Group Blog All Blog
|
นวนิยายตราบสิ้นอสงไขย บทที่ ๖ เงารัก บทที่ ๖ คุณคงเจอผีหลอกกลางวันเสียแล้วล่ะ ดวงตาสีนิลของคนฟังวาวประกายแห่งความสงสัยขณะสบสายตาคมกริบของชายหนุ่มเจ้าถิ่น นี่คุณไม่ได้พูดเล่นใช่ไหมคะ นทีดลระบายยิ้มน้อยๆที่มุมปากหากสีหน้ากลับจริงจังในยามตอบ ผมพูดจริง แต่ก็นั่นแหละที่นี่มีอะไรหลายอย่างที่เหลือเชื่ออยู่เสมอ คุณจะยืนยันหรือคะ ว่าเมื่อกี้เอื้องคุยอยู่กับผีน่ะ ชายหนุ่มหันซ้ายหันขวาไปรอบตัวก่อนจะตอบ ก็คงจะเป็นอื่นไปไม่ได้แล้วล่ะครับ ดูเอาเถอะ ถ้าพ่อขาวที่คุณพบไม่ใช่ผีแล้วตอนนี้ท่านหายไปไหน เอื้องลดามองตามสายตาของอีกฝ่ายพลางสั่นหัว ไม่น่าเชื่อเลยนะคะ ชีปะขาวท่านเล่าให้เอื้องฟังว่าที่นี่มีจารึกโบราณฝังอยู่ แถมยังบอกอีกว่าลำธารข้างนอกนั่นเคยเป็นแม่น้ำสายหลักที่มีเรือสำเภาเข้ามาจอดเทียบได้ด้วย แล้วคุณคิดว่าท่านบอกคุณทำไมเขาจ้องดวงหน้านวลรอคำตอบ หญิงสาวกรอกตาไปมาแล้วจึงจ้องตอบเขาตรงๆ คงเพราะอยากให้คนรู้มั้งคะ โดยใช้เอื้องเป็นสื่อ แล้วทำไมต้องเป็นคุณเอื้องล่ะครับเขายังคงถามต่อด้วยกระแสเสียงเรียบนิ่ง สายตาประสานดวงตาคู่งามไม่ละ จนผู้ถูกถามรู้สึกร้อนผ่าวที่ใบหน้าจนต้องเสไปมองทางอื่นแทน ไม่เข้าใจเหมือนกัน เหตุใดหัวอกหัวใจจึงมักจะสั่นไหวยามที่ได้สบตาเขา ชายหนุ่มแปลกหน้าทว่าช่างคุ้นใจเสียเหลือเกิน หรือเธอกำลังหลงเสน่ห์เขากันนะ จึงพยายามสร้างเหตุผลขึ้นมาหลอกตัวเอง เอื้องน่าจะเป็นคนที่ได้รับอนุญาตให้รับรู้เรื่องนี้มั้งคะ ชายหนุ่มจึงค่อยยิ้มออกเมื่อเห็นว่าตนเองตีขลุมหญิงสาวได้สำเร็จ ยากเหลือเกินที่จะอธิบายให้ใครสักคนเข้าใจถึงทุกสิ่งที่เป็นอยู่เวลานี้ ที่คุณได้รับอนุญาตก็เพราะเคยมีความผูกพันกับที่นี่ไงล่ะครับ ถ้อยคำของเขารั้งใจเอื้องลดาให้นึกถึงคำพูดของปู่สุนทรขึ้นมาทันควัน การที่ทุกคนได้มาพบกันอีกครั้ง เพราะต่างก็เคยมีความผูกพันต่อกันมาก่อน หรือจะเป็นดังว่าจริงๆกันหนอ แต่อย่าคิดมากเลย ในเมืองเก่ามักจะเต็มไปด้วยดวงวิญญาณหลายประเภท รวมไปถึงอารักษ์ที่ปกปักรักษาเมืองมาแต่เดิมด้วย หญิงสาวกะพริบตาปริบๆมองผู้พูดอย่างทึ่งๆ ผู้ชายหัวใหม่อย่างเขานี่หรือจะเชื่อเรื่องเร้นลับที่พิสูจน์ไม่ได้อย่างนี้ นี่คุณสนใจเรื่องแบบนี้ด้วยหรือคะเธอหลุดปากถามไปเบาๆ นทีดลหัวเราะหึๆ คุณพ่อของผมศึกษาเรื่องพวกนี้อยู่ครับ ท่านมักจะเล่าให้ผมฟังบ่อยๆ เอื้องก็ทราบมาเหมือนกันค่ะ ว่าอ.