Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2548
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
8 พฤศจิกายน 2548
 
All Blogs
 
หมอเมืองฝรั่ง (แบบนี้ คงไม่ทุกคนนะ )






ตอนนี้ป่วยจนได้ หลังจากปวดเนื้อครั่นตัว เจ็บคอ ปวดหัวแบบไมเกรน แต่ไม่มีไข้ ไม่ไอ ไม่จาม ไปหาหมอ หมอให้กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ (โธ่ เราทำมาแล้ว) หมอไม่ให้ลางาน บอกแค่โพรงจมูกอักเสบนิดหน่อย เราไม่ถามถึงใบลาด้วย เพราะเราไม่อยากหยุดงาน รู้ด้วยว่าหมอคนนี้ขียนใบลายากมาก ถ่อสังขารไปทำงานได้ เจ็ดวัน ก็ต้องมาจอด เพราะเริ่มเจ็บคอมีไข้ ไอตลอดคืน
บอกเจ้านายว่าพรุ่งนี้จะไปหาหมอนะ หล่อนมองหน้า และบอกว่า เธอก็รู้อยู่นะ ว่าช่วงนี้ขาดคน เราก็บอกว่า ถ้าไม่ไหวจริงๆฉันไม่ไปหาหมอหรอก นี้แหบจนพูดออกมาเป็นคำๆจะไม่ได้แล้วนะ หล่อนเงียบ

หลังจากทำงานไปด้วยกันได้ สักชั่วโมง หล่อนคงรำคาญ หรือกลัวฉันแพร่ชื้อ อิๆ เจ้าผ้าปิดปากปิดจมูกกันจามกันไอก็บางมากๆ เราไอที มันก็จะปลิวที ไอบ่อยด้วย แสบคอไปหมด หล่อนเลยบอก ไปหาหมอพรุ่งนี้เถอะ เดี๋ยวจะคลียร์หาคนมาทำงานแทน

มื่อวานนี้ไปหาหมอ หมอย้ายคลีนิคไปปิดใหม่ สวยหรู ค่าเช่าคงแพง คอยนานเกือบหนึ่งชั่วโมงครึ่งถึงถูกเรียกเข้าพบหมอในห้องตรวจ หลังจากหมอตรวจคอ แล้วบอกแดงมาก หมอถามว่าเราทานยาแก้ไขอะไร เราบอก พาราเซตตามอลของลูกที่มีติดบ้าน ยาแก้ไอ มีไหม มีค่ะ (ของลูกอีก หึๆ ก็นานปีจะป่วยนี่)หากไม่มีต้องซื้อเองนะ หมอก็ให้เราหยุดอยู่กับบ้านสามวัน เมื่อก่อนนั้น แพทย์จ่ายยาให้ ผู้ป่วยไม่ต้องจ่ายค่ายา บริษัทรับประกันจ่ายหมด และแล้วมาถึงยุคศรษฐกิจตกสะเก็ด ผู้ป่วยต้องจ่ายส่วนหนึ่งของค่ายา ( หยูกยาที่เยอรมนีนั้นแพงมากค่ะ เคยซื้อทิงเจอร์หนึ่งขวด แค่ ห้าสิบ มิลลิลิตร จ่ายไปตั้ง ห้า ยูโร อุปกรณ์ผ้าพันแผลไม่ต้องพูดถึง วลาเราไปเมืองไทยก็ซื้อมาตุนจากเมืองไทย หารายได้เข้าประทศ หึๆ )

หมอๆจะระวังมากในการเขียนใบสั่งยา หมอกลัวเรื่องการขียนใบสั่งเกินโควต้า หรืออย่างไรนะ โธ่ ปีหนึ่งเรามาหาหมอแค่ครั้งเดียวเอง และไม่เคยลางานจริงๆในรอบปีนี้ ตอนนี้มันป่วยจริงๆ ผิดหวังนะ กลับมาบ้านเจอเพื่อนข้างบ้าน หล่อนเข้ามาทักบอกป่วยเหมือนกัน เป็นหวัด ไม่เจ็บคอมีไข้เฉยๆ หยุดมาสี่วันแล้วหมอให้ลา เจ็ดวันแน่ะ ทั้งๆที่หล่อนทำงานแค่อาทิตย์ละสองวัน ( เราทำทุกๆสิบสองวันได้หยุดสองวันเอง) เศร้าใจน่ะ เศร้าจริงๆ เที่ยวหน้าจะโทรศัพท์บอกบริษัทประกันขอเปลี่ยนหมอประจำบ้าน แน่นอน

นินทาหมอมาแล้ว มีเรื่องช้ำๆกี่ยวกับหมอเรื่องการรักษาลูกสาวอีก

เมื่อสี่ปีก่อน ต้องพาลูกไปรับการตรวจว่าแพ้อะไร แพ้สารอาหารตัวไหน ตอนแรกขับรถพาลูกไป รพ ศูนย์ของมหาวิทยาลัยชื่อดัง โปรเฟสเซ่อร์ท่านหนึ่ง แนะให้มาตรวจ แต่ต้องนอนโรงพยาบาลสิบวัน ไม่ยอมไม่ได้ ลูกแพ้มาก ปากตุ่ย บวมทั้งใบหน้า เราต้องลาไปเฝ้าเขา กว่าจะลาได้ต้องเถียงกับหัวหน้า เขาให้เราลาสี่วัน แต่กฏหมายให้ราสิบวัน เราเลยเถียง เขาวิ่งไปหาหัวหน้าใหญ่ สรุปเราลาได้แค่ห้าวัน กฏหมายไม่สำคัญสำหรับคนพวกนี้ ( ใครคิดมาทำงานเมืองนอกคิดดีๆนะคะ ผลงาน กับการไม่ลาป่วยสำคัญค่ะ หึๆ )

เพื่อนร่วมงานคนอื่นโมโหแทน บางคนออกปากจะมาทำแทนให้ฟรีๆ เราซึ้งน้ำใจเพื่อนร่วมงานมาก ว่าไปแล้วก็ทุกๆที่นั่นแหละ คนแย่ๆมีทั่ว คนดีๆก็มีถม

โรงพยาบาลนี้ห่างบ้านเรา ถึง เจ็ดสิบห้ากิโลเมตร ไปนอนได้สามวันเจาะลือดอย่างเดียว ตรวจอุลตร้าซาวด์ครบห้าวันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเราขอให้ย่ามาเฝ้าแทนอีกห้าวัน วันที่หก เขาให้เราพาลูกไปตรวจคอมพิวต้อร์โทโมกราฟฟี่ กลับมาเตียงเรากับลูกหายเสื้อผ้ากองบนกระป๋าหน้าห้อง คนไข้นอนห้องเดียวกับเราเฝ้าของให้ เราเลยถามเขา เขาโมโหแทนเรามาก เขาบอกเขาเถียงกับพยาบาลที่เอาเตียงออกไปว่าเราไม่ได้ถูกดิชชาร์จ ( ให้กลับบาน) นะ เราพาลูกไปตรวจเฉยๆ ไม่มีใครฟังหล่อนเลย เราได้ยินแล้วสงสัย ฝากลูกไว้กับหล่อน และออกมาถามพยาบาล ซึ่งเขาก็บอกหมอประจำตึกบอกจำหน่ายเคสลูกเราให้กลับบ้านได้
ความรู้สึกของเราเหมือนถูกน้ำเย็นสาดหน้า ขอพบหมอด่วน เมื่อหมอมา เราถามหมอ ว่าทำไมให้กลับ หมอบอกผลเลือดปรกติ เราบอกเราทราบว่าผลเลือดปรกติ และผลอุตร้าซาวด์ก็ปรกติ ผลซีที ก็ปรกติ ดังนั้นควรตรวจที่การแพ้อาหาร หมอยักไหล่บอกเวลาไม่พอ
เท่านั้นเรากรี๊ดใส่เลย นี่ฉันพาลูกมาอยู่นี่หกวันแล้ว โปรเฟสเซ่อร์หัวหน้าแผนกขอให้เราพาลูกมาตรวจรื่องนี้ แต่นี่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพียงพาลูกไปตรวจ ซีที เดี๋ยวเดียว กลับมา กระป๋งกระเป๋าโดนยกออกมาไว้หน้าห้องเตียงก็หาย ราวกับโนไล่ก็ไม่เชิง มันเรื่องอะไรกัน หมอเคยเห็นเด็กที่มันหายใจไม่ออกไหม ปากบวม จมูกบวม หน้าบวม หายใจไม่ออกน่ะ ฉันทำงานนะ เวลาที่จะอยู่กับลูก ยี่สิบสี่ชั่วโมงนั้นไม่มี จะวิ่งฉีดสเตียร์รอยด์ให้ลูกตลอดนั้นไม่ได้หรอก ลามาเฝ้าลูกก็ต้องมีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน หวังว่าลูกจะได้รับการตรวจว่าแพ้สารอาหาร หรือก็เสียเวลาไปปล่าวปลี้ พูดไปร้องไห้ไป หมอเดินมาจับไหล่ ฉันสะบัด
หัวหน้าพยบาบาลมาปลอบเราเลยนิ่ง หมอบอก แล้วหมอจะตรวจให้ เราลยสงบความโกรธ ( ไม่เป็นไรคนหมือนกัน พลาดได้อภัยได้ ให้โอกาสอีกทีวะ)

