มกราคม 2566

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
14
15
17
18
19
20
21
22
23
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
ประสบการณ์ติดโควิดของ M ระหว่างวันที่ 2-6 มกราคม 2566
อุตส่าห์เอาตัวรอดจากโควิด 19 มาได้นานถึง 3 ปี (2563-2565) ในที่สุดก็ไม่รอดค่ะ ติดเชื้อโอไมครอนจนได้ และติดจากใครไม่ติดดันติดจากพ่อกับแม่ เนื่องจากทั้งคู่ไปเที่ยวบางแสนกันมาเมื่อวันที่ 28-30 ธันวาคม 2565 และวันที่กลับมาถึงบ้านแม่บอกว่าพ่อมีอาการไอและมีไข้ กลับถึงบ้านพ่อนอนซมเลย เราก็คุยกับแม่เรื่องต่างๆ และจัดการเก็บของฝากกลับบ้าน พอถึงบ้านเราช่วงบ่ายสาม เรารู้สึกตัวรุมๆ ยังนึกว่าตัวเองเดินตากแดดตอนไปไหว้พระ หรือเพราะแดดเปรี้ยงทำให้ตัวรุมๆ เลยไม่ได้กินยาอะไร 

เช้าวันที่ 1 มกราคม 2566 - รู้สึกคอแห้ง ตรวจ ATK ไม่พบเชื้อ เลยไปไหว้พระ /แก้ปีชง ระหว่างวันมีอาการไอแห้งๆ สากคอ ตกเย็นเริ่มตัวรุมๆ เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว เหมือนมีไข้ 
เช้าวันที่ 2 มกราคม 2566 - ตรวจ ATK พบเชื้อโควิดเลยจ้า ขึ้น 2 ขีดเต็มๆ ตอนเช้าและกลางวันรีบกินยาฟ้าทลายโจรกับไทลินอลแก้ไข้ก่อนเลย ตกเย็นรีบไปหาซื้อยากินเพิ่มที่ร้านขายยา

** โชคดีตอนที่ติดเชื้อเราไม่มีอาการหนักอะไรมาก มีแค่ไอ มีน้ำมูกใสๆ บางครั้ง ตัวรุมๆ เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว เหมือนมีไข้ อยู่ 2-3 วัน แต่อาการไอมีตอนเป็นช่วงๆ จนถึงวันที่ 8 มกราคม 2566 กลางคืนยิ่งไอหนัก เวลานอนราบเล่นมือถือจะไอเยอะมาก ตอนไอไม่รู้สึกเจ็บหน้าอก หรือเจ็บคอ **




ยาฟ้าทลายโจร ของอ้วยอันโอสถ ที่เรากิน ช่วงที่ติดเชื้อโควิด โชคดีที่ซื้อฟ้าทลายโจรติดบ้านไว้ เพราะเราคิดว่าเผื่อติดโควิดจะได้มียากินทัน (ซื้อไว้เผื่อคิดว่าจะได้ใช้ แล้วก็ได้ใช้จริงๆ เพราะมันระบาดเยอะเหลือเกิน)



ยาขับเสมหะแบบเม็ดฟู่ กินวันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหารเช้า และก่อนนอน หลอดละ 180 บาท มี 10 เม็ด (เสียเงินซื้อเอง)





ยาแก้แพ้ยี่ห้อแคริโนส กินก่อนนอน 1 เม็ด (เสียเงินซื้อเอง)





ยาแก้ไอ ยี่ห้อโคฟาร์ทุสซิน กินวันละ 3 เม็ด หลังอาหาร เช้า / กลางวัน / เย็น (เสียเงินซื้อเอง)





ยาอมยี่ห้อต่างๆ ที่เรากินระหว่างติดโควิด (เสียเงินซื้อเอง)/ มียาแก้ไอตราโยคีด้วย กินหมดไป 2 ขวด ใหญ่ แต่ก็ช่วยอะไรได้ไม่มาก ยาอมกำกิกเผี่ยงอมแล้วชุ่มคอดี หายไอเป็นพักๆ ช่วงที่เป็นอมจนลิ้นชาไปหมด เพราะไอเมื่อไรก็หยิบมาอม





ยาอมมะแว้ง ยิ่งอมยิ่งไอ เพราะมันรสออกเค็ม และหลังตัวยาอมละลายมันมีผงๆ ติดอยู่ที่ลำคอ ทำให้ยิ่งไอหนักกว่าเดิม 



