Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
7 ตุลาคม 2548
 
All Blogs
 
Halloween







Halloween


ข้อมูลนี้เรียบเรียงเมื่อปีที่แล้วให้หลานสาวอ่าน คิดว่าไม่ล้าสมัย เพราะสิ้นเดือนนี้ก็ฮาโลวีนอีกแล้วค่ะ

วันที่ 31 ตุลาคม นั้นจะมีชื่อเรียกต่างๆกัน เช่น Samhain , El Dia de los Muertos, All Saints´ Eve หรือ Halloween

คำว่า ฮาโลวีน สันนิษฐานว่ามีที่มาจากคำว่า All Hallows Night ของชาวคริสเตียนคาธอลิคใ นคริสตศัตวรรษที่ 16 คริสเตียนฝ่ายโปรเตสแตนต์ได้มีการเรียกเทศกาลนี้ว่า Halloween




วันฮาโลวีนของทุกปี จะเป็นวันของชาวคริสเตียนที่จะเฉลิมฉลอง เชิดชูเกียรติแก่เหล่านักบุญของเขา แต่ในศตวรรษที่ 5 ที่เกาะ Celtic Ireland ในประเทศอังกฤษนั้นจะมีการฉลองวันขึ้นปีใหม่ของชาวเคลท์ ซึ่งถือว่าเป็นวันที่ฤดูร้อนสิ้นสุดลง ในวันที่ 31 ตุลาคม ชาวเคลท์เรียกเทศกาลนี้ว่า Samhain ซึ่งเป็นการให้เกียรติแก่ เทพ แห่งความตายนามว่า Samhain
มีเรื่องเล่าขานกันมาตามความเชื่อของนักบวชชาวดรูดิคและชาวเคลท์ว่าโลกมนุษย์ และโลกแห่งตวามตายถูกกั้นด้วยผนังบางๆ ในวันนั้น วิญญาณที่หลุดออกจากร่างของผู้ตายจะกลับมายังโลกเสาะหาร่างใหม่เพื่อเอามาเป็นเจ้าของในวันปีใหม่นี้เอง ก่อให้เกิดความเดือดร้อน ความหวาดกลัวให้แก่ผู้มีชีวิตอยู่ เนื่องจากร่างที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นจะไม่ต้องการให้ใครมาเป็นเจ้าของ ดังนั้นในคืนวันที่ 31 ตุลาคม นักบวชนิกายดรูดริค ซึ่งเป็นที่นับถือของชาวเคลท์ จะระดมพลชวนคนมาจุดกองไฟกองใหญ่เพื่อขับไล่ภูติผี ปีศาจ และทำพิธีบูชายันต์ต่อเทพของพวกเขา จะดับไฟในบ้าน เพื่อทำอุณหภูมิรอบกายให้เย็นเพื่อที่จะได้ไม่เป็นที่ปราถนาของวิญญาณ นอกจากนั้นจะมารวมตัวกันก่อกองไฟกลางแจ้งและจะแต่งตัวเป็นปีศาจ นำก้อนถ่านแดงๆจากกองไฟที่ก่อใส่ในหัวผักกาดเจาะกลวงเป็นโคมไฟ แล้วเดินขบวนพาเหรดเสียงอึกทึกแห่ไปรอบ ๆ บ้านของเพื่อนบ้าน ส่งเสียงอึกทึก เท่าที่จะทำได้เพื่อขู่เหล่าวิญญาณที่กำลังมองหาร่างใหม่ ...ถ่านไฟนั้นจะถูกนำมาจุดต่อในบ้าน เนื่องจากพวกเขาเชือว่าระหว่างที่ไฟศักดิ์สิทธิ์ยังเรืองแสงอยู่ ปีศาจจะไม่เข้ามารบกวนได้

เมื่อจักรวรรดิ์โรมันคาธอลิค เข้ามาครอบครองชาวเคลท์ ได้เกิดการผสมผสานวัฒนธรรมความเชื่อของสองเผ่าพันธุ์ขึ้น ในขณะที่ชาวเคลท์เฉลิมฉลองเทศกาล Samhain ของเขา ชาวโรมันได้มีการฉลองเทศกาล Feralia ซึ่งเป็นการระลึกถึงเทพธิดา Pomona เทพธิดาแห่งผลไม้ และต้นไม้ และจะฉลองในช่วงปลายเดือนตุลาคม หรือต้นเดือนพฤศจิกายนไล่ๆกัน



