|
เล่าเรื่อง กระตุกคิดในครอบครัว
เมื่อคุณแม่ วัยทองที่ต้องเรียนรู้จากลูกๆ อยู่ตลอดเวลา บางครั้ง คุณแม่วัยทองก็อารมณ์ชนกับลูกวัยรุ่น (อายุ 15 ปี) บางครั้งก็อารมณ์ชนกับลูกคนเล็ก (อายุ 9 ปี) ขนาดมีวิธีการจัดการกับอารมณ์ และวิธีคิดเชิงบวก ที่เป็นระบบแล้วนะนี่ แต่บางครั้งก็มีควันหลงมาชนกับลูกบ้าง แต่ไม่รุนแรง เพราะมีคุณพ่อที่คอย จัดการสร้างบรรยากาศให้ ด้วยเสียงดนตรีบรรเลง เพื่อผ่อนคลาย เมื่อรู้ ว่า คุณแม่เหนื่อยจากงาน
บางครั้ง เมื่อคุณพ่อวัยทอง อารมณ์ชนกับลูก คุณแม่ก็จะช่วยให้คุณพ่อทำสิ่งที่ชอบ เพื่อจะได้ผ่อนคลาย ไม่ชนกับลูก จนลูกบอกว่า โชคดีที่พ่อ และแม่ไม่รุมทึ้งพร้อมกันทั้ง 2 คน นี่แหละ ทีมงานครอบครัวเราจึงต้องอยู่อย่างรู้ใจกัน
ฉะนั้น การเลือกคู่ครอง สำหรับน้องๆที่ยังไม่แต่งงาน ที่ยังต้องดูใจ ศึกษากันอยู่ อย่าพยายามปกปิดข้อบกพร่องของตนเองนะคะ ถ้าคิดจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันจริงๆ สำคัญที่สุดคือ
หากเรายอมรับ ข้อบกพร่อง ซึ่งกันละกันได้ เราจะใช้ชีวิตคู่ได้อย่างราบรื่นคะ เพราะพอเป็นแฟนกัน อะไรๆก็หวานไปหมด พอแต่งงาน มีลูก ตัวตนของแต่ละคน ก็ออกมาเรียกว่า ธาตุแท้คะ คุณพ่อชอบอย่างนั้น คุณแม่ชอบอย่างนี้
เราต้องเปิดโอกาสให้แต่ละคนได้ เจริญเติบโตทางความคิด และสร้างสรรค์ประสบการณ์ชีวิตที่ดี การให้เกียรติกันทางอารมณ์ ทางความรู้สึก สำคัญมาก ต้องฟังกันให้มาก บางครั้งเมื่อแม่เครียด พ่อก็ฟังที่แม่เล่าๆๆๆ อย่างตั้งใจสงบ และบอกว่า ชีวิตแม่ไม่ได้มีแต่งานอย่างเดียวนะครับ แม่ยังมี พ่อ มีลูก มีขนำที่เชียรใหญ่ มีพ่อเฒ่า อายุ 90 ปี เออ! จริงๆด้วย เราก็กลับมาสู่ความเป็นจริง หายเครียดเรื่องงานไปเลย
ครอบครัวเราไม่รวยหรอก พอมี พอกินอย่างง่ายๆ เพราะเราเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย แต่เพื่อนๆรุ่นเดียวกันกับเรา เขามีกะตังค์กันทั้งนั้น และก็น่ารักเป็นส่วนใหญ่ ยินดีกับเพื่อนๆที่มีความสามารถหาเงินมาเลี้ยงครอบครัว และตนเองได้อย่างดี เวลาเจอกันนานๆครั้ง ก็มีความสุข มีแต่ความจริงใจ ปรึกษากันได้ตลอด เขียนไปก็ชักออกไปนอกครอบครัวเราซะแล้ว วกกลับเข้ามาเรื่องลูกคนเล็กหน่อยนะคะ ลูกคนเล็กเขาเป็นคนช่างคิด เมื่อเห็นพี่สาวคนโต ( น้องโรส อายุ 15 ปี) และคุณแม่ มีเรื่องเล่า ของตัวเองมากมาย เขาก็อยากมีส่วนร่วมบ้าง เขาจึงเขียนเรื่องของเขา ความรู้สึกของเขา คุณแม่ คุณพ่อ ก็ได้เข้าใจความรู้สึกของลูก ในสิ่งที่เราคิดไม่ถึงบางเรื่อง
