วิกฤตทะเลกลืนแผ่นดิน: โครงการพัฒนาคือสาเหตุ (2)
วิกฤตทะเลกลืนแผ่นดิน: โครงการพัฒนาคือสาเหตุ (2) ในรายงานผลการสำรวจพื้นที่กัดเซาะชายฝั่งทะเลในฤดูมรสุมบริเวณอ่าวไทยฝั่งตะวันตก ตั้งแต่จ.ชุมพรถึงจ.ปัตตานี ระหว่างเดือนธ.ค. 49 ม.ค.50 ของสำนักอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ระบุพื้นที่สำรวจรวม 5 จังหวัด 31 อำเภอ 113 ตำบลที่ติดชายฝั่งทะเล เป็นการสำรวจทั้งทางภาคพื้นดินและทางอากาศ สรุปพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการกัดเซาะชายฝั่งรายจังหวัด แต่เนื่องจากผลการสำรวจแต่ละพื้นที่มีรูปประกอบจำนวนมาก เพื่อให้เห็นภาพความเสียหายและผลกระทบที่เกิดขึ้นในภาพรวม ดังนั้นในการนำเสนอครั้งนี้จึงขอแบ่งการนำเสนอผลกระทบในแต่ละจังหวัดออกเป็นตอนๆ คือ ตอนที่ 1 รายงานพิเศษ วิกฤตทะเลกลืนแผ่นดิน: โครงการพัฒนาคือสาเหตุ (1)ตอนที่ 2 จังหวัดชุมพรและสุราษฎร์ธานีตอนที่ 3 จังหวัดนครศรีธรรมราชตอนที่ 4 จังหวัดสงขลาและปัตตานี ตอนที่ 5 บทสรุปและข้อเสนอแนะ เชิญติดตามอ่านตอนที่สองก่อน ดังนี้ ......................................................................... วิกฤตทะเลกลืนแผ่นดิน: โครงการพัฒนาคือสาเหตุ (2) จังหวัดชุมพร พื้นที่ชายฝั่งทะเลยาวประมาณ 250 กม. พบการกัดเซาะปานกลาง รวมระยะทาง 16.6 กม. ส่วนชายฝั่งที่มีการสะสมตัวรวมระยะทางยาว 11 กิโลเมตร ไม่พบการกัดเซาะชายฝั่งรุนแรง การเปลี่ยนแปลงชายฝั่งในอดีต ส่วนใหญ่มาจากปรากฏการณ์ตามธรรมชาติ ต่อมาเมื่อมีการก่อสร้างท่าเรือ สะพานปลา เขื่อนกันทรายและคลื่นตามปากคลอง ทำให้เริ่มมีการกัดเซาะชายฝั่งเพิ่มมากขึ้น แต่ยังไม่อยู่ในขั้นวิกฤติ ยังสามารถป้องกันและหาแนวทางแก้ไขได้ สำหรับพื้นที่กัดเซาะชายฝั่งมี 4 พื้นที่ คือ 1. ตำบลชุมโค อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร2. ตำบลสะพลี อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร3. ตำบลด่านสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพร4. บ้านหัวแหลม ตำบลบางมะพร้าว และบ้านจมูกโพรง ตำบลปากน้ำ อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร........................1.ตำบลชุมโค อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพรกัดเซาะสันทรายชายฝั่งลึกประมาณ 20 เซนติเมตร และพบการกัดเซาะแนวถนนเลียบชายฝั่ง เนื่องจากแนวถนนอยู่บนแนวสันทรายปัจจุบัน จึงเกิดการกัดเซาะได้ง่าย
Enter your search terms Submit search form Web www.inthedark.bloggang.com ชุมทางเพลงเพื่อชีวิต
ชุมทางเพลงเพื่อชีวิต
จ.สุราษฎร์ธานี ต่างหาก ไม่ตำบลอย่างที่ว่า