1 2 3
4 5 6 7 8 9 10
11 12 13 14 15 16 17
18 19 20 21 22 23 24
25 26 27 28 29 30
วันนี้หลากรส
นึกอยู่หลายวันแล้วว่าอยากอัพบล๊อคการ์ตูน แต่พอมาเจอะคำเตือนจากคุณมุ๋มว่าอย่าเพิ่งเปลี่ยนกรุ๊ปบล๊อค หาไม่แล้ว บล๊อคทั้งหลายอาจหายได้แม้ทีมงาน(อาจ)จะกู้กลับคืนมาได้ก้อตามที ...จึงคิดในใจมาหลายตลบเพราะความเสี่ยงมีสูง และถ้าหากจะลองเสี่ยงดูนัดนี้ก้อคงเป็นหนังลงทุนอยู่มิใช่น้อย play safe ไว้ก่อนคงจะดีกว่า ... link มาจากหน้าหลักเรา เป็นคำตอบที่ดีที่สุด คุยกะน้อยไว้นานแล้วว่า ซี่รีส์เรื่อง One Way Ticket เนี่ยเป็นหนึ่งในดวงใจเรื่องนึงเลยทีเดียว ไม่รู้ทำไมตอนอ่านถึงได้รู้สึกสงสารและเห็นใจมาริจังอยู่ตลอด จนหัวใจเจ็บแปล๊บไปหมดแทบจะทุกตอนเลย เพราะว่า บุราอิคุงที่เป็นพระเอกนี่ ช่างเป็นคนเย็นชาซะเหลือเกินให้ตายเหอะวะ อาจารย์วาดะนี่แกคิดอะไรของแกอยู่นะ วาดออกมาได้สมจริงสมจังจนบางทีน้ำตาคลอเลย ... บ้าจริงๆ ซี่รีส์นี้เก็บสะสมมาตั้งแต่สมัยยังเป็นไพเรทอยู่กะ KK Books อยู่เลย ที่จริงเค้าก้อแปลโอเคนะไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย ผิดกันตรงที่คุณภาพกระดาษและรูปเล่มเท่านั้นเอง แถม... ลิขสิทธิ์ยังแปลคำที่อืออออยู่ในคอได้แข็งโป๊กมาก!! ตอนสมัยยังเรียนญี่ปุ่นอยู่อาจารย์ก้อชอบทำเสียง อืม ...อืม... อยู่ในคอเสมอ เข้าใจว่ามันมาจากตัวอักษรญี่ปุ่นที่มีจำกัด ตอนไพเรทแปล บุราอิคุงมักจะอือออในคอว่า "อืม..." แต่ลิขสิทธิ์เล่นงี้เลยนะ ... "เออ.." ฮ่วย!! อืม กับ เออ เนี่ย ดูยังไง๊ ยังไง ก้อไม่ใกล้กันเลยนะเพ่ แถม ไอ้ที่ว่า "เออ"เนี่ย ดันเอามาใช้กับมาริจังซะอีกต่างหาก มันหงุดหงิดนิดหน่อยเหมือนกันนะ จริงๆก้อไม่ได้อยากให้มันจบเลย อ.วาดะ ก้อวาดได้สมจริงมาก กาลเวลาของมาริและบุราอิผ่านไปเท่าๆกับกาลเวลาของเรา ดังนั้นเรื่อง one way ticket ก้อเลยเดินทางมาสู่จุดหมายปลายทางในที่สุด ประทับใจกับความเข้มแข็งและเชื่อมั่นในตัวผู้เป็นที่รักของมาริจัง และความมั่นคงและแน่วแน่ของบุราอิคุงมากๆ ไม่เสียใจเลยที่ติดตามมาตลอดสี่ปี ส่วนอันนี้คงจะต้องรำลึกกันนานหน่อย แต่ถ้ารุ่นเดียวกันล่ะก้อรับรองได้ว่าต้องร้อง "อ๋อออออ" ใครจำกันได้บ้าง แม่มดสาวแสนสวยและอำมหิต ทูตนรกสาวนามว่า อาราวเน่ จำได้มะๆ ชอบบบบบบบ อาราวเน่มาก แรกๆดูเหมือนจะโหดเอาซะจริงๆ ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่า สาวน้อยผู้เป็นเจ้าของร่างที่เป็นครูสอนดนตรีชื่อ ฮานะ จะพยายามฆ่าตัวตายเพราะผิดหวังในความรัก แล้วอาราวเน่ก้อมาเข้าสิงร่างนี้ภายหลังแล้วแก้แค้นผู้ชายให้ ดูแล้วกลับไม่รู้สึกเกลียดชังแม่มดคนนี้เลย ตรงข้าม สะใจเล็กๆด้วยซ้ำ ขนาดว่าตอนนั้นเด็กที่รอคอยอายุแค่ไม่เกิน 10ขวบนะ อันที่จริงมันควรจะมีเล่ม 1 ด้วยนะแต่เด็กที่รอคอยได้สูญเสียอาราวเน่ให้กับวิบัติภัยซาเล้งไปซะแล้ว ... ในชีวิตนี้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้นเองด้วยความเข้าใจผิดของคนที่บ้านที่เมืองไทย เล่นเอาอาละวาดบ้านแตก แล้วก้อไม่มีใครกล้ามาแตะต้องกล่องลึกลับที่อยู่ในบ้านอีกเลยจนกว่าจะได้รับการยืนยันว่า "ไม่ใช่การ์ตูน" แต่ก้อ ... มันเป็นอะไรที่เศร้ามากจนไม่อาจมีอะไรมาทดแทนกันได้หรอก งือ... อีกเรื่องที่ยังคงชอบมาก แม้กาลเวลาจะเปลี่ยนแปลงชุดนักเรียนแบบปกกะลาสีน่ารักๆให้เป็นเสื้อสูทหลากสไตล์ และกระโปรงที่ยาวเลยเข่ามานิดหน่อย กลายเป็นสั้นจุ๊ดจู๋ ปิดอะไรก้อไม่มิด... (แถมเห็นแต่ขาโต๊ะสนุ๊ก...แม้จะขาว แต่รากฐานก้อมั่นคงจนปลงตกถึงสังขารมนุษย์ในวินาทีนั้น... ) แต่เรื่องนี้ก้อยังคงไว้ซึ่งความรู้สึกดีๆในบรรยากาศอยู่เหมือนเดิม ผลงานของ อ.มาเอดะ เอ็ตสึโกะ ค่ะ ปกติ อ.มาเอดะ นี่มักจะวาดตัวละครวัยเรียนมหาลัยได้เชยมากๆ...ให้ตายเหอะ เชยอ่ะ เด็กมหาลัยใส่สร้อยคอมุกเงี้ย ใส่ชุดแบบสาวออฟฟิศเงี้ย ... ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าที่ญี่ปุ่นเนี่ย การที่มีอายุขนาดเข้ามหาลัยได้แล้ว(คือน่าจะราว18-20)แล้วเปลี่ยนแนวการแต่งตัวไปเป็นสไตล์หนุ่มสาวออฟฟิศเนี่ยมันเป็นเรื่องธรรมดาหรือเปล่า เพราะเด็กที่รอคอยเองก้ออยู่แต่เมืองนอก ไม่เคยเห็นว่าโลกมันจะโสภาไปกว่าสมัยไฮสคูลซักเท่าไหร่เลย ปัจจุบัน เด็กๆที่ทำงานด้วยมันยังคิดว่า อายุ 20 อยู่ .... แรกๆดีใจ แต่หลังๆนี่เริ่มไม่แน่ใจว่า หน้าตาท่าทางเรามันกะโปโลขนาดนั้นเลยเรอะไง(ฟะ)เนี่ย... ... แต่ถ้าเป็นการแต่งตัวของเด็กสาวๆ 15-16 อะไรงี้ อ.มาเอดะวาดเสื้อผ้าได้น่ารักดีค่ะ ชอบ เรื่องนี้ตัวเอกคือ เอริโกะ และ อาโซคุง ครั้งแรกที่ได้อ่านนี่รู้สึกว่าจะตั้งแต่สมัยอยู่ ป.3 ป.4 แล้วชอบมากเลย อ่านมาได้ถึงเล่มสามแล้ว แล้วมันก้อหายไปซะเฉยๆยังงั้นแหละ(ทั้งเล่ม4 ที่รอคอย และอีกสามเล่ม ล้วนแล้วแต่หายตัวไปอย่างลึกลับ ) สุดท้ายก้อมาเจอกับเอริโกะ และอาโซคุงอีกครั้ง ที่ร้านหนังสือเก่าชั้นใต้ดินที่เซ็นทรัลลาดพร้าว คว้าหมั๊บ! แล้วจ่ายตังค์เลยล่ะ เรื่องราวมันอาจจะไม่ค่อยสนุกเท่าไหร่หรอกค่ะ เพราะดูท่าทางคนเขียนก้อออกจะมึนกับจิตวิทยาและตรรกกะของตัวเองอยู่มิใช่น้อย ถ้าเอา อ.