่มีมาตลอด
"ปล่อยนะ หนูไม่ใช่เด็กๆ ทำไมหนูต้องเล่าเรื่องทุกอย่างให้พ่อแม่ฟังด้วย หนูแค่อยากมีชีวิตเป็นของตัวเอง อยากมีอิสระ พ่อแม่เลิกยุ่ง เลิกถามเลิกเซ้าซี้หนูเสียทีได้ไหม!"
ไหมทองวิ่งหนีไป ฝ้ายตะโกนลั่น
"ไหมทอง จะไปไหนกลับมานะ ไหมทอง ไหมทอง"
"ปล่อยเขาไปเถอะ"
"ไม่ได้นะคะพี่แก้ว หมู่นี้เขาเปลี่ยนไปมาก ต้องมีอะไรแน่ๆ ฮึ่ยเขาปิดบังอะไรอยู่นะ"
แก้วดึงฝ้ายเข้ามากอดปลอบฝ้าย ตามประสาคนใจเย็น
"จะกังวลไปทำไม ต่อให้เขาเป็นฆาตกร เป็นคนเลว เขาก็เป็นลูกเราอยู่ดีใช่ไหมล่ะ"
ระหว่างที่ดินพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล หินยังคงไปเยี่ยมลูกชายทุกวัน แต่ก็แอบอยู่นอกห้อง ไม่ยอมปรากฎตัวเข้าไปให้ดินเห็น จนกระทั่งดินออกจากโรงพยาบาล
เมื่อดินกลับไปทำงานได้ สิ่งแรกที่ทำก็คือตรงไปที่บ้านของเปรี้ยวหวาน เปรี้ยวหวานเห็นสภาพของดินก็ตกใจ ไม่นึกว่าเข้มจะลงไม้ลงมือรุนแรงขนาดนั้น
"มาถึงบ้านฉันเชียวนะ วันนี้ต้องการอะไร?"
"เอาแบบโกหก ก็คือผมผ่านมาเลยแวะมาเยี่ยม เอาแบบจริงๆก็คือผมต้องการมารู้ที่อยู่ของนายเข้ม"
"เอาแบบโกหกก็คือฉันไม่รู้ เอาแบบจริงๆก็คือฉันรู้แต่ไม่มีวันบอกคุณ เพราะฉะนั้นกลับไปได้แล้ว" เปรั้ยวหวานเดินหนี
"เดี๋ยวสิ คุณ คุณ"
เปรี้ยวหวานเดินมานั่งท่าทางเศร้าและเครียด ดินมองๆไป ตุ๊กตามือตัวเดิมวางอยู่แถวนั้น เลยหยิบมาใส่ แล้วใช้ตุ๊กตาเข้าไปพูดแทนตนเอง
"หมีน้อยน่ะนอนโรงพยาบาลตั้งหลายวัน ไม่สงสารกันบ้างหรือ"
เปรี้ยวหวานกำลังกลุ้ม พูดไปน้ำตาคลอไป
"ถ้าคุณจะจับ ก็จับฉันเถอะ ที่พี่เข้มทำโต๊ะบอล เขาคงทำเพื่อครอบครัวซึ่งก็คือฉัน"
"หมีน้อยน่ะ รู้นะว่าคุณมีเรื่องไม่สบายใจ โอ๋ โอ๋ อย่าเสียใจไปเลยนะ"
ตุ๊กตามือของดินเข้าไปแนบชิดที่แขนของเปรี้ยวหวาน
"คนทำผิดกฎหมายเพราะคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับครอบครัว แต่เขาไม่รู้หรอกครอบครัวเขาเจ็บปวดแค่ไหน วันนั้นถ้าคุณถูกรถชนตาย คุณกลายเป็นวีรบุรุษ ครอบครัวคุณร้องไห้ แต่ก็ภูมิใจ แต่ถ้าเป็นพี่เข้มโดนบ้างล่ะ เขาคงตายอยู่ข้างถนน ทิ้งตราบาปไว้กับฉัน"
"คุณเปรี้ยวหวาน" ดินเริ่มเห็นใจ
"พอรู้ว่าโรงพิมพ์ได้มาจากเงินสกปรก ฉันแทบไม่อยากทำงานเลย เราจะเจริญรุ่งเรืองบนความทุกข์ของคนอื่นได้ยังไง ไม่มีทางเลย"
น้ำตาของเปรี้ยวหวานหยดแหมะลง
"ถ้านายเข้มไม่มีพ่อแม่ เขาก็โชคดีที่มีน้องสาวอย่างคุณ ด้วยความรักและความดีในตัวคุณ เราน่าจะช่วยให้เขากลับตัวได้ ผมจะช่วยคุณอีกแรง อย่าร้องไห้เลยนะครับ"
ดินใช้มือของตุ๊กตาหมีเช็ดน้ำตาให้เปรี้ยวหวานอย่างเบาแผ่วเบา ทั้งสองอ่อนโยนต่อกัน เลยเผลอสบตากันนิ่งและนานหลายนาที จนมีเสียงร้องดังขึ้น
"ช่วยด้วย ช่วยด้วย"
อีอดวิ่งเข้ามา มือถือที่ช็อตยุงไฟฟ้า เข้ามาถึงก็ตะโกนลั่น จนดินและเปรี้ยวหวานเด้งออกจากกัน
"หมีกำลังจะทำร้ายลูก หมีกำลังจะกัดหัวเปรี้ยวหวาน เราต้องปกป้องลูก ต้องปกป้องลูก!"
