เปอร์เซ็นต์
เมื่อวันพฤหัส พี่สาวเรายื่นพ็อกเก็ตบุ๊ก เรื่องรักเบอร์ห้า ของพี่'ปราย พันแสง ให้ เรารับมาด้วยความยินดียิ่ง แต่ถึงจะอยากอ่านมากแค่ไหน ก็ต้องจำใจอ่านเพียงวันละเรื่องเท่านั้น เพราะเจ้าหลานชายตัวจ้อยวัยเกือบสามขวบ ที่มาอยู่กับเราในช่วงปิดเทอม ไม่ยอมให้เราได้มีเวลาว่างง่ายๆเลย
ถ้าเราเปิดทีวี เขาก็จะร้องหาเจ้าปลานีโม ถ้าเราเปิดคอมพ์ เขาก็จะร้องหาภาพไดโนเสาร์ เสือ จระเข้ ถ้าเราเปิดหนังสือ เขาก็จะขอมีส่วนร่วมด้วยการแย่งหนังสือไปจากมือ เปิดอ่านเองด้วยภาษาที่คาดว่าเขาคงจะประดิษฐ์ขึ้นเองโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก พอเขานอนกลางวัน เราก็ต้องเก็บบ้านที่เกลื่อนไปด้วย หนังสือ กระดาษ สีไม้ สีเทียน หลอดสีน้ำ พู่กัน ตุ๊กตุ่นตุ๊กตาสารพัดชนิด และเตรียมทำอาหารเย็น
แต่ถึงจะเหนื่อยและวุ่นวายแค่ไหนก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความสุขค่ะ อีกอาทิตย์กว่าเขาก็จะเปิดเทอมแล้ว คงจะคิดถึงเขามากเหมือนกัน
กลับมาที่หนังสือค่ะ เรื่องที่สองในเล่มชื่อว่า อรุณรุ่งแห่งโฉมสะคราญร้อยเปอร์เซ็นต์ ซึ่งมาจากเรื่อง On seeing the 100% perfect girl one beautiful april morning ของ Maruki Murakami เป็นเรื่องของคนที่ใช่ คนที่สมบูรณ์แบบ 100%ของกันและกัน แต่สุดท้ายก็เพียงแต่เดินสวนกันไปในยามเช้าแสนแจ่มใสของเดือนเมษายน ละแวกฮาราจูกุของกรุงโตเกียว
ระหว่างตอนต้นกับตอนจบ มีเรื่องราวที่เราอ่านแล้วไม่แน่ใจว่ามันเป็นเพราะโชคชะตากำหนดหรือเป็นเพราะคนเราเองนั่นแหละที่ทำให้เรื่องราวมันเป็นแบบนั้น เขาและเธอจึงต้องเดินสวนทางกันไป โดยมิได้ปริปากเอื้อนเอ่ยคำใดต่อกัน และมันต้องจบตรงคำว่า ครับ, เรื่องมันเศร้าตรงที่ผมน่าจะพูดอะไรกับเธอสักคำ
คำว่าเปอร์เซ็นต์ กับเรื่องการพบและพรากจาก ทำให้เรานึกถึงกลอนแบบไม่คล้องจอง ที่เราเขียนเก็บไว้เกือบสาม ปีก่อน
คนบางคนเกิดมาเพื่อตามหาอะไรบางอย่าง คนบางคนเกิดมาเพื่อรอคอยอะไรบางอย่าง
บางคนนั้นตามหาจนเหนื่อย บางคนนั้นรอคอยจนเบื่อ โอกาสที่จะได้พบกัน 50%
บางคนที่เหนื่อย หยุดตามหา เริ่มต้นรอคอย บางคนที่เบื่อ หยุดรอคอย เริ่มต้นตามหา โอกาสที่จะได้พบกัน 50%
โอกาสของคนไม่เคยมีถึง 100% เป็นเพราะโชคชะตาเล่นตลก หรือเพราะคนหมดศรัทธา
เรื่องที่สามในพ็อกเก็ตบุ๊ก เรื่องรักเบอร์ห้า ชื่อเรื่องว่า ภาพมายา โชคชะตา และความเคยชิน ตอนท้ายกล่าวถึงบทสัมภาษณ์ของ Jimmy Liao ที่เขาพูดถึงแก่นสารเรื่องราวใน A Chance of Sunshine ว่า " แม้ว่าโชคชะตาจะสำคัญ แต่ผมก็เชื่อว่าลักษณะนิสัย ความเคยชินของคนเรา จะสามารถกำหนดความเป็นไปของชีวิตหรือตัดสินพรหมลิขิตได้มากกว่า "
อ่านแล้วเราก็พยักหงึกๆเร็วๆรัวๆ ยืนยันกับตัวเองว่าเห็นด้วยอย่างที่สุด และน่าใช้จะเป็นเหตุผลเป็นคำตอบของเรื่องที่สองในเล่มที่เราไม่แน่ใจได้
อาจเพราะเราไม่สบายใจกับคำว่าโชคชะตา ถ้าจะยอมให้มันมาเป็นตัวตันสินเรื่องนั้นเรื่องนี้ในชีวิต มันรู้สึกหมดทางสู้ยังไงก็ไม่รู้
ถ้าจะสุขจะเศร้าหรือจะซวย ก็ขอโทษตัวเองดีกว่า เวลาส่องกระจกจะได้เห็นต้นเหตุที่ทำให้เรื่องมันเป็นไป ไม่ใช่ได้แต่แหงนหน้ามองฟ้า แล้วถอนหายใจเพราะทำอะไรไม่ได้
Create Date : 23 ตุลาคม 2549 |
Last Update : 23 ตุลาคม 2549 12:02:38 น. |
|
14 comments
|
Counter : 893 Pageviews. |
|
|
ผมจะเชื่อในสิ่งที่เราทำมากกว่าครับ เพราะเราทำอะไร ก็จะได้สิ่งนั้น ทุกอย่าง อยู่ที่การคิดและการทำของเรา ส่วนสิ่งที่เป็นปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้ ก็ต้องใช้สมองของเราใขการตัดสินและแก้ปัญหากันไป เพราะโลกนี้มันไม่มีอะไรตายตัวและแน่นอนเลยเนอะ
ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างเลยครับ เพราะมัวแต่นั่งคิดงาน เวลาก็ช่างผ่านไปเร็วจริงๆ อยากให้วันนึงมีมากกว่า 24ชั่วโมงจริงๆครับ
ไว้จะเเวะมาเยี่ยมบ่อยๆครับ