Group Blog All Blog
|
นวนิยาย..วาดรักกลางตะวัน {บทที่ ๑/๒} เกิดอะไรขึ้นกับนาย มาลินถามแทรกเสียงน้ำ
ชายหนุ่มไม่ตอบ กลับยกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปากเป็นทำนองให้เงียบ จังหวะเดียวกับที่เสียงฝีเท้าจำนวนมากดังใกล้เข้ามา หญิงสาวพอจะปะติดปะต่อเหตุการณ์ได้จึงกวักมือเรียกเพื่อนของตนซึ่งเพิ่งแต่งตัวเสร็จ อาลูผะเดินอ้อมต้นไม้ใหญ่ไปหาผู้เรียกแล้วอ้าปากค้างเมื่อมองเห็นชายหนุ่มกำลังพยายามหลบเร้นอยู่ข้างโขดหิน
อย่าเพิ่งถามอะไร พาเขาหลบไปก่อนเถอะ มาลินรีบบอก
อาลูผะพยักหน้า แล้วพยุงชายหนุ่มแปลกหน้าเข้าไปหลบในดงไม้ที่มีไม้เลื้อยขึ้นปกคลุม สักพักก็กลับมานั่งปั่นด้ายอยู่บนโขดหินซึ่งอยู่ห่างออกมาจาก จุดนั้น ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เสียงพูดคุยและฝีเท้าดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ไม่นานชายฉกรรจ์ในชุดเสื้อแขนยาวผ่าหน้าสีน้ำเงินเข้มเกือบดำ สวมกางเกงผ้าฝ้ายและหมวกสีเดียวกันเกือบสิบคนก็มาถึง หลายคนทำท่าลุกลี้ลุกลนค้นหาอะไรบางอย่าง อาลูผะจึงร้องถาม
พวกสูทำอะไรกัน
สูเห็นคนถูกยิงผ่านมาทางนี้ไหมอาลูผะ ชายร่างล่ำเตี้ยซึ่งถือปืนยาวถามเสียงดังลั่น
ไม่มีหรอก พวกสูรีบออกไปจากตรงนี้เลยนะ เธอรีบบอก
ไม่ได้ หมู่เฮากำลังตามหาคนอยู่ ชายคนเดิมตอบเสียงเข้ม
ไม่งั้นเฮาจะบอกลุงกาเน
ก็นายกาเนนั่นแหละที่สั่งหมู่เฮาให้ตามล่ามัน ชายร่างสูงหน้าเสี้ยมตอบแทน
แต่ลุงกาเนคงจะโกรธมากถ้ารู้ว่าพวกสูมาป้วนเปี้ยนใกล้ๆน้ำตกช่วงที่อามิอาบน้ำอยู่แบบนี้ อาลูผะบอกเสียงขึ้นจมูกอย่างเป็นต่อ
ชายกลางคนทั้งหมดถอยกรูด หันไปปรึกษากันอยู่ครู่ใหญ่จึงสลายตัวออกไปค้นหาทางอื่น
เห็นดังนั้นมาลินซึ่งยังคงอยู่ในน้ำจึงออกอาการโล่งอก เหลือบมองไปยังจุดที่ชายหนุ่มซ่อนตัวอยู่ ก่อนหันไปหาเพื่อนอีกครั้ง อาลูผะรีบไปตามลองกามาเถอะ
แล้วอามิล่ะ จะอยู่กับเจ้าคนนี้ได้เหรอ
ไม่เป็นไร อาลูผะเอาเสื้อผ้าไปวางไว้ฝั่งโน้นหน่อย แล้วรีบทำตามที่บอกเถอะ เริ่มมืดค่ำละ
เมื่อสวมเสื้อผ้าจนมิดชิดดีแล้ว มาลินจึงเดินลุยน้ำตกข้ามไปยังอีกฝั่งหนึ่งของแนวป่าซึ่งชายแปลกหน้าซ่อนตัวอยู่