ชัยพงษ์พ่อของคุณนทีดลเป็นนักประวัติศาสตร์คนสำคัญของล้านนา นทีดลยิ้มน้อยๆตามแบบฉบับ แล้วก็เป็นนักวิทยาศาสตร์ด้วยครับ เอื้องเองก็อยากปรึกษาท่านค่ะ ว่าสิ่งที่เอื้องพบเจอมาเนี่ยไม่รู้ว่าเป็นสิ่งดีหรือสิ่งร้าย ที่สำคัญเอื้องไม่รู้ประเพณีของภาคเหนือ เกรงว่าจะทำอะไรไม่ถูกไม่ควรลงไป ช่วงนี้คุณพ่อผมอยู่บ้านทุกวันแหละครับ ถ้าคุณเอื้องว่างช่วงไหนก็แวะไปพบท่านได้ เอื้องลดาระบายยิ้มเต็มหน้า จริงนะคะคุณนทีดล ชายหนุ่มพยักหน้า ก่อนจะบอก เรียกผมว่าดลเฉยๆดีกว่า ได้ค่ะคุณดล ว่าแต่เอื้องอยากฟังเรื่องเด็กคนนั้น เอ่อ หมากคำน่ะค่ะ คุณดลช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม ได้สิครับ เดี๋ยวผมเล่าให้ฟัง แต่ตอนนี้เราไปกราบกู่ข้างในกันก่อนดีกว่า เพื่อความเป็นสิริมงคลในวันปีใหม่เมือง เอื้องลดาเพิ่งนึกขึ้นได้จึงโคลงศีรษะไปมา จริงสิคะ วันนี้เป็นวันสงกรานต์ คงเป็นเพราะเอื้องถ่ายละครทุกวันก็เลยลืมวันลืมคืนน่ะค่ะ เชิญทางนี้เลยครับชายหนุ่มผายมือแล้วรอให้หญิงสาวเดินนำไปก่อนจึงก้าวตามไปอย่างช้าๆ คุณเอื้อง!นทีดลโพล่งร้องขึ้นทันทีที่เห็นว่าอยู่ดีๆหญิงสาวข้างกายเซถลา เขารีบตวัดแขนแกร่งออกไปรับร่างระหงเอาไว้ได้ทัน ทว่าก็ยังทำให้คนทั้งคู่ต้องล้มกลิ้งลงไปกองบนพื้นหญ้าเขียวขจีโดยไม่ทันตั้งตัว
แม้ชายหนุ่มจะยังครองสติมั่น สองแขนของเขาโอบประคองร่างกลมกลึงเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เศษอิฐกระแทกผิวเนื้ออันบอบบางของเธอ แต่หญิงสาวกลับรู้สึกคล้ายมีแสงสีทองพุ่งวาบเข้าตา ก่อนที่ทุกอย่างจะดำมืด นิ่งสนิท แล้วภาพแสงไฟลุกโชติช่วงก็ปรากฏขึ้น พร้อมกับที่ต้นตองตึงสูงใหญ่อันเต็มไปด้วยเปลวเพลิง ทำท่าจะล้มลงมายังทิศทางที่เขาและเธอพากันวิ่งหนีมา เอื้องฟ้า ระวัง!ชายคนนั้นตะโกนลั่น เขา...ที่มีบางสิ่งคอยบอกเธอว่าเป็นคนเดียวกับชายที่อยู่ข้างกายเธอเวลานี้...นทีดล เอื้องลดามองเห็นร่างของตนเองซึ่งอยู่ในชุดผ้าฝ้าย นุ่งผ้าต้อยยาวครึ่งหน้าแข้ง และโพกหัวด้วยผ้าสีขาวกำลังถูกอ้อมแขนกำยำของชายหนุ่มคนนั้นฉุดดึงให้พ้นจากเพลิงนรก ร่างสองร่างกลิ้งหลุนๆลงไปกองกับพื้นโดยที่ชายหนุ่มใช้ร่างของตนรองรับร่างอีกฝ่ายไว้ วินาทีนั้นหญิงสาวสัมผัสได้ถึงลมหายใจผะแผ่ว เสียงหัวใจของเขาที่เต้นตึกตักและคำถาม เจ็บที่ไหนก่อเอื้องฟ้า เอื้องลดาสั่นหน้าพร้อมทั้งยันกายลุกขึ้นอย่างรวดเร็วขณะสองตาเบิกกว้าง รีบลุกขึ้นเร็วๆ ไฟป่าลามมาแล้ว คุณเอื้องเป็นยังไงบ้างครับเสียงของนทีดลตัวจริงที่ดังแทรกเสียงไม้โดนความร้อนดังเปรี๊ยะๆในมโนภาพนั้นทำให้หญิงสาวเกือบสะดุ้ง เอ่อ มะ ไม่เป็นไรค่ะหญิงสาวเอ่ยออกไปสุ้มเสียงสั่น อีกใจก็วนถามตนเองว่าที่ผ่านมาจะเป็นความฝัน ความจริง หรือเพียงสิ่งลวงตา ผมเห็นคุณเอื้องหลับตา นิ่งไป ก็เข้าใจว่าคงจะเป็นลม เขาบอกเล่าความคิดตน พร้อมๆกับพยุงร่างบางให้ลุกขึ้นนั่ง ดวงตาคมยังจ้องดวงหน้างามซีดเผือดนั้นเขม็ง ดูสิหน้าซีดเชียว แต่ก่อนที่เอื้องลดาจะโต้ตอบ ทั้งคู่กลับรู้สึกว่าอากาศรอบตัวเย็นลงอย่างรวดเร็ว แม้แต่ตะวันยามเช้าซึ่งทำท่าจะทอแสงอยู่เมื่อครู่ก็พลันเลือนหายหลบเร้นหลังหมู่เมฆทะมึนแทน ดุจเดียวกับที่ดวงวิญญาณสองพี่น้องซึ่งยืนมองอยู่ไม่ไกลกำลังรับรู้ในเวลานี้ อ้ายหมากแก้วฝนจะตกแล้วหมากคำหันไปบอกพี่ชายรัวเร็ว ราวต้องการถามว่าจะทำอย่างไรต่อดี หมากแก้วพยักหน้า ก่อนหันมองไปยังท้องฟ้าทิศตะวันออกพลางขมวดคิ้ว พ่อปู่เคยบอกกับอ้ายว่า เมฆฝนที่เกิดขึ้นโดยบ่มีสาเหตุ คือบ่มีฝนตกที่อื่นและบ่มีลมพัดพามานั่นบ่ใช่ฝนที่มาจากธรรมชาติ แสดงว่าเป็นฝนอาคมกาเจ้าหมากคำถามด้วยแววตาตื่นเต้น หากพี่ชายยังคงตอบเรียบเรื่อย ก็บ่แน่ อาจจะเป็นอาคม เอเพศ หรือต้นเหตุแห่งความมหัศจรรย์อื่นใดก็ได้ แต่ยามนี้อ้ายว่าเฮาปิ๊กคุ้มก่อนที่พ่อปู่จักตามหาดีกว่า เจ้าหมากคำพยักหน้าและทำตามคำแนะนำของผู้เป็นพี่แต่โดยดี โดย: ผู้หญิงเลือดเย็น วันที่: 18 มกราคม 2557 เวลา:10:39:25 น.
ไม่กี่อึดใจสายฝนก็ถั่งโถมลงมาราวฟ้ารั่วผสมผสานเสียงฟ้าร้องครืนๆดังลั่น นทีดลจึงตัดสินใจจูงมือเอื้องลดาเดินแกมวิ่งไปยังต้นสะหลีสีเขียวครึ้มซึ่งมีโพลงแคบๆพอให้ทั้งสองซุกตัวหลบฝนได้
ตอนแรกไม่มีท่าทีว่าฝนจะตกเลย หญิงสาวเปรยขึ้นมาลอยๆ ชายหนุ่มพยักหน้ารับ หันมองเธอซึ่งยืนอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ ยามนี้เส้นผมของเอื้องลดาเปียกลู่ติดศีรษะดุจเดียวกับเสื้อผ้าที่เปียกชื้นจึงเป็นเหตุให้ร่างระหงสั่นน้อยๆด้วยความเหน็บหนาว นทีดลยืนนิ่ง แปลกใจนักที่ภาพอันแสนจะธรรมดานี้สามารถสั่นสะเทือนใจเขาได้ทั้งดวง ชายหนุ่มจึงยกมือขึ้นมาอย่างช้าๆเพื่อปัดปอยผมซึ่งระใบหน้าของเธอออก แล้วความทรงจำแห่งอดีตก็กะเทาะเปลือกที่ห่อหุ้มหัวใจของเขา ทั้งๆที่สายตามองเห็นเอื้องลดาอยู่ตรงหน้า แต่ภาพที่ไหลปรี่อยู่ในสมองเวลานี้กลับเป็นภาพที่เธอกำลังนั่งพิงอยู่กับอกเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่เพียงแค่ชั่ววินาทีเดียวเท่านั้นสิ่งที่เขาย้อนรำลึกได้ก็เลือนหายไป เมื่อความคิดคำนึงกลับคืนสู่ปกติเขาจึงเอ่ยถาม หนาวมากไหมครับ เอื้องลดาเงยหน้าขึ้นมองผู้ถามก่อนพยักหน้า