214 :: เด็กวัยสิบเดือนถึงสิบเอ็ดเดือน: การเลี้ยงดู: การให้อาหารเด็ก
() มีเด็กอายุเกิน 10 เดือนจำนวนมาก ที่ชอบกินข้าวสวยมากกว่าข้าวต้ม ทั้งนี้อาจเป็นเพราะเด็กเริ่มอาหารเสริม มาตั้งแต่วัย 4-5 เดือน จนกระทั่งระบบย่อยของเด็กทำงานได้ดี จึงกินอาหารเหมือนผู้ใหญ่ได้ เมื่อเด็กกินอาหารร่วมกับผู้ใหญ่ได้ คุณแม่จะมีเวลาว่างมากขึ้น เพราะไม่ต้องทำอะไร ให้ลูกเป็นพิเศษเหมือนเมื่อก่อน เวลาที่มีมากขึ้นควรใช้ไปในการเล่นกับลูก และฝึกลูกให้แข็งแรง มิฉะนั้นจะพลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย เพราะร่างกายของเด็กเจริญเติบโตขึ้นทุกวัน อาหารของเด็กวัยนี้แตกต่างกัน ตามสภาพแวดล้อมและสภาพความต้องการ ของเด็กแต่ละคน ไม่มีเส้นตายกำหนดว่าเด็กวัยนี้ จะต้องกินข้าวกี่ถ้วย นมกี่ขวด ตารางอาหารเสริม เป็นเพียงแนวทางสำหรับคุณแม่ เมื่อเริ่มให้อาหารเสริมแก่ลูก ตอนอายุ 4-5 เดือนเท่านั้น ถ้าลูกของคุณไม่ได้กินอาหาร ตามที่แนะไว้ในตาราง คุณแม่ก็ไม่ต้องกลุ้มใจ ถ้าลูกของคุณแข็งแรง ร่าเริงดีมีความสุข และน้ำหนักเพิ่มเฉลี่ยวันละ 5-10 กรัม ถ้าหากน้ำหนักเพิ่มเฉลี่ยเกินกว่าวันละ 20 กรัม แสดงว่าแม่ส่วนใหญ่จะดีใจเมื่อลูกกินได้มาก ลูกอ้วนท้วนดี และถึงแม้ลูกจะอ้วนเกินไป จนถึงชั้นเป็น “โรคอ้วน” ก็ยังไม่รู้สึกกังวล ในขณะที่คุณแม่ซึ่งลูกตัวเล็ก มีแนวโน้มจะฝืนบังคับให้เด็กกิน มากกว่าความต้องการ คุณแม่บางคนบังคับให้ลูกกิน จนกระทั่งเด็กอาเจียน และนั่งเป็นทุกข์เป็นร้อนว่าลูกตัวเล็ก กว่าเด็กวัยเดียวกัน ทั้ง ๆ ที่เด็กคล่องแคล่ว ท่าทางฉลาดปราดเปรียว ยกเว้นเวลากินข้าว เด็กจะเคี้ยวเอื้องอยู่อย่างนั้นแหละไม่ยอมกลืน คุณแม่ควรยอมรับสภาพร่างกายของลูก จะได้สุขกายสบายใจกันทั้งคู่ ไม่ต้องทำสงครามกันวันละ 3 มื้อ ตัวอย่างอาหารของเด็กวัย 10 เดือน เด็กชายเอ เช้า 8.00 น. ขนมปังทาเนย 1 แผ่น นม 180 ซี.ซี. เที่ยง 12.00 น. ข้าวครึ่งถ้วย ไข่ 1 ฟอง ผักต้ม บ่าย 15.00 น. ขนมปังกรอบ นม 180 ซี.ซี. ผลไม้ เย็น 18.00 น. ข้าวครึ่งถ้วย ปลาหรือเนื้อบด ผัก กลางคืน 20.00 น. นม 180 ซี.