พุ่มไม้ใหญ่นั้นดูสงบเงียบ ครั้นหญิงสาวแหวกใบไม้เข้าไปจึงพบว่า ร่างสูงโปร่งของชายผู้นั้นกำลังอยู่ในอาการ อ่อนเพลีย มองเห็นรอยเลือดเกรอะกรังตามเสื้อผ้าของเขา มาลินถอยหลังออกมานั่งรอ พลางพิศดูเสี้ยวหน้านั้นด้วยแววตาอ่อนโยน
เขาคงไม่ใช่คนร้ายหรอก ดูจากการแต่งเนื้อแต่งตัวแล้วชายหนุ่มน่าจะเป็นคนจากในเมืองมากกว่าชาวชนเผ่าซึ่งอาศัยอยู่แถบนี้
ดวงตาที่หลับพริ้มอยู่นั้นขยับเพียงเล็กน้อย ริมฝีปากสีสดครางอยู่ในลำคอ ขณะมือใหญ่เอื้อมไปลูบเหนือรอยแผลแผ่วเบา หญิงสาวขยับเข้าไปใกล้คว้ามือของเขามากุมไว้ พลางบอก อย่าจับแผล มันสกปรก ทนนิดนึงนะ อาลูผะกำลังไปตามคนมาช่วยคุณอยู่
ดวงตาคู่นั้นเปิดออก ชายหนุ่มมองภาพตรงหน้าด้วยดวงตาพร่าพราย ทว่าเขายังมองเห็นความงดงามของดวงหน้าขาวใส ภายใต้หมวกแหลมทรงสูงประดับด้วยกระดุม เหรียญตราและลูดปัดหลากสีได้อย่างชัดเจน
เธอเป็นใคร เสียงถามนั้นแหบปนสั่น
เฮาชื่ออามิ เฮาจะช่วยคุณเอง อดทนก่อนนะ เพื่อนเฮากำลังมาแล้ว แม้จะสงสัยว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใคร แต่ชายหนุ่มก็ไม่ปริปากถาม ทำได้เพียงสงบนิ่งรอคอยตามคำหญิงสาวบอก ขณะที่มือใหญ่ยังเกาะกุมมือบอบบางไว้แน่นอน สำหรับคุณดอยสะเด็กนะคะ ตอนนี้ยังเข้าลิงค์เก่าๆไม่ได้
ถ้าจะอ่านนิยายเรื่องอื่นๆ(ที่วางแผงไปแล้ว)ไปดูในนี้ก็ได้ค่ะ //my.dek-d.com/pasasiam/ โดย: ผู้หญิงเลือดเย็น วันที่: 3 กันยายน 2555 เวลา:6:28:06 น.
ขอบคุณมากค่ะ ^_^ ข้างบนเขียนชื่อคุณดอยสะเก็ดผิด เป็นคนเชียงใหม่หรือคะ
โดย: ผู้หญิงเลือดเย็น วันที่: 3 กันยายน 2555 เวลา:16:33:08 น.
|
ผู้หญิงเลือดเย็น
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] ใครเล่นเฟซบุ๊คไปคุยกันได้ ในแฟนเพจ "บ้านน้ำฟ้า"นะคะ Friends Blog
Link |
เสียงเหยียบใบไม้ดังสวบสาบใกล้เข้ามา สักพักจึงปรากฏร่างของอาลูผะและชายหนุ่มรูปร่างสันทัดอีกคนสวมเครื่องแต่งกายไม่ต่างจากพวกที่ตามล่าเขาเมื่อครู่ เขาหันไปสบตาสาวน้อยที่นั่งอยู่เคียงข้าง
มาลินสั่นหน้าก่อนอธิบาย ไม่ต้องกลัวหรอกคุณ คนนี้คือเพื่อนเฮาชื่อลองกา ไม่ใช่คนร้าย
รีบพาเขาออกไปก่อนเถอะอามิ ลองการีบบอก
พาไปไหนกันดีล่ะลองกา ลุงหู่ลองอยู่ไหน อาลูผะโพล่งถาม
คงพาไปหาลุงหู่ลองในหมู่บ้านไม่ได้ มาลินปราม
ใช่ เฮาต้องพาเขาไปพักในโรงยาท้ายไร่ก่อน จะได้ไม่เป็นที่สังเกต ลองกาตอบ
