Group Blog
 
 
กันยายน 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
8 กันยายน 2548
 
All Blogs
 

สัตว์สังคม... แม่ไทยต่างถิ่นแบบเรา





สัตว์สังคม และ แม่ต่างแดนแบบเรา

แม่ต่างแดน ....คำๆนี้ หลายคนฟังคงจะทึ่ง เพราะนึกถึงสวัสดิการณ์ที่ดีๆ ที่แม่ควรได้ ที่แม่ควรมี เช่น การดูแลครรภ์เป็นระยะๆจากผู้เชี่ยวชาญ การคลอดในโรงพยาบาลที่ทันสมัย การเลี้ยงลูกโดยไร้ปัญหา การเรียนแบบที่มีประสิทธิภาพ การเป็นแม่บ้านที่ทันสมัยมีเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ในครัวเพียบ

แม่ต่างแดนบางคน โชคดีจริงๆพร้อมด้วยทุกสิ่งที่เราจาระไนยมาข้างบนครบถ้วน แต่แม่บางคนก็น่าสงสารนะ มาอยู่ต่างแดนได้ไม่นาน ภาษายังไม่คล่อง พอมาท้อง สิ่งที่กังวลๆจะเอ่ยออกมาเป็นภาษาต่างด้าวไม่ได้ เจอสูตินรีแพทย์ใจเย็นไม่พอ ไม่อธิบายอะไรเลย ก็รู้สึกราวกับว่าตนเองถูกรักษาแบบเป็นพิธี ( พูดจากประสบการณ์ บางคนเป็นแบบนั้นจริงๆ เราต้องรีบตระโกนถามก่อนพ่อเจ้าประคุณก่อนที่ท่านจะเผ่นออกจากห้อง ....หมอๆ ลูกฉันโตขึ้นอีกกี่เซ็นต์ แล้ว และไอ้ที่เราตกเลือดระหว่างคลอด มันเป็นเพราะอะไร... หมอบอกคุณอ่านเอาก็ได้ในสมุดฝากคลอด อิๆ เราเลยเปลี่ยนหมอค่ะ มีปัญหากับบริษัทประกันสุขภาพนิดหน่อยเพราะเขาไม่ให้เราเปลี่ยน แต่เราดื้อนะ ดื้อเอาจนเปลี่ยนได้ ) บางคนขอสามีไปคลอดที่เมืองไทย ซึ่งตอนนั้นเราก็อยากทำตามบ้าง แต่ไม่ไหว เพราะต้องทำงานให้ครบไม่งั้นโดนเชิญออกแน่ๆ พออายุครรภ์ แปดเดือนท้องก็ป่องแล้วเขาให้ลาคลอด ตอนนั้น เดินไม่ไหว กลัวจะไปคลอดบนเครื่องเลยตัดใจคลอดที่ต่างแดน โชคดีที่ ทุกสิ่งผ่านมาได้ด้วยดีไม่มีปัญหาแทรกซ้อน

พอมามีลูก ต้องอยู่บ้านดูลูก ไม่มีสังคมนอกบ้าน เพื่อนร่วมงานไม่มีเวลามาเยี่ยม หรือชวนไปดื่มกาแฟกันหรอก สังคมฝรั่งเลิกงานบ้านใครบ้านมัน เหงานะ เจ้าตัวกระเปี๊ยกยังคุยกับเราไม่รู้เรื่องมีแต่ร้องเวลาหิว เวลาผ้าอ้อมแฉะ มีแต่เราพูดๆๆๆกับเขาราวว่าเขาอายุ สี่ซ้าห้าขวบ เริ่มใช้ลูกเป็นหนูทดลอง คอยจับตาดูพฤติกรรม หาหนังสือพัฒนาการเด็กมาอ่านทั้งไทย และเทศ

ช่วงลาก่อนคลอดเราย้ายบ้าน มาอยู่หมู่บ้านเล็กๆ เพราะบ้านเก่าเล็กไม่มีห้องเด็ก คนข้างห้องอายุมากแล้ว รำคาญเสียงเด็กร้อง เด็กๆข้างๆห้องเคยโดนฝรั่งแก่ขี้บ่นคนนี้ดุบ่อยๆ บางทีแม่เด็กโดนบ่นซึ่งๆหน้าด้วย ตอนหลังคุณแม่ชาวฝรั่งคนนี้ก็หอบลูกย้ายไปที่อื่น
พอพวกเขาย้ายออกเราก็เหงาอีกจนกระทั่งเราคลอดลูก อยู่กับลูกจริงๆ เข็นลูกออกไปเดินเล่นเจอแม่ต่างชาติหลายคนไปไหนไปกันเป็นกลุ่ม เราเศร้า แม่บางคนคลอดด้วยกัน นอนห้องเดียวกันเจอหน้าทักแค่สวัสดีเท่านั้น
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเราเป็นกะเหรียงหลงดอย หรือเปล่า