วันรุ่งขึ้นเราไปทำงาน ให้ย่าไปเฝ้าไปนอนกับลูก ย่าบ่น มีแต่กินกับนอน ไม่มีตรวจอะไร เราโทรไปหาหมอ หมอไม่อยู่ หรือไม่ยอมมารับโทรศัพท์ก็ไม่ทราบ
เมื่อครบสิบวัน พ่อ และ ปู่ไปรับย่าและหลานสาว ทุกคนผิดหวัง หมอไม่ได้ตรวจเรื่องการแพ้สารอาหารเลย สามีเราเลยอาละวาดบ้าง หมอบอก โปรเฟสเซ่อร์ไม่อยู่เลยไมี่มีคนทำ
ทุกคนโมโห มาก เราโทรไปบอกเขาว่า โปรเฟสเซ่อร์เป็นคนให้เราพาลูกมาตรวจใน ช่วงนี้เด้วยตนเอง หมอคงไม่บอกโปรเฟสเซ่อร์เอง ท่านสนใจเคสลูกสาวเรามาก หลังจากที่เราเอารูปตอนลูกสาวมีอาการบวมให้ท่านดู เขาถึงให้เรามาช่วงที่ท่านอยู่ และเราจะโทรไปคุยกับท่านเองอีกทีในเรื่องนี้ ( จะร้องเรียน)

และเราก็ร้องรียนนะ เราโทรไปคุยกับท่าน เล่าให้ฟังหมดเลย ท่านโมโหใหญ่ เราบอกว่า เราคงพาลูกไปรักษาที่อื่นแล้ว เพราะเราอาละวาดไปจริง เราอายน่ะ ท่านหัวเราะและบอกเป็นท่านๆก็อาละวาดนะ ท่านจะจัดการตักเตือนให้

เราพาลูกไปรักษากับหมอที่อื่น ขับตะรอนไปอีก หนึ่งร้อยกว่ากิโลเมตร เป็นหมอ ออลราวด์ ต้องควักกระเป๋าตนเอง แพงมากแต่จำต้องยอมกินแกลบ ตั้งแต่นั้นมาก็ทราบว่ายายหนูห้ามทานอะไรบ้าง หลังจากนั้นเจ้าหล่อนเลยไม่มีอาการแพ้บ่อยๆ และรุนแรงอีกเลย
อยู่บ้านเราจะทำอาหารให้เขาทานอง ปู่ย่าช่วยด้วย ทำอาหารไม่ใช้ซอสปรุงรส หรือ ผงชูรส ผักสด ผลไม้มีประจำโต๊ะทุกวัน บำรุงเขามากเพราะรู้ซึ้ง เมื่อป่วยแล้ว แม่นั่นแหละลำบากต้องเป็น หมอประจำบ้าน( โดยจำเป็น และด้วยความรัก)





Create Date : 08 พฤศจิกายน 2548
Last Update : 1 ธันวาคม 2548 4:29:34 น. 8 comments
Counter : 448 Pageviews.

 
ลบโลโก้ เพราะพิมพ์ผิด ตกตัวจีไป รีเซ็ตหลายครั้งก็ลบไม่ได้ ภาพก็ไม่สวย ปรากฎว่าลบไม่ได้ ทนๆดูกันไปก่อนนะคะ จนกว่าจะลบได้ อิๆ


โดย: It-ta-tee (It-ta-tee ) วันที่: 8 พฤศจิกายน 2548 เวลา:21:55:05 น.  

 
มีประสบการณ์แย่ ๆ กับหมอด้านสายตาที่นี่เหมือนกันค่ะ ค่าหมอก็แพง ๆ แถมประกันไม่ครอบคลุมอีกต่างหาก ไปตรวจมาก็หลายรอบแถมควักตังค์เองตลอด ทุกครั้งที่ไปตรวจหมอมักจะบอกว่าไม่เป็นไรแต่ก็ยังนัดให้เรามาเสียเงินทุก ๆ เดือนค่ะ สุดท้ายวางแผนกลับไปหาคุณหมอที่เมืองไทยดีกว่าค่ะ แม้ค่าตั๋วจะแพงแต่ถ้าเที่ยบกับค่ารักษาที่นี่คงสู้กันไม่ได้แน่นอนค่ะ แถมได้ไปเที่ยวเมืองไทยอีกต่างหาก ขอให้เจ้าของบล็อกมีสุขภาพแข็งแรงนะค่ะ


โดย: roslita วันที่: 9 พฤศจิกายน 2548 เวลา:13:53:07 น.  

