JeyYah Say Hi !!!
<<
มีนาคม 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
14 มีนาคม 2556
 
 

T.T เรื่องที่ไม่คิดว่าจะเกิด แต่เกิดจนได้ "เจญ่าไข้ขึ้นจนชัก"

มามี๊เอาจากเฟส มาให้อ่านนะจ๊ะลูก เพราะมามี๊พิมพ์ลงเฟส ตอนอยู่ที่รพ.จ้ะ ^.^

เพิ่งเข้าเฟสได้ เลยมาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง ตอนนี้เจญ่าอยู่ รพ. พรุ่งนี้คงจะได้ออกแล้ว 

เมื่อวันที่ 5 ที่ผ่านมา ตอนบ่ายๆเด็กที่บ้านขึ้นมาปลุกต่าย (ต่ายกำลังหลับอยู่) ว่าให้ตื่นเร็วๆ พอลงไปแทบช็อกอ่ะ เจญ่ากำลังชักอยู่ คือตาเหลือกขึ้นด้านบน กัดฟัน แต่ยังไม่มีอาการเกร็งมือเท้า คือพูดไม่ออกเลย ได้แต่เรียกเจญ่าๆๆๆๆ เรียกเท่าไรก็ไม่ตื่น แบบทำอะไรไม่ถูกเลย ดีที่ลุงเจญ่าเค้ามีสติรีบพาเจญ่าขึ้นรถไป ป่าปี๊เจญ่าอยู่บนรถก็เอาน้ำเย็นลูบๆตัวเจญ่า เจญ่าก็ฟื้น พยายามร้องไห้ ลุงเค้าก็ขับรถพาไปคลีนิคของกล้วยน้ำไท คือที่นี่ใกล้สุด ไปถึงเค้าก็ปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่เค้าบอกว่า เจญ่าร้องไห้ได้แปลว่าเริ่มมีสติแล้ว พยาบาลก็เช็ดตัวๆ

ส่วนต่าย เชื่อป่ะ ต่ายทำไรไม่ถูกเลย ตอนป่าปี๊คว้าเจญ่าขึ้นรถไปต่ายยังช็อกอยู่เลยอ่ะ คือเดินไปเดินมา ทำอะไรไม่ถูก พอตั้งสติได้ ป่าปี๊เจญ่าก็โทรมาพอดีบอกว่าตอนนี้อยู่คลีนิคกล้วยน้ำไท เจญ่าฟื้นแล้ว ไม่ต้องห่วงมาก มามี๊ยังอึ้งไม่เลิก คือณ.ตอนนั้นมันทำอะไรไม่ถูกจริงๆ คือเรื่องเจญ่าชักเนี่ย ไม่เคยคิดเลยว่าจะเกิดขึ้น เพราะค่ายคิดว่าที่บ้านผู้ใหญ่อยู่เยอะ ไม่มีทางที่จะปล่อยเจญ่าชักได้ คือ ทำใจไม่ได้เลย ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่รีบเปลี่ยนเสื้อ คว้ากระเป๋าเงิน โทรศัพท์ บัตรประกันเจญ่า แล้วขับรถไปอย่างเร็วอ่ะ คือว่าณ.นาทีนั้น คือเหยียบอ่ะ ตีไฟผ่าหมากตลอดทางเลย ไม่ไหวจริงๆ อยากร้องไห้แต่ร้องไม่ออก

มาถึงที่คลีนิคกล้วยน้ำไท เจญ่าฟื้นแล้ว ร้องไห้ใหญ่เลย ต่ายรีบเข้าไปอุ้ม อย่างน้อยๆเจญ่าก็ฟื้นแล้ว สิ่งต่อมาที่ต่ายกลัวคือ ต่ายเคยได้ยินว่า เด็กเวลาชัก มีโอกาสที่ฟื้นขึ้นมาแล้วจะไม่เหมือนเดิม คือสมองไม่ได้รับอ็อกซิเจนนาน ต่ายก็กลัวสารพัด กลัวเจญ่าจะเอ๋อ กลัวจะตาเข กลัวจะจำไม่ได้