ยาอมโพรโพลิซ กลิ่นน้ำผึ้ง มะนาวและขิง รสหวาน หอม ซ่า (แต่น้ำตาลเยอะมาก) ตัวนี้อมแล้วชุ่มคอ ไม่ค่อยไอเท่าไร ห่อละ 29-35 บาท (แล้วแต่ร้าน) 



วันที่ 3 มกราคม 2566 - ลองตรวจ ATK อีก เพื่อความชัวร์ ผลยังพบเชื้อโควิด เลยรีบไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจโควิดและเอาใบรับรองแพทย์มาแนบกับใบลาป่วย เพื่อยืนยันว่าเราติดโควิดจริง



อันนี้คือยี่ห้อ ATK ที่ทางที่ทำงานแจกให้ช่วงโควิดระบาดหนัก โอเคอยู่นะ ผลตรวจแม่นดี





ไปถึงโรงพยาบาล 9.30 น. พี่ รปภ. บอกว่าคิวรอบเช้าเต็มแล้ว ได้คิวรอบบ่ายแทน (เง้อ...ดีนะ รพ.ใกล้บ้าน)







หลังการตรวจรักษา หมอให้ยามา 3 อย่าง 1.ยาต้านไวรัส 2.ยาอมมะแว้ง 3.ยาลดไข้



ยาต้านไวรัส ยี่ห้อโมเลน่า 200 ให้ทานวันละ 8 เม็ด เวลา 8.00 น. - 4 เม็ด และเวลา 20.00 น.- 4 เม็ด กินให้ครบ 5 วัน (คงเพราะน้ำหนักเกินมาตรฐานหมอเลยสั่งยาต้านไวรัสให้) ชื่อเดิมของ Molema 200 คือ โมลนูพิราเวียร์ 200 มิลลิกรัม












ยาอมมะแว้ง



ยาแก้ไข้



เสียค่าใช้จ่ายไป 546.50 บาท







วันที่ 6 มกราคม 2566 ลองตรวจ ATK อีกรอบ ผลตรวจยังขึ้น 2 ขีด แต่ตรงตัว T ที่แสดงผลการติดเชื้อจางมากแล้ว



วันที่ 8 มกราคม 2566 ตรวจ ATK อีกครั้ง ก่อนไปทำงานในวันจันทร์ที่ 9 มกราคม 2566 ผลตรวจไม่พบเชื้อแล้วจ้า แต่...ยังมีอาการไอแค่กๆ อยู่บาง และมีน้ำมูกกับเสมหะใสๆ บางช่วง กลางคืนยังไออยู่ ต้องนอนหนุนหมอนสูง อาการไอจะทุเลาลงเป็นบางช่วง



วันที่ 9 มกราคม 2566 ตอนเย็นคุณสามี รีบให้ไปหาซื้อยาแก้ไอ เพราะเรายังไอแค่กๆ อยู่ ร้านยาเจ้าประจำแนะนำยายี่ห้อนี้ค่ะ เราบอกว่าเป็นโควิด แต่หายแล้ว ผลข้างเคียงคือมีอาการไอแค่กๆ อยู่ เภสัชแนะนำว่าต้องกินไบโอติก แล้วอาการลองโควิดจะหายไป (เภสัชบอกว่าคนเป็นอาการลองโควิดมาซื้อตัวนี้ไปกินแล้วหาย) เราเลยลองเอามาดู แม้ว่าราคาจะสูงมากก็ตาม มี 10 เม็ด แผงละ 550 บาท เภสัชลดให้เหลือ 450 บาท (ตกเม็ดละ 45 บาท) คืนวันที่ 9 ม.ค. 66 กลางคืนยังมีอาการไอเป็นช่วงๆ 









ตัวยาเม็ดสีขาวๆ มีเกล็ดสีชมพู กินแล้วเหมือยาอม หวานๆ ซ่าๆ ไม่ขม กินไป 5 เม็ด อาการดีขึ้น ไอน้อยลง กลางวันแทบไม่ไอ กลางคืนไอแค่กๆ แค่ 1-2 ครั้ง พอวันที่ 12-13 ม.ค. 66 แทบไม่ไอเลย




*** เรากับคุณสามีเสียเงินซื้อยารักษาอาการโควิดไปทั้งหมด 2,100 บาท (จ่ายเองไปเบิกที่ไหนไม่ได้นะ) / ส่วนที่หาหมอนำไปเบิกได้ 683 บาท (รวม 2 คน) *** 


สรุปอาการติดโควิด

วันที่ 29 ธันวาคม 2565 ทำความสะอาดบ้านแม่ตั้งแต่ 8 โมงถึงบ่ายโมง เหนื่อยมาก ฮ่าๆๆ /กลางคืนปวดเมื่อยตามข้อระบมไปทั้งตัว อยากไปหาหมอนวดมาก ตัวรุมๆเหมือนมีไข้ โทรศัพท์คุยกับพ่อแม่ แม่บอกว่าตอนเย็นพ่อทานอาหารที่ร้าน กลับมาพ่อไอทั้งคืน

วันทีี่ 30 ธันวาคม 2565 เช้าซักผ้าและขัดห้องน้ำบน อาการปวดเมื่อยตามตัวค่อยยังชั่วแต่ยังปวดอยู่ /กลางวันออกไปกินส้มตำ+ไปวัดจีนและไปคาเฟ่ญี่ปุ่น แดดร้อนทำให้ตัวรุมๆ / บ่ายๆ พ่อแม่กลับมาจากต่างจังหวัด แล้วพ่อมีอาการไอไข้ขึ้นตัวร้อนกลับมาถึงนอนหลับเป็นตาย / ตอน 15:00 น กลับมาถึงบ้านดอนเมืองตัวรุมๆเหมือนเป็นไข้แดด ไม่ได้กินยา นอนพักแค่ 1 ชั่วโมงก็ออกไปตลาดเพื่อตุนอาหาร /กลางคืนเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวนิดๆ รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ จนต้องนอนห่มผ้าและใส่เสื้อหนาๆ

วันที่ 31 ธันวาคม 2565 อาการปกติเมื่อยตามตัวบ้างแต่ไม่มาก ตอนบ่าย 4 โมงไปเซ็นทรัลเวสเกต /อาการกลางคืนก็ยังปกติ/กลางคืนมีไอนิดนิดเหมือนสำลักน้ำลาย เหมือนไอจนเจ็บคอโดยไม่รู้ตัวตื่นมาจิบน้ำตอนกลางคืน /รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ จนต้องนอนห่มผ้าและใส่เสื้อหนาๆ

วันที่ 1 มกราคม 2566 เช้าเหมือนคอแห้ง ระคายคอ ตรวจ ATK ผลยังไม่ติดเชื้อโควิด 

11.00 น. ออกไปไหว้พระที่เยาวราชและวัดสุทัศน์กลับถึงบ้าน 5 โมงเย็น อาการตอนกลางวันปกติ มีไอค๊อกแค๊กบ้างบางครั้ง /ตกเย็นรู้สึกเหมือนหนาว มีไข้ตัวรุมๆ รู้สึกมึนหัว มีไอค๊อกแค๊ก หลังกินอาหารเย็นกินฟ้าทะลายโจรไป 3 เม็ด ตัวรุมๆ เหมือนมีไข้ นอนห้องแอร์แล้วรู้สึกหนาว แต่ยังทนได้ไม่ใช่หนาวสั่นแบบไข้ขึ้น

21:00 น. ใส่กางเกงขายาว ใส่ถุงเท้า ใส่เสื้อหนาๆ หายใจรู้สึกมีเสียงครืดคราดในทรวงอก 

21:30 น. กินไทลินอลไป 2 เม็ด ตัวรุมๆ เหมือนมีไข้เป็นช่วงๆ เหมือนมีเสมหะในลำคอ หายใจดังครืดๆ บางครั้ง สากๆคอ นอนหลับได้ปกติบางครั้งก็หนาวบางครั้งก็ร้อน ไอค๊อกแค๊กเป็นบางช่วงแต่ไม่มาก ปวดเมื่อยตามตัว

**ช่วงเป็นโควิด 2-3 วันแรกเล่นมือถือสักพักจะเวียนหัวอยากนอน ตาลาย**

วันที่ 2 มกราคม 2566

8.00 น. อาการเจ็บคอดีขึ้น ไอแล้วรู้สึกมีเสมหะนิดๆ มึนๆ หัวตัวรุมบางช่วง /ตรวจ ATK ผลคือติดโควิด /คุณสามีตรวจโควิดแล้วยังไม่ติด