ในคริสต์ศตวรรษที่ 7 สันตปะปา Boniface IV ได้กำหนดให้วันที่ 13 พฤษภาคมของทุกปีเป็นวันระลึกถึงพระแม่มารี ( the virgin mary)
ในคริสต์ศตวรรษ 8 ( ปี คศ.834) สันตปะปา Gregor III ได้เลื่อนวันระลึกถึงพระแม่มารี เป็นวันที่ 1 พฤศจิกายน โดยมีความประสงค์ที่จะกำจัดความเชื่อของชาวเคลท์
ใน คริสต์ศตวรรษที่ 8 ( ปี คศ.837) สันตปะปา Gregor IV ได้พยายามครอบคลุมความเชื่อของชาวเคลท์ โดยเปลี่ยนชื่อเทศกาล Samhain ซึ่งระลึกแก่เทพแห่งความตาย เป็นวัน All Saints`Eve ซึ่งระลึกถึงนักบุญผู้วายชนม์แทน
และใน คริสตศตวรรษที่ 11 ( ไม่มีการบ่งปีที่แน่นอน)ได้มีวันรำลึกถึงผู้วายชนม์ขึ้นมาอีก ในวันนี้ ญาติของผู้ตายจะประดับประดาหลุมฝังศพด้วยดอกไม้ โคมไฟ หรือเทียน

ในคริสตศัตวรรษที่ 16 ได้มีคริสเตียนฝ่ายโปรเตสแตนต์ได้มีการเรียกเทศกาล Samhain นี้ว่า ฮาโลวีน ( Halooween)ซึ่งทำให้มีการยอมรับว่าเทศกาลนี้เป็นส่วนหนึ่งของชาวคริสเตียน ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่เป็นที่ยอมรับของศาสนาคริสต์

ประเพณีวัน ฮาโลวีน ได้ถูกนำมาที่ประเทศอเมริกาเมื่อปี 1840 โดยคนเข้าเมืองชาวไอริชที่กำลังลักลอบขนมันฝรั่งเข้าไปยังประเทศของตนเอง ซึ่งกำลังขาดแคลน ส่วนประเพณี Trick-or-treat นั้น เป็นความคิดที่ต้นฉบับไม่ใช่พวกชาวไอริช แต่เป็นของชาวยุโรปซึ่งมีขึ้นในศตวรรษที่ 9 จะมีขึ้นในวันที่ 2 พฤศจิกายน ในวันนั้น เด็ก ๆ ชาวคริสเตียนจะเดินจากหมู่บ้านหนึ่ง ไปยังอีกหมู่บ้านหนึ่งเพื่อขออาหาร เค้ก ขนม หรือ "Soul cakes" เป็นเค้กขนมปังลูกเกดชิ้นสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ซึ่งผู้ที่ให้ก็จะสวดอวยพรให้กับญาติที่ตายไปแล้วให้ได้รับเค้กเหล่านี้ด้วย ในเวลานั้น มีความเชื่อกันว่า คนที่ตายนั้นจะลงไปอยู่ในขุมนรกหลังจากที่ตายไปแล้ว และผู้ที่สวดอวยพรให้หรือแม้แต่คนแปลกหน้าก็จะสามารถช่วยส่งให้วิญญาณขึ้นไปยังสวรรค์ได้


ส่วนประเพณี Jack-o-lantern นั้น น่าจะมาจากความเชื่อของชาวไอริช ซึ่งใมีตำนานหลายกระแส


บางตำนานเล่าว่า

คืนวันหนึ่ง แจ็ค ขี้เมาช่างตีเหล็กนั่งอยู่ในโรงเตี๊ยมเล็กๆแห่งหนึ่งในไอร์แลนด์ ซาตานได้มาปรากฏตัวต่อหน้าเขาและได้แจ้งความประสงค์ต้องการวิญญาณของเขา
แจ็คได้ต่อรองขอแลกวิญญาณของเขากับหล้าหนึ่งจอก ซาตานยินยอมและได้แปลงร่างเป็นเหรียญ 6 เพ็นซ์ เพื่อจ่ายค่าเหล้าต่อเจ้าของโรงเตี๊ยม แจ็คฉวยโอกาสนั้น กำเหรียญไว้แน่นและนำเหรียญใส่กระเป๋าเงินซึ่งในนั้นมีไม้กางเขนอยู่ทำให้ซาตานไม่สามารถแปลงร่างคืนสู่สภาพเดิมได้ แจ็คได้ต่อรองกับซาตานขอยืดวิญญาณไปอีก 10 ปี