อ๊อดเข้าไปเอาที่ช็อตไฟฟ้าไปช็อตที่ตัวหมีซึ่งก็คือมือดินนั่นเอง ดินเลยตัวสั่นร้องจ๊าก
"ตามแต๊ะอั๊งลูกฉันหรือ แกตายแน่วันนี้"
"โอ๊ย อย่าครับอย่า"
แป๊ดวิ่งเข้ามาอีกคน ตกใจเลิ่กลั่ก
"หมีทำร้ายคุณเปรั้ยว หมีทำร้ายคุณเปรั้ยว"
แป๊ดบ้าเลือดไม่พูดพร่ำทำเพลง
"ลูกถีบหมีกระจาย!"
แป๊ดกระโดดถีบเข้าไปที่ตัว อ๊อดกระเด็นหายไปในพ่มไม้ทันที
"เอ๊ะ เห็นอยู่ไหวๆ ทำไมหมีถึงหน้าเหมือนคุณอ๊อดล่ะ?"
อ๊อดผุดขึ้นมาจากพุ่มไม้
"อีควายถึก ! กูเอง !"
อ๊อดรีบจัดการไล่ดินออกจากบ้านและตัดสินใจให้รถขนข้าวของตัวเองมาที่บ้านเปรี้ยวหวาน พร้อมกับประกาศว่าจะย้ายมาอยู่กับเปรี้ยวหวาน โดยไม่สนใจฟังคำทัดทานของใครทั้งนั้น
"เราอยู่ด้วยกันไม่ได้หรอก"
เปรี้ยวหวานพูดขึ้นอย่างหมดความอดทน หลังจากอ๊อดขนของเข้ามาหมดแล้ว
"ทำไมล่ะเปรี้ยวหวาน?"
"เราเป็นพ่อลูกกันแค่สายเลือด นอกนั้นเราแทบไม่รู้จักกันด้วยซ้ำ"
"เราจะอยู่ด้วยกัน ด้วยสายเลือด และด้วยความรักของคนเป็นพ่อ!"
เปรี้ยวหวานอึ้งไป
"เรื่องเข้มถูกตำรวจตามเพราะทำโต๊ะบอล เป็นปัญหาร่วมกันของเราสองคนนะลูก พ่อจะอยู่ที่นี่ รอพบเข้ม รอช่วยเหลือหนู ให้พ่ออยู่ที่นี่เถอะนะ"
"คุณจะลองก้ได้ แต่ฉันเชื่อว่าพ่อมือใหม่อย่างคุณนะ อย่างมากก็แค่เห่อชั่วคราว แต่คนอย่างคุณเป็นพ่อใครจริงๆไม่ได้หรอก"
เปรี้ยวหวานเผชิญหน้าอ๊อดจริงจังเช่นกัน อ๊อดมองหน้าลูกที่จริงก็ไม่แน่ใจนักว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่จริงใจสักอย่างไม่มีอะไรห้ามเขาได้
วันรุ่งขึ้นไหมทองนัดเจอกับเข้มแล้วชวนกันไปกินอาหารที่ร้านแห่งหนึ่ง แต่เมื่อเข้มเห็นตำรวจเดินเข้ามาก็รีบชวนไหมทองเปลี่ยนร้านไปอีกที่ทันที
"นี่ไง ร้านนี้ ร้านนี้อร่อยกว่าเยอะเลย สงสัยผมจำผิด อยากกินร้านนี้ต่างหาก ไม่ใช่ร้านโน้น"
"งั้นก็ปล่อยมือได้แล้วค่ะ คุณกำแขนไหมแน่น จนเป็นรอยแดงไปหมดแล้ว"
"ขอโทษ"
เข้มอารมณ์ดีขึ้นแล้ว แต่ไหมทองมองเข้มด้วยความสงสัยในพฤติกรรมหลายๆอย่าง
"ขายหนังสือ เปิดโรงพิมพ์ ต้องย้ายที่อยู่ด้วยหรือค่ะ?"
