|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ครั้งที่ 1 - น้องผ่าตัดโรคถุงน้ำเดอร์มอยด์ หริือโรคถุงน้ำรังไข่ด้านซ้าย (dermoid cyst )
กลับมาพร้อมประสบการณ์ชีวิตที่น่าสยองขวัญ เหตุการณ์ที่จะเล่าต่อไปนี้คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับ "น้องสาว" ของเราเอง ทั้งครอบครัวไม่เคยคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นอีกครั้ง นับตั้งแต่แม่ผ่าตัดเนื้องอกในมดลูกไป เมื่อปี 2557
อาการเริ่มจาก เช้าวันหนึ่งขณะที่น้องกำลังนั่งรถไฟฟ้า BTS เพื่อเดินทางไปทำงาน ได้มีอาการปวดท้อง จนเหมือนจะเป็นลม ซึ่งในขณะนั้นน้องได้มีประจำเดือนอยู่ จึงต้องออกมานั่งพักที่ชานชาลาของสถานีรถไฟฟ้า แล้วโทรให้แม่ไปรับ เพราะปวดท้องมากเดินไม่ไหว แม่จึงพาไปโรงพยาบาลพระราม9 เพื่อตรวจหาสาเหตุของโรค ทางโรงพยาบาลพระราม9 ได้เจาะเลือดและอัลตร้าซาวน์ และบอกให้มาฟังผลเลือดในอีก 3 วัน และแม่ก็ยังพาน้องไปตรวจซ้ำอีกที่ รพ.สินแพทย์ (รพ.แถวบ้าน) เพื่อความชัวร์และถามค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดแบบส่องกล้อง ตรงลงเสร็จนัดผ่ากันวันที่ 14 มีนาคม 2562
3 วันต่อมา วันที่ 11 มีนาคม 2562 แม่ไปตามที่ โรงพยาบาลพระราม9 นัด เพื่อฟังผลเลือดน้อง ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าค่าเลือดตัวไหนก็ไม่รู้ของน้องเราสูงผิดปกติ เกรงว่าก้อนที่พบในช่องท้องน้องจะเป็นเนื้อร้าย ให้รีบทำการรักษาโดยด่วน (แม่เราหลังจากฟังก็สติแตกโทรมาร้องไห้กับเราว่าจะเอาผลเลือดไปติดต่อกับโรงพยาบาลอื่น) เราก็รีบพาแม่ไปโรงพยาบาลสินแพทย์ (รพ.ที่แม่เราเคยผ่าตัดเนื้องอดในมดลูก) ไปหาคุณหมอที่เคยผ่าตัดแม่ (เพราะแม่บอกว่าคุณหมอผ่าตัดแล้วแม่ไม่เจ็บ หมอมือเบา) เราเอาค่าผลเลือดของน้องสาวให้หมอดู หมอเองก็ยังสงสัยว่าค่าเลือดตัวนั้นทำไมมันสูง เรากับครอบครัวตัดสินใจขอให้หมอตรวจเลือดน้องใหม่ภายในวันนั้น (วันที่ 11 มีนาคม 2562)
หลังจากน้องลางานมาเราก็รอผลตรวจเลือดได้ภายใน 1 ชั่วโมง ซึ่งค่าเลือดตัวนั้นที่เคยสูงถึง 500 ได้ลดลงเหลือแค่ 190 หมอแจ้งว่าอาจเป็นเพราะเวลามันปวดท้องค่าเลือดเลยสูงขึ้น หมอได้อัลตร้าซาวน์พุงน้องอีกครั้งพบก้อนเนื้อที่เดิมวัดขนาดความใหญ่ได้ 12 เซนติเมตร หากปล่อยไว้นานมีโอกาสแตกได้ และยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็น "เนื้อดี" หรือ "เนื้อร้าย" เพราะต้องรอส่งชิ้นเนื้อไปตรวจที่แลประหว่างการผ่าตัด ทางครอบครัวเราใจร้อนจึงขอให้หมอพรชัยเช็คห้องผ่าตัดกับห้องแลปโดยด่วยว่าว่างหรือไม่ เพราะอยากผ่าในวันที่ 12 มีนาคม 2562 ทันทีแบบเร่งด่วน และในที่สุดน้องเราก็เข้ารับการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้องในวันที่ 12 มีนาคม 2562
*** ผลสรุปว่าน้องเป็นโรคถุงน้ำรังไข่ (dermoid cyst ) ขั้วมันบิดเลยทำให้ปวดท้องรุนแรง ไม่ใช่เนื้อร้าย หมอตัดรังไข่ด้านซ้ายออกไป 1 ด้าน และตัดไส้ติ่งแถมไปด้วย ***
ภาพขณะผ่าตัดดึงก้อนถุงน้ำออกมา

 น้องเราความดันต่ำ หลังผ่าตัดมา 1 วัน ล้มแขนและหัวฟาดในห้องน้ำโรงพยาบาล (นี่ขนาดมีพ่อกับแม่เฝ้านะ)

รอยแผลเริ่มแห้งหลังดึงผ้าออก โชคดีมากที่ไม่ใช่เนื้อร้าย ขอแนะนำว่าผู้หญิงควรไปตรวจภายใน และอัลตร้าซาวน์ช่องท้องส่วนบน และส่วนล่างทุกปี เพื่อเกิดอะไรจะได้รักษาแต่เนิ่นๆ
น้องมีประกันสุชภาพของบริษัทที่ทำงานอยู่ ค่ารักษาทั้งหมด 134,074 บาท ประกันจ่ายตามจริงทั้งหมด จ่ายเอง 2,260 บาท
Create Date : 25 มีนาคม 2562 |
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2565 14:31:28 น. |
|
0 comments
|
Counter : 3853 Pageviews. |
 |
|
|
| |
|
Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]

|
จับกล้องท่องเที่ยวไปกับการเดินทางของฉัน ด้วยการถ่ายภาพที่ใช้อารมณ์ และหัวใจ มากกว่าเทคนิคและกฏเกณฑ์ /Step by step with my journey.
Page : Emmy Journey พากิน พาเที่ยว https://www.facebook.com/EmmyJourney
Blog : https://emilia0412.bloggang.com
** ขอสงวนสิทธิ์ *** ข้อมูลทั้งหมด อันรวมถึงข้อความและรูปภาพที่ปรากฏอยู่บน https://emilia0412.bloggang.com ห้ามมิให้ผู้ใดเผยแพร่ ลอกเลียน ทำซ้ำ หรือแก้ไข ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับการยินยอมจากเจ้าของบล็อก
|
|
|
|
|
|
|
|