เมื่อครบ 10 ปีซาตานได้กลับมายังโลกอีกเพื่อมารับวิญญาณของแจ็ค แจ็คอ้อนวอนซาตานว่าตนอยากกินผลแอ็ปเปิ้ลเป็นครั้งสุดท้ายก่อนไปสู่นรก ซาตานใจอ่อนหลงเชื่อจึงปีนไปบนต้นแอ็ปเปิ้ล เพื่อเก็บผลแอ็ปเปิ้ลให้แจ็ค แจ็คถือโอกาสวาดเครื่องหมายไม้กางเขนบนต้นแอ็ปเปิ้ล ทำให้ซาตานลงจากต้นไม้ไม่ได้ แจ็คได้ต่อรองกับซาตานอีกว่าจะปล่อยให้ซาตานเป็นอิสระหากซาตานไม่มาตามทวงวิญญาณของเขาอีก ซาตานให้สัญญาและไม่มากวนแจ็คอีก

เมื่อแจ็คตาย สวรรค์ไม่ต้องการตัวแจ็ค เพราะเขาเป็นคนไม่ดี เขาเร่ร่อนไปที่นรก นรกก็ปฏิเสธที่จะรับตัวเขาเนื่องจาก ซาตานต้องรักษาสัญญา วิญญาณของแจ็คจึงถูกส่งกลับมา เร่ร่อนพเนจรในโลกอีก เนื่องจากระยะทางจากนรกสู่โลกนั้น เหน็บหนาว มืดมน ลมแรงซาตานได้ให้ ถ่านไฟเรืองๆแก่แจ็คเพื่อส่องทางกลับมายังโลก แจ็คได้นำถ่านไฟใส่ในแคร็อท ( บางเล่มบอก หัวไชเท้า หรือ ฟักทอง ) ซึ่งคว้านเอาเนื้อออก และวิญญาณของเขาก็ลอยล่องพเนจรอยู่ในโลกไปเรื่อยๆ

อีกตำนานหนึ่งเล่าว่า มีชายคนหนึ่งชื่อว่า แจ๊ค เขาเป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นคนขี้เมาและเป็นยอดคนขี้โกง เขาหลอกให้ซาตานปีนขึ้นไปบนต้นไม้ แล้วก็แกะสลักรูปไม้กางเขนลงบนต้นไม้นั้น ทำให้ปีศาจตนนั้นลงมาไม่ได้ เขามีข้อตกลงกับปีศาจว่า ถ้าเจ้าปีศาจสัญญาว่าจะไม่มาหลอกเขาอีก เขาก็จะปล่อยปีศาจลงจากต้นไม้ และจากตำนานนี้เอง หลังจากที่แจ๊คตายแล้ว เขาถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นสวรรค์ เพราะเขาได้ทำบาปเอาไว้ แต่เขาก็ถูกปฏิเสธที่จะไม่ให้ลงนรกเหมือนกันเพราะเขาสามารถโกงปีศาจได้ แต่ปีศาจก็ได้ให้ดวงไฟเขาไว้แทนเพื่อจะส่องแสงสว่างให้เขาไปตามความมืดอันหนาวเหน็บ ดวงไฟนั้นถูกวางไว้ในหัวผักกาดกลวง ๆ ซึ่งสามารถ ส่องแสงได้ยาวนานขึ้น...