ยามนี้ใบหน้าของเธอขาวซีด เรียวปากบางเป็นสีคล้ำอย่างเห็นได้ชัด เธอคงหนาวมากจริงๆ แล้วเขาจะแก้ไขสถานการณ์อย่างไรดี นิ่งคิดอยู่ชั่วครู่นทีดลจึงตัดสินใจดึงมือบอบบางเย็นเฉียบนั้นมากุมไว้เพื่อถ่ายทอดความอบอุ่นให้แก่กันและกัน พลางกระซิบ ขออนุญาตนะครับ เอื้องลดาพยักหน้าน้อยๆ แล้วจึงเสมองออกไปด้านนอกเพื่อหลบสายตาอีกฝ่าย เธอปฏิเสธตนเองไม่ได้เลย ว่านับตั้งแต่ได้เห็นภาพเหตุการณ์ประหลาดเมื่อครู่นี้แล้ว ในใจก็บังเกิดความรู้สึกแปลกๆขึ้น เหมือนจะมีสายใยแห่งความผูกพันร้อยรัดระหว่างเขาและเธอ อา...นี่เรากำลังคิดไปเองหรือเปล่านะ เอื้องลดาเริ่มสงสัยตนเองขึ้นมาทันใด เปรี้ยง! แต่แล้วความคิดของหญิงสาวก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อมีสายฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาดังลั่น ความสั่นสะเทือนบอกให้รู้ว่าจุดที่ฟ้าผ่าอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนี่เอง ด้วยความตกใจเอื้องลดาจึงกรีดร้อง หลับตาปี นทีดลรีบเลื่อนสองแขนขึ้นมาโอบร่างสั่นเทาเอาไว้โดยสัญชาตญาณ ไม่ต้องกลัวครับคุณเอื้องเขาปลอบแทรกเสียงฝนแผ่วเบา ดาราสาวทำได้เพียงพยักหน้าหงึกหงักและปล่อยให้ร่างของตนอยู่ในอาณัติของชายหนุ่มโดยดุษณีเนื่องจากยังอกสั่นขวัญหายอยู่ไม่น้อย หยึย ตาจักเป็นต้อแล้วเจ้าอ้ายหมากแก้วหมากคำซึ่งยื่นหน้าออกจากหน้าต่างไม้แห่งคุ้มเจ้านางส่งเสียงร้องลั่น หมากแก้วรีบวิ่งเข้ามาเกาะขอบหน้าต่างชะเง้อมองบ้าง อะหยังกา หมากคำซึ่งหน้าแดงปลั่ง หลับหูหลับตาชี้ไปยังต้นสะหลีคู่ นั่นไงเจ้า พี่ชายมองตามแล้วจึงหัวเราะ ก็ตะกี้ฟ้าผ่า น้าเอื้องคงจะให้พ่อพญาปลอบขวัญกระมัง เข้าไปในคุ้มได้แล้วหมากคำ เป็นละอ่อนบ่ดีดู หมากคำย่นจมูกและยิงฟันใส่พี่ชาย จากนั้นจึงแกล้งสะบัดหน้าเดินกลับเข้าไปด้านใน ปล่อยให้ผู้เป็นพี่ซึ่งเวลานี้หันหลังพิงกรอบหน้าต่างมองตามพลางส่ายหัวอย่างระอาใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++ หลังฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาไม่นาน สายฝนอันกระหน่ำรุนแรงเมื่อครู่ก็เหือดหายไปราวกับปิดสวิตซ์ และไม่ช้าแสงแดดรำไรก็เริ่มทอประกายออกมาจากท้องฟ้าทางทิศตะวันออก ฝนหยุดตกแล้ว เรากลับกันเถอะครับ ค่ะ หนาวจะแย่แล้วเหมือนกัน หญิงสาวบ่นอุบขณะปล่อยให้เขาพยุงออกมาจากโพลงไม้ด้วยความระมัดระวังเนื่องจากพื้นดินหลังฝนตกนั้นลื่นนัก เดินระวังนะครับคุณเอื้องเขาสำทับ หญิงสาวรับคำสั้นๆว่า ค่ะ โดยที่สายตาคู่งามมิได้จับจ้องคู่สนทนาเลยสักนิด เนื่องจากเธอกำลังมองเห็นร่างของผู้ชราในชุดขาวยืนอยู่ใต้ร่มไม้สะหลีคำที่ยังมีน้ำฝนเกาะอยู่ตามกิ่งใบหยดติ๋งๆ นั่นไงคะพ่อขาวเอื้องลดาโพล่งขึ้นอย่างตื่นเต้น นทีดลมองตามก่อนจะหันกลับมามองผู้พูดอย่างชั่งใจ คุณเอื้องบอกว่าท่านอยู่ตรงไหนนะครับ ก็ใต้ต้นไทรสีเหลืองทองนั่นไงคะ คิ้วเข้มของเขาเริ่มขยับเขาหากัน เมื่อเขม้นมองแล้วไม่เห็นดังที่เจ้าเธอบอก ไม่เห็นมีอะไรเลย เอ๊ะ!แล้วนั่นแสงอะไรฮะ เอื้องลดามองตามปลายนิ้วของอีกฝ่ายบ้าง ไม่ช้าจึงก้าวพรวดๆเข้าไปยังจุดที่พื้นดินแตกอ้าออกจากกันเป็นทางยาวและมีแสงสีทองหม่นๆเปล่งประกายออกมาวูบวาบ ระวังนะครับ อันตราย เขากลืนประโยคท้ายเอาไว้ในใจเสีย พร้อมทั้งแตะแขนเรียวเบาๆเป็นการบอกให้อีกฝ่ายถอยออกมาก่อน เดี๋ยวผมช่วยดูให้ ค่ะ เอื้องลดาเบี่ยงตัวให้เขาแล้วกอดอกชะเง้อชะแง้มองตามร่างสูง ฝ่ายชายหนุ่มนั้นรีบจ้ำอ้าวเข้าไปชะโงกหน้ามองหาต้นเหตุแห่งแสงซึ่งอยู่ในรอยแยก เมื่อพบแล้วเขาจึงลงนั่ง โน้มตัวลงไปหยิบสิ่งที่มองเห็นเด่นชัดเหนือผืนดินสีน้ำตาลเข้มฉ่ำน้ำฝน ก่อนที่จะลุกขึ้น เดินกลับมาหาหญิงสาวพลางแบมือขวาให้เธอดู แหวนนาคน้ำเสียงของเอื้องลดามีร่องรอยของความประหลาดใจเด่นชัด ก็จะไม่ให้แปลกใจได้อย่างไรเล่า ในเมื่อแหวนในมือเขาช่างเหมือนแหวนที่เธอสวมอยู่ราวกับแกะ แหวนนี่เหมือนของเอื้องเลยค่ะบอกพลางยื่นมือให้เขาดูบ้าง นทีดลนิ่งอึ้ง ชั่งใจอยู่ชั่วครู่จึงบอกเล่าเรื่องราวในฝันให้ดาราสาวฟังแต่โดยดี เมื่อคืนผมฝันว่ามีผู้ชายในชุดขาวมอบแหวนแบบนี้ให้กับผม เช้านี้ก็เลยเดินมาที่นี่เพราะก่อนสะดุ้งตื่นผมมองเห็นต้นสะหลีคำด้วย เลยคิดว่าน่าจะมีอะไรเชื่อมโยงกัน เอื้องลดาหรี่ตาลงเล็กน้อย หลังจากได้พบเหตุการณ์อันเหลือเชื่อมาหลายต่อหลายครั้ง เธอก็ชักจะเริ่มเอนเอียงแล้วล่ะ หรือจะเป็นพ่อขาวรูปเดียวกันกับที่เอื้องเจอคะ ผมเองก็ไม่แน่ใจ ไม่น่าเชื่อเลยนะครับว่าเหตุการณ์มันจะเกี่ยวพันกันแบบนี้ หญิงสาวยิ้มพลางแตะหลังมือของเขาเบาๆ คุณดลเก็บแหวนเอาไว้ก่อนเถอะค่ะ แล้วมารอดูกันว่า แหวนคู่นี้เกี่ยวข้องกับเรายังไง อีกครั้งที่คิ้วของนทีดลขมวดเข้าหากัน ยามจ้องหน้านวลนิ่ง ผู้ถูกมองแปลความหมายได้ไม่ยากจึงพยักหน้าและมอบรอยยิ้มบางๆให้แก่เขา พร้อมทั้งยืนยัน เชื่อเอื้องเถอะค่ะ แล้วกลับไปที่รีสอร์ตกัน ระหว่างทางเอื้องจะเล่าเรื่องของเอื้องที่เกี่ยวข้องกับแหวนนาคนี่ให้ฟัง โดย: ผู้หญิงเลือดเย็น วันที่: 18 มกราคม 2557 เวลา:10:40:43 น.