อย่างเรื่อง ความรู้สึก น้อยใจของเขาต่อพ่อ เราอ่านแล้ว น้ำตาคลอเลย คิดไม่ถึงว่าการกระทำของเรา กระทบความรู้สึกของลูกรุนแรงขนาดนั้น เรากระทำด้วยความหวังดี แต่กลายเป็นความรู้สึกอีกย่างในความรู้สึกของลูก ถ้าเรากระทำอะไร แม้เราคิดว่าดีสำหรับลูก แต่ถ้าลุกรู้สึกลบอย่างนั้น เราผิดแน่นอน 100 % ต้องแก้ไข
เป็นพ่อ เป็นแม่ต้องใจกว้างนะคะ ไม่อย่างนั้นลูกจะไม่กล้าเปิดเผยความในใจ และสิ่งที่ลูกสะท้อนความรู้สึกออกมา ถ้าเป็นจริง บกพร่องจริง เราต้องแก้ไขด้วยนะ พ่อ แม่ ไม่ได้ถูกตลอดเวลา อย่างไหนถ้าทำไม่ถูกต้อง ก็ต้องขอโทษลูก ขอโทษให้เป็นด้วยนะคะ เพราะเขาต้องเป็น พ่อ เป็นแม่ต่อไปในอนาคต เขาจะได้เรียนรู้ วิธีคิด / ปฏิบัติต่อลูกของเขาอีกต่อไปในอนาคต ขอตัดตอนนำเรื่องที่ลูกเขียนมาให้อ่านกันสนุกๆนะคะ
น้องรินเขียนเอาไว้หลายตอนดังนี้ค่ะ
เรื่องของน้องริน (อายุ 9 ปี)
แรงบันดาลใจที่อยากจะเขียน หนูได้แรงบันดาลใจการเขียน มาจาก แม่ และ พี่โรส เพราะหนูเห็นพี่โรสเขาเขียน วิธีช่วยคนตาบอด ก็เลยคิดว่า จะลองทำตาม เมื่อทำตามแล้ว รู้สึกว่า ไม่ค่อยน่าอ่าน จึงเลิกทำ
แต่คิดขึ้นมาได้ว่า ถ้าเราทำเป็นตอน อาจจะทำได้ เพราะว่า เห็นแม่ทำแล้ว ก็เลยลองทำ จึงสำเร็จ ก็เลยคิดว่า แรงบันดาลใจ มาจากคนรอบข้าง และตัวของเราเอง ถ้าเราไม่พยายาม ก็คงทำไม่สำเร็จเหมือนกัน นี่คือแรงบันดาลใจของหนูค่ะ
สิ่งที่อยากบอกให้ พ่อ แม่ รู้ ครอบครัว ของหนูเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก คุณพ่อของหนูชื่อ นายทวีศักดิ์ ถาวรรัตน์ คุณแม่ชื่อ นางดวงตา พี่ของหนูชื่อ นางสาวนุ่นนิจ ถาวรรัตน์ บางครั้งก็มีข้อขัดแย้งกันบ้าง แต่เดี๋ยวก็ดีกัน ความรู้สึกของหนู คือ หนูรักครอบครัว แต่บางครั้ง หนูก็ไม่มีความสุข เพราะว่า พ่อกับแม่ ชอบบ่นหนู แต่บางครั้งหนูก็เข้าใจ แต่ถ้าหนูเข้าใจ พ่อกับแม่อยู่ฝ่ายเดียวมันก็ไม่ถูก หนูอยากให้พ่อกับแม่รู้ว่า
หนูยังเป็นเด็กนะคะ ถึงแม้วาหนูยังเป็นเด็ก แต่ก็ยังเป็นเด็กที่พ่อ แม่ดี
แต่เวลาที่ หนูทะเลาะกับพี่ ส่วนมาก พ่อแม่ก็จะว่า หนูผิด หนูเคยคุยกับพ่อแล้ว พ่อก็บอกว่า พี่โรสเขาตาพิการ เราจึงต้องให้โอกาสเขา แต่การให้โอกาสของพ่อ คือให้พี่โรส ถูกตลอด จนหนูน้อยใจ หนูเข้าใจว่าเราต้องให้โอกาส คือสอนให้เขารู้จัก อะไร เป็นอะไร ควรทำอย่าง ไร และต้องแก้ปัญหาอย่างไร ไม่ใช่ให้เขาถูกตลอดไปเสมอ ถ้าพ่อกับแม่เข้าใจ ก็ขอให้ทำแบบที่หนูขอ นะคะ เรื่องนี้ หนูขอบอกแค่นี้ค่ะ