แบบที่ อริสโตเติ้ลว่า มนุษย์เป็นสัตว์สังคม อยู่คนเดียวไม่ได้ชอบเข้ากลุ่ม เราเองเลยออกนอกบ้านกับลูกบ่อยๆ ไม่เห็นมีใครมาทักทาย ใยดีอะไรกับเราเลย ที่เมืองที่เราอยู่สมัยนั้นไม่มีการตั้งกลุ่มทารก หัดเดิน หัดคลาน อะไร เหมือนสมัยนี้ เราเลยมีลูกเป็นเพื่อน แม่สามีเป็นผู้ช่วยทางโทรศัพท์
และแล้ว เราก็เห็นความเป็นจริงที่ว่า ไม่ต้องไปหาสรรค์ที่ไหนหรอก มันอยู่ในบ้านนั่นแหละ พอลูกเริ่มพูดได้ คลานได้ก็ไม่มีเวลาฟุ้งซ่านแล้ว ดูลูกทั้งวัน ลูกยิ้ม ลูกหัวเราะ ลูกเริ่มพูด เราก็มีความสุข

เมื่อลูกเข้าอนุบาลเราก็ เริ่มทำงาน ตอนนี้รู้จักแม่ๆหลายคน ผิวเผิน เวลาประชุมผู้ปกครองกัน แม่ๆในหมู่บ้านนั่งติดกันคุยกันใหญ่ เราชวนเขาคุยนะ ตั้งแต่ดิน ฟ้า อากาศยันพัฒนาการของลูกๆ พอหมดเรื่องเขาไปเข้ากลุ่มเขาต่อ หวังลึกๆว่าเขาจะชวนเราไปเข้ากลุ่ม ดื่มนำชาด้วย ผิดหวัง เราโด่อยู่คนเดียวจนครูเข้ามานั่งด้วยคงกลัวเราเขิน ครูน่ารักมาก แม่ๆหลายคนโตด้วยกันมา พอมีลูกก็ให้ลูกๆเล่นด้วยกันอีก เราเคยนัดแม่กับลูกคู่หนึ่งไว้ พอเลิกงานตอนบ่าย รีบกลับมาอบขนม ( ซื้อไม่ได้ขี้เหนียวนะ ขนมเค็กตามร้านแพง เสียดายเงิน อิๆ) เก็บบ้าน คอย สามสิบนาทีก่อนเวลานัดเขาโทรมาบอก เขามาไม่ได้ลูกจักรยานล้ม ต้องพาไปหาหมอ ไม่เป็นไร เราไม่ว่า ทานขนมกับลูก ลูกเราเศร้าใหญ่ เราเลยขับรถพาลูกหอบขนมไปปิคนิคที่สนามเด็กเล่นห่างตัวเมืองที่เราอยู่ไปอีก 6 กม. เราเจอแม่คนนี้กับเพื่อนๆเขาและลูกๆเขาที่นั่น นึกในใจ พามาหาหมอไกลจัง ฮึ่ม โมโห นะ เขามองเราหน้า เขาจืดไปเลย

นั่นมันเป็นประสบการณ์ที่แย่มากๆ พอลูกเราโตขึ้นอีก เข้าอนุบาล หาคนเล่นด้วยไม่ได้ เราเลยให้ลูกเรียนดนตรี เหนื่อยจากงานจะตายแต่ก็ขับพาลูกเรียนดนตรี เขาชอบมาก อายุห้าขวบครึ่งแค่นั้น เราเลยไม่ค่อยได้ยินลูกบ่นอีกว่าเหงา ไม่มีคนเล่นด้วย เพราะเขามีกิจกรรมให้ทำ

เมื่อลูกเข้า รร. ประถมใหม่ๆ เดินร้องไห้ บอกโดนเพื่อนรุ่นพี่จับขังในห้องน้ำ โดนดึงผม เขาบอกลูกเราว่าเป็น ลูกเจ๊ก เราโมโหนะ ลูกขอร้องห้ามบอกครู เรานั่งคิดหาวิธีแก้ไข คิดไม่ออก เครียดเพราะสงสารลูก มีครั้งหนึ่งลูกข้อมือหักกลับบ้าน เด็กเกเรห้องอื่นผลักตกบันได เราต้องพาไปหาหมอ พาใส่เฝือกแขน ตอนนี้เราเอาเรื่อง เหอๆ คนเงียบๆเวลาโวยวายส่วนใหญ่มักจะได้ผล สรุปผู้ปกครองเด็กคนนั้นต้องจ่ายค่ารักษา ไม่ได้ภูมิใจว่าชนะความนะ แต่ทำให้พ่อแม่เด็กเกเรคนนั้นหันมาดูแลลูกตนมากขึ้นไม่ให้ไปแกล้งใคร หรือผลักใครอีก

ตอนหลังเลยขอแรงให้ปู่พาหลานไปเรียนวิชาการป้องกันตัวเพิ่ม ลูกเลยมีความมั่นใจในตนเอง และเตะเจ้าพวกเด็กนิสัยเสียจนไม่กล้ามาแกล้ง อีก

พอตอนหลังเราทำงาน ไม่ค่อยเหงา บ่อย เพราะเริ่มใช้ อีเมลเป็น ติดต่อกับเพื่อนที่เมืองไทยได้ ออนไลน์เป็น และก็เริ่มมีเพื่อนร่วมงานชาวฝรั่งเป็นเพื่อน แต่อย่างว่า นานทีจะได้ดื่มกาแฟ สังสรรค์กัน เพราะฝรั่ง เลิกงาน บ้านใคร บ้านมัน เพื่อนร่วมงานสาวๆก็มีแฟน สวีท กัน ไม่มีเวลามาสังสรรค์นอกเวลางาน นอกจากจะมีวาระพิเศษอื่นๆ เช่น วันเกิด วันครบรอบทำงาน

เมื่อมาเห็นคุณแม่ข้าราชการรับเงินบำนาญมาเจ็ดแปดปีแล้ว ยังมีการนัดเพื่อนเที่ยว ทานขนมด้วยกัน( สมัยสาวๆ ท่านก็มีนัดกับเพื่อนๆด้วย) แล้วเราก็ห่อเหี่ยว นิดๆ

แต่เราเป็นสัตว์สังคม ที่อยากสร้างสังคมใหม่ นอกจากสังคมในบ้าน และ ในที่ทำงาน เลยใช้คอมพิวเต้อร์นี่แหละ เป็นสื่อกลางหาเพื่อน สร้างสังคม ออนไลน์ บล็อกกันเสียเลย




 

Create Date : 08 กันยายน 2548
6 comments
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2548 1:29:55 น.
Counter : 553 Pageviews.

 

รูปโฉมของบล็อกเรายังไม่ไฉไลเท่าไร ยังไม่มีเวลานั่งหน้าคอมพ์ นาน และไม่มีความรู้แต่งบล็อกมากนักค่ะ ใครมีอะไรจะแนะนำบอกด้วยนะคะ

 

โดย: อิตถี (It-ta-tee ) 8 กันยายน 2548 3:59:39 น.  

 

คนนี้ดีค่ะ แกแนะนำการทำบลอคด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=rumpuey&group=8

มีสองหัวข้อนะคะ

 

โดย: กานดา IP: 81.236.216.5 12 พฤศจิกายน 2548 14:19:49 น.  

 

แวะมาอ่านค่ะ มองเห็นภาพเลยค่ะ สภาพของสังคมฝรั่งตัวใครตัวมันจริงๆ ตอนนี้เราก็มีลูกอ่อน ต้องอยู่แต่บ้านเลี้ยงลูกอย่างเดียว จะว่าเหงามันก็เหงาค่ะ แต่ดีหน่อยที่มีคอมพ์เป็นเพื่อน นั่งดูโน่นดูนี่ในโลกไซเบอร์ไป เวลามันก็หมดไปวันๆแล้ว.....ตอนนี้ก็หาอะไรทำในเน็ทนี่ล่ะ อิอิ

 

โดย: หลิวลิ่วลม 11 เมษายน 2550 2:20:40 น.  

 

ได้แวะเข้ามาอ่านแล้วมีความรู้สึกว่าเราได้รู้จักสังคมของต่างประเทศมากขึ้นถึงแม้บล็อคจะไม่ค่อยสวยมากเท่าไรแต่เข้ามาอ่านแล้วก็รู้สึกว่ามีความน่ารักอยู่มากเลยเราจะลองชวนให้เพื่อนๆของเราลองเข้าไปอ่านดูนะ

 

โดย: ก้านกล้วย IP: 125.24.151.4 15 พฤษภาคม 2550 14:27:09 น.  

 

นำข้อไปประการรายงาน

 

โดย: บิ๊กสุ ธิทอง IP: 202.28.47.11 27 พฤศจิกายน 2550 7:15:12 น.  

 

จะข้อความไปประกอบการรายงานนะครับ

 

โดย: บิ๊กสุ ธิทอง IP: 202.28.47.11 27 พฤศจิกายน 2550 7:19:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


It-ta-tee
Location :
กรุงเทพฯ Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






บันทึก และ มุมมองแห่งชีวิต ของ เรา ผู้เป็น แม่และพยาบาล

ในโลกนี้มีอะไรสำคัญกว่าที่ต้องทำมากว่าการนั่งหน้าจอ PC เช่น ขึ้นเวร เวลาขาดคน ถึงได้หยุดก็เถิด หรือ การเล่นและสอนลูกๆ บางครั้งได้มีโอกาสทำประโยชน์ให้คนไทยด้วยกัน
เท่านี้ เราก็มีความสุขมาก
เราเขียนบล๊อกเมื่อมีเวลา หากเพื่อนๆแวะมา comment เราขอบคุณค่ะ
และจะตามไปเยือน เมื่อ โอกาส อำนวยค่ะ
ขอบคุณสำหรับมิตรภาพที่มอบให้

กระทู้ล่าสุด



Thai-deutsches Familienleben




free counter
widget
Friends' blogs
[Add It-ta-tee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.