ครูปั๊กกาเป้า.... O_o
Group Blog
 
<<
มกราคม 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
26 มกราคม 2551
 
All Blogs
 
ดั่งดวงตะวัน ... 4

เพื่อเป็นกำลังใจในการทำ Blog ช่วยคอมเม้นท์ติหรือชมไว้สักนิดก็ยังดี .. ขอบคุณค่ะ
<a href="//www.wherearepop.com/members/wherearepop/cha/hifias1027s.swf" target="_blank">//www.wherearepop.com/members/wherearepop/cha/hifias1027s.swf</a>



หลังจากจบโชว์ของทั้งคู่ สี่จตุรเทพก็ขึ้นเวทีพร้อมกันแล้วร่วมบรรเลงเพลงอย่างสนุกสนานจนคนดูที่อารมณ์เสียในตอนแรกเริ่มสงบนิ่ง และมีอารมณ์ร่วมไปกับคอนเสิร์ตได้อย่างราบรื่น ลูกๆทุกคนที่อยู่ในคอนเสิร์ตต่างก็รู้สึกชื่นชมกับพ่อของตัวเองเป็นอย่างมาก
เมื่อคอนเสิร์ตจบลง โจ้ ต่าย เพชร รวบรวมเงินที่ช่วยกันขายบัตรมาให้ธงนำกลับบ้าน โดยไม่รู้ว่าต้อยซึ่งมาช่วยเด็กทั้งสามขายบัตรได้แอบขโมยเงินไปถุงหนึ่งแล้วเอาเศษกระดาษยัดไว้แทน
"ถุงเงินทิ้งหมดนี่ พรุ่งนี้พ่อต้องเอาไปส่งให้คณะกรรมการมูลนิธิ พร้อมกับสมุดบัญชีที่แอ๋วจดไว้ ต้องเก็บดีๆหน่อย"
"แล้วเราจะได้เท่าไหร่คะพ่อ?" นกน้อยถามอย่างตื่นเต้น
"ได้อะไรหรือ นี่มันเงินของมูลนิธิเขานะ"
"แต่พ่อเป็นประธานมูลนิธิ เอาเงินส่วนตัวจ่ายไปไม่รู้เท่าไหร่ที่มาถือว่า พ่อเป็นเจ้าหนี้ของมูลนิธิ ทีนี้มูลนิธิมีเงินแล้ว เขาก็ต้องจ่ายคืนเราสิคะ"
"คิดงั้นได้ไงลูกพวกเราทุกคนช่วยกันทำงานเพื่อมูลนิธิไม่ใช่เพื่อพ่อนะลูก พ่อคงเอาเงินมูลนิธิไม่ได้หรอก"
"นี่พ่อบ้าหรือโง่กันแน่ นั่นมันเงินเก็บของพ่อนะ พ่อจะไม่เหลืออะไรไว้ให้หนู ไว้ให้ตัวเองบ้างหรือ นกน้อยไม่ยอมนะ เราต้องได้เงินก้อนนี้บางส่วนถึงจะถูก"
"เด็กที่มูลนิธิ ลำบากกว่าเรามาก พ่อทำใจเอาเงินพวกนี้ไม่ได้"
นกน้อยโมโหขั้นมา โวยใส่ธง
"หนูเบื่อพ่อ ได้ยินไหมคะ ไอ้ความดีโง่ๆของพ่อน่ะ หนูเบื่อ เบื่อๆ"
เช้าวันต่อมาเข้มโทรศัพท์คุยกับเป้เรื่องกิจการที่โต๊ะบอล แล้วให้เป้แฟ็กซ์ยอดเงินมาที่บ้านของแก้ว แต่แก้วมาเห็นเข้าเสียก่อน จึงลากตัวเข้มไปหาไหมทองที่กำลังนังอยู่กับฝ้ายที่ห้องรับแขก
"ไหมทอง ลูกต้องดูเอกสารนี่"
"อะไรคะ?"
"นายเข้มมันหลอกลูก มันทำธุรกิจพนันบอลจริงๆ มันทำแม้แต่อยู่ในบ้านของเรานี่"
"นี่แกกล้าอย่างนี้เชียวหรือ?"
ฝ้ายเสียงดังอย่างตกใจ
"พ่อหมายความว่า.."
"ลุกหิน นายดินที่เป็นตำรวจทุกคนกำลังตามตัวเขา ลูกไม่สงสัยหรือ ทำไมเขาถึงอยู่ไม่เป็นหลักเป็นแหล่ง ทำไมต้องทำตัวลึกลับตลอดเวลา เพราะเขากำลังหนีตำรวจ"
ไหมทองอึ้งไป
"ไหม..ผม.."
เข้มพยายามจะแก้ตัวแต่คิดหาเหตผลไม่ออก
"หนูควรตาสว่างได้แล้วผู้ชายแบบนี้ เขาเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดีไม่ได้หรอกลูก นายเข้ม นายออกไปจากบ้านฉันดี๋ยวนี้"
ไหมทองพยายามลำดับความคิดในตัว ในใจลึกๆรู้ว่าพ่อพูดจริง แต่กำลังสับสนว่าจะทำยังไง
"เลิก เลิกกับเข้มหรือ.."
"นี่ขนาดรู้นะว่าฉันสงสัย แกยังกล้า นี่แกไม่มีความเกรงใจเราเลย จะออกไปดีๆ หรือจะให้ฉันไล่ออกไป"
"ได้ พวกคุณจ้องจับผิดผมอยู่แล้วนี่ จะช้าหรือเร็ว คุณสองคนก็ไม่มีวันยอมรับผมจะไปวันนี้หรือวันไหนก็ค่าเท่ากัน ไหมทอง ผมลาก่อน"
ไหมทองตกใจเมื่อเห็นว่าเข้มกำลังจะทิ้งตนไปจริงๆ จึงรีบวิ่งตามอย่างไม่คิดชีวิต ฝ้ายกับแก้วรีบตามไปเพราะกลัวไหมทองจะหกล้ม
"ไม่ เข้ม อย่าไป อย่าทิ้งไหมไป"
"จะไม่ให้ทิ้งได้ไง พ่อแม่คุณรังเกียจผม เขาจ้องจะไล่ผมตลอดเวลา"
"ไหมรักคุณไหมและลูกขาดคุณไม่ได้ อย่างทิ้งไหมไป"
"มานี่นะ ไหมทอง ฟังแม่นะ ผู้หญิงสมัยนี้ เลิกกับสามีเลี้ยงลูกคนเดียว ประสบความสำเร็จในชีวิตมีเยอะแยะไป หนูก็เหมือนผู้หญิงพวกนั้น ทำไมหนูจะทำไม่ได้"
ฝ้ายพยายามเข้าไปดึงตัวลูกสาวออกมา
"ไม่ หนูทำไม่ได้ หัวใจของหนูรักเข้มได้คนเดียว ถ้าพ่อแม่ไล่เขา หนูจะออกไปจากบ้านนี้ ไปกับเข้ม"
"ไหมทอง เอกสารนี่ หนูดูสิดูดีๆ เขาไม่ใช่โจรห้าร้อยนะ ธุรกิจของเขาน่ะเป็นล้าน เขามันคนไร้อนาคตชัดๆ"
"เอกสารนี่ เพราะเอกสารนี่งั้นหรือ ทำให้พ่อไม่ยอมรับเขา"
ไหมทองเอาเอกสารมาฉีกต่อหน้าทุกคนทันที
"นี่ไงคะ นี่แน่ะ นี่แน่ะ แค่นี้เอกสารก็ไม่มีอีกแล้ว"
"ไหมทอง"
"ไหนพ่อบอกว่าพ่อจะอยู่ข้างหนูไง ในเมื่อหนูเลือกจะเชื่อ หนูเลือกจะรักเข้ม พ่อและแม่ต้องเชื่อและต้องรักเขาเหมือนหนู ถ้ามีเอกสารพวกนี้โผล่มา พ่อต้องฉีกทิ้ง ต้องทำเหมือนที่หนูทำ"
แล้วและฝ้ายอึ้ง แทบพูดไม่ออก
"ไหมทอง นี่หนูหน้ามืดตามัวขนาดนี้ได้ไง หนูเป็นบ้าไปแล้วหรือ"
"แม่ว่าหนูบ้างั้นหรือ บ้าจริงๆเป็นไงรู้ไหมคะ"
ไหมทองร้องกรี๊ดๆกระทืบเท้าอย่างเจ้าอารมณ์ จงใจอาละวาดให้พ่อแม่ดูราวกับคนบ้า
"นี่ต่างหากเป็นบ้า หนูจะเป็นบ้าจริงๆ ถ้าพ่อแม่ไล่เข้มออกจากบ้าน หนูจะหนีตามเขา หนูจะทำแท้ง หนูจะทำเรื่องบ้าๆ ทุกอย่าง เพราะฉะนั้นอย่าไล่เขาไปอีก"
ไหมทองพูดจบก็ดึงเข้มกลับเข้าบ้าน ฝ้ายเซไปนั่งแทบจะเป็นลม
"คุณพระคุณเจ้า นี่ลูกฉันจริงๆหรือ เขาใช่ลูกของเราจริงๆหรือพี่แก้ว"
แก้วเตะข้าวของแถวนั้นทิ้งระบายอารมณ์
"โธ่โว้ย"
ธงให้เด็กๆเอาเงินมอบให้กับผู้อำนวยการโรงเรียน แต่ไม่นานก็ถูกเรียกตัวกลับไป เพื่อแจ้งว่าเงินในถุงส่วนหนึ่งหายไป ธงเครียดจัดเพราะรู้ว่าต้องเป็นฝีมือคนที่ดูแลเรื่องการขายบัตรขโมยไปจึงกลับมาที่บ้านอย่างเครียดๆ
ธงรู้ว่าโจ้ ต่าย เพชรไม่น่าจะรู้เห็นเรื่องเงินที่หายไป จึงพุ่งเป้าไปหานกน้อยที่กลับเข้าบ้านพร้อมกับมือถือเครื่องใหม่ ธงจึงรีบตามไปคาดคั้นถามนกน้อย
"พ่อถามไม่ได้ยินหรือ เอาเงินที่ไหนไปซื้อมือถือ?"
"เงินหนูน่ะสิ ถามได้"
"เงินหนู พ่อบอกกี่ครั้งแล้ว ว่ามันไม่ใช่เงินหนู มันเป็นเงินของมูลนิธิ ลูกไม่มีสิทธิ์ขโมยเงินของมูลนิธิเข้าใจไหม?"
"หมายความว่าไง"
"พ่ออดทนกับหนูมามากเหลือเกินแล้ว ทำไม จิตใจของหนู มันทำด้วยอะไร ทำไมถึงมีแต่ความโลภ ความอิจฉาริษยา บ้าวัตถุ"
"นี่ พ่อเป็นอะไร พ่อว่าหนูทำไม พ่อไม่เคยว่าหนูแบบนี้"
นกน้อยเริ่มน้อยใจ
"ถามจริงๆเถอะ ไอ้ข้าวของบ้าๆพวกเนี้ย มันติดสินความเป็นคนได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ โลกใบนี้มันบ้ากันไปใหญ่แล้ว เอาข้าวของเงินทองมาเป็นนายเหนือหัว เอามันมาเป็นความสุขความทุกข์ ลูกของพ่อก็โง่ตามมันไปด้วย ถึงขนาดกลายเป็นพวกลักขโมยเงินการกุศล"
เด็กสามคนแอบดูที่หน้าห้อง เห็นธงจับข้อมือลูก จนนกน้อยเจ็บ
"นกน้อยเจ็บนะ"
ธงหยิบไม้เรียวแถวนั้นมาตีนกน้อย ฟาดเอาฟาดเอา
"พ่อเป็นครู พ่อเคยตีนักเรียนแต่สิ่งหนึ่งที่หนูไม่รู้ พ่อไม่เคยตีหนูเพราะพ่อรักหนู พ่อให้อภัยหนูได้ทุกเรื่อง แต่วันนี้ พ่อจะตี นี่แน่ะ นี่ นี่ สำหรับที่ขโมยเงินของน้อง ขโมยเงินของโรงเรียน นี่ นี่"
เด็กสามคนเข้ามาดึงมือธงไว้
"ครูครับหยุด หยุดก่อน"
"ครูครับ พอเถอะครับพอเถอะ พี่นกน้อยร้องไห้ใหญ่แล้ว"
"พี่นกน้อย พี่แค่เอาเงินไปซื้อมือถือ พี่ก็เอามือถือคืนโรงเรียนไปสิ เดี๋ยวเขาก็เอาไปขายต่อได้ใช่ไหมครับครู?"
นกน้อยร้องไห้มองพ่ออย่างน้อยใจ แล้วสะบัดมือออก
"ปล่อย ฉันไม่ขาย ฉันไม่คืน เพราะฉันไม่ได้ขโมย"
"นี่ยังคิดจะโกหกอีกหรือ"
"หนูไม่ได้โกหก หนูไม่เคยขโมยเงินพวกนั้น มือถือนี่ หนูซื้อด้วยเงินเดือนหนูเองต่างหาก"
"เงินเดือน"
"หนูทนทำงานทั้งเดือนเพื่อดูและนังหน้าสวยนั่น ทำไมหนูจะใช้เงินนี่เพื่อซื้อความสุขให้ตัวเองไม่ได้"
"เงินจากโรงพิมพ์"
"ในที่สุด พ่อก็เหมือนคนอื่น พ่อไม่ไว้ใจหนู เกลียดหนู พ่อรักแต่งานของพ่อ เที่ยวสร้างความดีให้สังคมยกย่อง แต่ในจิตใจลึกๆพ่อไม่เคยเห็นหนูอยู่ในสายตา"
นกน้อยร้องไห้วิ่งออกไป ธงยืนอึ้ง ตะลึง
ทางด้านดินแอบไปรู้ว่านกน้อยโกหกเรื่องความสัมพันธ์ของตนเพื่อให้เปรี้ยวหวานเข้าใจผิด จึงรีบตามไปง้อ แต่เปรี้ยวหวานทำเป็นงอนไม่สนใจ ดินจึงตัดสินใจจะสารภาพรัก แต่ก็ยังเขินอยู่ จ่านิดจึงหาทางช่วยด้วยการวิ่งไปซื้อดอกกุหลาบและขอโทรโข่งจากร้านค้ามาให้ดิน
"มานี่เลย พูดใหม่ บอกเขาเต็มๆ ชัดๆ"
"พูดว่าไงล่ะ เขินนะโว้ย"
"ก็พูดแบบนี้ไง"
จ่านิดเอาโทรโข่งและกุหลาบมาทำท่าให้ดู
"วันนี้วันพระ กุหลาบถวายหลวงพ่อ สิบบาท สีชมพูสีแดงเป็นพวงมาลัยมะลิก็มี สิบบาท สิบบาท"
"ไม่ใช่"
จ่านิดสะดุ้ง
"โทษๆ กลอนมันพาไป พูดสิพูดเลย พูดแบบเมื่อกี้น่ะ"
ดินมองไปรอบๆ คนผ่านไปมาเริ่มมุงดู
"เอาวะ"
ดินถือโทรโข่งพูดลงไป เสียงดังชัดเจน กล้าหาญ อยากตะโกนให้ก้องโลก
"ผมนายดินไม่ได้เป็นอะไรกับนกน้อย คนที่ผมชอบ อยากจะจีบก็คือ คุณเปรี้ยวหวาน โปรดฟังซ้ำอีกครั้ง คุณเปรี้ยวหวาน ผมชอบคุณ"
เปรี้ยวหวานตกใจเขินมาก มองไปรอบๆ คนยิ้มกันใหญ่ จ่านิดตะโกน
"เยส แบบนี้สิวะ ชายชาติตำรวจ เอากุหลาบไปให้เขาสิ"
"คุณคิดว่าฉันจะเชื่อหรือ?"
"เชื่อไม่เชื่อก็เรื่องของคุณ ผมบอกไปแล้วนี่"
เปรี้ยวหวานมองกุหลาบชั่งใจจะรับดีไหม แล้วก็ตัดสินใจยื่นมือออกไปรับ
"ไชโย..กุหลาบผมใช้การได้ ช่อละพันจ่ายมา"
จ่านิดเต้นดีใจเรื่องขายต่อได้ไม่ได้ดีใจเรื่องเขาได้กัน
"ช่อละพัน ช่อละพัน กำไรเหนาะๆ"
จ่านิดดีใจที่ดินกับเปรั้ยวหวานปรับความเข้าใจกันแล้ว จึงหลบฉากไป ทำให้เปรี้ยวหวานต้องเป็นคนพาดินไปส่งบ้าน เมื่อดินเข้าไปในบ้านก็พบนกน้อยซึ่งหนึออกจากบ้านมาดักรออยู่ด้วยน้ำตานองหน้า ดินรีบพานกน้อยเข้าบ้านแล้วให้อีกฝ่ายเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง โดยไม่รู้ว่าในเวลาเดียวกันนั้นเปรี้ยวหวานกำลังวนรถกลับมาที่บ้าน เพราะดินลืมมือถือทิ้งไว้ในรถ
"เกิดอะไรขึ้น ร้องไห้ทำไม ?"
"พ่อ พ่อไล่นกน้อย พ่อหาว่านกน้อยขโมยเงินคอนเสิร์ต"
"ทะเลาะกับพ่อหรือ?"