เวลาที่หนูมีความสุข เวลาที่หนูมีความสุข คือ เวลาที่ พ่อ แม่ กอดหนู บางครั้งหนูก็ชอบ เวลาพ่อเลี้ยงไอติม หนูมีความสุข ที่พ่อ แม่เข้าใจลูก เวลาที่พ่อ แม่ให้ความอบอุ่นกับลูก ลูกก็จะรู้ สึกว่า มีความสุขมาก ที่พ่อ แม่ให้ความอบอุ่น หนูรู้ว่าความสุขไม่ได้ดีด้วย เงิน ในโลกนี้ ความรักเป็นสิ่งประเสริฐที่สุดในโลก หนูเคยคิดว่า ถ้าเรารักกัน ทุกคนในโลกก็จะมีความสุข มีกอย่างหนึ่ง คือ หนูรัก พ่อแม่มากที่สุดในโลก ไม่มีใครจะมาเปรียบเสมือน พ่อ แม่ได้ ขอบคุณค่ะ
อาหารที่หนูชอบกิน หนูชอบกินข้าวผัดทุกชนิด เพราะหนูชอบอาหารผัดมากที่สุด และ ข้าวผัดรวมมิตร เป็นอาการที่มีประโยชน์ มาก มันรวมวิตามินต่างๆไว้ด้วยกัน ส่วนผลไม้หนูชอบทุกชนิด เพราะมันมีประโยชน์มาก แต่ถ้ามันช้ำ หนูก็ไม่ชอบเหมือนกัน เพราะมันดูไม่น่ากิน เครื่องดื่มที่หนูชอบ คือ น้ำส้มคั้น เพราะคุณพ่อทำให้กินบ่อยๆ สามารถทำให้ดับกระหายน้ำได้ และ น้ำฟักทอง สามารถทำให้ตาสวยได้เหมือนกัน นอกจากเครื่องดื่มแล้ว ก็ยังมีนมอีก หนูชอบนมที่เป็นรสเปรี้ยวมาก แต่ถ้าเทียบกับนมจืด หนูว่าอร่อยทั้งสองอย่าง นมที่หนูไม่ชอบ คือ นมที่หวานมาก เพราะหนูจะอาเจียน
ชีวิตตอนอยู่ อนุบาล 1 ชีวิตของหนู ตอนอยู่อนุบาล 1 มีความสุขมากเลยค่ะ เพราะ มีเพื่อนเล่นมากมาย แถมยังมีคุณครูใจดีอีกด้วยนะคะ ตอนนั้น หนูอยู่โรงเรียน ค่ายเสนาณรงค์ เป็นโรงเรียนที่หนูมีวามสุขที่สุด เวลาตอนเช้า คุณพ่อก็จะมาส่งหนูที่หน้าห้องทุกวัน กับ พี่ โรส หลังจากนั้น พ่อก็จะพาพี่โรสไปส่งที่ห้องเหมือนกัน เวลาตอนเย็น พี่โรส ก็จะมารับที่หน้าห้องเรียนของหนู เป็นประจำ ส่วนพ่อก็จะรอรับที่หน้าประตู หลังจากนั้น พี่โรสก็จะพาหนูไปที่หน้าประตูทุกวัน หลังจากนั้น พ่อก็จะพาหนูกลับบ้าน แล้วให้หนูเข้าไปในบ้านเพื่อเก็บของ แล้วก็ อาบน้ำทุกครั้ง ส่วนพ่อก็จะไปรอรับแม่ที่ปากซอย ตอนนั้นบ้านหนูอยู่ที่หาดใหญ่ ส่วนแม่ทำงานที่สงขลา ทุกวันตอน เช้าหรือตอนเย็น แม่จะนั่งรถ 2 แถว กลับมาบ้าน แม่จะมาลงที่หน้าปากซอยทุกครั้ง พ่อก็จะพาแม่มาที่บ้านแล้วพ่อก็ไปอาบน้ำ เมื่อพ่ออาบน้ำเสร็จ พ่อก็พาพวกเราไปที่สนามออกกำลังกายในม.อ. หลังจากนั้น หนูกับ พ่อ และพี่โรสก็กลับบ้าน นี่คือชีวิตของหนู ตอนที่อยู่อนุบาล 1 ค่ะ