9:30 น จมูกรับกลิ่นปกติ/ลิ้นรับรสปกติ อยากอาหารน้อยลง กินข้าวเสร็จแล้วทานฟ้าทะลายโจรไป 10 เม็ด พี่เปี๊ยกกิน 3 เม็ด /ทำความสะอาดบ้านต่อ พอใกล้ 11 โมง เริ่มมึนหัวตัวรุมๆ

11.00 น. เหมือนมีไข้ตัวรุมๆ ตัวร้อนนิดๆ กินไทลินอล 2 เม็ด ไอ้น้อยลงและเหมือนเสมหะน้อยลง ไข้ขึ้นจ้า

12.00 น. ไข้ลดลงกินอาหารกลางวันและกินฟ้าทะลายโจรไป 10 เม็ด 

14:00 น หลับจนถึง 16.30 น หนาวๆร้อนๆ

17.00 น. ออกไปซื้อยาจ่ายไป 360 บาท อาหารเย็นกินสลัด กินยาแก้ไอ และกินยาฟ้าทะลายโจร 3 เม็ด หมอบอกห้ามกินฟ้าทะลายโจรเกิน 3 เม็ด และห้ามเกิน 5 วัน

20:30 น. กินยาแก้แพ้ 1 เม็ด และไทลินอล 2 เม็ด มีอาการตัวรุมๆ ไข้ขึ้น และไอ เริ่มคัดจมูกข้างขวา

21:00 น กินยาเม็ดฟู่ละลายเสมหะ 1 เม็ด / ไอเกือบทั้งคืนไอจนเจ็บคอเจ็บหน้าอกมีเสมหะใสๆ บางครั้ง กลางคืนไม่ค่อยมีไข้ /ห่มผ้าห่มตลอดเพราะรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ

**ช่วงเป็นโควิด 2-3 วันแรกเล่นมือถือสักพักจะเวียนหัวอยากนอน ตาลาย**

วันที่ 3 มกราคม 2566 

ตอนเช้าก็ไอ กินยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ 1 เม็ด ก่อนกินข้าว/หลังกินข้าวกินยาแก้ไอ และฟ้าทะลายโจร 3 เม็ด/มีน้ำมูกใสๆ คัดจมูกนิดหน่อย ไอเป็นช่วงๆ

9.30 น. ไปโรงพยาบาล เพื่อตรวจโควิด หมอนัดมารอบบ่ายโมงเพราะคิวเต็ม /มีอาการไอ และมีน้ำมูกใสๆ

12.00 น.ตัวร้อนนิดๆ มีไข้หน่อยๆ มีน้ำมูกใสๆ เกือบทั้งวัน กลางวันกินข้าวและกินฟ้าทะลายโจร 3 เม็ด ยาแก้ไอ 1 เม็ด

14.30 น. ไปหาหมอที่โรงพยาบาลหมอให้ใบรับรองแพทย์ ยาลดไข้ ยาอมมะแว้ง และยาต้านโควิด/เสียค่าใช้จ่ายไปทั้งหมด 546.50 บาท

ถ้าเปิดพัดลมเป่าตัวจะไอและตัวรุมๆ เหมือนไข้ขึ้น

15.30 น. กลับถึงบ้านเก็บผ้าไปพับ และล้างรถต่อ

18.00 น. ทานอาหารเย็น และกินยาแก้ไอ 1 เม็ด  ฟ้าทะลายโจร 3 เม็ด /นอนเล่นมือถือจะไอ และเหมือนมีเสมหะใสๆ

20.00 น กินยาต้านไวรัส 4 เม็ด

20.30 น. กินยาขับเสมหะเม็ดฟู่ 1 เม็ด

21.00 น กินยาแก้แพ้ 1 เม็ด /ไอน้อยลง ไอเป็นบางครั้ง ไอน้อยกว่าคืนวันที่ 2 มกราคม กลางคืนไม่มีไข้ แต่บางช่วงยังรู้สึกอยากห่มผ้าห่ม เดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อน