"นี่ไง ดูสิ พ่อตีนกน้อยด้วย พ่อไม่ฟังนกน้อยเลย นกน้อยไม่มีใครแล้ว ฮือ พี่ดิน พี่ดินต้องช่วยนกน้อยนะ"
เปรี้ยวหวานตกใจมากที่โผล่เข้ามา แล้วเห็นเขากอดกัน
"ฉะ ฉันขอโทษที่มาขัดจังหวะ คุณลืมมือถือไว้ในรถฉัน"
เปรี้ยวหวานวางมือถือดินไว้แถวนั้น รีบก้มหน้าออกไปก่อนน้ำตาจะไหล ดินเพิ่งเห็นว่ากอดกับนกน้อยอยู่ รีบผลักนกน้อยออกไป วิ่งตาม
"เดี๋ยวครับคุณเปรี้ยว เดี๋ยว"
ดินตามมาคว้ามือเปรี้ยวหวานไว้ได้ เปรี้ยวหวานหันมาบอก
"คุณบอกว่าฉันมองคุณทะลุปรุโปร่ง จริงๆแล้ว ฉันไม่เคยรู้จักคุณเลย คุณมันหลอกลวง"
เปรี้ยวหวานพยายามดึงมือออกจะวิ่งหนี แต่ดินพยายามดึงเอาไว้
"ไม่ ไม่ใช่นะครับ คุณเปรี้ยว"
"ปล่อยนะ ปล่อย"
เปรี้ยวหวานสะบัดตัวหลุดออกไป นกน้อยมองตามแล้วตัดสินใจวิ่งตามไปอีกคน
"ฟังนะครับ ผมไม่เคยหลอกลวงอะไรคุณเลย ที่คุณเห็นนะเข้าใจผิด"
นกน้อยเดินออกมา ส่งเสียงชัดเจน ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เล่นละครว่าเป็นภรรยาดินและอยู่บ้านนี้มานานแล้ว
"พี่ดิน ไม่ชวนคุณเปรี้ยวหวานเข้ามานั่งในบ้านเราก่อนหรือคะ"
"นกน้อย พูดอะไรน่ะ"
ดินหันขวับไปหานกน้อยอย่างตกใจ
"เป็นอะไรไปคะ คุณเปรี้ยวหวานสีหน้าไม่ดีเลย เข้ามานั่งในบ้านก่อนสิคะ เราสองคนได้เวลาอาหารเย็นพอดี เดี๋ยวนกน้อยทำอาหารให้ทาน บ้านเราไม่ค่อยมีแขกเลย คุณเปรี้ยวหวานมาเยี่ยมดีจังเลยค่ะ"
"นกน้อย นี่เธอ"
ดินงง ทำอะไรไม่ถูก
เปรี้ยวหวานเดินไปหยิบดอกกุหลาบจากในรถ ออกมาเขวี้ยงใส่หน้าดิน น้ำตายังคลอ
"ทำแบบนี้กับฉันทำไม อยากได้ข้อมูลเรื่องพี่เข้มขนาดหลอกฉันแบบนี้หรือ"
"ไม่ ไม่ใช่"
"คุณไม่ใช่ลูกผู้ชาย เอาหัวใจของคนอื่นมาล้อเล่นแบบนี้ได้ยังไง แต่ทั้งหมดคงต้องโทษตัวฉันเอง ฉันไม่น่าหวั่นไหวไปกับคนอย่างคุณเลย"
"ไม่คุณเปรี้ยวหวาน คุณต้องฟังผมก่อน"
เปรี้ยวหวานเดินหนี ดินดึงไว้เปรี้ยวหวานหันมาตบหน้าดินทันที
"คนหลอกลวง อย่ามาแตะต้องตัวฉัน อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก"
ดินตกใจ ทิ้งสองอึ้งมองหน้ากันสักครู่หนึ่ง เปรี้ยวหวานเดินออกไปในที่สุด ดินยืนอึ้ง แต่นกน้อยยิ้มสะใจ
ดินโกรธมากที่นกน้อยจงใจพูดให้เปรี้ยวหวานเข้าใจผิด แถมยังตั้งใจจะมาอยู่ที่บ้านนี้ถาวร จึงเข้าไปเก็บเสื้อผ้าของตัวเองเพื่อย้ายไปอยู่ที่อื่น นกน้อยรีบวิ่งเข้ามาห้าม
"พี่ดิน...พี่จะทำอะไรน่ะ นกน้อยไม่ให้พี่ไป พี่ดินก็รู้ว่านกน้อยกำลังมีปัญหากับพ่อ พี่ดินทิ้งนกน้อยไปไม่ได้นะ"
"พี่รู้ว่านกน้อยมีปัญหามากมาย แต่นกน้อยใช้ปัญหาพวกนั้นมาทำลายชีวิตคนอื่นไม่ได้"
"การที่นกน้อยรักพี่ ทำลายชีวิตพี่ตรงไหนคะ?"
"รักหรือ อย่าพูดคำนี้ถ้าไม่รู้จัก นกน้อยบอกว่านกน้อยรักพี่ แต่นกน้อยไม่เคยถามเลย ไม่เคยฟังพี่ด้วยซ้ำว่าพี่ต้องการอะไร แบบนี้เรียกว่ารักงั้นหรือ?"
"ทำไมต้องถามในเมื่อนกน้อยอยากดูแล อยากทำให้พี่มีความสุข ผู้หญิงคนนั้น ไม่มีวันรักพี่เท่าครึ่งหนึ่งที่นกน้อยรัก"
"ความรักคือปล่อยให้เขาเป็นในสิ่งที่เขาอยากเป็น ไม่ใช่เนในสิ่งที่ตัวเองอยากเห็น นั่นเขาเรียกเห็นแก่ตัว"
"พี่ดิน"
"พี่เคยรักนกน้อยมากแต่วันนี้พี่กลัว พี่เกลียดนกน้อยได้ ถ้าอยากอยู่กับพี่นัก ก็ต้องอยู่กับความเกลียดของพี่ด้วย ได้ยินไหม พี่เกลียดทั้งตัวนกน้อยและทุกอย่างที่นกน้อยทำ พี่เกลียดที่สุด"
ดินหิ้วเป้เดินออกไป นกน้อยยืนนิ่งอึ้ง ช็อก ตกใจ เสียใจถึงที่สุด
ธงแอบมาฟังอยู่หน้าบ้านตั้งแต่รู้ว่านกน้อยหนีมาอยู่ที่ไหน และได้ยินคำพูดของดินทุกอย่าง จึงตัดสินใจเข้าไปหานกน้อย ตอนที่ดินขับรถออกไปแล้ว นกน้อยเห็นว่าพ่อตามมาถึงที่นี่ ทำท่าจะลุกหนี ธงรีบคว้าตัวไว้
"เดี๋ยวเราเจอคนที่ขโมยเงินแล้ว พ่อมาขอโทษ ยกโทษให้พ่อได้ไหม?"
"พ่อเจอคนที่ขโมยเงินแล้วหรือ"
"พ่อใจร้อนเอง พ่อไม่ควรระแวงหนู พ่อมารับหนูกลับบ้าน กลับบ้านเรานะ"
นกน้อยมองหน้าพ่อ สีหน้าพ่อรู้สึกผิดจริงๆ ทั้งคู่มองกันสักครู่ นกน้อยโผเข้ากอดพ่อ
"พ่อขา ช่วยนกน้อยด้วย พี่ดินเขาบอกว่าเขาเกลียดหนู"
"พ่อได้ยินแล้ว"
"ชีวิตหนูไม่เคยมีอะไรมาตั้งแต่เกิด หนูก็แค่ลุกขึ้นมาไขว่คว้ามันด้วยตัวเอง หนูทำผิดนักหนาหรือค่ะ?"
"การไขว่คว้าไม่ใช่ความผิด แต่ต้องไม่ทำให้ชีวิตของคนอื่นเดือดร้อน"
"พ่อเห็นสายตาของพี่ดินไหม หนูทนไม่ได้"
ธงเดินมาหา ค่อยๆหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดน้ำตาให้ลูกอ่อนโยน
"พี่ดินเป็นคนอื่น เขาทะเลาะกับหนู วันนี้เขาเกลียด แต่พรุ่งนี้เขาก็อาจจะรัก สำหรับพ่อ พ่อทะเลาะกับหนู แต่พ่อไม่มีวันเกลียดหนู"
"พ่อ"
"พ่อขอโทษที่เข้าใจหนูผิดไป ไม่ว่าหนูจะทำผิดใหญ่หลวงแค่ไหน ไร้ค่าในสายตาผู้ชายอื่น แต่สำหรับพ่อ หนูยังเป็นเจ้าหญิงของพ่อนะลูก"
นกน้อยร้องไห้กับอกพ่อ
"กลับบ้านเราเถอะนะ ไม่มีที่ไหนดีเท่าบ้านเราหรอกลูก"
ธงพานกน้อยกลับบ้าน แล้วพาโจ้ ต่าย เพชร ดักรอพบต้อยเพื่อเอาตัวมาสอบสวน เมื่อต้อยปรากฎตัวขึ้น ทั้งหมดรีบเข้าไปดักตัวไว้ แล้วพาไปที่ร้านของแม่ต้อยเพื่อบอกให้อีกฝ่ายรับรู้สิ่งที่ต้อยทำ
แม่ของต้อยตกใจมาก รีบก้มลงกราบขอไม่ให้ธงเอาเรื่อง ธงเห็นอีกฝ่ายยอมเสียสละจะขอติดคุกแทนลูกชายแล้วรู้สึกสลดใจจึงคาดโทษต้อยเอาไว้ แม่ต้อยดีใจมาก รีบบังคับให้ลูกชายก้มลงกราบขอโทษทันที
"ผมสัญญาว่าจะเป็นคนดี ไม่ขโมยเงินอีก พอใจหรือยังแม่?"