แต่ก่อนจะทำอะไร คือที่บ้านบอกว่าควรพาเจญ่าไปadmid ที่รพ.ก่อน แล้วรพ.ที่ใกล้ที่สุดคือ ไทยนครินทร์ ป่าปี๊ก็ขับรถไป ระหว่างทางต่ายก็เช็คเจญ่าว่าความจำยังโอเคอยู่ไม๊ เค้ายังตอบคำถามต่ายได้ ต่ายก็ถามสิ่งที่สอนไปล่าสุดคือ หนูชื่ออะไร เจญ่าจะตอบว่าืชื่อจีย่า (ต่ายนี่อยากจะร้องไห้ คือดีใจมากๆๆ อย่างน้อยๆความจำระยะสั้นก็ไม่เป็นไร) แล้วต่ายก็ค่อยๆถามๆสิ่งที่เค้าเคยตอบได้ เพลงที่เค้าชอบ ตุ๊กตาที่เค้ารักเค้าก็ตอบได้เกือบทั้งหมด ก็ยังพอโล่งใจบ้าง)

พอถึงที่รพ.ไทยนครินทร์ เจญ่ายังไข้ขึ้นสูงอยู่มาก พยาบาลรีบเช็ดตัว ให้ยากันชัก ยาลดไข้ ตอนแรกต่ายกะว่าจะแอดมิดที่ไทยนครินทร์เลย แต่ประวัติเจญ่าอยู่ที่เปาโลตั้งแต่แรกเกิด และอยากให้หมอประจำเค้าดูแล เลยตัดใจย้ายไปเข้าที่รพ.เปาโล (สะพานควาย) ตรงที่เจญ่าเกิด ต่ายขอรถโรงพยาบาลมาส่งที่เปาโลเลย เพราะกลัวเจญ่าชักระหว่างทาง T.T ขนาดอยู่บนรถรพ. เจญ่ายังตัวร้อนไม่หาย ยังต้องป้อนยากันซ้ำบนรถอีกรอบ ต่ายก็กลัวเค้าจะัชักอีก ต้องคอยเช็ดตัวตลอด

พอมาถึงที่รพ.เปาโล ยากันชัก+ยาลดไข้ (อย่างแรง)ที่ได้บนรถโรงพยาบาลเริ่มออกฤทฺธิ์ เจญ่าเริ่มไข้ลง แต่ก็ยังลงไม่มาก ก็เลยให้เจอหมอประจำ + ขึ้นมาวอร์ดคนไข้เด็ก เข้าห้องแทงน้ำเกลือได้ไม่นาน ไข้ขึ้นสูงปิ๊ดเลย เจญ่าตัวสั่น แต่ถ้าจับตรงตัวจะไม่ค่อยร้อนนะ แต่มือเท้าเย็นมากกก พอเอาไปเช็ดตัวนี่ เจญ่าตัวสั่นเกร็งเลย พยาบาลบอกว่า ไข้ขึ้นสูงเร็วมาก ประมาณ 15 นาที เปลี่ยนจาก อุณหภฺมิ 37 ปลายๆ ขึ้นมา39 เกือบ 40 T.T ดีที่อยู่รพ.แล้ว หลังจากนั้นก็รักษากันตามอาการ เช็คผลเลือด พาเช็ดตัวกันทุกครึ่งชม.ทั้งคืน สงสารเจญ่ามากๆ

วันรุ่งขึ้นคุยกับหมอ สรุปได้ว่าเจญ่าเป็นโรค หัดกุหลาบ หรือส่ากุหลาบ อาการจะมีไข้สูง และไข้จะขึ้นสูงเร็วมาก หลังจากไข้ลดจะมีผื่นขึ้นตามตัว ส่วนอาการชัก (เจญ่าชักไปประมาณ 2-3 นาทีแล้วฟื้น) หมอบอกว่าไม่มีผลต่อสมอง แต่เด็กที่ชักแล้ว มีโอกาสจะชักซ้ำอีก 30% ต่อไปเวลาไข้ขึ้น ไข้จะขึ้นเร็วกว่าปกติ ต้องดูแลกันให้ใกล้ชิด T.T