ชีวิต ตอนอยู่อนุบาล 2 ชีวิตตอนอยู่อนุบาล 2 ก็มีความสุขดี เรื่องสุขที่สุดของหนูคือ สมัยนั้นที่เพื่อนบ้านของหนูเขาแต่งงาน มีเพื่อนหนูอยู่คนหนึ่ง แม่ของเขาเป็นเพื่อนเจ้าสาวหนูก็เลยเล่นกับเขานานๆได้ แล้วบางทีหนูก็ไม่อยาก กลับบ้าน เพราะตอนนั้น เป็นตอนที่หนูมีความ สุขที่สุด และคืนนั้นเมื่อหนูกลับบ้าน หนูก็ เข้านอน แล้วพอหนูหลับ หนูนอนละเมอหัวเราะอยู่คนเดียว พอหนูตื่นนอน พ่อก็ถามว่า เมื่อคืนหัวเราะเรื่องอะไรกัน หนูก็บอกพ่อ ว่า หนูฝัน พ่อก็ถามว่า ทำไมหัวเราะเสียดังเลย ตอนนั้นหนูขำตัวเองมาก เพราะทั้ง พ่อ แม่ และพี่ ไม่มีใครได้นอนเลย ยกเว้นหนูคนเดียวค่ะ
ชีวิตตอนอยู่ ป. 1 ตอนปิดเทอม แล้วใกล้จะเปิดเทอม หนูกำลังเล่นกับเพื่อนบ้านอยู่ ตอนนั้น หนูอายุ 6 ขวบ มีพี่คนหนึ่ง เขาอยู่โรงเรียนเดียวกับหนู แต่เขาจะจบแล้ว เขาพูดขึ้นว่า พรุ่งนี้ โรงเรียนจะเปิดแล้ว หนูจะได้ขึ้น ป 1 แล้ว หนูร้องให้ ขึ้นไปหาแม่ แม่ถามว่าร้องทำไมคะน้องรินหนูก็บอกแม่ว่า พรุ่งนี้โรง เรียนเปิดแล้ว ลูกยังอ่านหนังสือไม่อกเลย หนูก็ร้องไปเรื่อยๆ จนแม่บอกว่า เดี๋ยวแม่สอนให้ เดี๋ยวเริ่มท่อง สระ วรรณยุกต์ ก่อนนะ หนูก็ท่องตามแม่ว่า สระอะ สระ อา สระอิ สระอี สระอุ สระอู หนูก็ท่องไปเรื่อยๆจนได้ แล้วแม่ก็ให้หนู ท่อง ก ไก่ ถึง ฮ นกฮูก ตอนแรกๆ แม่ท่องให้ฟังก่อน แล้วหนูท่องตามจนหนูท่องได้ แล้วแม่ก็ให้หนูสะกดดู แม่ เขียน คำว่า นก แล้วให้หนูสะกดตาม หนูก็สะกดตาม แม่ แม่บอกว่า คำนี้อ่านว่า นก แล้วให้หนูสะกดตาม หนูสะกดตามแม่ว่า คำนี้ อ่านว่า นก นกสะกดว่าไง คะ หนูก็พูดตามแม่ว่า น โอะ ก นก แม่ก็ให้หนูท่องคำง่ายๆไปเรื่อยๆ จนหนูท่องได้แล้ว แม่ก็ให้หนูอ่าน จนอ่านได้ แล้วพอวันต่อมา หนูก็ไปโรงเรียน ปรากฏว่า หนูอ่านหนังสือออกคนเดียวในห้องค่ะ ขอบคุณค่ะ
ชีวิตตอน ประถมปีที่ 2
ชีวิตตอน ป. 2 ดีมากเลยค่ะ มีทั้งคุณครูใจดีหลายคน มากค่ะ มีเพื่อนของหนูอยู่คนหนึ่งนะคะ ชื่อ ไดอาน่า เขาอยู่กับหนูมาตั้งแต่ ชั้น ป.1 ถึง ป.4 เลยคะ แต่ถ้าอยากรู้ ประวัติของเขา รออ่านตอน ป. 4 นะคะ ตอนนี้เอาเรื่องของหนูก่อน เมื่อที่วันเกิดหนูทีไร คุณพ่อ กับคุณ แม่ ก็จะเข้ามากอดหนู และมียู่ครั้งหนึ่งด้วย คุณ พ่อ กับ คุณแม่ เคยจัดงานวันเกิดไห้หนู วันนั้นเป็นวัน ที่หนูมีความสุขมากที่สุด แต่มันก็ไม่ใช่สิ่งที่หนูต้องการ สิ่งที่หนูต้องการ คือ อยากให้วันเกิดหนูนั้น พ่อ แม่พาหนูไปสวนสัตว์สักครั้งหนึ่งก็ยังดี แต่เดี๋ยวหนู จะเขียน ตอน ป .4 ค่ะ นั่งรออ่านนะคะ