"กราบขอโทษแล้วก็ขอบคุณครูด้วยที่ยังเมตตาไม่เอาเอ็งเข้าคุก"
ต้อยกราบครู ท่าทางจ๋อยไปพอควร
"ขอบคุณครับ"
"ตอนเธอทำเลว เธอคิดชั่ววูบเธอลืมไป ทุกข์ของคนที่เป็นพ่อแม่มีลูกชั่ว มันยิ่งใหญ่แค่ไหนรู้ไหม เขาจะกินไม่ได้นอนไม่หลับแค่ไหนเพราะเธอ รู้ตัวบ้างหรือเปล่า?"
ต้อยซาบซึ้งพอควร หันไปหาแม่
"ผมขอโทษครับแม่"
แม่ต้อยร้องไห้โฮด้วยความสะเทือนใจ
"ทีนี้บอกครูได้หรือยังว่าเอาเงินไปไหน เอาไปทำอะไร?"
ต้อยเงียบเพชรเห็นกระเป๋าเสื้อต้อยมีกระดาษแผ่นหนึ่งพับใส่ไว้ เพชรรีบดึงออกมาแล้วหนี
"เฮ้ย เอาคืนมานะ"
เพชร รีบเปิดอ่าน
"แมนยู อาร์เซน่อล ครึ่งควบลูก อะไรวะ?"
"โพยพนันบอล"
ธงรีบดึงออกจากมือเด็กทันที
"ต้อย เธอติดพนันบอลงั้นหรือ?"
4 สหายนัดสังสรรค์กันที่บ้านหินในวันรุ่งขึ้น แล้วชวนให้ดินแวะมาด้วย หินแกล้งทำเป็นวางฟอร์มเมื่อเห็นลูกชาย แต่จริงๆแล้วก็แอบเข้าครัวไปทำอาหารให้ดินอย่างสุดฝีมือ แต่ดินไม่รู้เข้าใจว่าพ่อไม่อยากเห็นหน้า จึงยิ่งเศร้า ทุกคนพยายามปลอบใจให้บรรยากาศดีขึ้น จนกระทั่งธงหยิบเอาโพยบอลที่เอามาจากต้อยให้ทุกคนดู
"เด็กที่ขโมยเงินคอนเสิร์ต มันติดพนันบอล อาถามคนแถวนั้น เขาบอกว่าโต๊ะพนันบอลเนี้ยเป็นของนายเข้ม"
"นายเข้ม ลูกฉันนะหรือ?"
"นายเข้ม นายเข้มไปทำอะไร?"
แก้วหลุดปากถามออกมาแทบจะพร้อมๆอ๊อด
"อาแก้ว รู้จักนายเข้มด้วยหรือครับ?"
แก้วอึ้ง รีบเฉไฉ
"เปล่านี่ ก็มันหลานอาเหมือนกัน อยากรู้เรื่องก็แค่นั้น"
"โธ่ เข้มลูกพ่อ จนขนาดนี้แล้ว ยังไม่เลิกอีกหรือ"
"นายต้อยบอกอาไหมว่าเขาไปเล่นพนันที่ไหน สถานที่สำนักงานอะไรแบบนั้นน่ะครับ มีหลักแหล่งไหม?"
"จริงสิ อาน่าจะถามไม่เป็นไรเดี๋ยวอาจะลองกล่อมมันดูอีกที"
"ผมจะให้ลูกน้องคอยติดตามดูเด็กคนนี้ด้วย"
"นี่แสดงว่าแก๊งพนันบอลของนายเข้มอยู่ใกล้ๆเด็กในชุมชน อยู่ใกล้มูลนิธิของเราแค่ปลายจมูก"
"พวกเราหาเงินสร้างมูลนิธิ เพื่อปกป้องลูกหลานเราจากสิ่งชั่วร้าย แต่ความพยายามนั้นจะเปล่าประโยชน์ ถ้าเรายังปล่อยนายเข้มไว้ ไม่จัดการให้เด็ดขาด"
อ๊อดเศร้าทันที ทุกคนมองไปที่อ๊อดอย่างเห็นใจ ลืมมองแก้วที่ยืนเศร้า ปวดร้าว
"ฉันไม่ได้ทำบาปกับลูกคนเดียว ยังทำบาปกับลูกคนอื่นด้วย"
"เอาน่า โทษตัวเองใช่ว่าจะทำอะไรให้ดีขึ้น"
แก้วกระทบใจมาก รู้สึกผิดไปด้วยที่มีส่วนในการปกป้องเข้ม เมื่อกลับมาถึงบ้าน แก้วก็ตรงเข้ามาเล่นงานเข้มที่นั่งอ่านหนังสือพิมพ์อย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว
"ไอ้เข้ม เอาเงินมูลนิธิคืนมา เอาคืนมานะ"
"อะไรกันครับคุณอา ละเมออะไรตั้งแต่หัวค่ำเนี่ย"
"เด็กเสียบอลโต๊ะแก เลยขโมยเงินไปจากมูลนิธิ เอาไปใช้หนี้แกไง พวกฉันจัดคอนเสิร์ตแทบตาย สุดท้ายเงินไปอยู่ในมือสกปรกของแก"
"เงินจากน้ำใจผู้คน ไหลเข้าวังวนสกปรกหรือนี่"
เข้มไม่รู้ว่าเงินมายังไง แต่ถ้าไหลเข้ากระเป๋าแล้ว ไม่เกี่ยง ตั้งใจกวน
"ไม่เห็นต้องคิดมาก ถือซะว่าอุดหนุนลูกเขยตาดำๆ"
"เอาคืนมานะ ฉันไม่เต็มใจให้แก ไม่ว่าจะเงิน บ้านที่แกพักพิง หรือลูกสาวฉัน"
"ฮึ ไหมทองเอย เงินเอย... อ้อยเข้าปากช้างแล้ว คายทิ้งก็โง่"
"เลวที่สุด"
แก้วตบหน้าเข้มหนึ่งฉาด ไหมทองเข้ามาเห็น ร้องกรี๊ดออกมาอย่างตกใจ
"นี่มันเกิดอะไรขึ้น พ่อตบหน้าเข้มทำไม?"
"ไหม ฟังพ่อนะลูก นายเข้มไม่รักษาสัญญา เขายังทำธุรกิจเลวๆนั่นอยู่"
"เรื่องนี้อีกแล้วหรือคะ ไหมเบื่อเต็มทนแล้วนะคะ"
"โต๊ะบอลของเขา เอาเงินการกุศลของมูลนิธิไปนะไหม"
ฝ้ายพยายามอธิบายให้ลูกสาวฟัง แต่ไหมทองยกมือปิดหู
"ไหมไม่อยากรับรู้ ไม่อยากรับฟังอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องบอกไหม ไหมต้องการให้ทุกคนในบ้านนี้ อยู่แบบปกติ ถ้าไม่พอใจกันก็ห่างกันไปซะ ห้ามใช้ความรุนแรง ห้ามไล่ใครไปทั้งนั้น"
"ไหมทอง"
แก้วร้องออกมาอย่างผิดหวัง
"ในเมื่อท่านทั้งสองไม่เชื่อใจผม คุณอาจะจับผมส่งตำรวจก็เอาเลยครับ"
เข้มยื่นมือให้แก้วกับฝ้าย รู้ดีว่าเป็นต่อ ไหมทองกรี๊ดลั่น
"ไม่นะ ไหมไม่ยอม ไหมไม่ยอมให้พ่อทำอะไรเข้ม จะไม่มีใครจับใครทั้งนั้น ปัญหาแค่นี้พ่อแก้ไขได้ไม่ใช่หรือ พ่อจัดการทุกอย่างให้เราสองคนได้นี่ค่ะ"
"ไหม ฟังพ่อกับแม่หน่อยสิลูก"
ไหมทองผลักแก้วกับฝ้ายออกจากห้อง
"ไม่ พ่อกับแม่จะผลักเข้มออกจากชีวิตไหม ไหมไม่ยอม พ่อกับแม่นั่นแหละต้องหยุดใช้ความรุนแรง ต้องออกจากชีวิตของเรา ออกไป ออกไป"
ดินรู้สึกกลุ้มใจที่เปรี้ยวหวานยังงอนเขาอยู่ จึงโทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือให้นกน้อยช่วยพูดให้เปรี้ยวหวานเข้าใจ นกน้อยเสียใจมาก จึงแกล้งรับปากไปอย่างนั้นเอง เมื่อไปทำงานในวันรุ่งขึ้น นกน้อยก็บีบน้ำตาฟ้องเปรี้ยวหวานว่าดินใช้ให้มา
"เขาให้เธอมาพูดกับฉันจริงๆหรือ?"
"นกน้อยเทียบคุณเปรี้ยวไม่ติด ทั้งหน้าตา ความรู้และฐานะที่สำคัญ พี่ดินได้นกน้อยทั้งตัวและหัวใจไปแล้ว เขาคงเบื่อตามประสาผู้ชาย นกน้อยโง่เองที่ใจง่ายไม่รู้จักรักนวลสงวนตัว"
"นี่เธอกับเขา..."