โอบาตะ จากDeathnote มาเทียบนี่ รับรองว่าเบียด อ.มาเอดะ ตกท่อตายคาที่ไปเลยนะ แต่ก้อชอบที่บรรยากาศของการเล่าเรื่องราวและลายเส้นและอีกอย่าง เอริโกะผู้เป็นตัวเอกของเรื่องก้อชอบผูกโบสวยๆเหมือนเด็กที่รอคอย ก้อเลยแอบให้คะแนนเป็นพิเศษ ฮิๆๆ เรื่องสุดท้ายก่อน ไม่ใช่เรื่องเก่าเก๋ากึ้ก แต่วันนั้นพอดีอยู่ในเมืองไทยแล้วเปิดทีวีไว้เพื่อเอาเสียงเป็นเพื่อน (แล้วนอนอ่านการ์ตูน... ) อยู่ดีๆก้อพบกับละครจีนช่องสามอยู่เรื่องนึงซึ่ง เจอร์รี่ F4 แสดงกับสาวที่ไหนไม่รู้ เลยมองหน้าเฮียด้วยความเสน่หาส่วนตั๊วส่วนตัว... ที่สำคัญ ละครมันเป็นตอนอวสานด้วยคงดูไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว ที่ผ่านมาเราก้อไม่ได้อยู่บ้านดูมันเลยแล้วมันก้อมาเอาตอนดึกๆ ตี1 ตี2 ... ซักพักนึงก้อเริ่มเอะใจ เอ..... เนื้อเรื่องมันคุ้นๆแฮะ แถมเดาตอนจบได้ถูกด้วย ที่แท้เป็นละครที่ทำมาโดยอ้างอิงจากการ์ตูนนั่นเอง! แต่ว่าตอนนี้จำชื่อละครเรื่องนั้นไม่ได้แล้วอ่ะ แต่ถ้าการ์ตูนล่ะก้อ เรื่องนี้แหละ ไปซื้อมาโดยบังเอิญจริงๆเพราะว่าไม่เคยรู้จักคนเขียนมาก่อนเลย เป็นเรื่องราวความรักของสาวรุ่นพี่และหนุ่มรุ่นน้องที่แสนจะลึกซึ้ง แต่เมื่อแม่ของฝ่ายชายมาขอร้องให้นางเอกถอนตัวออกไปจากชีวิตของลูก คุณนางเอกก้อเลยจำใจยอมทำตามแต่ก้อประกาศกร้าวว่าจะขออาฆาตแค้นแม่ชายหนุ่มไปตลอดชีวิต หลายปีผ่านไป หญิงสาวคนเดิมได้พบรักกับชายคนใหม่มีแผนจะแต่งงานกัน แต่พระเจ้ามอบแจ๊คพ็อตแตกให้จนตั้งตัวไม่ทัน เมื่อมาพบว่า ชายหนุ่มผู้เป็นคู่หมั้นที่จริงแล้วเป็นพี่ชายแท้ๆของอดีตหนุ่มน้อยที่เคยรักกันปานจะกลืนกิน แต่ที่ไม่ทราบก้อเพราะว่าแม่ของชายหนุ่มคนนั้นเลิกกับพ่อจึงใช้คนละนามสกุล แต่เมื่ออายุมากขึ้นเริ่มเข้าใจความเป็นไปในโลก ก้อกลับมาคืนดีกันและแต่งงานกันอีกรอบ .... เธอก้อเลยไม่รู้ว่าคู่หมั้นคือพี่ชาย เพราะคนพี่นั้นพ่อเอาไปเลี้ยง ส่วนคนน้องแม่เป็นคนเอาไป นรกแตกชัดๆ ... เรื่องราวแบบเนี้ย สองเล่มจบค่ะ แต่กว่าจะจบได้นี่เล่นเอาปวดกะโหลกไปเลย ถ้าเป็นชีวิตจริงนี่ใครๆก้อคงจะประนามนางเอกคนนี้ซะแหลกราญไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดแหงๆ หวังแต่ว่าเราเองก้อคงจะไม่ต้องเจอกับเหตุการณ์แบบนี้นะ กลัวจิงๆขอบอก ...