งั้นเดี๋ยวอามิไปตามลุงหู่ลองเอง มาลินขันอาสา
ไม่ต้องหรอก พ่อของเฮากำลังต้มยาสมุนไพรอยู่ที่กระท่อมนั่นแหละ
ลองกาสรุปแล้วพยุงร่างชายหนุ่มแปลกหน้าให้ลุกขึ้น ก่อนพากันโขยกเขยกออกไปตามทางเดินที่ดูขาวโพลนอยู่ใต้แสงจันทร์
เราต้องตามไปไหมอามิ อาลูผะหันมาถามบ้าง
ผู้ถูกถามพยักหน้า ไปสิ เผื่อจะช่วยได้บ้าง ถ้าลูกน้องของพ่อตามมา
ในความรู้สึกสะลึมสะลือ สองหูของวงศ์ตะวันได้ยินเสียงพูดคุยพึมพำ และเสียงฟืนถูกไฟเผาแตกดังเปรี๊ยะๆ ชายหนุ่มพยายามลืมตาขึ้นด้วยความหนักอึ้ง มองเห็นชายแก่กำลังสาละวนทำอะไรบางอย่างอยู่บนแคร่ ขณะที่มือหนาใหญ่ของชายหนุ่มอีกคนถูกวางลงบนริมฝีปากของเขาแล้วกดหนักๆจนไม่สามารถกระดิกกระเดี้ยได้ อาการปวดหนึบตึงๆบริเวณไหล่ซ้ายทำให้ชาไปจนตลอดลำตัว วงศ์ตะวันพยายามดิ้นรนขยับกายหนี แต่ครู่เดียวความเจ็บปวดที่ถั่งโถมเข้ามาหนักหนายิ่งขึ้น อะไรบางอย่างกำลังกรีดเข้าไปในเนื้อของเขา ชายหนุ่มพยายามสะบัดมือและแข้งขาเพื่อหลีกหนีจากความเจ็บนั้น ทว่าทุกอย่างในร่างกายกลับถูกตรึงเอาไว้มั่น สุดท้ายวงศ์ตะวันก็ต้องยอมรับสภาพความเจ็บปวดจนสลบไป
เขาจะตายไหมลุงหู่ลอง มาลินถามหลังจากปล่อยมือจากแขนกำยำและยกมันขึ้นมาเช็ดเหงื่อที่ซึมอยู่ตามไรผม
พ่อหมอประจำเผ่าสั่นหน้าจนหนวดเคราสีขี้เถ้าสะบัดน้อยๆ ไม่ตายหรอกอามิ แต่ถ้าเราไม่ผ่าลูกกระสุนออกให้นี่สิ เขาคงไม่รอด
เขาจะสลบไปอีกนานไหมพ่อ ลองกาถาม
ก็แล้วแต่สภาพร่างกายของเขานั่นแหละ เฮาเอาสมุนไพรโปะที่แผลให้แล้ว ไม่นานก็คงดีขึ้น หู่ลองตอบ
ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็เบาใจ อามิกลับบ้านก่อนนะลุงหู่ลอง ป่านนี้พ่อคงเป็นห่วงแย่แล้วละ มาลินลุกขึ้นยืน ปรับชายกระโปรงให้เข้าที่เล็กน้อยจึงดึงมืออาลูผะก้าวออกไปจากกระท่อมตามเส้นทางที่มองเห็นจากแสงจันทร์
สาวงามทั้งสองจูงมือกันเดินไปตามทางเดินคดเคี้ยวของแนวเขาอย่างไม่ยี่หระต่อความมืดมิด สายลมเย็นพัดมาเอื่อยๆ ดอกหญ้าต้นสูงเกือบท่วมหัวไหวระริกราวกำลังเริงระบำตามท่วงทำนองเสียงดนตรีพื้นบ้านซึ่งดังอยู่ไกลๆ
ดวงตาเหม่อมองไปยังทิวทัศน์เบื้องหน้า แต่ใครจะรู้ว่าในใจของมาลินมองเห็นใบหน้าของผู้ใด เขา ผู้ที่เพียงสบตากันเพียงเสี้ยววินาที ไม่น่าเชื่อเลยว่า ดวงตาคมกริบคู่นั้นจะแทรกซึมอยู่ในหัวใจจนถึงป่านนี้