.. ดังนั้น ชาวไอริชจึงได้ใช้หัวผักกาดมาทำเป็นเหมือนโคมไฟของแจ็คตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเพื่อสืบสานความเชื่อของตน เมื่อชาวไอริชที่อพยพไปยังประเทศอเมริกาได้พบว่า หัวฟักทองที่นี่มีอยู่มากและอุดมสมบูรณ์มากกว่าหัวผักกาด จึงนำฟักทองมาใช้แทนหัวผักกาดดังนั้น Jack-O-Lantern ในประเทศอเมริกาจึงเป็นหัวฟักทองใส่เทียนหรือดวงไฟไว้แทน

ถึงแม้ว่าผู้ที่นับถือศาสนาหรือลัทธิบางกลุ่มอาจรับเอาเทศกาลฮาโลวีนนี้มาไว้เป็นวันหยุดสนุกนานของพวกเขา แต่วันนี้ก็ไม่ได้มีขึ้นเพื่อปีศาจ แต่มีขึ้นเพื่อพิธีทางศาสนาของพวกเคลท์และเป็นการเฉลิมฉลองวันปีใหม่ และวันนี้ก็ยังเป็นวันที่โบสถ์หลาย ๆ แห่งจะจัดงานปาร์ตี้ฮาโลวีนกันขึ้น เพื่อให้เด็ก ๆ ได้ร่วมสนุกกับการแกะสลักฟักทอง และแต่งหน้าแต่งตัวให้เหมือนปีศาจบ้าง แม่มดบ้าง นอกจากนั้นเด็กๆจะสนุกสนานกับการขอลูกอม ขนมหวานตามบ้านอีกด้วย เด็กๆจะมีการเล่น Trick or Treat กันโดยจะถามผู้ที่มาเปิดประตูบ้านว่า Trick หรือTreat หากเจ้าของบ้านบอก Treat และเอาขนม ลูกอมมาให้เด็กๆก็จะจากไปแต่โดยดี แต่หากเจ้าบ้านตอบ Trick เด็กๆจะล้มถังขยะของบ้านนั้น

Celt [ออกเสียง kelt> เป็นกลุ่มชนซึ่งอาศัยอยู่ในอังกฤษ นักประวัติศาสตร์สันนิษฐานว่าชาวเคลท์เคยอยู่แถบตอนเหนือของอิตาลีเมื่อราว 400 ปีก่อนคริสตศักราช และเป็นที่รู้จักกันในนาม Barbarians หลังจากนั้นพวกเขาได้กระจายโยกย้ายถิ่นฐานไปตามที่ต่างๆเช่น อังกฤษ ไอร์แลนด์ เยอรมันตอนใต้ ฝรั่งเศส สเปญ



Samhain [ออกเสียงว่า sow-in > เทพแห่งความตาย ตามความเชื่อของของชาวเคลท์



แหล่งข้อมูลน่าสนใจเกี่ยวกับวันฮาโลวีน ทั้งภาค อังกฤษ และเยอรมัน


//www.bbc.co.uk/cumbria/features/halloween/history.shtml/

//kids.mweb.co.th/


//www.austinlostpet.com/kidskorner/2October/InfoJack.htm/
//www.internetschriftsteller.de/haloween/jackolatern.html/


//www.itshaloweenagain.de/history.html



//www.gfra.de/usfood/hween.htm/






หนังสือ Das grosse Buch des Uebersinnlichen ของ Karen Farington

แหล่งข้อมูลน่าสนใจเดี่ยวกับชาวเคลท์


//www.ucc.ie/celt/about.html/







//www.ibiblio.org/gaelic/celts.html/









Create Date : 07 ตุลาคม 2548
Last Update : 17 ตุลาคม 2548 2:15:20 น. 1 comments
Counter : 517 Pageviews.

 


โดย: คี้ IP: 116.58.231.242 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:00:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

It-ta-tee
Location :
กรุงเทพฯ Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






บันทึก และ มุมมองแห่งชีวิต ของ เรา ผู้เป็น แม่และพยาบาล

ในโลกนี้มีอะไรสำคัญกว่าที่ต้องทำมากว่าการนั่งหน้าจอ PC เช่น ขึ้นเวร เวลาขาดคน ถึงได้หยุดก็เถิด หรือ การเล่นและสอนลูกๆ บางครั้งได้มีโอกาสทำประโยชน์ให้คนไทยด้วยกัน
เท่านี้ เราก็มีความสุขมาก
เราเขียนบล๊อกเมื่อมีเวลา หากเพื่อนๆแวะมา comment เราขอบคุณค่ะ
และจะตามไปเยือน เมื่อ โอกาส อำนวยค่ะ
ขอบคุณสำหรับมิตรภาพที่มอบให้

กระทู้ล่าสุด



Thai-deutsches Familienleben




free counter
widget
Friends' blogs
[Add It-ta-tee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.