"ร้านหนังสือมีอยู่ทั่วประเทศ ก็ต้องย้ายสิจ๊ะ"
"แล้วหลบหน้าตำรวจล่ะคะ จำเป็นหรือเปล่า?"
เข้มเผลอรินน้ำจนล้นแก้ว รีบชะงักมือหยุด แต่ไหมทองยังจับตามองเข้มต่อไป
"ตกใจหรือคะ?"
"ไหม"
"ชิวิตคุณลึกลับเหลือเกิน คุณบอกความจริงกับไหมดีกว่านะคะ คุณปิดบังอะไรไหมหรือเปล่า?"
"ถ้าคุณไม่เชื่อใจผม เราก็ไม่มีอะไรจะต้องคุยกัน"
เข้มทำเป็นโกรธขึ้นมา
"เข้ม ไหมแค่ถามดีๆ ไหมเป็นภรรยาคุณนะคะ เราจะร่วมทุกข์ร่วมสุขกันตลอดชีวิต คุณควรบอกไหมทุกเรื่อง"
"ผมก็เป็นของผมแบบนี้ ผมไม่มีอะไรจะบอก แต่ถ้าคุณยังไม่เชื่อใจผม คุณกลับไปคิดก่อนก็ได้ ว่าคุณจะเอายังไงกับความสัมพันธ์ของเรา!"
นับวันเข้มจะเครียดมากขึ้นกับการติดตามของตำรวจอารมณ์ไม่ค่อยดี เข้มวางเงินค่าน้ำแล้วเดินออกไป
"ไม่นะ เข้ม เข้ม"
ไหมทองตกใจ รีบวิ่งออกตามเข้มออกมาหน้าร้าน
"ผมบอกคุณแล้ว ผมไม่มีทางนอกใจคุณ แต่เรื่องส่วนตัวของผม ก็ต้องเป็นของผม ถ้าคุณรับไม่ได้ เราจะอยู่กันได้ยังไง!"
"ตกลงค่ะ ตกลงไหมจะไม่ยุ่ง ไม่ถามเรื่องงานของคุณอีก"
"แน่ใจนะ?"
"ไหมเป็นของคุณทั้งร่างกายและจิตใจ ไม่ว่าคุณจะทำงานอะไรไหมจะเชื่อคุณ จะรักคุณตลอดไป"
"และคุณจะไม่ถามเรื่องงานผมอีก"
"ไหมจะไม่ถาม แต่คุณก็ต้องรับปากไหมเหมือนกัน"
"รับปากอะไร?"
"คุณจะไม่พูด เรื่องเลิกกันทุกครั้งที่พูด ไหมเจ็บ เจ็บจนแทบอยากตายๆไปซะ อย่าพูดอย่าทิ้งไหมไปนะ ไหมอยู่ไม่ได้จริงๆ"
ไหมทองกอดเข้ม ยอดแลกทุกอย่างในชีวิต ขอให้ได้มีเข้มอยู่ก็พอแล้ว
หินไม่สบายใจเรื่องความปลอดภัยของดิน จึงไปพูดกับสารวัตรให้ช่วยเกลี้ยกล่อมให้ดินย้ายไปทำงานกองสืบที่เสี่ยงชีวิตน้อยกว่า แต่เมื่อดินได้รู้เรื่องจากปากสารวัตร ก็โกรธพ่อหัวฟัดหัวเหวี่ยง จึงตรงมาหาหินและเพื่อนที่สนามบอลในตอนเย็น พร้อมกับวิ่งลงไปเตะฟุตบอลด้วยกัน
ทุกคนรู้สึกงงกับพฤติกรรมของดิน แต่ไม่นานก็เริ่มเข้าใจเพราะดินไม่ยอมเล่นตามกติกาและพยายามป่วนทุกคนด้วยการเล่นตามใจตัวเอง จู่ๆดินก็แย่งลูกไปจากเท้าของดิน แล้วจับลูกบอลทุ่มลงที่หน้าประตู
"นี่มันฟุตบอลนะพี่ ไม่ใช่บาสเกตบอล เล่นแบบนี้ได้ไง" โจ้วิ่งเข้ามาต่อว่า
ดินยิ้มกวนให้ทุกคน ตะโกนบอกแก้ว ธง และอ๊อดที่ยืนอยู่ข้างๆบอร์ดคะแนน
"เอ้า ผมทำลูกเข้าประตูแล้ว อาแก้วขึ้นตัวเลขให้ผมสิครับ"
ดินเดินมาทวงให้ขึ้นตัวเลขคะแนนที่บอร์ด
"ไม่ขึ้นตัวเลขให้ใช่ไหม งั้นผมขึ้นเอง"
เด็กวิ่งตามมาบอกดิน
"พี่ทำงี้ไม่ได้นะครับ"
ดินจับมือโจ้ชูขึ้น ในฐานะที่อยู่ทีมเดียวกัน
"พวกเราชนะแล้วไชโย!เย้ๆๆ"
เพชร ต่าย โมโหมาก เดินมาโวยดิน
"พี่ทำอะไรน่ะ...นี่พี่ตั้งใจโกงพวกเราหรือ ?"
