เราไปเที่ยวปายแค่ 2 วัน นอนที่ปายแค่ 1 คืน แต่กลับปล่อยไว้จนค้างปี จนเริ่มจะมีกลิ่นเหม็นหืน ถึงจะได้เวลามานั่งหน้าคอมพ์ เขียนเล่าเรื่องราวความรู้สึกเล็กๆน้อยๆลงในบล็อกซะทีเราไม่ได้ประทับใจอะไรที่ปายมากนัก ปายในตัวเมืองก็ไม่ค่อยต่างจากถนนข้าวสารสักเท่าไหร่ ร้านเหล้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก เสื้อผ้าเก๋ๆ ร้านขายภาพถ่าย โปสการ์ด และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินกันขวักไขว่ และมีไม่น้อยที่เช่ามอร์เตอร์ไซค์ขี่ แทนการเดินเที่ยว ยกเว้นก็แต่เรื่องอากาศเย็นสบายและผู้คนใจดี ซึ่ง 2 เรื่องนี้หาไม่ได้ง่ายๆในกรุงเทพ โดยเฉพาะเจ้าของร้านขายภาพถ่ายและโปสการ์ด ชื่อร้านว่า over&under และเจ้าหมาไทยชื่อไฮไลท์ เป็นหมาของพี่มล อยู่บ้านติดกับบ้านที่เราพัก มันทั้งฉลาดและกตัญญู เป็นห่วงเป็นใยช่วยนำทางคนกรุงไม่ให้เดินหลงสวนเพื่อนเราที่อยู่เชียงใหม่และเป็นคนเชียงใหม่บอกว่าทั้งที่ ปาย และเชียงใหม่คนพื้นเพจริงๆย้านหนีไปก็เยอะ เพราะทนความวุ่นวายของนักท่องเที่ยวไม่ได้ ฟังแล้วก็เศร้านะ เราไปเที่ยวที่อื่นๆในแม่ฮองสอนและเชียงใหม่เท่าที่เวลาจะอำนวย นอนเต๊นท์บ้าง บ้านเพื่อนบ้าง บนภูเขาบ้าง ริมแม่น้ำบ้าง รวมทั้งหมด 5 วัน แต่ก็เป็น 5 วันที่เราเฉยๆ จะว่าไปแล้ว ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนรูปแบบไหนเราก็เฉยๆเราเป็นคนไม่ชอบเที่ยว ไม่หลงใหลทะเล ไม่หลงเสน่ห์ภูเขา แม้แต่ฝนดาวตกก็ทำอะไรเราไม่ได้ฟังดูเป็นคนแย่ๆแข็งกระด้างและไม่โรแมนติกเอาซะเลย แต่ก็ต้องยอมรับละนะ เราชอบอยู่บ้าน ชอบนั่งเฉยๆคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ฟังเพลง อ่านหนังสือ และชอบที่สุดตอนที่ได้นั่งอยู่ในห้องใหญ่ๆมืดๆมองอะไรรอบตัวไม่เห็น ไม่รู้ว่าใครที่นั่งอยู่ข้างๆ สนใจและเห็นก็แต่ภาพในจอข้างหน้าเท่านั้นเราตื่นเต้นเวลารู้ว่าหนังที่อยากดูใกล้จะลงโรงฉาย เราไม่ตื่นเต้นตอนที่จะได้แพ็คกระเป๋าเที่ยวไปในป่าเขาลำเนาไพรเราหัวใจพองโตเวลาได้ฟังเพลงเพราะๆได้อ่านหนังสือดีๆไม่ใช่ตอนที่ได้ยินเสียงน้ำตกเสียงนกร้องแว่วมาจากที่ไหนสักแห่งที่กำลังจะเดินทางไปถึงเราชอบความรู้สึกของอาการหายใจติดขัด ใจหายวูบเหมือนฝันว่าตกจากที่สูง พะอืดพะอม เสียวสันหลัง ลำคอตีบตันเพราะก้อนสะอื้น ขอบตาร้อนผ่าวและปวดแปลบๆที่หัวใจ ขณะเวลาดูหนังและอาการต่อเนื่องต่างๆหลังจากนั้นอากาศเย็นสบายหายใจได้เต็มปอด ทะเลหมอกกับแสงยามเช้าของพระอาทิตย์ เรารู้สึกเฉยๆดาวเต็มฟ้า ไม่รู้ว่ามาจากไหนกันนักหนา บางดวงไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อนเลย เราก็ไม่ได้อยากทำความรู้จัก นอนมองหน้ากันไปมาสักพัก แล้วเราก็ชิงหลับไปก่อนโดยไม่ได้พูดอะไรกันสักคำหรือจะเป็นวิสัยของปลาทอง ชอบว่ายน้ำวนไปวนมาในอ่างเล็กๆ ไม่อยากจะติดปีกบินไปไหน ก้อนหิน สาหร่าย ที่ทักทายกันอยู่ทุกวัน ก็สามารถทำให้รู้สึกอบอุ่น และหัวใจพองโตได้เหมือนเมื่อแรกเจอปลาแปลกหน้าจะว่ายมาหา นกบนฟ้าจะบินลงมาทัก เราก็ยินดีที่ได้รู้จัก แต่จะให้ดั้นด้นไปค้นหากันมันก็พอจะทำได้ แต่ก็อาจจะไม่ดีนัก เพราะไม่ค่อยถนัดสักเท่าไหร่
ขอให้มีความสุข
คิดสิ่งใดให้สมปราถนา ทุกๆประการ
สุขภาพร่างกาย แข็งแรง
ร่ำรวย ยิ่งๆๆขึ้นไป
นะค่ะ
ได้ไปเที่ยวไหนบ้างป่าวค่ะนี่
เที่ยวให้สนุกนะค่ะ
และ อย่าลืม เที่ยวเผื่อ กันด้วย นะค่ะ
แวะมาเยี่ยมค่ะ มีความสุขมากๆน่ะค่ะ