ชีวิตตอน ป 3 เป็นชีวิตที่มีความสุขที่สุด เพราะมีคุณครูใจดี ชื่อ คุณครูป้ามะลิ เวลาที่หนูรียนกับท่าน หนูรู้สึกว่า หนูไม่อยากกลับบ้าน เลยค่ะ เด็กทุกคนในห้องชอบคุณครูป้ามะลิกันทุกคน เลย เพราะคุณครูป้ามะลิ ชอบแจกขนมเด็กเป็นประจำ แถมยังรักเด็กอีกด้วย น่ะค่ะ แต่บางครั้ง ก็ดุไปหน่อย คุณครูป้ามะลิ เคยบอกไว้ว่า ถ้าเรามีความสุขในสิ่งที่เราเป็น ก็จะมีรอยยิ้มได้ทุกเวลาค่ะ นี่อาจจะเป็นเรื่องของคุณครูนะคะ แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะหน้าอื่นก็เป็นชีวิตของหนู
ชีวิตตอน ป.4 เดี๋ยวค่อยมาเล่าเรื่องที่หนูอยากไปสวนสัตว์ ในวันเกิด เดี๋ยวเล่าเรื่องของหนูก่อน ชีวิตตอน ป.4 ก็ดีเหมือนกัน แต่หนูไม่ชอบเวลาเรียน คณิตศาสตร์ มาต่อเรื่องที่หนูอยากไห้พ่อ แม่พาไปสวนสัตว์ ตอนวันเกิดหนู หนูขอ สักครั้ง ให้พาไปเดือนนี้เลยนะคะ แล้วเรื่องของ ไดอาน่า ไดอาน่า เป็นคนขี้งอน ถ้าใครอยากจะเป็นเพื่อนด้วย อย่าทำให้เขาโกรธ นะคะ ขอขอบคุณล่วงหน้าที่อ่าน ค่ะ
เรื่องของน้องริน ยังมีต่อ แต่ตอนนี้ เขาไปโรงเรียน เมื่อไรเขาว่าง เขาจะมาเขียน ให้ท่านอ่านกันอีก ค่ะ
e mail คุยกับ ผมขาว
Create Date : 13 ธันวาคม 2549 |
Last Update : 15 ธันวาคม 2549 10:40:47 น. |
|
9 comments
|
Counter : 869 Pageviews. |
 |
|
|
โดย: ผมขาว วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:13:19:11 น. |
|
|
|
โดย: น้องริน IP: 203.113.76.74 วันที่: 13 ธันวาคม 2549 เวลา:21:48:20 น. |
|
|
|
โดย: น้า วาสาน ม.ธ IP: 202.12.74.8 วันที่: 14 ธันวาคม 2549 เวลา:9:30:36 น. |
|
|
|
โดย: คายตรี (คายตรี ) วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:1:26:28 น. |
|
|
|
โดย: สาวเขียน วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:22:39:01 น. |
|
|
|
โดย: ผมขาว วันที่: 16 ธันวาคม 2549 เวลา:21:24:40 น. |
|
|
|
โดย: เคท มอสส์ IP: 203.113.77.7 วันที่: 29 ธันวาคม 2549 เวลา:20:30:54 น. |
|
|
|
โดย: yyswim วันที่: 13 มกราคม 2550 เวลา:2:46:11 น. |
|
|
|
|
|
|
ขอมาศึกษาเรื่องราว
ประสบการณ์ที่บล๊อก
นี้ด้วยคนนะคะ