ซี. ผักที่คุณแม่ให้เด็กชายเอกิน คือ พวกผักใบเขียว กะหล่ำปลี ฟักทอง ฯลฯ ต้มหั่นละเอียด หรือใส่ลงไปในไข่ ทำไข่เจียว ไข่ตุ๋นใส่ผักสำหรับผลไม้ตอนบ่าย มักจะเป็น ส้ม กล้วย มะละกอ แตงโม ผลไม้ตามฤดูกาล บางครั้งหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่นมป้อนให้ บางครั้งให้เด็กถือกัดกินเอง สำหรับอาหารมื้อค่ำเด็กจะกินเหมือนคุณพ่อคุณแม่ ยกเว้นของเผ็ด เด็กหญิงบี เช้า 6.00 น. นมแม่ 8.00 น. ขนมปัง 1แผ่น กลางวัน 12.00 น. ก๋วยเตี๋ยวหรือบะหมี่ครึ่งถ้วย ไข่ ผัก นมแม่ บ่าย 15.00 น. ขนม ผลไม้ เย็น 18.00 น. ข้าว 2/3 ถ้วย ปลาหรือเต้าหู้ หรือเนื้อ ผัก แกงจืด กลางคืน 21.00 น. นมแม่ กลางดึก นมแม่ 2 ครั้ง เด็กหญิงบีคนนี้ ตอนแรกหมอแนะนำให้ค่อย ๆ หย่านมแม่ โดยให้ดื่มนมชงจากถ้วย แต่เด็กไม่ชอบนมวัวทำอย่างไรก็ไม่ยอมดื่ม คุณแม่ของน้องบีก็มีน้ำนมดี ถ้าไม่ใช้ลูกดูดจะคัดแข็งจนเจ็บ จึงให้ลูกดูดหลังอาหารกลางวัน นอกจากนั้นเด็กหญิงบียังตื่นบ่อยตอนกลางคืน ชอบตื่นขึ้นมาร้องเมื่อฉี่เปียก คุณแม่ต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ และให้ดูดนมแม่จึงจะยอมนอนต่อ ดังนั้นหมอจึงแนะนำว่าควรให้นมแม่ต่อไป ไม่ต้องบังคับให้เลิกโดยใช้วิธีเด็ดขาด เพราะน้ำหนักเด็กเพิ่มเฉลี่ยวันละ 7-8 กรัม การให้นมแม่ไม่ได้เป็นอุปสรรค ต่อความเจริญเติบโตของเด็ก และเพื่อความสงบสุขของครอบครัว ที่จะได้ไม่ต้องผจญกับเสียงร้อง ของน้องบีทุกคืนด้วย ภายหลังเมื่อเด็กหญิงบีโตขึ้นอีกหน่อย คุณแม่ลองให้ดื่มนมวัวในช่วงอากาศร้อน ซึ่งเด็กเหงื่อออกมากและกระหายน้ำ น้องบีก็ยอมดื่มโดยดี และค่อย ๆ หย่านมแม่ เปลี่ยนมาดื่มนมวัวโดยไม่ต้องบังคับ จากตัวอย่างข้างต้น จะเห็นได้ว่าเด็กวัย 10 เดือนเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องกินอะไรเหมือนกัน การหย่านมแม่ก็แล้วแต่สภาวะของน้ำนมแม่ และวามชอบของเด็กแต่ละคนด้วย สิ่งสำคัญที่สุดในเรื่องการให้อาหารเด็กคือ “อย่าบังคับ” ควรให้เด็กกินอย่างมีความสุข และค่อยๆ เพิ่มปริมาณให้ ตามความต้องการของเด็ก มิใช่ว่าเด็กอายุเพิ่มขึ้นเป็น 10 เดือน จะต้องเพิ่มอาหารให้เท่านั้นเท่านี้ตามตาราง ที่มาของสาระดีๆ ขอขอบคุณ
Create Date : 10 สิงหาคม 2553 |
Last Update : 10 สิงหาคม 2553 14:19:29 น. |
|
0 comments
|
Counter : 273 Pageviews. |
|
|
|
| |