** คืนวันที่ 3 ม.ค. 66 ดูหนังได้จนถึง 22:30 น ไม่มีอาการเวียนหัว ไม่ตาลาย ไม่มีไข้ **

วันที่ 4 มกราคม 2566 

7.30 น. กินยาเม็ดฟู่ละลายเสมหะก่อนกินอาหาร

8.00 น. กินยาต้านไวรัส 4 เม็ด ไอน้อยลงเยอะ วันนี้แทบจะไม่ค่อยไอเลย/ทำงานบ้านตั้งแต่ 10:30 น.จนถึงบ่ายโมง/ไม่มีไข้ไม่มึนหัวตัวไม่ร้อน

13:00 น กินอาหารกลางวัน กินยาแก้ไอและฟ้าทะลายโจร 3 เม็ด /มีน้ำมูกใสๆ นิดๆ ทั้งวันแต่ไม่ได้ไหลเยอะ

15.00 ถึง 17.00 นอนเล่นมือถือแต่ไม่ได้หลับมีไอนิดๆ เวลานอน /ไม่มีไข้ตัวไม่ร้อน

18.00 น.ทานอาหารเย็นรู้สึกขมๆ ในลำคอ คงเป็นเพราะอมยาอมมาก /ทานยาแก้ไอ 1 เม็ด และฟ้าทะลายโจร 3 เม็ด

20.00 น. ทานยาต้านไวรัส 4 เม็ด /นอนเล่นมือถือมีไอเป็นบางช่วง

20.30 น. ทานยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ 1 เม็ด

21.00 ทานยาแก้แพ้ 1 เม็ด/ ไม่มีอาการหนาว ร้อนตับแล่บ ร้อนจนเหงื่อออก

** กลางคืนไอตลอดไอเป็นช่วงๆ สังเกตได้ว่าถ้านอนตอนกลางคืนอาการไอจะมาเป็นช่วงๆ ถึงเยอะมาก กลางวันไม่ค่อยไอ **

วันที่ 5 มกราคม 2566
7.30 น. กินยาเม็ดฟู่ 1 เม็ด เพื่อละลายเสมหะก่อนทานอาหาร

8.00 น. กินยาต้านไวรัส 4 เม็ด

8:40 น กินอาหารเช้ากินยาแก้ไอ 1 เม็ด และฟ้าทะลายโจร 3 เม็ด

12.30 น.หลังกินอาหารกลางวันกินยาแก้ไอ 1 เม็ด และฟ้าทะลายโจร 3 เม็ด

14.00-17.00 น. ไข้ไม่มี ร้อนเหงื่อออก ตอนนอนเล่นมือถือจะไอเป็นช่วงๆ 

19.30 น.ทานข้าวเสร็จทานยาแก้ไอ 1 เม็ด /งดฟ้าทะลายโจร เพราะทานมาจะ 5 วันแล้ว

20.00 น. กินยาต้านไวรัส 4 เม็ด

20.30 น. กินยาขับเสมหะเม็ดฟู่ 1 เม็ด

กลางคืนตอนนอนไอน้อยลงมากหลับได้ลึก เพราะนอนหมอนสูง 2 ชั้นรองคอ เลยไอน้อยลง

**วันนี้ตอนกลางวัน และเย็นรู้สึกว่าจะมูกได้กลิ่นน้อยลงต้องดมใกล้ๆ เช่น สบู่หรือน้ำยาซักผ้าที่มีกลิ่นฉุนจะได้กลิ่นนิดๆ /ลิ้นยังรับรสได้แต่ไม่ดีมากเท่าที่ควร **

วันที่ 6 มกราคม 2566
เช้าตรวจ atk ผล covid จางลง ตรงตัว  T เหลือ  เส้นจางๆ

7.00 น. กินยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ 1 เม็ด

7.30 น. กินอาหารเช้าเสร็จกินยาแก้ไอ 1 เม็ด

8.00 น. กินยาต้านไวรัส 4 เม็ด

ไอเป็นบางช่วง จมูกยังไม่ได้กลิ่นเท่าที่ควร /ลิ้นรับรสได้เฉพาะรสเค็ม

11.00 น. กินอาหารกลางวัน และกินยาแก้ไอ 1 เม็ด /กลางวันมีไอเป็นบางช่วง มีเสมหะใสๆ

18.00 น. กินอาหารเย็น และกินยาแก้ไอ 1 เม็ด

20.00 น. กินยาต้านไวรัส 4 เม็ด

20.30 น. กินยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ 1 เม็ด

** ช่วงอาบน้ำตอนเย็นเหมือนได้กลิ่นสบู่จางแบบเบาบางมาก พอตั้งใจสูดกลิ่นก็หายไป กลางคืนไอทั้งคืนไอจนน่ารำคาญ ไอจนนอนไม่ค่อยหลับ **