|
ผู้หญิงเลือดเย็น
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?] ใครเล่นเฟซบุ๊คไปคุยกันได้ ในแฟนเพจ "บ้านน้ำฟ้า"นะคะ Friends Blog
Link |
หนูน้อยเอียงหน้ามามองพี่ชายพลางยกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปาก หมากแก้วเห็นแล้วหัวเราะ ทำอย่างกับเวลาเฮาอู้กันแล้วมนุษย์เพิ่นจะได้ยินอย่างนั้นล่ะ คนละภพภูมิกัน ถึงแม้จะอยู่ใกล้เท่าใด ก็สื่อบ่ถึงกันหรอก ถ้าเฮาบ่ตั้งใจให้เป็นน่ะ
หมากคำทำหน้าง้ำเข้าใส่พี่ชาย น้องรู้แล้ว น้องก็แค่ลืมไปบ่ดาย
หมากแก้วขยับเข้าไปยืนข้างน้องสาวพลางถามต่อ ทีนี้น้องจะบอกอ้ายได้หรือยังว่าน้องมีเจตนาจักทำอย่างไร
น้องจะผลักพ่อพญากับน้าเอื้องเข้าใส่กัน
พี่ชายทำตาโต ชะโงกหน้าเข้าไปใกล้หน้ากลมแป้นแล้วจึงถาม ผลักจะใดกา
หมากคำหัวเราะกิ๊ก ผลักให้เข้าใกล้กัน ฮักกันจะใดล่ะเจ้า
หมากแก้วได้ฟังจึงกอดอกครุ่นคิด ฤๅน้องคิดว่าตนเองเป็นเทพแห่งความฮัก
ไหล่เล็กๆขยับไปมาเลียนแบบพวกมนุษย์ พร้อมทั้งทำหน้าไม่รู้สึกรู้สา ถ้าเป็นไปได้ก็ดีกะเจ้า น้องจะได้ช่วยให้ทั้งสองคนสมหวัง
แต่พ่อปู่เคยบอกอ้ายว่า ก่อนที่วิญญาณทุกดวงจะไปเกิดจะต้องกินน้ำลืมชาติ เพื่อให้ลืมอดีต บ่หลงเหลือบุพเพนิวาสนุสสติญาณ เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว น้องรู้ได้จะใดว่าทั้งสองคนต้องการให้น้องช่วย
ปากเล็กๆบนใบหน้ากลมแป้นเบะออกด้วยความเอาแต่ใจ แล้วจึงเถียง อ้ายบ่รู้อะหยัง น้องแอบเห็นทั้งสองคนสบตากันปิ๊งๆหลายหนแล้ว แหมบ่ปอน้าเอื้องก็มักจะทำหน้าแดงอย่างหน่วยผักแคบเวลาอยู่ใกล้ๆพ่อพญา
หมากแก้วเม้มริมฝีปากกลั้นหัวเราะ ก่อนจะปราม แต่น้องก็ต้องระวังเพราะมันบ่ใช่หน้าที่ของเฮานา
หมากคำยักคิ้วให้พี่ชาย จากนั้นจึงหันไปมองสองหนุ่มสาวที่ตนเองหมายมั่นปั้นมือเอาไว้ เมื่อได้จังหวะที่ทั้งคู่ปักธูปลงในกระถางเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำท่าจะลุกขึ้นยืน เด็กน้อยจึงโถมกายเข้าไปชนเอื้องลดาโครมใหญ่
หมากคำ! หมากแก้วร้องเสียงหลง ทว่ากลับไม่ทันการ เวลานี้เอื้องลดากำลังเสียหลักเซไปข้างๆกู่อันเต็มไปด้วยก้อนอิฐแตกหักเสียแล้ว