"ไม่ใช่โกงแล้ว เขาเรียกว่าป่วน พี่ป่วนพวกเราทำไมเนี่ย ไม่ต้องใจเล่นนี่หว่า"
หินเดินเข้ามา
"เขาเรียก เล่นนอกกติกา ใช่ไหมครับ ผมแค่อยากให้พ่อรู้สึกว่าเวลาโดนคนอื่นเล่นนอกกติกาพ่อรู้สึกยังไง!"
"หมายความว่าไง?"
"พ่อไปบังคับสารวัตร ใช้บุญคุณที่เคยช่วยชีวิตเขา พ่อเล่นนอกกติกา พ่อไม่มีสิทธิ์!"
สามหนุ่มเข้าไปช่วยเคลียร์ แยกหินและดินออกจากกัน เพราะตอนนี้หินหน้าแดงกำหมัดแน่นแล้ว
"ไอ้ดิน!"
"แกใจเย็นก่อนนะ ใช้สติ นับหนึ่งถึงสิบ จำได้ไหม"
ธงพยายามเกลี้ยกล่อม โดยมีแก้วช่วยเสริมทางดิน
"ฟังนะหลานอา ผู้ชายคนนี้ยังไงก็เป็นพ่อแก"
อ๊อดเข้าไปยืนขวางกลางวง
"ใช่ๆ ทั้งสองคน ต้องฟังฉัน ต้องฟังฉัน"
ทุกคนหยุดฟังนึกว่ามีอะไรดีๆ
"พระอะไรเอ่ยไข่ดำ!"
แก้วตบหัวอ๊อดหน้าคว่ำ
"พะโล้ กูรู้แล้ว ไม่ใช่เวลานี้ ไม่ขำ...!"
อ๊อดจ๋อยไป ออกไปยืนสงบเสงี่ยมนอกวง ดินด่าพ่อต่อ
"ชีวิตของคนอย่างพ่อ เล่นนอกกติกามาตลอด พ่อเป็นหัวหน้าครอบครัว แต่พ่อใจร้อน ไม่เคยควบคุมอารมณ์ตัวเอง พ่อเป็นสามี แต่พ่อรักงานมากกว่าเมีย พ่อเป็นตำรวจ แต่ชอบชกต่อยผู้ต้องหาและสุดท้าย พ่อเป็นพ่อ แต่พ่อทำลายชีวิตผม !"
"ทำลายหรือ เอะอะก็ทำลาย ฉันทำลายแกตรงไหน" หินพุ่งเข้าไปชี้หน้าด่า จนธงต้องคอยขวางไว้
"ผมเคยบอกพ่อแล้ว ผมรักอาชีพนี้ และความฝันของผม ก็อยู่ที่การเป็นตำรวจในกองสืบ แต่พ่อเล่นนอกกติกา พ่อทำลายฝัน ทำลายชีวิตผม ต่อไปนี้ ผมกับพ่อ...เราขาดกัน!"
มาถึงประโยคนี้ คนใจร้อนอย่างหิน ตกใจตัวชา หัวใจกระตุกวูบ น้อยใจถึงขีดสุด เพื่อนทั้งสามเองก็ตกใจกับคำพูดของดิน
"ดิน พูดอะไรออกไปรู้ตัวไหม ทำแบบนี้ไม่ได้นะลูก!"