นกน้อยพยักหน้า
"เขาบอกว่าเขารักคุณเปรี้ยวหวาน อยากให้นกน้อยหลีกทางให้ ในเมื่อความรักคือการเสียสละ นกน้อยก็ต้องปล่อยพี่ดินไปใช่ไหมค่ะ?"
จู่ๆ ดินก็โผล่เข้ามาพอดี
"คุณเปรี้ยวหวานครับ..."
ดินตะลึงเจอนกน้อยร้องไห้อยู่
"นกน้อย นี่นกน้อยมาพูดอะไรกับคุณเปรี้ยวหวานเนีย"
"ฉันบอกหลายครั้งแล้วว่าที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ"
"นกน้อยบอกเขาไปหรือยัง ว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน คุณเปรี้ยวเรื่องวันนั้นนกน้อยแค่พูดเล่น เขาไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับผม เราเป็นแค่พี่น้องจริงๆนะครับ"
นกน้อยร้องไห้โฮออกไป ทำให้เปรี้ยวหวานเชื่อว่านกน้อยพูดเรื่องจริง แป๊ดเดินสวนเข้ามา มองตามนกน้อยไปอย่างงงงัน
"ผู้ชายเห็นแก่ตัว คุณทำแบบนี้กับผู้หญิงตาดำๆได้ยังไงกัน"
"ผมนะหรือ ผมทำอะไร"
"คนอย่างฉันไม่มีทางเป็นมือที่สามในชีวิตของใคร ยิ่งโดยเฉพาะผู้ชายใจร้ายใจดำอย่างคุณ คำว่าเพื่อนยังมากเกินไป พี่แป๊ดเอาเขาออกไปเดี๋ยวนี้"
ดินจำต้องออกมาจากโรงพิมพ์อย่างเซ็งๆ เมื่อเจอนกน้อยยืนรออยู่ด้านนอก ก็รีบเดินเข้าไปหา
"บอกมาซิ พูดอะไรกับคุณเปรี้ยวหวาน?"
"ก็พี่สั่งให้นกน้อยพูดอะไรล่ะ"
"แล้วทำไมคุณเปรี้ยวหวานถึงโกรธพี่ขนาดตัดขาดกันได้ หน้ายังแทบไม่อยากมองด้วยซ้ำ"
"จริงเหรอ?"
"ว่าไงนกน้อย พี่ถามก็ตอบสิ"
"ทำไมต้องตะคอกด้วย นกน้อยก็พูดตามที่พี่บอกให้พูดทุกอย่าง นกน้อยบอกเขาว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน แล้วพี่ก็อยากเป็นแฟนเขา ไม่เชื่อก็ไปถามเขาดูสิว่านกน้อยพูดจริงไหม"
ดินอึ้ง หันมามองนกน้อยเริ่มไม่ไว้ใจ ต้องมีบางอย่างผิดพลาดแน่ๆ ดินเซ็งมาก ไม่รู้จะทำยังไงต่อดี รู้สึกเหนื่อยหน่าย
"พี่นี่มัน ไม่ได้เรื่อง"
"ที่รักคนผิดใช่ไหมจ๊ะ"
"ที่ดูคนผิด พี่ดูนกน้อยผิดไป นกน้อยคืองูพิษดีๆนี่เอง"
ดินโกรธ เดินหนี นกน้อยอึ้งแทบอยากกรี๊ด
"พี่ดิน หน็อย จนถึงขนาดนี้แล้วยังไม่หยุดอีกหรือ ฮึ"
ดินย้อนกลับไปง้อเปรี้ยวหวานอีกครั้ง แต่เปรี้ยวหวานก็ยังไม่ยอมคืนดี แถมยังยอมออกไปกับเป้ที่ขับรถคันใหม่ของตัวเองมารับเพื่อจงใจประชดเดิน
"คุณรู้ไหมครับ คุณเปรี้ยวเป็นคนแรกที่นั่งรถผม" เป้พูดกับเปรี้ยวหวานอย่างชื่นใจ
"จริงหรือทำไมเป็นเปรี้ยวล่ะ"
เป้จอดรถข้างทาง เพื่อพูดจริงจัง เปรี้ยวหวานงง
"จอดรถทำไมจ๊ะ?"
"ผมอยากบอกคุณมานานแล้ว คุณเป็นคนสำคัญที่สุดในโลกชีวิตของผม"
"เป้??"
"เมื่อก่อนผมไม่กล้าอาจเอื้อมเพราะมีแต่ตัว แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว ผมมีรถ กำลังจะมีบ้าน มีทุกอย่าง"
"เป้ไปทำอะไรมา?"
"ผมเอ้อ...พ่อเขาขายที่ดินได้น่ะครับ ผมเป็นลูกคนเดียวก็เลยสบายไป คุณเปรี้ยวทำใจให้สบายนะครับ คิดซะว่ามีผมเป็นเพื่อนผมก็ดีใจแล้ว"
สิ่งที่เปรี้ยวหวานไม่รู้ก็คือเป้แอบยักยอกเงินโต๊ะบอลของเข้มไปเพราะไม่อยากเป็นลูกน้องเข้มไปตลอดชาติ แถมยังโทรศัพท์ไปโกหกเข้มว่าตต้องหาเงินคืนลูกค้าที่พนันบอลได้ล้านหนึ่ง
เข้มถึงกับเครียดจัด เพราะไม่รู้จะหาเงินมาจากไหน และทำท่าจะออกจากบ้านไป ไหมทองรีบขวางไว้เพราะกลัวถูกเข้มทิ้งแล้วรีบพาเข้มไปเปิดเซฟในห้องทำงานของแก้ว เอาเงินสดให้เข้มไปหนึ่งล้านบาท
แก้วกับฝ้ายไม่รู้ตัว จนกระทั่งวันหนึ่งปรึกษาเรื่องงาน แล้วทำท่าจะไปเปิดเซฟเพื่อหยิบเงิน เข้มที่แอบฟังอยู่รีบเดินไปขวางไว้
"จะไปไหนครับคุณอา?"
"เธอมาทำอะไรแถวออกฟฟิศนี่"
"ผมหิวข้าว ทำอะไรให้ผมกินหน่อยสิ" เข้มตอบส่งๆ
"อ้อนคนผิดหรือเปล่า ยัยไหมไม่อยู่หรือ?"
"เขานอนพักในห้อง"
"ก็รอเขาตื่นสิ.."
ฝ้ายจะเดินต่อ เข้มขวาง
"เอ๊ะ นี่จะมาขวางฉันทำไม"
"หมี่นี้คุณอาทำงานอยู่ที่ออฟฟิศถึงเย็น ผมไม่เจอหน้าเลย เราน่าจะคุยกันหน่อยนะ"
"ยังไม่รู้ตัวอีกหรือว่าทำไม ฉันต้องทำอย่างนั้น ยึดห้องทีวีไปก็ไปอยู่สิ มาขวางอยู่ตรงนี้ ฉันไม่ต้องทำงานพอดี"
"คุณอาสองคน หนีกันมาอยู่ที่นี่เพราะหนีผมหรือ นี่ยังทำใจไม่ได้อีกหรือไง ยังไงเราก็ต้องอยู่ด้วยกันตลอดชีวิต ให้ผมแนะนำไหม คุณอาทั้งสองควรหันมาเอาใจผม ให้เหมือนไหมจะดีกว่า"
เข้มลงทุนทะเลาะกับฝ้ายเพื่อเบี่ยงประเด็นการไปเปิดเซฟ
"นายเข้ม มากไปแล้วนะ"
"ไม่มากไปหรอกครับ ไหมรักผมความสุจความทุกข์ของไหม อยู่ในมือผม ถ้าคุณอาทั้งสอง ไม่ทำดีกับผม ผมก็ไม่ทำดีกับไหม ไหมก็ไม่มีความสุข คุณอาก็ไม่มีความสุขเพราะฉะนั้น ไปหาอะไรให้ผมกินเดี๋ยวนี้"
"ไอ้บ้า ไอ้สามหาว ฉันทนไม่ไหวแล้ว ฉันจะตบปากแก เอาเลือดออกเสียบ้าง นี่แน่ะ นี่นี่"
ฝ้ายหมดความอดทนเข้าไปตีเข้มตามตัว
"โอ้ย เป็นบ้าไปแล้วหรือไงเจ็บนะ"
เข้มสะบัดตัวฝ้ายออกไป ฝ้ายเซไปโดนมันโต๊ะแถวนั้น แก้วโผล่มาเห็นพอดี เข้าไปประคองฝ้าย
"นี่แก ทำอะไรเมียฉัน"
แก้วโมโหขาดเช่นกัน จะเข้าไปตบเข้ม แก้วเงื้อมือ
"อ๊ะ อย่านะ จำไม่ได้หรือ ว่าครั้งที่แล้วที่คุณอาตบผม เกิดอะไรขึ้น"
"แกมันหน้าตัวเมีย ทำผู้หญิง ฉันต้องจัดการกับแก"
เข้มไปที่มุมหนึ่งตะโกนลั่น
"ไหม ไหมจ๋า ตื่นหรือยังจ๊ะ ผมอยู่ที่ออฟฟิศนี่น่ะ"