สรุปสาระให้ฟังคร่าวๆนะ เผื่อใครไม่อยากอ่านน้ำๆ มาอ่านเนื้อๆตรงนี้เลย > . < 555 (ตอนนี้หัวเราะได้แล้ว)

1. ตอนเจญ่าชัก พ่อเค้าอุ้มอยู่บนบ่าเลย กระตุกๆ (ไม่อยากนึกย้อนกลับไปนึกภาพเลย ทำใจไม่ได้จริงๆ) พ่อเค้าบอกว่า เค้าพลาดเอง คือ เจญ่ากำลังจะต้องกินยาอีก 20 นาที แต่ยังไม่ได้ป้อน วัดไ้ข้แล้ว ได้ 38 กว่าเกือบ 39 ชะล่าใจ ถามว่าเช็ดตัวไม๊ เ็ช็ดตัว แต่ผ้าหมาดเกินไป และไม่ได้เช็ดแบบฟลูออปชั่น

2. การเช็ดตัวแบบที่ถูกต้อง หรือฟูลออปชั่นเมื่อ ไข้ขึ้นสูงมาก อันนี้ต่ายเห็นพยาบาลเช็ด เลยมาเล่าให้ฟังนะ คือถอดเสื้อผ้าเด็กออกให้หมด เอากะละมังรองน้ำมา (น้ำธรรมดาก็ได้ น้ำอุ่นก็ได้) เอาผ้าชุบน้ำ บิดเล็กน้อย (ผ้ายังเปียกและมีน้ำหยดอยู่) ใช้ผ้าหลายๆผืนหน่อย ผืนนึงเอามาห่มที่ตัวเค้าเลย ผืนนึงเช็ด ผืนนึงโปะตรงขา ของเจญ่านี่ ตอนเช็ดแบบนี้ยังไม่ได้ เจญ่ายังหนาวสั่น เค้าเอากะละมังใส่น้ำอุ่นมาแช่ขาไว้เลย พยาบาลบอกว่าทำขาให้อุ่นไว้

นี่แหล่ะที่บ้านพลาด เช็ดตัวกันแบบใช้ผ้าหมาดมากเกินไป ไม่ได้ถอดเสื้อเช็ด เช็ดกันแค่ตรงมืือ ตรงขาที่พ้นเสื้อผ้าออกมา T.T

3. อาการไข้สูง บางทีตัวไม่ร้อน แต่ให้สังเกตุตรงข้อพับต่างๆ สังเกตมือเท้าว่าเย็นหรือเปล่า

4. การวัดอุณหภูมิ ด้วยปรอทวัดไข้ บางครั้งช่วงที่ไข้กำลังก่อตัว จะวัดอุณหภูิมิไม่ขึ้น ต้องอาศัยการสังเกตอาการอย่างอื่น เช่นอาการหนาวสั่น อาการซึม

อันนี้เจญ่าเป็น ตอนก่อนที่จะชัก ป่าปี๊บอกว่าอยู่ๆเจญ่าก็ซึม (ก่อนหน้านั้นยังเล่นหัวเราะิคิกคักๆ) เหมือนคล้่ายๆง่วงนอน มาเกาะพ่อเค้าให้อุ้มหลับ พ่อเค้าก็คิดว่าเจญ่าเพลีย แต่จริงๆแล้่ว กำลังเข้าสู่ระยะอันตรายแล้ว T.T