สายตาดินยังมองพ่อด้วยความเกลียดชัง ธงต้องเข้ามาพูดกับดินอีกคน
"ฟังอานะ ดินต้องมองในมุมของคนเป็นพ่อเป็นแม่บ้าง"
จู่ๆ ไม่มีใครคาดคิด หินร้อง เฮ้ย แล้วพุ่งเข้าผลักดินร่วงลงกับพื้น ต่อหน้าต่อตาเพื่อนทุกคน ความเดือดดาลทะลุขีด ดินร่วงลงไปนอน หินเดิมตามไปคร่อมกระชากตัวดิน ตะโกนถาม
"ไอ้ลูกชั่ว ถ้าแกจะมาด่าฉัน ไม่ต้องอาศัยการเตะบอลมาหลอกด่าฉันหรอก มานี่เลย มาชกปากกันเลยดีกว่า เอาความเป็นพ่อเป็นลูกทิ้งไป นี่ไง ศัตรูของแก คนที่ทำลายชีวิตแก ต่อยมาสิ ต่อยมาเลย เอาเลย!!"
แก้วเข้าไปล็อกหิน หินสะบัดจับเสื้อดินลุกขึ้นมาท้าต่อยตัวต่อตัว ดินยังนิ่ง
"ไม่กล้าหรือ กลัวบาป กลัวตกนรกหรือไง ไอ้ขี้ขลาด" หินตบหน้าดินด้านซ้าย ยั่วยุให้ดินสู้
"นี่ไง พ่อไม่ได้เรื่องของแก พ่อเลวๆ ที่ไม่เคยทำอะไรถูกต้อง นี่ไง พ่อชั่วๆที่ไม่มีวันเป็นพ่อที่ดี ถ้าแกคิดได้แค่นี้ ก็เอาเลย มาเตะมาต่อยกับฉันนี่ มาเลย มา!"
"เข้ามาแยกมันสิวะ"
ธงเข้าไปดึงตัวหินที่นัยน์ตาแดงก่ำ ส่วนแก้วเข้าไปดึงตัวดิน
"ใจเย็นไอ้หิน"
"ออกไปก่อนเถอะ ไม่มีประโยชน์หรอก"
ดินมองหิน เบื่อหน่ายสุดๆตั้งแต่โตมา เห็นพ่อโมโหอาละวาดกับเรื่องต่างๆมาเป็นครั้งที่ร้อยแล้ว
"พ่อก็เป็นแบบนี้ ลงท้าย พ่อก็เอะอะโวยวาย พ่อใช้อารมณ์แก้ปัญหาทุกอย่าง พ่อก็ทำได้แค่นี้"
หินทะลึ่งพรวดจะเข้าไปตบดินอีก
"ไอ้ลูกชั่ว!"
"พอแล้วพอ มานี่เลยดิน มานี่"
แก้วพาดินมาส่ง แก้วเหนื่อยใจกับดิน ดินยังไม่หายโกรธพ่อ
"กลับไปเถอะ ถ้าตั้งใจมาตัดลูกตัดพ่อ แกก็ได้ทำในสิ่งที่ต้องการแล้ว"
ไปบอกเขา ถ้าเขายังขืนจะไล่ผมออกจากกองสืบ เราจะได้เห็นดีกัน"
ดินออกไปที่รถของตนเอง แก้วมองตาม ส่ายหน้า
"ไอ้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม คิดอะไรสั้นๆ คิดอะไรแคบๆ สักวันเถอะ เป็นพ่อคนเมื่อไหร่ถึงจะรู้สึก"
สารวัตรรู้เรื่องที่ดินทะเลาะกับหินใหญ่โต จึงมาไกล่เกลี่ยให้ดินลืมเรื่องที่พูดกันซะ ดินโล่งใจ จึงกลับไปเฝ้าเปรี้ยวหวานที่โรงพิมพ์ต่อ พร้อมกับฝากจดหมายให้กำลังใจเปรี้ยวหวานให้กลับมาทำงานเหมือนเดิม โดยคิดแค่จะใช้เงินสกปรกที่ได้จากเข้มสร้างสิ่งดีๆให้สังคมเป็นการชดเชย
เปรี้ยวหวานอ่านจดหมายแล้ว ได้แต่โบกมือให้ดินอย่างขอบคุณทำให้ดินที่เฝ้าดูเปรี้ยวหวานอยู่ด้านนอกโรงพิมพ์รู้สึกแช่มชื้นบ้าง แต่แล้วจู่ๆนกน้อยก็โผล่หน้ามา
"พี่มาเฝ้าผู้หญิงคนนี้นี่เอง ทำงานนอกเวลาขนาดนี้ ขยันเกินไปหรือเปล่า?"
"นกน้อยมาได้ยังไง ?"
"นกน้อยโตมากับพี่ดิน พี่ดินเป็นฮีโร่ของนกน้อยมาตลอดสีหน้าเวลาดีใจ เสียใจ นกน้อยจำได้หมด"
"ทำไมทำหน้าอย่างนั้น นกน้อยโกรธพี่เรื่องอะไร?"