ได้ผม แก้วชะงัก แล้วลดมือลง เข้มยิ้มเยาะ
"สติคืนมาแล้วใช่ไหม งั้น ผมไปล่ะนะ"
แก้วพาฝ้ายมาทำแผลแล้วให้นอนพัก พร้อมกับสอบถามจนรู้ว่าเข้มมาขวางไว้ตอนที่ฝ้ายจะเดินไปเปิดเซฟ ด้วยความเอะใจ แก้วรีบวิ่งไปที่ห้องทำงาน แล้วเปิดเซฟออก จนกระทั่งพบว่าเงินหายไปจริงๆ แก้วโกรธจนลมออกหู รีบตรงมาหาเข้มที่ห้องทีวี กระชากตัวขึ้นมาตะคอก
"ที่ชวนฝ้ายทะเลาะนั่น เพราะแกเป็นคนเอาเงินในเซฟไปใช่ไหม แกมันเลวครบสูตรจริงๆ เล่นการพนัน ทำโต๊ะบอล ทำผู้หญิงท้อง นี่แม้แต่ขโมยเงิน แกก็ยังทำ"
"ผมแค่ขอยืมไหมเขามาชั่วคราว กำลังจะหาเงินมาคืนให้"
"โกหก แกไม่เคยรักไหม ที่แกทำไปทั้งหมดนี้ก็เพราะหวังจะปอกลอกไหมทอง"
"โธ่โว้ย ก็บอกแล้วไงว่าขอยืม คนอย่างผมน่ะ ทำโรงพิมพ์ทำร้านหนังสือ ทำไมผมต้องปอกลอกผู้หญิง คุณอาสองคนนั่นล่ะ เคยฟังผมบ้างไหม"
"ตั้งแต่เราเอาแกเข้าบ้าน บ้านฉันก็มีเรื่องทุกวัน ฉันจะไม่ทนอีกแล้ว พี่แก้วคะ ฝ้ายจะโทรแจ้งตำรวจ"
ฝ้ายเดินไปยกหูโทรศัพท์ เข้มรีบตามไปด้วย จับมือฝ้ายที่ถือหูอยู่
"นี่อย่านะ คุณทำแบบนี้กับผมไม่ได้ คุณไม่เคยฟังผม เอะอะก็แจ้งตำรวจ"
"นี่ปล่อยนะ ฉันเจ็บ ปล่อย"
แก้วหมดความอดทนเช่นกัน เปิดตู้ใบหนึ่งหยิบปืนออกมา หันไปทางเข้ม
"ไอ้เข้ม ปล่อยมือจากเมียฉันเดี๋ยวนี้"
เข้มตกใจมาก ไม่เคยรู้ว่าแก้วจะถือปืนจ่อตนได้ ปล่อยมือฝ้าย ฝ้ายเองก็ตะลึงไปเช่นกัน
"พี่แก้ว...มันไม่คุ้มกันนะคะ"
แก้วสติขาดถึงที่สุดแล้ว เข้มทำลายทุกอย่างของตนจนหมด มองหน้าเข้ม แวตาเหมือนเสือดุร้าย วันนี้เป็นไงเป็นกัน
"แกหยามความเป็นคนของฉันมากไปแล้ว ฉันเอาแกมาอยู่ในบ้าน ปกป้องแกจากเพื่อนๆ แกยังทำร้ายลูกฉัน พอกันที ถ้าฉันไม่จัดการกับแก ฉันจะเหลืออะไรอีก"
แก้วยิงออกไปหนึ่งนัด เข้มกระโดดหลบ แล้ววิ่งหนีไป แต่แก้วก็ยังคงวิ่งตามไม่ลดละ จนกระทั่งไหมทองวิ่งออกมาเห็น และกรีดร้องอย่างตกใจที่เห็นทั้งสองไล่ยิงกัน ไหมทองรีบเข้าไปขวางจนเกือบโดนกระสุน แต่เป็นลมลงไปเสียก่อน ส่วนเข้มรีบรีบวิ่งหนีออกจากบ้านไป
ในเวลาเดียวกันนั้น เป้พาพวกบุกมาหาแม่ของต้อย เพื่อทวงเงินส่วนที่เหลือและทำร้ายแม่ของต้อยจนได้รับบาดเจ็บ ต้อยกลับมาเห็นสภาพของแม่ก็รีบไปตามธงมาช่วยพาไปโรงพยาบาล พร้อมกับเริ่มรู้ถึงโทษของการเล่นพนันจนทำให้แม่ต้องเจ็บตัว
"ครูครับ" ต้อยวิ่งตามไปเรียกธงที่เดินออกจากห้องแล้ว
"เอ้าต้อย เรื่องค่ารักษาไม่ต้องเป็นห่วงนะ ครูเอาเงินมูลนิธิออกไปก่อนแล้ว ทำใจให้สบายเถอะ"
"ขอบคุณครับ ครูเป็นพ่อพระในชุมชนของเราจริงๆ"
"แม่ต้อยมีต้อยคนเดียว เราเป็นลูกผู้ชาย เราต้องเป็นที่พึ่งของแม่ถึงจะถูก เห็นหรือยังความสนุก ความโลภของเธอทำอะไรให้กับชีวิตเธอบ้าง"
"เมื่อกี้ผมนึงว่าแม่กำลังจะตาย ตาย...เรพาะผม แค่นึกผมก็ไม่ให้อภัยตัวเองแล้ว คราวนี้ผมเข็ดจริงๆ"
"ดีแล้วล่ะ กลับไปอยู่เป็นเพื่อนแม่เถอะ"
ธงเดินจากมา ต้อยตัดสินใจพูดขึ้น
"ครูครับ ครูยังอยากรู้ที่อยู่ของสำนักงานพวกมันไหมครับ?"
"เธอยอมบอกครูแล้วหรือ" ธงร้องออกมาอย่างดีใจ
อีกด้านหนึ่งฝ้ายเฝ้าดูอาการของไหมทองจนกระทั่งรู้สึกตัว แต่คนแรกที่ไหมทองถามถึงก็คือเข้ม
"แทนทีจะห่วงตัวเอง คนอย่างนั้นมันไม่เป็นไรหรอก"
ฝ้ายต่อว่าลูกสาว
"แล้วเขาอยู่ไหนคะ เขาอยู่ไหน?"
"มันหนีไปแล้ว"
"ในที่สุดแม่ก็ไล่เขาไปสำเร็จ"
"อย่าพูดอย่างนั้นนะ ลูกใช่ไหมที่ไขเซฟให้มันเอาเงินไป ลูกเอาเงินพ่อแม่ไปให้โจรแบบนั้นได้ยังไง ไม่คิดถึงพ่อแม่บ้างเลยหรือ"
"เขาแค่ขอยืม เข้มเขารวยจะตาย เดี๋ยวเขาก็เอามาคืน นี่ไล่เข้มไปเพราะเงินล้านหนึ่งแค่นั้นหรือคะ ไหมไม่อยากนึกเลยว่าพ่อกับแม่จะงกเงินขนาดนี้"
ฝ้ายตบหน้าไหมอง ดังฉาด
"นี่แน่ะ ลูกชั่ว ลูกบ้า เมื่อไหร่จะตื่น เมื่อไหร่จะตาสว่าง หา"
"แม่"
"กล้าว่าพ่อแม่แบบนี้ได้ยังไง รู้ตัวบ้างไหมว่าตัวเองนั่นล่ะ หลงผู้ชายจนชีวิตพังทลายขนาดนี้ยังไม่รู้ตัวอีก จะโง่ให้ทุกอย่างพังไปถึงไหนหา"
ไหมทองกรี๊ดออกมาเหมือนคนเสียสติจนแก้วที่รออยู่นอกห้องตกใจ
"อยากกรี๊ด กรี๊ดไปเลย เอาเลย เป็นบ้าให้พอ นี่แม่จะเอาให้ดู"
ฝ้ายหยิบกระจกมายัดใส่มือให้ไหมทอง
"ดู กระจกนี่สิ เห็นไหม ผีบ้าผู้ชายหน้าตามันเป็นยังไงดูซิดู"
ไหมทองกรี๊ดอีกเขวี้ยงกระจกไป ทิ้งกรี๊ดทั้งร้องไห้ ฝ้ายได้แต่มองอย่างเหนื่อยหน่าย แล้วเดินหนีออกมา แก้วรับรู้อาการของไหมทองจากปากฝ้าย แล้วรู้สึกเป็นห่วงจึงเข้าไปปลอบใจลูกอีกคน
"หนูเป็นคนสวย เป็นคนเก่ง ไม่ว่าจะการเรียนหรือเล่นกีฬา หนูจะตั้งใจทำมันอย่างเต็มที่ และหนูก็ทำได้ทุกครั้ง เขาเรียกคนแบบนี้ว่าคนที่เคยชินกับความสมบูรณ์แบบ"
"หนูเหนื่อยค่ะ ขอหนูพักได้ไหมคะ หนูไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น"
"พอมีความรัก คนที่เคยชินกับความสำเร็จอย่างหนูก็จะวิ่งเข้าไปหามัน จัดการมัน ยิ่งมันหนี หนูก็ยิ่งไล่ตาม หนูปกปิดตาตัวเองกับความจริงทุกอย่างเพราะคิดว่ามันต้องจัดการได้เหมือนเรื่องอื่นๆ"
ไหมทองเริ่มหันมาสนใจเพราะพ่อพูดถูก
"แล้วมันไม่ใช่แบบนั้นหรือค่ะ?"