 
แวะมาเยี่ยมจ้ะ แต่งเวปได้แพรวพราวดีจัง ลองเอาดค๊ดที่ให้ไปใส่แล้ว แต่ไม่ยักกะมีไอ้ตัวลอยๆนี่ ได้แต่แบ๊คกราวน์อย่างเดียว แต่ก็ยังดี อิอิ

เราเอียนหมอที่นี่จนเลิกเอียนมันไปแล้วล่ะ ขอให้หายไวๆนะจ้ะ จะได้มีแรงไปสู้กับคนไข้ต่อไป


โดย: เจี๊ยบ IP: 62.195.13.219 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2548 เวลา:16:16:00 น.  

 
ขอบคุณน้อง Roslita ค่ะ ที่มาแชร์ประสบการณ์กัน พี่ชอบไปหาหมอไทยเหมือนกันหากป่วย พราะรู้สึกว่าเขารักษาเราแบบว่าเราเป็นบุคคล ที่นี่แม้แต่คนที่นี่ยังบ่นเลยว่ารู้สึกว่าหมอรักษาเขาแบบเป็นตัวเลข ไม่ใช่บุคคลหึๆ คงเป็นเพราะสมัยก่อนนั้น ไปหาหมอต้องรับบัตรเข้าคิว ยิ่งเลขมากเงินคงมาก
ทางที่ดีต้องอย่าป่วยค่ะ พี่ป้องกันต็มที่แล้วนะ ยังป่วยได่ จะทำอย่างไรดีเพราะ อยู่กับคนป่วยๆทั้งวัน


โดย: เจ้าบ้าน IP: 84.139.102.231 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2548 เวลา:16:32:17 น.  

 
เจี๊ยบจ๊ะ ดี๋ยวลอกโค๊ดส่งไปให้ทางเมลนะจ๊ะ ลองดูใหม่ซิ วันนี้ไปดู เห็นบีจีใหม่แล้วจ้ะ


โดย: เจ้าบ้าน IP: 84.139.102.231 วันที่: 9 พฤศจิกายน 2548 เวลา:16:34:18 น.  

 
Next sommer I going to operation but in Thailand, not in Germany!!


โดย: Ta, Hannover IP: 82.83.255.99 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2548 เวลา:20:30:02 น.  

 
พี่ใหญ่แวะมาเซ็นชื่อก่อน เด๋วสองสามวันจะมาอ่านเรื่องที่พี่ใหญ่โพสต์ค่ะ


โดย: น้องเจี๊ยบ สวีเดน IP: 81.236.216.5 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2548 เวลา:15:37:20 น.  

 
ขออวยพรให้คุณตา ผ่านการผ่าตัดด้วยดีนะคะ

หนูเจี๊ยบ

ห้ามเซ็นต์ ให้แปะโป้งง่ะ เหอๆ


โดย: It-ta-tee (It-ta-tee ) วันที่: 11 พฤศจิกายน 2548 เวลา:17:30:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

It-ta-tee
Location :
กรุงเทพฯ Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






บันทึก และ มุมมองแห่งชีวิต ของ เรา ผู้เป็น แม่และพยาบาล

ในโลกนี้มีอะไรสำคัญกว่าที่ต้องทำมากว่าการนั่งหน้าจอ PC เช่น ขึ้นเวร เวลาขาดคน ถึงได้หยุดก็เถิด หรือ การเล่นและสอนลูกๆ บางครั้งได้มีโอกาสทำประโยชน์ให้คนไทยด้วยกัน
เท่านี้ เราก็มีความสุขมาก
เราเขียนบล๊อกเมื่อมีเวลา หากเพื่อนๆแวะมา comment เราขอบคุณค่ะ
และจะตามไปเยือน เมื่อ โอกาส อำนวยค่ะ
ขอบคุณสำหรับมิตรภาพที่มอบให้

กระทู้ล่าสุด



Thai-deutsches Familienleben




free counter
widget
Friends' blogs
[Add It-ta-tee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.