"แต่สีหน้าแบบนี้ เวลาที่พี่มองผู้หญิงคนนั้น นกน้อยไม่เคยเห็น พี่มองเขาไม่เหมือนคนอื่น...ไม่เหมือนใคร"
นกน้อยน้ำตาคลอ ดินตกใจ รีบปฎิเสธ
"เอาอะไรมาพูด พี่ไม่เห็นรู้เรื่อง"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ นกน้อยไม่ใช่คนยอมพ่ายแพ้อะไรง่ายๆ สักวันหนึ่งนกน้อยต้องทำได้ นกน้อยจะทำให้ดวงตาคู่นี้มองแต่นกน้อยคนเดียว คอยดูไปนะคะ"
นกน้อยหันไปมองเปรี้ยวหวานอย่างเกลียดชังแล้วเดินจากไป ดินอึ้งกับสิ่งที่นกน้อยบอกว่าตนชอบเปรี้ยวหวาน
นกน้อยคิดว่าวิธีหาตัวเข้มให้เจอแล้วพาไปพบดิน เพื่อกันไม่ให้ดินไปเจอกับเปรี้ยวหวานอีกจึงชวนธง แอ๋วและเอ๋อไปสืบหาเข้มที่ผับ แต่ไม่ได้ความอะไรระหว่างเดินทางกลับ เด็กที่เป็นหนี้พนันบอลมาขโมยเงินแม่ซึ่งขายของอยู่หน้าผับไปต่อหน้าต่อตา ธงพยายามจะไปช่วย แต่ไม่สำเร็จ จึงเก็บมาเล่าให้เพื่อนๆฟังที่บ้าน ในวันต่อมาด้วยความสลดหดหู่ใจ
"ยัยแม่นั่นน่าสงสารมากเลยนะ ร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด ส่วนไอ้วัยรุ่นคนนั้น อนาคคมันจะเป็นยังไงก็ไม่รู้"
"หนูเลยว่าจะมาขอความช่วยเหลือ อาแก้ว อาอ๊อด อาหินด้วยนะคะ พวกเราทั้งหมดต้องช่วยกันตามหานายเข้มส่งตำรวจนะคะ"
"เข้มน่ะ ลูกอานะ"
"นกน้อยรู้คะ แต่ถ้าคุณอาปล่อยให้เขาทำผิดมากกว่านี้ ถึงเวลานั้นเขาจะกลับตัวไม่ได้นะคะ ส่วนลุงหิน ลุงน่ะแอบช่วยพี่ดินมาตลอดอยู่แล้ว ลุงเห็นด้วยใช่ไหมค่ะ?"
"เฮ้อ พวกเองนี่ก็แปลก จะไปช่วยไอ้ดินตามสืบคดีทำไม สำนักงานตำรวจเขาไม่มีโล่ให้หรอกนะ เสียเวลาเปล่า เอาเวลามาหาเงินเข้ามูลนิธิไอ้ธงดีกว่า"
"หาเงินให้ฉัน หาทำไม?"
"เอ็งไปขอยืมเงินจากเจ๊หลีอีกแล้วใช่ไหม ติดเงินเขาเป็นแสนเงินเดือนครูชาตินี้จะมีใช้เขาไหม ไอ้บ้านที่กำลังจะพังของแกอีก จะเอาเงินที่ไหนมาซ่อม"
หินพูดเสร็จก็เดินหนีไป คนอื่น งง แอ๋วกระซิบบอก
"หลังจากเขาขอให้สารวัตร คืนงานให้หมวดดินแล้ว เขาก็ไม่พูดเรื่องลูกคนนี้อีกเลย"
"ว่าไงคะพ่อ ว่าไงคะอา ช่วยกันตามหานายเข้มเถอะนะคะ"
คนอื่นมองหน้ากันไม่ตัดสินใจ เพราะเกรงใจอ๊อด อ๊อดเครียดมากไม่รับปาก
ดินแอบฟังโทรศัพท์ของเปรี้ยวหวาน จนกระทั่งรู้ว่าเข้มโทรมาหาน้องสาว และได้ยินเปรี้ยวหวานเกลี้ยกล่อมให้เลิกทำผิด แต่ไม่สำเร็จ จึงอดสงสารไม่ได้ ในที่สุดดินก็เข้าไปหาเปรี้ยวหวานในโรงพิมพ์เพื่อปลอบโยน
"นายเข้มโทรหาคุณ"
"คุณแอบฟังฉัน"
"เขาอยู่ที่ไหน?"
"คุณต้องการแค่นี้ใช่ไหม พยายามตีสนิท เพราะต้องการเจอพี่เข้ม แค่นั้นใช่ไหมที่คุณต้องการ"
"ผมรู้ ยังไงเราสองคนไม่มีทางญาติดีกันได้ คุณไม่มีทางให้ข้อมูลเรื่องพี่ชายกับผมหรอก แต่คุณรู้อะไรไหม ถ้าผมอยากได้เบอร์ที่อยู่ในโทรศัพท์นั่น ผมจะไม่บอกคุณเด็ดขาดว่าผมแอบฟังคุณ"
"หมวดดิน"
เปรี้ยวหวานอึ้งไป
"ผมอยากให้คุณเห็นผมเป็นเพื่อน ไม่ใช่ตำรวจ"
ดินมองหน้าเปรี้ยวหวานจริงจังท่าทางอ่อนโยน
"คุณเนี่ยนะจะเป็นเพื่อนฉัน"
"เพื่อนที่อยากให้พี่ชายคุณกลับเข้ามาเดินในเส้นทางที่ถูกต้อง และเพื่อนที่อยากให้คุณหายเศร้า"
ดินเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาจะเช็ดน้ำตาให้เปรี้ยวหวาน แต่เปรี้ยวหวานเอามือบังไว้
"คุณจะทำอะไร?"
ดินยืนยันจะเช็ดน้ำตาให้เริ่มใช้ผ้าเช็ดหน้าให้เปรี้ยวหวานอย่างอ่อนโยน
"ผมจะรอนะ รอวันที่คุณเห็นด้วยกับผม แล้วช่วยผมตามหาพี่ชายคุณ ผมเชื่อว่าสักวันหนึ่งเราจะเป็นเพื่อนกันได้"
เวลาผ่านไปไม่นาน ไหมทองก็เริ่มอาการคลื่นไส้อาเจียน และกินอาหารมากจนผิดสังเกต แล้วกับฝ้ายเริ่มเป็นห่วงลูก จึงจับไหมทองมานั่งจับเข่าคุยอย่างจริงจัง
"ไปหาหมอไหมลูก?"
"ไม่ต้องหรอกค่ะ สงสัยอาหารเป็นพิษ"
"อาหารเป็นพิษหรือ?"
"ค่ะ หมู่นี้ไหมเป็นบ่อยๆ มันจะคลื่นไส้ค่ะ นี่ไงอยู่นี่เอง แล้วพอทานขนมพวกนี้ก็จะหาย"
ไหมทองหยิบโถกระปุกใส่ขนมดอง มะขาม ที่ซื้อไว้มาเปิดชิม
"ผลไม้ดองพวกนี้น่ะหรือ?"
"ค่ะ รสมันเปรี้ยวๆ ไหมชอบ ฮึ่ม..อร่อยจัง ค่อยดีขึ้นหน่อย"
ฝ้ายนิ่วหน้าซีเรียสขึ้นมาทันที
"นี่หนูเป็นอะไร ทำไมอาการมันถึงได้เหมือน..."
"คนท้อง"
แก้วพูดไปยิ้มไป เพราะไม่เชื่อว่าจริง จึงพูดได้ ไหมทองสำลักน้ำทันที
"พ่อว่าอะไรนะคะ?"
"อาการของหนูนะ เหมือนคนท้อง แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะ ใช่ไหม?" แก้วถามไหมทองยิ่มๆ
ไหมทองหน้าซีด แก้วดึงกระปุกขนมมาปิดฝา
"เพราะกินของพวกนี้น่ะสิ อาหารถึงเป็นพิษ ไม่เอาแล้วพ่อไม่ให้กิน วันนี้ไม่ต้องไปร้านหรอก ถ่ายท้องแล้วก็นอนพักสองสามวัน คงดีขึ้น"
ไหมทองสีหน้าครุ่นคิดอึ้งไป รีบปลีกตัวออกไป
"ค่ะ คงอย่างนั้น..งั้นไหมขึ้นไปนอนพักบนห้องนะคะ"
"พ่อพาไปนะลูก"
"ไม่ต้องค่ะ พ่อกับแม่ไปทานข้าวเถอะ"
ไหมทองขึ้นไปบนห้อง และพยายามโทรหาเข้มอย่างหนัก แต่อีกฝ่ายปิดเครื่อง ทำให้ไหมทองยิ่งลนลาน เมื่อแก้วกับฝ้ายจัดยามาให้และขึ้นมาดูอาการ ไหมทองก็เผลออาละวาดใส่เพราะความเครียดจนฝ้ายไม่พอใจและขึ้นเสียงใส่ลูก
แก้วเห็นท่าไม่ดี จึงรีบพาฝ้ายลงมาสงบสติอารมณ์ข้างล่าง
"ลูกไม่สบายอยู่นะฝ้าย อย่าไปถือสาลูกเลย"
"จะไม่ให้ถือสาได้ยังไง ฝ้ายเห็นเขาอยู่กับผู้ชาย แล้วมาตอนนี้เขาก็มีอาการแปลกๆ..เหมือนคนแพ้ท้อง"
"ฝ้าย พูดอะไรออกมาน่ะ" แก้วตกใจ
"พักหลังลูกทำตัวผิดปกติ ทั้งหงุดหงิด ทั้งปิดบังเรา ฝ้ายทนไม่ไหวแล้ว ต้องคุยกับเขา"
ฝ้ายลุกขึ้น แก้วพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด และเยือกเย็นทำให้ฝ้ายชะงักเท้า
"หยุดนะ ถ้าฝ้ายไป พี่จะไม่พูดกับฝ้าย"
"พี่แก้ว"
"ฝ้ายคิดมากไปแล้วรู้ไหม หมู่นี้เป็นอะไร ทำไมระแวงลูกเหลือเกิน?"