"ไม่ใช่บางครั้งเราต้องยอมรับว่าเราทำผิด เลือกคนผิด บางครั้งต้องยอมให้ตัวเองแพ้ และสูญเสียเพราะถ้าหนูยิ่งฝืน ทุกอย่างในชีวิตจะยิ่งผิด แล้ววันหนึ่งหนูจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องเริ่มแก้ตรงไหน"
ไหมทองอ่อนลงมาก พ่อพูดถูกทุกอย่าง
"เข้มไม่ใช่คนเลว เขาไม่ได้เลวขนาดนั้น"
"เรื่องนั้นเขาต้องพิสูจน์ด้วยชีวิตของเขาเอง แต่หนูไม่ควรเอาชีวิตของหนู ลูกในท้องและครอบครัวของหนูไปพิสูจน์กับเขา เพราะมันมีค่ามากเกินไป"
ทางด้านธง ก็รีบเอาที่อยู่โต๊ะบอลที่ได้จากต้อยมาบอกกับเพื่อนๆ แล้วชวนกันไปหาเข้ม เมื่ออ๊อดรู้เข้า ก็ขอร้องไม่ให้เพื่อนๆแจ้งตำรวจ เพราะอยากจะขอเกลี้ยกล่อมเข้มด้วยตัวเองเสียก่อน แต่นกน้อยกลับเอาความลับนี้ไปบอกดิน เพื่อแลกกับการให้ดินสัญญาว่าจะไม่ยุ่งกับเปรี้ยวหวานอีกต่อไป
เมื่อดินรู้ที่อยู่ของโต๊ะบอลว่าเป็นที่เดียวกับร้านหนังสือของเข้ม ก็รีบโทรศัพท์หาจ่านิดเพราะตนเองยังไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ
"เสร็จประชุมแล้วหรือครับหมวด?"
"ผมกำลังจะขับรถกลับกรุงเทพฯ ผมกลัวว่าจะไม่ทัน จ่านิดรีบไปที่นี่ให้ผมก่อนได้ไหม"
"ที่นี่ที่ว่านะ ที่ไหนหรือครับ"
"มีคนรายงานว่าเจอสถานที่ตั้งโต๊ะบอลของนายเข้มร้านหนังสือที่เคยไปด้วยกันน่ะ จำได้ไหม?"
"หลังร้านหนังสือนั่น มิน่าล่ะ"
"ผมนี่มันโง่จริงๆ มันตั้งร้านหนังสือบังหน้า โต๊ะรับแทงบอลอยู่ด้านหลัง ใต้จมูกเราแท้ๆ จ่ารีบไปดูเลยนะ แล้วผมจะตามไปสมทบ"
"ตกลงครับ เดี๋ยวเจอกัน"
ทุกคนมุ่งหน้าไปที่ร้านหนังสือของเข้ม โดยที่ไม่รู้ว่าตอนนี้คนที่อยู่ที่นั่นคือไหมทอง ซึ้งแอบหนี้ออกจากบ้สนมาตามหาเข้ม เพราะรู้ที่ซ่อนกุญแจตอนที่เข้มคุยโทรศัพท์ไหมทองเข้าไปในร้านแล้วตกตะลึง เมื่อเห็นอุปกรณ์รับพนันอยู่ภายในเต็มไปหมด
ดินตามมาถึงร้านหนังสือในตอนดึก และเห็นว่าทุกคนยังไม่ยอมบุกเข้าไป เพราะอ๊อดพยายามถ่วงเวลาอยู่ จึงนำเข้าไปเอง ในที่สุดก็ได้พบกับไหมทอง
"นี่มันอะไรกันคะ?"
ไหมทองร้องออกมาอย่างตกใจ
"ลูกพ่อ นี่ลูกหนีออกจากบ้านหรือ"
"นี่ตำรวจ คุณถูกจับแล้ว อย่าพยายามขัดขืนดีกว่า จ่า...ค้นให้ทั่ว"
จ่านิดแยกย้ายออกคนดูว่ามีคนอยู่ในนี้อีกหรือไม่ แก้วรีบเข้าไปกอดลูกปกป้อง ไหมทองถามย้ำอย่างสับสน
"พ่อ นี่มันอะไรกันค่ะ?"
"ดินเดี๋ยวก่อน นี่มันไหมทองลูกอาแก้ว"
"จะเป็นใคร ผมไม่รู้ แต่คุณอามองไปรอบๆสิครับ มีแต่โพยบอลเต็มไปหมด หลักฐานทุกอย่างอยู่ครบ ผมต้องจับทุกคนที่อยู่ในที่นี้ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม"
ตำรวจอีกสองสามนายวิ่งเข้ามาตะเบ๊ะดิน เพิ่งมาถึง กรูกันเข้ามาเก็บหลักฐาน ทำให้แก้วและไหมทองตกใจมากยิ่งขึ้น ดินและจ่านิดเก็บปืน
"ทุกคนค้นให้ทั่ว เก็บหลักฐานทุกชิ้น ส่วนคุณผู้หญิง คุณอยู่ในฐานะผู้ต้องสงสัย เรามีเรื่องคุยกันยาว ขอเชิญคุณไปสถานีตำรวจกับผมด้วย"
"พ่อ พ่อขาช่วยไหมด้วย ปล่อย ปล่อยนะ ปล่อย"
ดินเอากุญแจมือใส่ที่ข้อมือไหมทอง แล้วดึงตัวออกไป ไหมทองจะโผเข้ากอดแก้วตลอดเวลา
"ดิน ฟังอานะ ไหมทองไม่เกี่ยว ปล่อยก่อน"
ดินดึงไหมทองออกไปจนได้ แก้วจะตามอ๊อดดึงแก้วไว้
"นี่มันอะไรกัน เข้มหายไปไหน แล้วไหมทองมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง"
"ลูกแกทำลูกฉันท้อง เขาคบมาพักหนึ่งแล้ว...ไอ้อ๊อด แกรู้ไว้นะ ไอ้ลูกปีศาจของแก มันกำลังทำให้ลูกสาวที่บริสุทธิ์ของฉันติดคุก"
แก้วพูดด้วยความแค้นแล้วเดินตามไหมทองออกไป
อ๊อดทำท่าจะตามแก้วและไหมทองขึ้นรถตำรวจไปด้วย แต่ดินไม่ยอม แก้วจึงกระซิบให้อ๊อดหาทางช่วยขัดขวาง อ๊อดจึงตัดสินใจขโมยมอเตอร์ไซด์ของจ่านิด แล้วขับไปตัดหน้ารถตำรวจ เพื่อให้แก้วพาลูกสาวหนีขึ้นแท็กซี่ไปได้
ดินเครียดมาก รีบวิทยุสั่งให้สายตรวจสกัดจับแก้ว แล้วพาอ๊อดมาดำเนินคดีที่โรงพัก ไม่นานเปรี้ยวหวานก็ตามเข้ามาต่อว่าดินอย่างโมโหที่จับพ่อของเธอเข้าห้องขัง
"นี่คุณ คุณทำอะไรพ่อฉัน"
"พ่อคุณขัดขวางการทำงานแล้วยังทำร้ายเจ้าพนักงานอีก"
"มันขึ้นอยู่กับว่าเจ้าพนักงานทำตัวยังไง พ่อฉันถึงทำร้ายเอา"
"ไม่ว่าผมจะทำยังไง ก็ผิดสินะ ได้"
ดินเดินมาปล่อยตัวอ๊อด
"ผมยังไม่ได้ลงบันทึกอะไรทั้งนั้น อยากออกก็ออกไปเลย ออกไปได้แล้ว "
จ่านิดปรี่เข้ามาทันที
"หมวด...ถ้าปล่อยนายอ๊อดไปแล้วหมวดจะอธิบายกับสารวัตรยังไง จะบอกว่าหมวดทำผู้ต้องสงสัยหายเองงั้นหรือ?"
ตำรวจนายหนึ่งวิ่งเข้ามารายงาน
"หมวดครับ สารวัตรมาถึงแล้ว ท่านเชิญหมวดที่ห้อง"
"นั่นไง โดนแล้ว"
"ถ้าผมถูกไล่ออกจากราชการ ทิ้งพ่อผมและผู้หญิงคนนี้เขาคงมีความสุขมาก ส่วนผมก็แค่เอาความฝันทั้งชีวิตไปทิ้ง ไม่เห็นเป็นไรนี่"
ดินถูกสารวัตรตำหนิที่ทำให้ผู้ต้องหาหลบหนีไป แต่หินซึ่งอยู่ในห้องด้วยพยายามพูดแก้ให้จนดินอารมณ์เสีย ขึ้นเสียงใส่หินที่เข้ามาวุ่นวายกับงานของตน แล้วเดินหนีออกมาอย่างหมดความอดทน หินรีบตามมา
"แกโหโหอะไร ความผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมดา ฉันน่ะผิดอยู่ทุกวัน ยังไม่เห็นมีใครกล้าไล่ฉันออกเลย"
"ผมอยากอยู่คนเดียว"
"ทำหน้าอย่างกับโลกถล่ม เข้มแข็งหน่อยสิวะ"
ดินหันมาโวยพ่อเสียงดัง
"พ่อไม่เข้าใจ พ่อยิ่งช่วย ผมยิ่งแย่ ทำไมพ่อต้องทำเหมือนผมเป็นเด็ก ทำไมต้องปกป้องผมต่อหน้าสารวัตร ใจคอของพ่อจะไม่ให้ผมมีศักดิ์ศรีบ้างเลยหรือ"
"นี่แกโกรธพ่อเรื่องนี้หรือ?"