5.การกินยา ไม่รู้มีใครกินยาผิดเหมือนต่ายบ้างไม๊ ปกติ ที่บ้านจะให้ยาลดไข้เจญ่าทุกๆ 4 ชม. คือถ้ามีไข้ ในระยะเวลา 3 วัน ต่ายจะให้ทุกๆ 4 ชม.คือถึงไม่มีไข้ต่ายก็ยังให้ยาตลอด จริงๆเป็นวิธีทีผิด พยาบาลบอกว่าต้องให้ยาต่อเมื่อไข้ขึ้นเท่านั้น ยาลดไข้ไม่สามารถกินไป "กัน" ไว้ก่อนได้ เพราะถ้าเรากินไปแล้ว จะกินอีกทีได้ต่อเมื่อครบ 4 ชม.เท่านั้น ถ้าเรากินแล้วพอผ่านไป 1 ชม.ไข้ขึ้นอีก เรากินซ้ำไม่ได้ ก็ต้องอาศัยเช็ดตัวอย่างเดียว

6. กรณีที่เด็กชัก ไม่จำเป็นต้องเอาของให้เด็กกัด (อันนั้นเป็นความเชื่อสมัยก่อน) คือให้พยายามหาทางลดอุณหภูมิร่างกายให้เร็วที่สุด (อันนี้คือสิ่งที่ต้องทำเป็นอันดับแรก) เช่นเช็ดตัว แล้วมารพ.ให้เร็วที่สุด

คราวนี้ผ่อผ่อเจญ่าใช้นิ้่วให้เจญ่ากัด แผลม่วงเลย T.T

คราวนี้เป็นประสบการณ์ราคาแพงลิบลิ่วจริงๆ T.T อยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์จะได้ไม่ประมาทกัน ส่วนเจ้าเจญ่าตอนนี้กลับมาแสบ (กว่าเดิม) แล้วเข้ารพ.คราวนี้ มีอย่างสองอย่างที่ถือว่าเป็นเรื่องดี ข้อแรก เจญ่าไม่กลัวปรอทวัดไข้แล้ว (เพราะวัดกันจนชิน แรกๆกลัวมาก ร้องไห้ไม่ยอมให้วัด หลังๆชูกโจ๊ะกะแร้ให้วัดเลย 555) อีกข้อคือกินยาด้วยสลิงค์ได้เองแล้ว ทุกทีต้องผสมน้ำใส่ขวดให้ดูด ^.^

ข้อดีอีกข้อคือ ทำให้รู้ว่า เจญ่ามีค่าแค่ไหน (จากที่รักที่สุดในชีวิตอยู่แล้ว) ถ้าไม่อยากให้เค้าต้องตกอยู่ในอันตราย หรือไม่อยากเสียเค้าไป ก็อย่าประมาทอีก T.T ต่อไปคงต้องระวังเพิ่มขึ้นมากๆเลย


มามี๊เสียใจมากๆเลย มันไม่ควรเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น T.T มามี๊ขอโทษนะลูก ขอโทษจริงๆจ้ะ ต่อไปมามี๊จะไม่ยอมคลาดสายตาเลย ถ้าเจญ่าป่วย หรือมีไข้ เจญ่าคนเก่งของมามี๊ มามี๊รักหนูนะคะ ^.^




 

Create Date : 14 มีนาคม 2556
1 comments
Last Update : 14 มีนาคม 2556 3:13:55 น.
Counter : 1345 Pageviews.

 

ช่วยบอกวิธีการสอนลูกเพื่อสอบเข้าสาธิตของคุณแม่ด้วยค่ะ อยากทราบจะได้เอาเป็นแนวทางสอนลูกบ้างค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

โดย: ออโรร่า IP: 58.11.69.111 10 พฤษภาคม 2556 16:13:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

usagimom
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]




Blog นี้ มามี๊ ป่าปี๊ ตั้งใจทำให้นางฟ้าตัวน้อยๆ ... น้องเจย์ญ่า .... ให้หนูได้ย้อนกลับไปวันที่หนูยังอยู่ในท้องของมามี๊ ให้หนูรู้ว่ามามี๊ และป่าปี๊ ดีใจ และมีความสุขมากแค่ไหน ที่มีหนู

รักมากมายจริงๆ


[Add usagimom's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com pantip.com pantipmarket.com pantown.com