Create Date : 22 กันยายน 2548
Last Update : 4 ธันวาคม 2548 3:02:20 น.
21 comments
Counter : 2304 Pageviews.
โดย: Zantha วันที่: 22 กันยายน 2548 เวลา:7:25:55 น.
โดย: Fruit_tea วันที่: 22 กันยายน 2548 เวลา:23:16:15 น.
โดย: วีวี่ IP: 203.151.140.114 วันที่: 23 กันยายน 2548 เวลา:2:15:53 น.
โดย: Fruit_tea IP: 58.9.29.58 วันที่: 23 กันยายน 2548 เวลา:9:48:28 น.
โดย: froggie IP: 203.188.51.235 วันที่: 23 กันยายน 2548 เวลา:20:06:47 น.
โดย: แว่นน้อย IP: 203.113.76.75 วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:8:40:22 น.
โดย: bowbow IP: 203.148.162.222 วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:17:21:30 น.
โดย: วีวี่ IP: 203.151.140.119 วันที่: 26 กันยายน 2548 เวลา:18:29:57 น.
โดย: froggie IP: 203.188.11.9 วันที่: 27 กันยายน 2548 เวลา:10:05:48 น.
โดย: แว่นน้อย IP: 202.28.66.24 วันที่: 28 กันยายน 2548 เวลา:0:36:54 น.
โดย: แพรว IP: 61.47.96.117 วันที่: 15 ตุลาคม 2548 เวลา:11:09:35 น.
โดย: ทีรา IP: 84.137.161.224 วันที่: 29 มกราคม 2549 เวลา:22:08:53 น.
โดย: smurf IP: 58.8.141.214 วันที่: 20 ตุลาคม 2550 เวลา:9:27:31 น.
โดย: จิน IP: 61.7.221.146 วันที่: 20 สิงหาคม 2554 เวลา:21:25:55 น.
โดย: เบเบ้ IP: 125.25.186.145 วันที่: 3 กันยายน 2555 เวลา:14:19:54 น.
Location :
กรุงเทพ Australia
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [? ]
จะเป็นกรวดหรือเพชร ถ้าไปนึกรักมันเข้าแล้วหายไปเมื่อไรก็เสียดาย ยิ่งรักมากก็ยิ่งเสียดายมาก บางคนถึงกับเสียคนไปก็มี "ถ้าเราไม่อยากทุกข์มากไม่อยากเสียคน ก็อย่าไปรักอะไรให้มากนัก ถึงจะรักก็ต้องรู้กำพืดว่ามันเป็นเพชร หรือเป็นกรวด" ถ้ารู้ราคาจริงๆของมันเสียแล้วถึงมันจะหายไป เราก็จะไม่เสียดายมากนัก (จาก "สี่แผ่นดิน" โดย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช) สงวนลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามมิให้นำไปเผยแพร่และอ้างอิง ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของข้อความ ในสื่อคอมพิวเตอร์แห่งนี้เพื่อการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ละเมิดจะถูกดำเนินคดี ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด