เพราะหากฟังคำปราศรัยของผู้นำจีน ในที่ประชุมประจำปีที่เรียกว่า Annual Meeting of the New Champions of the World Economic Forum ที่เมืองตาเลี่ยน ก็ต้องทำความเข้าใจว่าถ้าจีนไม่มี hard landing แปลว่าจะมี soft landing กระนั้นหรือ?
และ soft landing ของเศรษฐกิจจีนนี่จะมาในรูปไหน จะร่อนลงแบบกระแทกเบาๆ ที่ว่านี้มันแรงเพียงใด?
เพราะหากฟังดี ๆ หลี่เค่อเฉียงก็ยอมรับว่าเศรษฐกิจจีนมีปัญหา และต้องฟันฝ่าอุปสรรคด้วยความเจ็บปวดอยู่เหมือนกัน
ผู้นำจีนยอมรับว่าเศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญกับ ความแปรปรวน แต่ก็ยืนยันว่าปัจจัยพื้นฐานยังแข็งแกร่งอยู่
เขาบอกว่า การปรับตัวจากเศรษฐกิจที่พึ่งพาการลงทุนอย่างมากมาเป็นเศรษฐกิจ ที่ต้องอาศัยทั้งการลงทุนและการบริโภคนั้น เป็นกระบวนการที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด...
และหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เศรษฐกิจจะต้องเจอกับความผันผวน
หลี่เค่อเฉียงยืนยันด้วยว่าอัตราแลกเปลี่ยนของเงินหยวนจะอยู่ใน ระดับที่มีเสถียรภาพและมีเหตุมีผล
เขาบอกว่าจีนจะพยายามไม่ให้เกิด สงครามอัตราแลกเปลี่ยน หรือที่เรียกว่า currency war ในตลาดโลก
เพราะจีนต้องการจะมีส่วนผลักดันเศรษฐกิจโลก ไม่ใช่พยายามล้มกระดาน... นายกฯจีนตอกย้ำเรื่องนี้เพราะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างหนักหน่วงว่า ฟองสบู่จีนกำลังจะแตก หรือ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจะต่อเนื่องไปอีกนาน
หลี่เค่อเฉียงส่งสัญญาณค่อนข้างชัดเจนว่าจีนไม่ต้องการเป็น ผู้ร้าย ในสายตาของคนทั้งโลก แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นเรื่องเงินหยวนที่อ่อนตัวลงอย่างฮวบฮาบ หรือตลาดหุ้นที่ร่วงหล่นลงมาอย่างแรงในช่วงหลังนี้เป็นเพียง การปรับตัวให้อยู่ในจุดสมดุล เท่านั้นเอง
จีนไม่ใช่เป็นแหล่งแห่งความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก จีนเป็นหนึ่งในเครื่องยนต์ขับเคลื่อนการเติบโตเศรษฐกิจของโลกต่างหาก เขาย้ำ
และเขาก็บอกว่าเศรษฐกิจจีนวันนี้มีความสำคัญเพียงใด ดูได้จากในหกเดือนแรกของปีนี้เท่ากับ 30% ของอัตราเติบโตเศรษฐกิจโลกทีเดียว
ถ้าอัตราโตของจีนเท่ากับเกือบ 1 ใน 3 ของโลก ก็เป็นทั้งข่าวดีและข่าวร้าย
ข่าวดีตรงที่ว่าจีนกำลังจะมีส่วนเกื้อหนุนให้เศรษฐกิจโลกเดินหน้าไปได้อย่างมีนัยสำคัญ
ข่าวร้ายก็คือว่าโลกต้องพึ่งพาการเติบโตของเศรษฐกิจจีนมากขึ้นตามลำดับ ซึ่งก็แปลว่าถ้าจีนมีปัญหาขึ้นมาวันไหน โลกก็จะปั่นป่วนตามไปด้วย
อย่างที่เห็นกันในช่วงปีสองปีที่ผ่านมาแล้ว
เช่นเมื่อเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลง การสั่งซื้อข้าวของจากประเทศต่าง ๆ ก็หดตัวลง มีผลต่ออัตราเติบใหญ่ของประเทศต่างๆ รวมทั้งของประเทศไทยไปด้วย
เมื่อเงินหยวนอ่อนตัวลงมาก นักท่องเที่ยวจีนก็คิดหนัก ลดการเดินทางไปต่างประเทศ มีผลกระทบต่อรายได้จากการท่องเที่ยวของประเทศต่าง ๆ รวมทั้งไทยทันที
หลี่เค่อเฉียงบอกว่าปีที่แล้ว คนจีนเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศถึง 100 ล้านคน และหกเดือนของปีนี้มีอัตราเติบโต 10%
แต่เขาไม่ได้บอกว่าหลังจากเงินหยวนอ่อนค่าลงอย่างหนักหน่วง ในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวจีนไปต่างประเทศลดลงอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่
จึงต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าคำจำกัดความของคำว่า hard landing กับ soft landing ของผู้นำจีนนั้นมีดีกรีหนักหน่วงและเบาบางต่างกับที่ประเทศเล็ก ๆ อย่างไทยเข้าใจเพียงใด/จบ
....................................................................................................................................