วันที่ 7 มกราคม 2566
8.00 น. กินยาต้านไวรัส 4 เม็ด เซ็ทสุดท้าย

8.30 น. กินยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ 1 เม็ด

9.00 น. กินอาหารเช้า และกินยาแก้ไอ

13.30 น. กินอาหารกลางวัน/งดยาแก้ไอ ระหว่างวันมีแค่ไอ

18.00 น. กินอาหารเย็น/ไม่ได้กินยา

20.00 น. กินยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ 1 เม็ด /กลางคืนไอเป็นช่วงๆ

วันที่ 8 มกราคม 2566
ตรวจโควิดผล atk เหลือขีดเดียว
8.00 น. กินยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ 1 เม็ด
8.30 น. กินอาหารเช้า ไม่ได้กินยาอะไรอีก
ระหว่างวันไม่ได้กินยาอะไรเลยกินแต่ยาอมแก้ไอ

วันที่ 9 มกราคม 2566
ไม่ได้กินยาอะไรเลยทั้งวันกินแต่ยาอมแก้ไอ
18.00 น. กินข้าวเย็นเสร็จ ไปซื้อยาโพรไบโอติก มากินเพื่อลดอาการลองโควิด เพราะยังมีอาการไอตลอด
** กลางคืนไอเป็นช่วงๆแต่ไอน้อยลงเยอะ/หลับสนิท **

วันที่ 10 มกราคม 2566
10.20 น. หลังอาหารเช้ากินยาไบโอติก 1 เม็ดเพื่อลดอาการลองโควิด
**ลิ้นเริ่มรับรสเปรี้ยวได้/จมูกเริ่มได้กลิ่นสบู่อ่อนๆ **
18.00 น. กินอาหารเย็น/ลิ้นรับรถได้แต่รสเค็ม/และกินยาไบโอติก 1 เม็ดเพื่อลดอาการลองโควิด
** กลางคืนไอน้อยลงเยอะ **

วันที่ 11 มกราคม 2566
8.00 น. หลังอาหารเช้ากินยาโพรไบโอติก 1 เม็ด เพื่อลดอาการลองโควิด
ระหว่างวันไม่ได้กินยาอะไรมีอมยาอมแก้ไอ
18.00 น. หลังอาหารเย็นกินยาโพรไบโอติก 1 เม็ด เพื่อลดอาการลองโควิด
** กลางคืนมีอาการไอครั้งเดียว **

วันที่ 12 มกราคม 2566
8.00 น. หลังอาหารเช้ากินยาไบโอติก 1 เม็ด เพื่อลดอาการลองโควิด
ระหว่างวันไม่ได้กินยาอะไรมีอมยาอมแก้ไอ
18.00 น. หลังอาหารเย็นกินยาไบโอติก 1 เม็ด เพื่อลดอาการลองโควิด
** ตอนกลางคืนไม่มีอาการไอแล้ว **

วันที่ 13 มกราคม 2566
8.00 น. หลังอาหารเช้า กินยาไบโอติก 1 เม็ด เพื่อลดอาการลองโควิด
ระหว่างวันไม่ได้อมยาอมแก้ไอ
18.00 น. หลังอาหารเย็นกินยาไบโอติก 1 เม็ด เพื่อลดอาการลองโควิด
** ตอนกลางคืนไม่มีอาการไอแล้ว **

วันที่ 14 มกราคม 2566
ตอนเช้ากับระหว่างวันเป็นบางช่วงยังมีน้ำมูก และเสมหะใสๆ /จมูกเริ่มรับกลิ่นได้ดีขึ้นได้กลิ่นสบู่ ได้กลิ่นอาหาร/ลิ้นยังรับรสได้ไม่ดีเท่าที่ควร บางครั้งยังรับได้แต่รสเค็มกินอะไรก็รู้สึกเค็มไปหมด ไม่มีความรู้สึกกินอาหารแล้วอร่อย/อาการไอไม่มีแล้ว/อาการทุกอย่างดูปกติ