"พี่แก้ว นี่พี่ง่าฝ้ายหรือค่ะ?"
"ใช่ ฝ้ายกับพี่ช่วยกันเลี้ยงเขามากับมือ เขาจะทำตัวเหลวแหลกอย่างนั้นได้ยังไง ไม่มีทางหรอก"
"เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกคน ฝ้ายถึงต้องคุยกับเขาไงค่ะ"
"แต่ถ้าฝ้ายคุยก้บเขา ลูกรู้เข้า ลูกต้องเสียใจ พี่ทนเห็นเขาเสียใจเพราะพ่อแม่ไม่เชื่อมั่นในตัวเขาไม่ได้"
"พี่แก้ว"
"พี่ขอสั่งห้ามเลยนะ ห้ามรบกวนลูก และห้ามพูดเรื่องนี้ในบ้านของเราอีก ถ้าฝ้ายยังดื้อ พี่เอาเรื่องฝ้ายแน่"
แก้วชี้หน้าดุฝ้ายยืนงง ทำไมแก้วเป็นไปได้ถึงขนาดนี้
ดินยังคงไปเฝ้าเปรี้ยวหวานที่โรงพิมพ์ตามปกติ แต่แล้ววันนี้สิ่งแปลกประหลาดที่เพิ่มขึ้นมาในการรับรู้ของดินก็คือนกน้อยเพราะจู่ๆ นกน้อยก็เดินฉับๆเข้าไปในโรงพิมพ์เพื่อขอสมัครงานกับเปรี้ยวหวาน ดินเห็นท่าไม่ดี รีบเดินตามไปถาม
"นี่ นกน้อยจะทำอะไรกันแน่ นกน้อยไม่เห็นบอกพี่เลยว่าอยากทำงานที่นี่"
"นกน้อยอยากทำที่ไหนกันล่ะคะ ที่มาสมัครน่ะ ก็เพื่อมาอยู่ใกล้ๆพี่ดินต่างหาก"
"อะไรน่ะ?"
"วันธรรมดา นกน้อยเฝ้าคุณเปรี้ยวหวานกับพี่ดินที่นี่ เสาร์อาทิตย์นกน้อยจะพาพ่อไปตามหานายเข้ม นกน้อยเชื่อว่าด้วยวิธีนี้ เราจะเจอตัวนายเข้มแน่นอนค่ะ"
"นกน้อยทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร"
"พอเจอนายเข้ม พี่ดินก็ไม่ต้องมาอยู่ใกล้กับผู้หญิงคนนี้อีกหลังจากนั้นนกน้อยก็จะทำทุกวิถีทางให้พี่ดินรักนกน้อย"
"นกน้อย"
"คนเราถ้าไม่หยุดพยายาม เราต้องได้ในสิ่งนั้นมาครอบครอง คนอื่นคงมองว่านกน้อยบ้า แต่การบ้ารักใครบางคน ก็ไม่ใช่ความผิดอะไรไม่ใช่หรือคะ"
ดินอึ้งไป นกน้อยมองดินมุ่งมั่น




 

Create Date : 15 มกราคม 2551
0 comments
Last Update : 16 มกราคม 2551 21:18:24 น.
Counter : 494 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


@ ปั๊กกาเป้า @..อิอิ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




ติดต่อเจ้าของบ้านได้ที่นี่ ............ e - mail
New Comments
Friends' blogs
[Add @ ปั๊กกาเป้า @..อิอิ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.