"ใช่ ผมไว้ใจคนมากเกินไป ใช่ ผมอ่อนประสบการณ์ ผมทำให้ผู้ต้องสงสัยหนี สำหรับพ่ออาจจะเล็กน้อย แต่นี่เป็นความผิดครั้งแรกของผม ให้โอกาสผมได้รู้จักมันด้วยตัวเองไม่ได้หรือครับ"
หินอึ้ง ดินพูดถูกทุกอย่าง
"ยิ่งพ่อช่วย ผมยิ่งรู้สึกผิด ยิ่งพ่อพยายามปกป้อง ผมยิ่งรู้สึกทุกเรศตัวเอง คนทั้งโลกไม่เชื่อมั่นในตัวผมได้ แต่ต้องไม่ใช่พ่อ ผมต้องการความเชื่อใจจากพ่อ ต้องการจริงๆ.."
ดินเดินหนีไป หินเซ็ง อ๊อดกับเปรี้ยวหวานได้ยินแล้วเดินมาหาหิน ปลอบใจ
"ไอ้หิน ฉันขอโทษ ฉันต้องช่วยแก้ว ช่วยไหมทอง"
"นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมต้องเป็นลูกของพวกเรา"
"ฟังนะ เวลาที่คนอื่นพูดจาหวานใส่เรา เราไม่รู้หรอก เขาอาจจะถือมีดอยู่ข้างหลังรอเวลาทำร้ายเรา แต่สำหรับครอบครัวเดียวกัน พูดจาเลวร้าย ทะเลาะกันยังไง เขาก็ไม่มีวันทำร้ายเรา"
"ใช่ค่ะ ยิ่งเป็นครอบครัวเดียวกันของแท้ ยิ่งต้องทะเลาะกันทุกวัน"
เปรี้ยวหวานมองพ่อตัวเอง จับมือกับอ๊อด อ๊อดพยักหน้าเข้าใจ
"ไม่ว่าคำพูดจะร้ายกาจต่อกันแค่ไหน มันก็ยังเป็นภาษารักของคนครอบครัวเดียวกันอยู่ดี"
หินลุกขึ้น รู้สึกดีขึ้นมาก
"ขอบใจทั้งสองคนมาก เรื่องฉันกับไอ้ดินช่างมันเถอะ เรามาคุยเรื่องไอ้แก้วดีกว่างานนี้ฉันสังหรณ์ใจว่าจะไม่ใช่เรื่องเล็กเสียแล้ว"
อ๊อดกับเปรี้ยวหวานปรึกษากัน และตกลงกันว่าจะช่วยกันตามหาตัวเข้มให้ได้ เพื่อให้ไหมทองรอดพ้นจากการถูกกล่าวหา เปรี้ยวหวานตัดสินใจโทรศัพท์ไปถามเป้ และโดนเป้หลอกมางานปาร์ตี้โดยอ้างว่าอาจจะเข้มที่นั่น
ทางด้านแก้วกับไหมทองยังคงซุ่มอยู่ที่โรงแรมเล็กๆ แถบชานเมือง แก้วให้ไหมทองเก็บตัวเงียบในห้องเพื่อความปลอดภัย แต่ไหมทองก็ได้รับรู้ข่าวของตัวเองผ่านโทรทัศน์อยู่ดี ไหมทองถึงกับร้องไห้อย่างขวัญเสีย
"พ่อช่วยไหมด้วย ทีวีมีรูปไหม มีรูปไหมเต็มเลย"
แก้วตกใจ รีบเปิดหนังสือพิมพ์ที่ซื้อมาออกดู หน้าไหมทองหราอยู่ที่หน้าหนึ่งข้างรูปภาพทลายโต๊ะบอลเข้ม
"หนังสือพิมพ์ หนังสือพิมพ์ก็มี ไม่ ไม่"
ไหมทองลนลาน วิ่งไปมาในห้อง แล้วหนีไปซ่อนอยู่ที่มุมหนึ่ง
"ใครๆ ก็ตามตัวไหม ตำรวจตามตัวไหม ทำไม ทำไม ไมไม่ผิดนี่นา ตามทำไม"
แก้วมองลูก เข้าไปกอดไว้ ปลอบ ไหมทองกอดพ่อแน่น
"โอ๋ ลูกไม่มีอะไรนะคะ ทุกอย่างจัดการได้ ไม่ต้องตกใจนะคะ เดี๋ยวพ่อจัดการทุกอย่างให้เอง"
"พ่อ พ่อขา ไหมกลัว ไหมกลัว นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับชึวิตไหม นี่มันอะไรกันค่ะพ่อ ฮือ"
"ไม่ต้องกลัวลูก ไม่ต้องกลัวแค่มีพ่ออยู่ ทุกอย่างในชีวิตของหนูต้องเรียบร้อย"
แก้วหน้าเครียดหมายมาดจะจัดการทุกอย่างให้ลูกเอง
คืนวันนั้นเปรี้ยวหวานก็ขับรถมาหาเป้ที่รีสอร์ตต่างจังหวัดตามนัด โดยหนีบแป๊ดมาเป็นเพื่อนเปรี้ยวหวานไม่รู้ตัวเลยว่าดินแอบขับรถตามเธอมา เพราะอยากจะจับเข้มด้วยตัวเอง ดินปะปนเข้ามาในงานเลี้ยงและแอบเห็นเป้มารับซองยาจากเพื่อนไปใส่ในแก้วน้ำ จึงรีบวิ่งไปห้ามไว้ตอนที่เป้ส่งเครื่องดื่มให้เปรี้ยวหวานกับแป๊ด
"อย่า อย่ากิน"
แต่ช้าเกินไป เพราะแป๊ดดื่มรวดเดียวหมดไปแล้ว
"ทำไมเหรอ ทำไมกินไม่ได้"
"นี่คุณ"
เปรี้ยวหวานเข้าไปถอดหมวก ถอดแว่นออก เห็นหน้าดินชัดเจน
"หมวดดิน นี่คุณตามฉันมาหรือ"
"เอ้าคุณดิน คุณเองหรือ ดูซิ ขนาดใส่หมวกใส่แว่น พี่แป๊ดจำไม่ได้ แต่หัวใจพี่ก็ยังสนใจคุณเหมือนเดิม เรานี่เนื้อคู่กันชัดๆ"
"คุณแป๊ดเป็นอะไรหรือเปล่า นายเป้อาจจะใส่ยาในเครื่องดื่มคุณเปรี้ยวอย่ากินนะ"
"เฮ้ย พูดอะไร ยาอะไร"
"จะให้ฉันบอกอีกกี่ครั้งว่าเลิกยุ่งกับฉัน เลิกสะกดรอยร้อยฉันเสียที"
เปรี้ยวหวานเดินหนีมาสงบสติอารมณ์ ดินเดินมาเคลียร์
"คุณช่วยมีเหตุผลหน่อยได้ไหม เวลาอย่างนี้เราควรจะร่วมมือกันนะคุณ"
"ทำเป็นพูดว่าร่วมมือ แล้วสิ่งที่คุณทำ คุณเคยขอความร่วมมือฉันดีๆไหมล่ะ"
"จะยังไงก็เถอะ กลับบ้านกับผม นายเป้กิ๊กคุณเนี่ย ไม่ใช่คนดีหรอก"
เป้เดินถือน้ำส้มตามมาคุย
"เอ้า จู่ๆ ก็มายัดข้อหาให้คนบริสุทธิ์ จะดีหรือครับหมวด"
"ฉันเห็นนะไอ้ซองนั่น อย่าให้รู้นะว่าเป็นยาเสพติด พวกแกเสร็จทั้งแก๊งแน่"



Create Date : 26 มกราคม 2551
Last Update : 26 มกราคม 2551 0:25:09 น. 2 comments
Counter : 661 Pageviews.

 
เข้ามาเจิมคนแรก
เพื่อให้กำลังใจในการเขียนนะ


โดย: อนันตลัย วันที่: 26 มกราคม 2551 เวลา:11:38:13 น.  

 
ฝันดีนะคะ


โดย: โสมรัศมี วันที่: 26 มกราคม 2551 เวลา:20:50:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

@ ปั๊กกาเป้า @..อิอิ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 20 คน [?]




ติดต่อเจ้าของบ้านได้ที่นี่ ............ e - mail
New Comments
Friends' blogs
[Add @ ปั๊กกาเป้า @..อิอิ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.