วันที่ 15 มกราคม 2566
ตอนเช้ากับระหว่างวันเป็นบางช่วงยังมีน้ำมูก และเสมหะใสๆ /จมูกเริ่มรับกลิ่นได้ดีขึ้น/ลิ้นยังรับรสได้ไม่ดี/กินอะไรก็ไม่อร่อย ไม่รู้สึกมีความอยากอาหาร คาดว่าอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ 

อาการลองโควิดที่เป็น พอหายจากโควิดเรามีอาการ
1. มีน้ำมูกใสๆ ตอนเช้า ต้องสั่งออกมา
2. มีเสมหะใสๆ เหนียวนิดๆ บริเวณลำคอ ช่วงเช้าจะเยอะพอสมควร ตอนแปรงฟันต้องขากเสมหะออก ระหว่างวันมีเสมหะบ้างแต่ไม่เยอะมาก
3. ตอนกลางคืนคัดจมูกบางครั้ง
4. หลังหายจากติดเชื้อประมาณ 1 สัปดาห์ยังมีอาการไอ
5. ลิ้นรับรสอาหารได้ไม่ดี จมูกรับกลิ่นได้ไม่ดี มีอาการเกือบ 2 อาทิตย์



Create Date : 13 มกราคม 2566
Last Update : 20 มกราคม 2566 9:28:23 น.
Counter : 2965 Pageviews.

10 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณปัญญา Dh, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณสองแผ่นดิน, คุณSweet_pills, คุณหอมกร, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร

  
ส่งกำลังใจนะคะ

ขอให้หาย เป็นปกติไว ๆ ค่ะ
ให้รายละเอียดดีจัง เป็นประโยชน์มากค่ะ

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 16 มกราคม 2566 เวลา:12:47:07 น.
  
ส่งกำลังใจให้ครับ

ขอให้หายไวๆ ด้วยครับ
โดย: ปัญญา Dh วันที่: 16 มกราคม 2566 เวลา:16:33:56 น.
  
ขอให้สุขภาพกลับมาแข็งแรงเช่นเดิมไวๆนะคะ
โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 16 มกราคม 2566 เวลา:18:07:59 น.
  
ขอให้สุขภาพกลับมาแข็งแรงในเร็ววันครับ


โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 16 มกราคม 2566 เวลา:22:15:09 น.
  
พักผ่อนเยอะๆหายไวๆเป็นกำลังใจให้ครับ🙏🏻😊
โดย: สมาชิกหมายเลข 5722835 วันที่: 17 มกราคม 2566 เวลา:5:59:44 น.
  
ขอให้หายเร็วๆนะคะ
โดย: Sweet_pills วันที่: 17 มกราคม 2566 เวลา:22:01:43 น.
  
ตอนยังไม่รู้ผลนี่มีโอกาสแพร่เชื้ออยู่เหมือนกันนะคะ
มีหลายคนเลยบ่นว่ารอดมาทุกซีซั่นมาติดช่วงนี้จ้า

โดย: หอมกร วันที่: 18 มกราคม 2566 เวลา:8:47:03 น.
  
หายไวๆนะคะ
โดย: สมาชิกหมายเลข 7221829 วันที่: 19 มกราคม 2566 เวลา:8:48:27 น.
  
ผมติดต้นเดือนธันวาฯ กักตัวอยู่บ้าน กินพาราฯ และฟ้าทะลายโจร 4-5 วันก็หายครับ
โดย: แมวเซาผู้น่าสงสาร วันที่: 20 มกราคม 2566 เวลา:19:19:07 น.
  
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ
โดย: **mp5** วันที่: 22 มกราคม 2566 เวลา:9:13:43 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]



จับกล้องท่องเที่ยวไปกับการเดินทางของฉัน ด้วยการถ่ายภาพที่ใช้อารมณ์ และหัวใจ มากกว่าเทคนิคและกฏเกณฑ์ /Step by step with my journey.

Page : Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
https://www.facebook.com/EmmyJourney

Blog : https://emilia0412.bloggang.com

** ขอสงวนสิทธิ์ ***
ข้อมูลทั้งหมด อันรวมถึงข้อความและรูปภาพที่ปรากฏอยู่บน https://emilia0412.bloggang.com ห้ามมิให้ผู้ใดเผยแพร่ ลอกเลียน ทำซ้ำ หรือแก้ไข ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับการยินยอมจากเจ้าของบล๊อก